แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"
ชื่อกระทู้:
นักปฏิบัติธรรม
[สั่งพิมพ์]
โดย:
มารน้อย
เวลา:
2013-5-31 10:43
ชื่อกระทู้:
นักปฏิบัติธรรม
ชาวพุทธที่แท้จริงจะศึกษาคำสอนทางพุทธศาสนาเพื่อนำมาปฏิบัติและจะมุ่งหนทางไปทางปฏิบัติ มากกว่าที่จะศึกษาเอาวุฒินักธรรมตรี โท เอกหรือเปรียญธรรม เพราะเรียนไปแล้วไม่ได้นำมาปฏิบัติก็ได้เพียงแค่รู้ แต่ปฏิบัติไม่เป็นขาดทุน เรียนกันจนจบหมดทุกอย่างแล้วก็ไม่มีทางถึงนิพพานได้หรอก ต้องนำความรู้นั้นมาปฏิบัติจึงจะมีทางไปสู่นิพพานได้
) Q' _6 @5 ] U/ N5 D" I
วัดหรือสำนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายต่างมุ่งหวังเผยแพร่คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้พุทธศานิกชนได้เรื่องรู้และปฏิบัติ นับว่าเป็นกำลังสำคัญของพระพุทธศาสนาอย่างมาก มีทั้งเผยแพร่ธรรมะ ถือศีล ปฏิบัติธรรมสวดมนต์ ภาวนา ขออนุโมทนาบุญกับท่านทั้งหลายที่ช่วยกันเผยแพร่ธรรมะของพระพุทธองค์และพุทธศาสนิกชนที่ตั้งใจปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์สมกับที่เป็นชาวพุทธโดยแท้
0 e/ q' ]3 S7 {$ L$ k' X+ y
นักปฏิบัติธรรมที่พบเห็นทั่วไปส่วนใหญ่จะเป็นหญิง มีความตั้งใจในการปฏิบัติธรรมมาก มีทั้งถือศีลสวดมนต์ ภาวนา ครับบุญเกิดกับผู้ปฏิบัติมากมายมหาศาล บุญนั้นไปรอผู้ปฏิบัติธรรมอยู่ที่สวรรค์หรือพรหมตามกำลังบุญ และส่วนใหญ่ผู้ปฏิบัติธรรมจะทำการแผ่เมตตา ตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนไว้ ให้สัตว์โลกทั้งหลายเป็นสุขๆ ท่านผู้ปฏิบัติธรรมเหล่านั้นทำดีแล้วถูกแล้ว แต่ผมขออนุญาตต่อเติมสักนิดเถิด
% s- ~- h2 _1 w+ Z
บุญของผู้ปฏิบัติธรรมนั้นมีมากจริงๆ และไม่ได้หายไปไหน ลอยไปปรากฏรอผู้ปฏิบัติอยู่เบื้องบน คนทุกคนมีนายเวรหรือเจ้าหนี้ที่เราทำเขาไว้ ให้เกิดแค้นมาหลายชาติ เราเกิดมาหลายภพหลายชาติมากมาย นายเวรของแต่ละคนมีเป็นล้านๆ เอาแค่ชาตินี้คิดดูฆ่ามดฆ่ายุงไปกี่ตัวแล้วจำได้ไหม เราฆ่ามันตาย ความแค้นก็เกิดเป็นนายเวรของเราแล้ว ผู้ปฏิบัติธรรมแผ่เมตตา นั่นเป็นความต้องการให้สัตว์ทั้งหลายเป็นสุข อย่ามีเวรต่อกันและกันเลย ผลไม่ปรากฏบุญไปถึงเขาเหล่านั้นเลย เป็นไปได้ยังไงหรือครับ เมื่อก่อนผมเองก็ไม่รู้ แต่พอมีประสบการณ์การติดต่อกับเทวดาบ้าง นายเวรที่เป็นสัมภเวสีบ้าง สอบถามเขาดูหลายราย เขาบอกตรงกันหมดว่าการแผ่เมตตาไม่ปรากฏบุญไปถึงเขาเลย พอผมลองอุทิศของผมให้ตามวิธีที่ผมเรียนรู้มา ทั้งอุทิศตรงและเบิกบุญอุทิศ เขาตอบตรงกันหมดว่าได้รับผลบุญเต็มเลย ดังนั้นผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย สร้างบุญไว้มากมาย นายเวร ผู้รักษาตัว และวิญญาณที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติธรรม มองเห็นบุญของผู้ปฏิบัติเกิดขึ้นทุกวัน แต่ไม่เคยส่งอุทิศให้เขาเหล่านั้นเลย นายเวรก็รอเมื่อไรจะอุทิศบุญให้เขาซึ่งเป็นเจ้าหนี้รออยู่ เมื่อไม่เคยได้รับบุญเพื่อใช้หนี้เลย ได้ยินแต่บอกอย่าจองเวรกัน นายเวรก็ยิ่งแค้น เหมือนผู้ปฏิบัติธรรมมีเงินเท่าไรก็ฝากธนาคารหมด เจ้าหนี้รออยู่ก็ไม่ยอมใช้หนี้ อย่างนี้เองนายเวรจึงยิ่งแค้น ต้องเล่นงานให้หนัก
1 J t, z& q* C) t( \) ^
ดังนั้นท่านผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน ท่านจะปฏิบัติวิธีใด ถูกจริตวิธีใดในกรรมฐาน 40 หรือแบบอื่นๆ ที่เป็นหนทางของพุทธะ ท่านทำดีทำถูกแล้ว เพียงแต่ท่านเพิ่มเติมการอุทิศบุญให้กับนายเวรของท่าน ให้เขาได้รับบุญด้วย จะทำให้การปฏิบัติธรรมของท่าน และการดำรงชีวิตของท่าน ปราศจากอุปสรรค โรคภัยไข้เจ็บ อีกทั้งมีวิญญาณที่คอยคุ้มครองท่านตลอดเวลา
1 v% W9 z1 F, O0 \ ?% L
โดย:
กำไร
เวลา:
2013-5-31 11:35
สาธุจ้ามารน้อย..เป็นกำลังใจให้นะ
โดย:
Teerapat
เวลา:
2013-5-31 14:09
สาธุๆๆ อนุโมทนาครับ เป็นความรู้อย่างยิ่ง
โดย:
ณัฐดนัย
เวลา:
2013-6-2 16:44
อนุโมทนาสาธุครับ
โดย:
สมประสงค์
เวลา:
2013-8-28 12:42
อนุโมทนาสาธุครับ
โดย:
กลางทาง
เวลา:
2013-9-5 20:24
ผมเองก็เป็นคนที่เบิกบุญและโอนบุญเสมอๆเวลาที่ทำสมาธิและสวดมนต์เสร็จ และมักเกิดเรื่องแปลกๆขึ้นประจำแรกๆก็รู้สึกว่ามันบังเอิญจังที่มีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตอาจจะยังเป็นเพียงเรื่องเล็กๆนะครับ แต่มาทุกวันนี้ความบังเอิญอย่างที่ว่านี้มาบ่อยๆจนรู้สึกเป็นความเชื่อในใจลึกๆที่ไม่ใช่เป็นการคิดนึกเอง ตัวอย่างเช่นเมื่อกลางเดือนสิงหาที่ผ่านมาแฟนผมขับรถผมไปแล้วเบียดกับรถอีกคันทำให้วันนั้นต้องชดใช้เค้าไปห้าพันบาท ก็รู้สึกเสียดายแต่ผ่านไปประมาณสองอาทิตย์ยังไม่ได้ซ่อมรถ จู่ๆก็มีรถส่งแก๊ซขับมาชนตำแหน่งเดิมอีกทำให้ตัวถังแตกมากขึ้น ร้านแก๊ซก็ยินดีชดใช้ซ่อมให้ทั้งหมด ผมเลยคิดว่าตอนแรกที่รถเราเบียดเค้าอาจเป็นเพราะว่าเราต้องชดใช้กรรมเก่ามั้ง(ซึ่งแฟนผมบอกว่าไม่แน่ใจว่าใครผิดด้วยซ้ำเพราะเค้าอยู่ข้างหลัง) แต่อยู่ๆรถก็ได้ซ่อมโดยเราไม่เสียเงินซะงั้น เหมือนผ่อนหนักเป็นเบาซึ่งหากเป็นการใช้กรรมเก่าก็เหมือนกับกรรมนั้นมันเบาลงแล้ว
; E) @! P- ?6 O& Q: B0 }
โดย:
มารน้อย
เวลา:
2013-9-6 04:42
สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ ก็นำไปใช้ได้ครับ ขอโมทนาบุญครับ
โดย:
ณัฐดนัย
เวลา:
2013-9-8 15:33
สาธุครับ ขอถามหน่อยนะครับ การที่เราขอเบิกบุญเราเบิกทีเดียวแต่ให้ทุกๆท่านที่นึกได้ในครั้งนั้น ท่านเหล่านั้นจะได้เท่ากันหรือไม่ครับ และจะได้น้อยกว่าเราเบิกครั้งนี้ให้เฉพาะเจ้ากรรมนายเวร และเบิกอีกครั้งให้กับเทวดาที่ปกปักรักษาตัวเราและครอบครัว 2 อย่างหลังนี้ท่านเหล่านั้นจะได้บุญมากกว่าตอนแรกที่ให้รวมกันหรือปล่าวครับ หรือว่าอยู่ที่จิตใจของเราขณะนั้นด้วยครับ เช่นวันนี้เรามีความรู้สึกเป็นปกติดีหรือเฉยๆ กับวันนี้มีความร่าเริงใจมีจิตเป็นสุขในโลกมนุษย์ กับวันนี้มีความรู้สึกปีติยินดีในการได้ฟังธรรมหรือได้ปฏิบัติธรรมแล้วมีความเบิกบานใจครับ ไม่ทราบว่าเหตุเหล่านี้จะมีผลในการเบิกบุญด้วยหรือไม่ครับ
1 O7 y# f/ O* H2 J4 v
อีกข้อสงสัยครับ เมื่อก่อนนี้ผมนั่งสมาธิหายใจเขายาว หายใจออกยาว แล้วใช้คำภาวนาไปด้วย เมื่อทำไปสักพักตอนที่หายใจเข้ายาวจนสุด จะมีอาการขนลุกจนถึงใบหน้าครับ บางครั้งทั่วทั้งร่างกายแม้แต่บนศรีษะ แต่ตอนหายใจออกไม่เป็นไรครับ เมื่อก่อนปฏิบัติเองคิดว่านี้เป็นอาการของปีติ แม้แต่เดียวนี้ถ้าต้องการอาการอย่างที่กล่าวมาก็แค่หายใจให้สุดปอดแล้วทำใจเบาๆ เท่านี้อาการก็จะเกิด แต่ว่าเมื่อตอนที่ผมสมัครเป็นสมาชิกใหม่ๆท่านในแว๊ปนี้พูดถึงอาการของปีติ ผมเลยถามว่าอาการข้างต้นนี้ใช่ปีติหรือไม่ ท่านตอบว่าถ้ามีอาการขนพองสยองกล้าว(ไม่รู้ว่าพิมพ์ถูกหรือปล่าวนะครับ)ก็เป็นอาการของปีติ แต่ที่ผมคุมลมหายใจนั้นมันไม่ใช่ ปีติจะเกิดขึ้นมาเองโดยไม่ต้องคุมลลมหายใจเลย อันนี้พอจะเข้าใจเช่นเห็นเด็กตัวเล็กๆไร้เดียงสา 2 - 3 ขวบ เจอพระสงฆ์หรือเณร ก็ยกมือไหว พระ เณร เมือได้เห็นก็มีความสุขใจขึ้นเองจนขนลุกขนชัน แบบนี้คงจะใช่ปีติ หรือได้ทำอะไรดีๆจนมีอาการดังกล่าว แต่ที่สงสัย(ร่ายซะยาวเลย
)ก็คืออาการของผมนั้นมันคืออะไรครับ เป็นอุปาทานหรือปล่าว หรือเป็นแค่ความเคยชินในการกระทำนั้นๆจนคล่องตัวครับ หรือว่าก็ดีแล้วหนิ หรือว่าก็ช่างมันปล่อยมันไปคิดมากปวดหัวปล่าวไร้สาระ ขวางการปฏิบัติธรรมเสียเวลาคิด ไปคิดเรื่องอื่นดีกว่า หรือว่าคนเขียนคำถามนี้ถ้ามั-.สงสัยน้อยกว่านี้หน่อย ปล่อยวางให้มากกว่านี้ เอาเวลาไปดูลมหายใจ ดูอริยาบท หรือดูอารมณ์ของใจ คงดีขึ้นกว่านี้เยอะ (การปฏิบัติข้างหลังนี้เป็นแนวทางปฏิบัติได้ใช่ไหมครับ ทุกวันนี้พยายามอยู่ ถ้าใช่จะได้ทำต่อไป ถ้าไม่ค่อยตรงกับตัวผมช่วยแนะนำผมหน่อย ชอบสงสัยมากครับ) ใจจริงอยากจะได้มโนมยิทธินะครับจะได้รู้เองโดยการถามท่านที่สามารถตอบได้ แต่ยิ่งอยากเท่าไหรก็เหมือนยิ่งไกลเท่านั้นครับ บางทีอดนึกไม่ได้ว่าผมนี้เป็นพวกทัพพะบุคคล(ไม่รู้ว่าถูกไหมครับ)หรือปล่าว ประเภททำแล้วไม่เจริญ หรือว่าผมควรจะต้องทำให้หนักกว่ามากกว่านี้อีก2-3เท่า แค่นี้ก่อนแล้วกันครับมั-.จะฟุ้งมากไปครับ ช่วยตอบผมหน่อยนะครับ ขออนุโมทนาบุญทุกบุญของคุณด้วยนะครับ อนุโมทนาสาธุครับ สาธุ -(ต้องการรับคนอย่างผมเป็นศิษย์ไหมครับ ที่เคยคุยกันไว้หนะครับ
สาธุครับ สาธุ
โดย:
มารน้อย
เวลา:
2013-9-8 18:31
ตอบคุณณัฐดนัย จากคำถามผมขอสรุปมาเป็นข้อๆแบบนี้
& U0 J. q) M3 T! d m( y$ h7 X* \
๑. การที่เราขอเบิกบุญเราเบิกทีเดียวแต่ให้ทุกๆท่านที่นึกได้ในครั้งนั้น ท่านเหล่านั้นจะได้เท่ากันหรือไม่ครับ และจะได้น้อยกว่าเราเบิกครั้งนี้ให้เฉพาะเจ้ากรรมนายเวร และเบิกอีกครั้งให้กับเทวดาที่ปกปักรักษาตัวเราและครอบครัว 2 อย่างหลังนี้ท่านเหล่านั้นจะได้บุญมากกว่าตอนแรกที่ให้รวมกันหรือปล่าวครับ หรือว่าอยู่ที่จิตใจของเราขณะนั้นด้วยครับ เช่นวันนี้เรามีความรู้สึกเป็นปกติดีหรือเฉยๆ กับวันนี้มีความร่าเริงใจมีจิตเป็นสุขในโลกมนุษย์ กับวันนี้มีความรู้สึกปีติยินดีในการได้ฟังธรรมหรือได้ปฏิบัติธรรมแล้วมีความเบิกบานใจครับ ไม่ทราบว่าเหตุเหล่านี้จะมีผลในการเบิกบุญด้วยหรือไม่ครับ
$ I; p4 N5 e8 R; w: a( t
ตอบ
จากคำถามข้อนี้จากประสบการณ์ของผมพบว่าการอุทิศบุญให้แบบเจาะจงผู้รับจะได้บุญมากกว่าการอุทิศแบบรวมสาเหตุจากกำลังจิต ภพภูมิ ของผู้รับหากผู้รับมีภพภูมิสูง หรือกำลังจิตสูง กำลังบุญที่รับก็มากตามไปด้วย เปรียบไปก็เหมือนเราเทน้ำใส่ภาชนะหากภาชนะนั้นความกว้างของช่อง น้ำที่เทลงไปก็ย่อมรับได้มาก แต่หากช่องรองรับแคบน้ำที่ใส่ก้ได้น้อย ดังนั้นจึงสมควรที่จะอุทิศบุญให้เจาะจงจะเหมาะสมกว่า
& D X9 W0 |# j6 W& M! K! o' l
๒. วันนี้เรามีความรู้สึกเป็นปกติดีหรือเฉยๆ กับวันนี้มีความร่าเริงใจมีจิตเป็นสุขในโลกมนุษย์ กับวันนี้มีความรู้สึกปีติยินดีในการได้ฟังธรรมหรือได้ปฏิบัติธรรมแล้วมีความเบิกบานใจครับ ไม่ทราบว่าเหตุเหล่านี้จะมีผลในการเบิกบุญด้วยหรือไม่ครับ
/ c$ Y% f2 o) M5 ^$ L: w
ตอบ
จะว่าเกี่ยวก็เกี่ยว จะว่าไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว ผมไม่ได้ตอบกวนๆนะแต่ป้นเรื่องจริง หากจะว่าเกี่ยวนั้นก้เนื่องมาจากนายเวร เขามีสิทธิ์ที่จะทำให้เราต้องทุกข์ใจร้อนใจ ลำบากใจได้เสมอ หากเราอุทิศบุญให้หรือเบิกบุญให้แก่เขา เขาก็ไม่มาทำให้เรารู้สึกลำบากใจ ทุกข์ใจ เราก็สุขกายสะบายใจ หากว่าไม่เกี่ยวก็เพราะทุกอย่างอยู่ที่จิต แทบทั้งสิ้น มันอาจเป็นเพราะสภาวะภายนอกมากดดันจิตให้จิตเศร้าหมองได้เช่นกัน
5 ?+ m5 k: w" u: G0 H: Q
๓. ถามเรื่องการทำสมาธิ
' C8 E, V X+ E, A U T
ตอบ
เรื่องนี้ผมขอตอบ(ในความคิดผมนะ)น่าจะเข้าใจถูกต้องแล้วว่าเป็นความคุ้นเคยของจิต เพราะจิตจะจดจำสภาวะนั้นได้เมื่อกำหนดให้มีสภาวะเดิมจิตก็สั่งกายให้เกิดอาการดังเคย หากจะปล่อยไปตามกลไกลโดยไม่สนใจก็ได้ตามหลักการของผู้อยากหลุดพ้น แต่หากเป็นผม ผมจะนำมาใช้ให้เป็นโยชน์ในด้านการตรวจสอบพลังของเครื่องราง วิธีทำโดยนำเครื่องรางนั้นมากำไว้ในมือแล้วกำหนดจิตให้มีสภาวะความรู้สึกที่เคทำไว้ที่เครื่องราง แล้วรับสัมผัสจากเครื่องรางนั้น ก็จะทราบทันที่ว่าเครื่องรางนั้นมีพลังมากน้อยเพียงใดจากการรับสัมผัส ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่การฝึกฝน จนเกิดความชำนาญ ส่วนเรื่องฝากตัวเป็นศิษย์ อันนี้แล้วแต่บุญทำกรรมแต่งก็แล้วกันครับ
! H3 Q! M# A/ r s% a j
โดย:
ณัฐดนัย
เวลา:
2013-9-10 17:39
สาธุครับ อาจารย์
ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://dannipparn.com/)
Powered by Discuz! X1.5