แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"
ชื่อกระทู้: [พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ) [สั่งพิมพ์]
โดย: NOOKFUFU2 เวลา: 2013-5-27 14:33 ชื่อกระทู้: [พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ)
[พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ)
0 I7 Q0 `( f7 \9 W8 a1 Wเปรตเกิดจากการที่สมัยเป็นมนุษย์ ชอบก่อกรรมทำเข็ญ และผิดศีลธรรมเนืองๆ และเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ไปอุบัติเป็นสัตว์นรก ได้รับทุกข์เวทนาเป็นเวลานาน
1 n- c4 e8 V) |9 R2 }- i$ i- F9 X+ \- M8 J
ครั้นหมดอายุไขจากนรกแล้ว ด้วยเศษของกรรมที่กระทำไว้ยังหลงเหลืออยู่ จึงส่งผลให้ไปเกิดเป็น เปรต อยู่ในพื้นภูมิมนุษย์ โดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่เกิด มีลักษณะและอาการตามนั้นๆ
7 _% Y! ?; C+ S; \; u9 P; w# y, X5 ^1 M4 ^& N" r. X4 i5 o
เปรต ตามความเชื่อไทย มีรูปร่างสูงเท่าต้นตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ ผิวดำ ท้องโต มือเท่าใบตาล แต่มีปากเท่ารูเข็ม และเปรตจะหิวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากกินอะไรไม่ได้มากนัก จึงชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ ซึ่งเมื่อสะสมบุญได้แล้วมาเกิดในชาติหน้า จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่8 T# Z' q, |+ G+ |) [. W" w
4 k! @) n3 h6 M" a j
ซึ่งจากลักษณะนี้ ทำให้คำว่าเปรต กลายมาเป็นคำด่าในภาษาไทย ที่หมายถึง คนที่อดยากผอมโซ เที่ยวรบกวนขอเขากิน หรือเมื่อมีใคร ได้โชคลาภก็รีบมาขอแบ่งปัน( G/ ~7 y# d3 G* W' C
+ s9 z; q% N, R5 _& V7 J
เปรตในภพภูมิปัจจุบัน เมื่ออดีตที่ผ่านมาอาจจะเคยมีความเกี่ยวข้องกับเรา โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ อาจจะเคยเป็นบรรพบุรุษของเราในอดีต หรือมีความเกี่ยวพันกันด้านใดด้านหนึ่ง
6 n9 C- Q2 `% g+ X* s6 M0 |8 @& d0 W
ความสำคัญของพิธีกรรมพลีเปรตยะ:-8 a- E; b6 _9 o- s+ X* t; ~: V* e
(***ผู้ที่ดำเนินการเป็นพิธีกรนำกล่าว ควรอ่านบทความนี้ทุกครั้งก่อนเริ่มพิธีกรรม***)( n' E. J/ L4 s- K- F1 q1 V* k; p
ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒- หน้าที่ ๒๐๑ กล่าวว่า....
8 r& _" N) G3 f' { kข้อที่ ๑ "...หมั่นขยัน ทำมาหากินที่ได้มาซึ่งโภคทรัพย์ต่างๆ โดยธรรมนี้กรรมที่สมควร" ข้อที่ ๒ ของอริยะสาวกนั้นเป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้โภคทรัพย์ โดยทางที่ควรใช้แล้วอีกข้อหนึ่ง อริยะสาวกย่อมเป็นผู้ ทำพลี ๕ คือ1 P5 s5 @( w6 Y6 E
2 U7 V7 o7 U4 b8 b
๑. ญาติพลี(ให้การสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย) u [& E, c( k3 P: r
๒. อติถีพลี (ให้การต้อนรับแขกผู้มาเยือน)
! f1 U! C! d( ] J: f๓. ปุพพะเปรตยะพลี (ทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ตายหรือผู้ล่วงลับ); Z" N7 f& v$ z6 C* \
๔. ราชพลี (ช่วยเหลือราชการ เช่น การจ่ายภาษี การให้ความเคารพต่อกฏหมายบ้านเมือง เป็นต้น)
/ \/ g: v. w% }2 U( I, ~๕. เทวตาพลี (หมั่นทำบุญกุศลอุทิศให้เทวดา) ( p! d6 B' t# s% B
) E7 A/ j4 Z, H# m
โดยโภคทรัพย์ที่หามาได้ด้วยความหมั่นขยัน ฯลฯ ที่ได้มาโดยธรรม นี้เป็นกรรมที่สมควรข้อที่ ๓ ของอริยะสาวกนั้นเป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้(โภคทรัพย์) โดยทางที่ควรใช้แล้วอีกข้อหนึ่ง อริยะสาวกย่อมตั้งใจบริจาค ทักษิณาทานอย่างสูง ที่จะอำนวยผลดีเลิศ มีสุขเป็นวิบาก เป็นทางสวรรค์ ในสมณะพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้เว้นไกลจากความ มัวเมา ประมาท มั่นคงอยู่ในขันติโสรัจจะ ฝึกฝนตนอยู่ผู้เดียว ระงับตนเองอยู่ผู้เดียว ดับกิเลสจนอยู่ผู้เดียว ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ฯลฯ ที่ได้มาโดยธรรม นี้เป็นกรรมที่สมควรข้อที่ ๔ ของอริยะสาวกนั้น เป็นการชวบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้วเป็นการใช้โภคทรัพย์ โดยทางที่ควรใช้แล้ว ดูก่อนคฤหบดีอริยะสาวกนั้น ย่อมเป็นผู้ทำกรรมที่สมควร ๔ นี้ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ที่สะสมขึ้นด้วยกำลังแขนที่ต้องทำงานจนเหงื่อไหล ที่ชอบธรรมที่ได้มาโดยธรรม ดูก่อนคฤหบดี โภคทรัพย์ทั้งหลายของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถึงความหมดเปลืองไป เว้นเสียจากกรรมที่สมควร ๔ ประการนี้ โภคทรัพย์เหล่านี้เรียกว่าหมดไปโดยไม่ชอบแก่เหตุ
& ^1 N _; K$ e; k6 N3 zหมดไปโดยไม่สมควร ใช้ไปโดยทางที่ไม่ควร.... "/ x# c8 ?( H5 n$ _
( B' B+ Q) w9 p& J$ s8 |( f: X! _จากบทความพระไตรปิฎก ของพระพุทธศาสนา จะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ท่านทรงมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า และยังทรงสอนให้มีการแผ่เมตตาให้กับเพื่อร่วมโลก ซึ่งอาจจะได้รับวิบากกรรมเก่าไปเกิดในแดนต่างๆ เช่นเดียวกันกับเปรตยะก็เป็นอีกภพหนึ่ง ที่ได้รับกรรมที่ตนได้กระทำไว้ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์
9 e q9 t' u% j. x. q' R4 |2 L- {/ s* d
การทำพิธีเปรตยะพลี โดยให้เครื่องสังเวยกับเปรตผู้ล่วงลับ นับว่าเป็นกุศลอย่างยิ่ง เราชาวพุทธทุกคนควรหาโอกาส ทำบุญอุทิศทานให้เปรตยะเป็นครั้งคราว นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ ในการเสริมบุญบารมี
6 ]9 X* m& X" P" x6 L" c: [3 a' w: _- C7 [0 \( z
: x1 N8 D2 {5 m. |% `เครื่องสังเวยที่คนไทยนิยมใช้ในการทำพลีให้เปรตยะ:-
/ e: C+ \7 \) _๑. อาหารคาว-หวาน3 W6 a* F3 p$ y
๒. ขนม นมเนย3 Y; ~; x% o: j; t& Y+ ~
๓. เหล้าขาว
`% I1 D" F% f( c* P1 V" a* Z, W, V๔. หมากพลู0 o. c" N- t; f) ]4 B/ ~! w
๕. น้ำเปล่า ๑ แก้ว
. i5 T1 I& K/ }1 z2 ~" B๖. ธูป ๑ ดอก V! V; V% Q# o; `8 g$ a
๗. มาลัย ๑ พวง& g) K1 X9 n6 O# y( z ~
9 e. {. r! v7 I9 w) _% u
คำบอกล่าวเปรตยะพลี:-
+ Q6 B/ Y1 I0 T H9 x(***ขณะทำพิธีนี้ ตอนถือธูป ๑ ดอก ห้ามยกมือพนมไหว้ เพราะเปรตมีภูมิต่ำกว่ามนุษย์ ให้ยืนเฉยๆ ถือธูปไว้ที่ระดับเหนือสะดือขึ้นมาเล็กน้อย ห้ามยกมือไหว้ตั้งแต่ต้น-จนจบพิธีกรรม เมื่อวางถาดอาหารของพลีเสร็จแล้ว ให้ปักธูปลงกับพื้นดิน (ต้องให้ปลายด้านธูปสัมผัสกับพื้นดิน) และหันหลังให้กับของสังเวยเหล่านั้น พร้อมกับเดินหนีทันที อย่าหันกลับมามองอาหารพลีอีกเด็กขาด พิธีกรรมนี้จะทำที่ไหนก็ได้ เช่น แยกทางสามแพร่ง สี่แพร่ง ตามทางเดินต่างๆ หรือข้างถนน)! p5 M/ R4 J) T
) k/ Y* M; p9 n \. y% }ข้าพเจ้าชื่อ.................................นามสกุล......................อายุ........ปี สถานที่เกิด..................ข้าพเจ้าได้แต่งบุญบัตรพลีเปรตยะ ให้กับผู้ล่วงลับ มตกะผู้ล่วงลับไปแล้วจากโลกนี้ ทุกหมู่เหล่ารวมถึงอสูรกาย สัมภเวสี อสัมภเวสี สัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย รวมถึงเจ้ากรรม และนายเวร ของข้าพเจ้า ที่ได้ทุกขเวทนาอยู่ในขุมนรกหนึ่งขุมนรกใด ขอจงรับเครื่องสังเวย ที่ข้าพเจ้าได้ทำพลี อาหารคาวหวานไปให้ท่านทั้งหลาย เมื่อท่านทั้งหลายได้รับเครื่องสังเวยจนอิ่มหนำสำราญดีแล้ว โปรดนำสารนี้ไปบอกแก่ผู้ที่ไม่ได้มา ให้รับทราบโดยทั่วกันว่า$ ]. U8 f0 `! P7 S: I' b0 x
ถ้ามีท่านใดที่เคยมีเวร มีกรรมกับข้าพเจ้า อยู่ในนรกขุมหนึ่งขุมใดก็ดี ขอท่านพญามาร นายขุม นายเวรก็ดี ช่วยแจ้งข่าวไปยังเจ้ากรรม และนายเวรของข้าพเจ้าด้วยว่า ข้าพเจ้าได้แต่งบุญบัตรพลีเปรตยะ พลีไปให้เขาเหล่านั้นแล้ว เพื่อเป็นการขอขมากรรมต่อเขาเหล่านั้น ณ วันนี้ คืนนี้ ขอท่านทั้งหลายอย่ามีเวรมีกรรมกันต่อไปอีกเลย( r4 O2 y) a+ ]/ `+ s6 K
7 D, o6 N8 e( _# i
ในวันนี้ข้าพเจ้าชื่อ..................นามสกุล................ได้ตั้งกองบุญ ( ๒๔ กองบุญ , ไหว้พระ, สวดมนต์, นั่งสมาธิ, ฟังธรรม, ถวายผ้าป่า,ทำสังฆทาน ฯลฯ) และได้เปลี่ยนจิตใจเป็นคนดีแล้ว
1 o, e9 Z/ { m4 p& h* x& K ] Yท่านใดที่ปรารถนากองบุญ-กุศล กองทาน กองศีล ของข้าพเจ้าที่ได้มีอยู่แล้ว และได้กระทำไปแล้วในวันนี้ ขอกุศลทั้งหลายนี้ จงสำเร็จแด่ท่านทั้งหลายด้วยเถิด ต่อด้วย....3 R7 o# Q' Z3 s: \' e8 G5 t
' {# s$ r H4 l% X
คำขอขมาลาโทษต่อเจ้ากรรม และนายเวร:-! E1 d0 r4 U5 U! `4 m
กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ ในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ด้วยกายกรรม ๓ ฆ่าสัตว์, ลักทรัพย์, ประพฤติผิดในกาม วจีกรรม ๔ ,พูดเท็จ, พูดส่อเสียด, พูดคำหยาบ, พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล, มโนกรรม ๓ , ความโลภะ, ความพยาบาท, การคิดปองร้าย, ขอผลกรรมนั้น จงอย่ามีเวรและกรรมกับข้าพเจ้าอีกเลย บุญกุศลอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ขอจงสำเร็จกับเจ้ากรรม และนายเวร ทั้งหลายด้วยเถิด ขออย่าได้มีเวรและกรรม ซึ่งกันและกันเลย พุทโธอโหสิ ธัมโมอโหสิ สังโฆอโหสิ 5 z4 d* `8 F4 u
* g6 J( O0 R! C$ V% G2 Y' Y
0 I/ r2 f' q: @; h
คำอุทิศบุญกุศลให้กับเปรตผู้ล่วงลับจากโลกนี้ไปแล้ว:-
; {+ U2 D7 V+ d. }อิทังเม ญาตีนัง โหตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย สุขิตาโหนตุ ญาตะโย8 u- K& t- e0 d' g0 @) g
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลาย ของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า มีความสุข
: S- m5 |; ]6 h i/ d2 P; x4 sอิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพพะเปตา+ E$ E8 H1 h5 l6 Z
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย มีความสุข
, ^/ G9 F o+ W8 d! |1 K
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
, @. T8 L1 V5 |/ O6 R3 tขอบุญส่วนนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมและนายเวรทั้งหลายมีความสุข
1 |% V* a. N: e% V6 Q
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา5 Q+ f2 ]- n. I, W D/ J
ขอบุญส่วนนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลาย ขอสัตว์ทั้งหลายมีความสุข ทั่วหน้ากันเทอญ
- ~ {# |1 T* e$ H, n
พุทธังขมามิ ธัมมังขมามิ สังฆังขมามิ ยมมาขมามิ เอหิปิมัง พาเรหิ นัตตัสสะ
, _% I. K+ g' b; K. j
/ a) o" U! T# Y+ l
โดย: กำไร เวลา: 2013-5-28 10:35
อยากทราบเรื่องนี้อยู่พอดี เคยได้ยินคำว่าญาติพลี ได้รู้แล้วค่ะ สาธุกับข้อมูลนี้นะคะคุณนุ้ก
โดย: sopa2511 เวลา: 2013-5-30 10:53
โมทนาสาธุค่ะ
ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://dannipparn.com/) |
Powered by Discuz! X1.5 |