ย้อนกลับมาที่สำนักพญายม
ด้วยวิธีปฏิบัติแนวมโนมยิทธิของวัดท่าซุงของพวกผม
ผมจึงขออนุญาตกราบเรียนถามองค์พญายมราช
ขอทราบวิธีการสอบสวนวิญญาณของท่าน$ p* C5 [4 o! X) N) x- @
เพื่อนำมาบอกกับมนุษย์
ดังนี้0 x; a) C5 Y% A# L9 C& M- ?
0 M; j/ b) y1 q$ f; |1 s
องค์ท่านคือลุงพุฒที่หลวงพ่อวัดท่าซุง
กล่าวถึงใช่หรือไม่
ท่านตอบว่า, ]4 I0 i6 z5 F( X
ใช่) W/ }: T0 E" B4 s
" s3 `5 e* t; J! u" D% S: l
ท่านมีวิธีการสอบสวนอย่างไร# N! u0 S* X1 K
ท่านตอบว่า
ท่านจัดการกับเหล่าวิญญาณที่หมดอายุ
ดังนี้
v
ถ้าผู้ที่หมดอายุลงกำลังสิ้นใจ% y# r1 Z* k0 q$ s
แล้วจิตคิดถึงบุญกุศลที่ทำไว้หรือภาวนาพุทโธ
หรืออรหัง
อย่างนี้ไม่ต้องสอบสวน& p C$ k4 w) @9 T2 J' b
เพราะจิตเขาเกาะอยู่กับบุญ4 {: ?$ S! T, I# ^; {
ก็ไปรับผลบุญที่ภพสวรรค์ตามกำลังบุญได้เลย คือไปสู่สุขคติ+ P7 z" K! o! A F
ส่วนผลบาปของเขาจะยังรออยู่
v
ถ้าผู้ที่หมดอายุลงกำลังจะสิ้นใจ- D# c" P/ w* T% y
แล้วจิตคิดถึงบาปกรรมที่เขาเคยได้กระทำไว้2 t$ m* y2 m4 @+ ^ f) q L
ถึงแม้เขาเคยสร้างบุญกุศลไว้มากน้อยก็ตาม: p2 E. e% w* c
แต่ขณะจะสิ้นใจจิตเขาระลึกถึงบาปที่เคยกระทำ
เท่ากับเขาเลือกรับผลของบาปที่นรกก่อน
คือไปนรกสู่ทุกข์คติ% t1 u A) V! c Z. I
ส่วนผลบุญจะยังรอเขาอยู่+ q* t% h9 _5 q
เมื่อได้รับการลงโทษจากนรกแล้ว( k c- N. i% u7 ^, u2 I( E
จึงจะรับผลบุญนั้น
ตกลงไม่ได้สอบสวน) L6 X' H( q' x0 e1 i" d
เพราะเขาเลือกลงนรกแล้ว$ E4 \- f( W) q7 k) M
ดังนั้นคนเราเมื่อใกล้ตาย7 |" @* f2 u6 k3 L5 |; e
เราต้องตั้งใจคิดแต่ทางบุญกุศลที่เคยทำไว้
ห้ามคิดเรื่องบาปเด็ดขาด
แล้วผลบุญจะสนองท่าน2 O `% P/ K+ Y. z3 ?6 x# @
โดยไม่ต้องไปสอบสวนที่สำนักพญายม
2 p- h5 Q, o* x2 `
v$ Y1 V) s7 K- [, k5 d
ขอบอกถึงญาติที่น้องลูกหลายของผู้กำลังสิ้นใจ3 u* J- F& K3 ?$ Q7 w1 |1 i& c! z
ถ้าพวกท่านเอาแต่ร้องไห้หรือแสดงอาการอาลัยอาวรณ์ทางร่างกาย4 J0 u' Q* Y5 A% T9 N
วาจา
จนทำให้จิตผู้กำลังจะสิ้นใจเกิดทุกข์
ระวังผลงานของท่านอาจทำให้ผู้ตายสู่ทุกข์คติ
v
ถ้าผู้ที่หมดอายุ$ D/ w. g/ ?8 O" o% M- d
กำลังจะสิ้นใจ
จิตมิได้คิดถึงเรื่องบุญบาปเลย5 h" Q# C6 ^. W n1 r9 v4 r) h6 s
เพราะความทรมานของสังขาร& v- T! B. E. a/ N$ G7 Q+ e
ผู้นั้นต้องลงไปรับการสอบสวนที่สำนักพญายม: T q( K4 Q g2 j7 e) _& t
ท่านพญายมจะสอบสวนวิญญาณเหล่านั้น
ดังนี้
1.
เจ้าเคยทำความดีอะไรมาบ้าง+ g T, v+ V* ^% L
ตอบ…………..
2.
เจ้าเคยทำความชั่วอะไรมาบ้าง
ตอบ…………..
3.% D( A. o; {+ W. ^5 c
เจ้าต้องการรับผลของความดีหรือความชั่วก่อน ตอบ…………..
' i% o5 N6 |7 u! H
ถ้าวิญญาณตอบผลของความดีไม่ได้
นึกไม่ออก
ท่านจะถามถึง
3
ครั้ง5 b" d. U7 K4 h2 b, T! h
ให้พยายามนึก. L; r0 x) q) R( j+ i! W- |5 T1 }9 q
แต่นึกไม่ออก. h3 s9 [, P, g" m3 ~& p- l# A7 m
ท่านก็ต้องปล่อยให้ผลของความชั่วตอบสนองคือลงนรก
ท่านเองก็ไม่อยากให้ใครตกนรก
แต่ถ้าความดีของเขามีน้อยนิดจนนึกไม่ออก3 q4 o6 Q) j# j2 L D* J
และความชั่วมันมากมายเหลือเกิน
ท่านก็จนใจ
ผมเองก็ช่างสงสัย
ก็กราบเรียนถามท่านว่า
ท่านมีบัญชีบุญ( h3 A- n8 |2 l8 w+ l9 c( y! t5 m
บัญชีบาปอยู่มิใช่หรือ. `+ k3 e0 [0 C, q9 i- A
เหตุใดไม่บอกเขาในส่วนของบุญที่บันทึกไว้% m, a& H( k/ E5 a. F5 O' M1 a, ]7 I
ท่านตอบว่าเมื่อความชั่วมันมากล้นเหลือ% Y5 |: Y2 l9 x# y
นายเวรก็รออยู่มีมาก ก็สุดที่จะเอาความดีอันน้อยนิดมาตอบสนองได้
ก็ต้องให้เขาได้รับผลของกรรมก่อน9 i# K" ?1 J: I U/ t& U, x/ F1 c
ค่อยไปรับผลของบุญทีหลัง
8 C! b9 @7 ~0 ?5 U7 G0 b1 I1 t
ท่านผู้อ่านทุกท่าน( ?2 t0 b8 @$ t; Y% s0 ~# p
ท่านต้องตายแน่นอน& l: Y: f6 y R8 G* z& a9 Y9 A+ z
100%8 P* c5 q# T5 J8 V$ ^6 T) H. w
ถ้าท่านถูกองค์พญายมราชถาม
ท่านลองคิดคำตอบไว้นะ
รับรองว่าโกหกไม่ได้แน่นอน
+ m, u5 r9 K+ l( T) b% O( g4 U, ~2 k
พระท่านสอนว่าคนทำดีได้ไปสวรรค์7 H1 u' H9 v* z
คนทำชั่วต้องตกนรก แล้วใครบ้างล่ะ \ _/ E; A" x& F
ไม่เคยทำชั่วทำบาปมาเลย ไม่มีสักคน* Y) _) F0 |" {# b* q- d' t
ทุกคนมีทั้งบาปและบุญที่กระทำไว้ทุกคน
ดังนั้นผมขอบอกว่าให้ทุกคนช่วยตัวเองให้พ้นนรกได้
โดยประกอบกรรมดีไว้ให้เป็นประจำ
ฝังไว้ในดวงจิต! C1 h3 F' S2 t
เช่น
ใส่บาตรประจำ,* v0 _4 m! v$ e# j
นั่งสมาธิ
ถือศีลเป็นประจำ
หรือสร้างวิหารทาน
เช่น3 |7 j+ S) M N, A
ส้วม3 b* O" I5 S& k8 M
ศาลา0 _+ c7 V' Y0 @
โบสถ์) Y4 h/ q, i* z0 F# K
เจดีย์
(ร่วมกันบริจาคสร้างไม่ใช่ต้องทั้งหมดคนเดียวก็ได้)
ฝังความจำความอิ่มใจไว้ในดวงจิตว่าเราได้สร้างวิหารทานไว้7 M4 U- s \: ~; @8 V$ j8 t
คอยดูแลบำรุงรักษาให้เป็นประจำรับรองตอบคำถามข้อที่$ ^0 Y: }% e# f2 ^7 R7 g$ r4 t
1
ของท่านพญายมได้แน่
เมื่อเราเลือกขอรับผลของบุญก่อน
ผลบุญทุกอย่างที่ท่านทำไว้จะส่งให้กายของท่านกลายเป็นเทวดาชั้นใดชั้นหนึ่งตามกำลังบุญที่ทำไว้
แล้วผลบาปล่ะ, P( }; @0 G& }6 O- O4 [
อ๋อ!
ยังรอสนองท่านอยู่5 ^5 z8 P/ K9 y" l! N, x
ถ้าท่านเพลิดเพลินในการมีความสุขในภพสวรรค์จนหมดบุญ
หล่นวูบลงมารับผลของบาปได้เช่นกัน
% W1 m) Q1 x- o W% ]3 t
ดังนั้น: N t8 T6 L- @& p1 @
เทวดาทั้งหลายต่างก็กลัวหมดบุญ
จึงมุ่งปฏิบัติธรรมสร้างบุญจากการปฏิบัติ เพื่อเลื่อนไปในภพภูมิที่สูงขึ้นไป
ณ) n4 f& G8 l8 |% o& w
แดนดาวดึงส์สวรรค์ชั้น: l- ]: m" Q) G$ [8 a7 @9 H( H
2* t: ^; r7 l+ T0 D) n! \
มีท้าวสักกะเทวราช# A0 [. W( j+ b4 o
หรือพระอินทร์ปกครองอยู่7 j4 v7 P( p* S9 u. @+ Z
เป็นที่ตั้งของพระจุฬามณี
เจดีย์บนแดนสวรรค์ในวันพระ
พระพุทธเจ้าจะมาเทศน์โปรดเหล่าเทวดาทั้งหลายที่มาฟังธรรม2 S) n! w7 i) n
ให้ปฏิบัติธรรมให้พ้นจากวัฎสงสารนี้
เรียกว่าสร้างบุญจนผลของบาปตามสนองไม่ทัน
เราคงเคยได้ยินคำว่า
ทาน4 o" W, y9 F( z
ศีล
ภาวนา
9 U* @5 [( E0 p/ g' n
บุญชั้นทาน+ D8 c. \* w7 y# r' T9 G1 F
เช่น% ^4 d2 L) h5 B$ V
ทำบุญใส่บาตร' L- k8 K* m! A. u8 h
ทอดกฐิน
ผ้าป่า
บริจาคทาน
เป็นอามิสบูชา1 t# r k" n% Y @8 @
ด้วยกำลังทรัพย์
กำลังกายนี้ผลบุญจะปรากฏที่สวรรค์ชั้น
1
จาตุมหาราชิกาเท่านั้น
เวลาสวรรค์ชั้นนี้' |# O: J; h8 `* v) c
1
วัน. h! @. U+ M4 s& I
เท่ากับ
504 W% @/ S# ]( L0 i% v
ปีมนุษย์
' W' A5 ~" P9 m$ |7 E6 U5 u" G
บุญศีลมีพลังบุญสูงกว่าบุญชั้นทาน# X2 o% Y! }* n' Y' H; }
เพราะเป็นบุญปฏิบัติความบริสุทธิ์ของดวงจิตสะอาดกว่าบุญชั้นทาน
ผลบุญศีลนี้ส่งถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์คือสวรรค์ชั้น7 Z! A1 l1 C8 Q5 Q* b4 i( ?% Y4 ^
29 p' L4 V! z/ A! N
ถ้าความบริสุทธิ์ของศีลสะอาดบริสุทธิ์มากขึ้นและมีการสวดมนต์ภาวนาก็สามารถไปอยู่สวรรค์ชั้น3 J2 W" n5 ?% d5 q
3,* ]8 I( V; L0 {% A U
5,; S8 m: \* v1 X8 F+ v" ~4 p' C
6 ได้ส่วนสวรรค์ชั้น
43 ?8 {) J6 F( x O1 C& E( B
คือชั้นดุสิต
เป็นที่เฉพาะพระโพธิสัตว์ท่านสถิตย์อยู่
เช่น หลวงปู่ทวด
หลวงพ่อปาน1 K, j* `" _7 h% K2 A/ l$ a+ D/ h
เจ้าแม่กวนอิม/ T/ i/ e7 Y4 w! \. n
ส่วนหลวงพ่อวัดท่าซุงพบท่านที่ชั้นนิพพาน
% w& A) Q. g, v- ^$ ?% a' f
มีเรื่องเล่าว่า
เถ้าแก่คนหนึ่งมีจิตเป็นกุศลมาก- @( U% W6 S- I* u( |7 M
แกสร้างโบสถ์คนเดียวทั้งหลังหมดเงินเป็นล้าน4 y% l7 j9 g n
แต่ตัวแกไม่ได้ถือศีลภาวนา
ปรากฏว่าผลบุญแกได้ปรากฏที่สวรรค์ชั้น. e' R% C5 H1 {) @3 v) E
14 u2 K+ z; p+ [9 @
เท่านั้น
แต่มียายคนหนึ่งยากจน
แกมาถือศีลอยู่ที่วัด
ใส่บาตรทำบุญตามสถานะ! |+ t2 S5 ?8 L
ปรากฏว่าผลบุญศีลของแกไปปรากฏที่สวรรค์ชั้น8 P) v- q4 g, B9 H3 V% Y. D
27 F# _( x1 W6 t* O
โดยไม่ได้ใช้เงินสักบาท
7 t( Q. J& a6 V, \2 Y, \! _# G
ผมมียายคนหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้วชื่อยายรำพึง
เดิมแกมีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวเรือ พายเรือขายอยู่คลองบางขาม
อำเภอบ้านหมี่ @' X l! e/ Z" W
จังหวัดลพบุรี
พอแกเสียชีวิตไป! g$ S. k3 l \! f" M2 t
พวกผมลองติดตามดูว่าแกอยู่ไหนถ้าลำบากจะได้ช่วย1 f' D; `/ a; f |
ปรากฏว่าแกเลือกรับผลบุญมาเป็นนางฟ้าอยู่ชั้นจาตุมหาราชิกา
ก็หมดห่วงหลังจากนั้นอีกประมาณ, j* A. F9 t' t: W
7-83 K2 y9 K& i; I# ~: y u
เดือน' {7 [% l8 L! u! Y+ q& [. X- A
พวกผมลองติดต่อแกดูอีกครั้ง9 _' B: C8 X! j, i+ O
ปรากฏว่าแกไปเป็นนางฟ้าอยู่ชั้นดาวดึงส์
ผมสงสัยเลยถามดูว่ายายผมจำได้ว่ายายอยู่จาตุมหาราชิกา# |1 p8 \5 A5 f
แล้วทำไมตอนนี้ยายมาอยู่ดาวดึงส์
ยายตอบว่า
เพราะบุญปฏิบัติตอนเป็นนางฟ้า
ยายเร่งปฏิบัติ& G- Y8 p. z2 B& f. E3 z& Z7 o/ }
พอพลังบุญมากเพียงพอ
ก็เลยมาอยู่ชั้นดาวดึงส์. ?9 g4 V) l! y9 ]5 T4 \+ D) F9 W
ผมก็เลยเข้าใจ
บนสวรรค์เองก็มีการปฏิบัติธรรม/ R; B6 l5 C: _+ a* C/ O+ \
เพื่อเลื่อนภพภูมิให้สูงขึ้นโดยไม่ได้รอผลบุญอุทิศจากใคร
ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://dannipparn.com/) | Powered by Discuz! X1.5 |