แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

ชื่อกระทู้: กรรมของเพชรฆาตฆ่านักโทษ [สั่งพิมพ์]

โดย: yuiflukefo    เวลา: 2013-7-5 15:46     ชื่อกระทู้: กรรมของเพชรฆาตฆ่านักโทษ

เรียนถามอาจารย์
( j: S3 H: U# wพวกที่ต้องฆ่านักโทษประหารชีวิต  คนพวกนี้เค้าจะได้รับผลกรรมอย่างไรคะ อย่างเมื่อก่อนมียิงเป้า เดี๋ยวนี้เป็นฉีดยาให้หลับไปก่อนโทษจะเหมือนกันมั๊ย
โดย: มารน้อย    เวลา: 2013-7-10 14:27

ตอบกระทู้ yuiflukefo ตั้งกระทู้1 x' ]: j5 c7 d2 h. Y
+ W3 m: x  G- E
สำหรับเรื่องนี้จะบอกว่าไม่มีกรรมเสียเลยก็ไม่ถูก มีกรรมแต่น้อยสาเหตุเพราะทำตามคำสั่งของแผ่นดิน ในอดีตก็มีเพชรฆาตที่สำเร็จโสดาบัน ก็มีเหมือนกันครับ
โดย: ณัฐดนัย    เวลา: 2013-7-11 20:27

สาธุครับ แต่ทำไม่ฆ่าคนแล้วเป็นพระโสดาบันได้ละครับ ช่วยบอกผมได้ไหมครับคุณมารน้อยครับ สาธุครับ
โดย: มารน้อย    เวลา: 2013-7-12 18:15

ตอบกระทู้ ณัฐดนัย ตั้งกระทู้0 T! v5 @% c9 w% ^
4 C# P  S/ b; h- ?" b
โจร(เพชฌฆาต)เคราแดง% b4 z7 i+ Z* N# r4 x9 X* G
            ในสมัยพุทธกาลนั้นได้มีโจรกลุ่มหนึ่งมีสมาชิกทั้งหมด ๔๙๙ คน  ครั้งหนึ่งได้มีคนเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกใหม่กับโจรกลุ่มนั้น  คนที่เข้ามาสมัครใหม่นั้นมีลักษณะตาเหลือกเหลือง  มีเคราสีแดง  ซึ่งผู้นั้นได้เดินเข้าไปหาหัวหน้าโจร  แจ้งความประสงค์ของตนว่าจะขอเข้ามาร่วมแก๊งเป็นพรรคพวกด้วย  แต่เมื่อหัวหน้าโจรดูลักษณะคนที่มาสมัครใหม่แล้วก็คิดว่าคนผู้นี้ไม่น่าไว้ใจ  อีกทั้งในใจยังคิดว่า  คนผู้นี้ดูมันกักขฬะนัก  ดูจากลักษณะของมันแล้ว  ไอ้คนนี้มันคงสามารถตัดนมแม่ของมันเองกับมือ  หรือนำเลือดในคอของพ่อตัวเองมาดื่มได้  หัวหน้าโจรจึงได้กล่าวปฏิเสธไม่ยอมรับบุรุษเคราแดงเข้าพวก  แต่กระนั้นบุรุษเคราแดงก็ไม่ยอมละทิ้งความตั้งใจที่จะเป็นพวกโจรให้ได้ พยายามจะหาช่องทางอื่นในการเป็นสมาชิกใหม่ให้ได้  โดยไปเอาใจลูกน้องโจรคนหนึ่งในกลุ่ม  เพื่อหวังว่าลูกน้องโจรคนนั้นจะฝากฝังตนกับหัวหน้าโจร  จนลูกน้องโจรผู้นั้นเห็นถึงความดี  จึงไปพูดกับหัวหน้าโจรว่า  คนเคราแดงนี้เป็นคนดี  ขอให้หัวหน้าโจรช่วยสงเคราะห์รับเขาไว้เป็นพวกด้วยเถิด  หัวหน้าโจรเห็นว่าพวกตนขอให้รับบุรุษเคราแดงนี้ไว้  ก็เลยรับบุรุษเคราแดงไว้เป็นพวก  ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาบุรุษเคราแดงจึงได้เป็นพรรคพวกกับโจรกลุ่มนี้ 6 |) Z) _3 o, G5 b8 a) Y4 U1 S$ }
            เหตุการณ์ได้ผ่านไปจนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง  ชาวเมืองทั้งหลายร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง  ล้อมจับโจรกลุ่มนี้ได้ทั้งหมด  ครั้นจับโจรกลุ่มนี้ได้ทั้งหมดก็ส่งไปให้อำมาตย์ผู้ตัดสินคดีวินิจฉัยความผิด  เมื่อผลการตัดสินออกมา  โจรทั้งหมดโดนตัดสินประหารชีวิตด้วยการถูกบั่นคอด้วยขวาน  แต่ก็มีปัญหาอยู่ตรงที่ว่าแล้วใครละจะเป็นผู้รับหน้าที่ตัดคอโจรกลุ่มนั้น  ดังนั้นจึงมีการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมจะเป็นเพชฌฆาต  โดยทำการคัดเลือกผู้ที่จะรับหน้าที่เพชฌฆาตจากพวกโจรที่โดนจับได้ก่อนที่จะหาจากคนนอก  จึงทำการถามพวกโจรว่าใครจะกล้าทำบ้าง  ถ้าใครทำก็จะไว้ชีวิตให้อีกทั้งก็จะได้รับการนับถืออีกด้วย  มีใครสนใจจะรับหน้าที่นี้บ้าง  โดยถามไปที่หัวหน้าโจรก่อน  และไล่ไปถึงลูกน้องโจรทั้ง  ๔๙๙  คนไปตามลำดับ  แต่พวกโจรทั้ง  ๔๙๙  คน  ยอมตายเสียดีกว่าทำการประหารชีวิตพวกเดียวกัน  จนคำถามมาถึงนายตัมพทาฐิกะ  (เคราแดง)  ว่าจะยอมทำหน้าที่ประหารหรือไม่  ซึ่งโจรเคราแดงก็ตกปากรับคำว่าเราจะเป็นผู้รับหน้าที่ประหารชีวิตโจรพวกนี้เอง  และได้ทำการประหารชีวิตโจรทั้งหมด  ๔๙๙  คน  หลังจากนั้นโจรเคราแดงจึงได้รอดชีวิตและได้รับความนับถือมีชื่อเสียงนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
8 t/ I, f/ i5 Q            เวลาต่อมา ชาวเมืองได้ล้อมจับโจรจากทิศใต้ของเมืองได้อีก ๕๐๐  คน  ซึ่งโจรที่โดนจับมาใหม่ก็โดนตัดสินเหมือนกับโจรกลุ่มแรก  คือประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ  ก็เหมือนเดิมอีกนั่นแหละว่า ใครจะเป็นผู้ทำหน้าที่ตัดคอโจรกลุ่มนี้  จึงได้ถามหัวหน้าโจร  ไล่ไปจนถึงลูกน้องโจรว่าใครจะทำหน้าที่เพชฌฆาตบ้าง  ถ้าใครทำจะไว้ชีวิต  แต่ก็ไม่มีผู้ใดยอมทำ   เมื่อไม่มีผู้ใดยอมทำ  จึงมีเสียงจากชาวเมืองถามหา  ผู้ที่ประหารโจรกลุ่มแรกเป็นใคร และอยู่ที่ไหน  เรื่องทำหน้าที่ประหารชีวิตโจรก็ได้กลับไปที่บุรุษเคราแดงอีกครั้ง  ชาวเมืองจึงได้ไปตามบุรุษเคราแดงมาจัดการ  บุรุษเคราแดงก็ยอมทำหน้าที่ประหารชีวิตโจรเหล่านั้น ; o; q5 @, N( F2 N! U$ y  B
            ครั้งนั้นชาวเมืองจึงปรึกษากัน  และแต่งตั้งบุรุษเคราแดงเป็นผู้ทำหน้าที่ประหาร ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  บุรุษเคราแดง  จึงได้รับตำแหน่งเพชฌฆาตทำหน้าที่ประหารพวกโจร  หลังจากนั้นพวกชาวเมืองก็จับโจรได้ครั้งละ  ๕๐๐  จากทิศเหนือ  ทิศตะวันตก และโจรกลุ่มดังกล่าวทั้งหมดก็ได้ถูกนำไปให้บุรุษเคราแดงประหาร  บุรุษเคราแดงได้ทำการประหารโจรทั้งหมดทั้งสิ้นเป็นจำนวน  ๒,๐๐๐  คน  ในเวลาไล่เลี่ยกัน  หลังจากนั้นเป็นต้นมา  เขาก็ได้ทำงานในตำแหน่งเพชฌฆาต โดยทำการประหารชีวิต  วันละคนหรือสองคนบ้าง . j( t2 k4 S& G
            วันเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า  จากวันเป็นเดือน  จากเดือนเป็นปี  จากปีเป็นสิบปี จากสิบปีเป็นห้าสิบห้าปี  เพชฌฆาตเคราแดงได้ทำหน้าที่เพชฌฆาตเป็นระยะเวลาทั้งหมด  ๕๕  ปี  เมื่อเพชฌฆาตเคราแดงได้ชราภาพลง  เรี่ยวแรงก็ถดถอย  ไม่สามารถประหารชีวิตผู้ต้องโทษให้ตายในดาบเดียวได้   ชาวเมืองจึงลงความเห็นและให้เขาเกษียณออกจากตำแหน่ง
0 }! _+ y2 m$ k2 q  ]/ ^            นายตัมพทาฐิกะ  (เคราแดง)  ทำหน้าที่เพชฌฆาตมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง ๕๕  ปี  โดยไม่ได้มีการนุ่งผ้าใหม่  ทานอาหารที่ดี  ประดับแต่งตัวทาด้วยของหอมเลย  ดังนั้นในวันที่เกษียณออกจากตำแหน่ง  นายตัมพทาฐิกะ (เคราแดง)  จึงขอให้ชาวเมืองจัดหาเสื้อผ้าใหม่  อาหาร  ยาคูเจือด้วยน้ำนมที่ปรุงด้วยเนยใสใหม่  การประดับดอกมะลิ  การทาด้วยของหอม  ซึ่งชาวเมืองก็ดำเนินการจัดเตรียมสิ่งที่เขาต้องการไว้ในเรือน  ส่วนนายตัมพทาฐิกะนั้นก็ได้เดินทางไปยังแม่น้ำ  อาบน้ำชำระตัวให้สะอาด  นุ่งผ้าใหม่  แล้วประดับด้วยดอกไม้  ตัวก็ทาด้วยของหอม  เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อย  ก็เดินทางกลับมาสู่เรือน  แล้วค่อยๆ นั่งลง  ชาวเมืองก็นำอาหารอันโอชะมา  และวางยาคูเจือน้ำนมที่ปรุงด้วยเนยใสใหม่ข้างหน้าเขา  อีกทั้งยังนำน้ำสำหรับล้างมือมาให้นายตัมพทาฐิกะ   : o. S. \  l" `* E5 j! ^( L
            ก่อนที่นายตัมพทาฐิกะจะทำการรับประทานอาหารที่เขารอคอยมานาน  ขณะนั้นเองนายตัมพทาฐิกะพลันเหลือบไปเห็นพระสารีบุตรยืนถือบาตร  แสดงตนยืนอยู่ที่ประตูเรือนของนายตัมพทาฐิกะ  (อ้างอิง๑)  นายตัมพทาฐิกะเมื่อเห็นพระสารีบุตรแล้วก็มีจิตคิดเลื่อมใสว่า  เราเองก็กระทำการฆ่าโจรเป็นเวลาช้านาน  ได้ฆ่ามนุษย์เป็นอันมาก  ซึ่งในบัดนี้ที่เรือนของเราก็มีอาหารอยู่พอดี  พระเถระก็มายืนอยู่หน้าประตูเรือนของเรา  เราจะถวายไทยธรรมแด่พระคุณเจ้าเสียในกาลบัดนี้  จึงได้เลื่อนอาหารยาคูที่วางอยู่  ณ  เบื้องหน้าออกไป  แล้วเข้าไปหาพระเถระ ทำการไหว้  นิมนต์ให้นั่งภายในเรือน  ได้ทำการเกลี่ยยาคูเจือน้ำนมลงในบาตร  ราดเนยใสใหม่ลงไป  อีกทั้งนายตัมพทาฐิกะยังได้ทำการยืนพัดพระเถระอยู่ใกล้ๆ  ขณะนั้นเองความอยากของนายตัมพทาฐิกะที่จะดื่มยาคูเจือน้ำนมเกิดมีกำลังขึ้นมาเนื่องเพราะไม่ได้ทานของดีมาเป็นเวลาช้านาน  พระสารีบุตรรู้อัธยาศัยของนายเคราแดง  จึงพูดกับนายเคราแดงว่า “อุบาสก ท่านจงดื่มยาคูของตนเองเถิด”  นายเคราแดงจึงส่งพัดให้แก่บุรุษอื่น  เพื่อรับหน้าที่พัดพระเถระแทนตน  และได้ลงมือดื่มยาคูของตน  พระสารีบุตรบอกกับบุรุษผู้ทำหน้าที่พัดว่า  ท่านจงไปพัดแก่นายตัมพทาฐิกะเถิด  หลังจากนายเคราแดงได้รับประทานอาหารจนอิ่มแล้ว  ก็กลับมาทำหน้าที่ยืนพัดพระสารีบุตรต่อ  เมื่อพระสารีบุตรฉันอาหารเสร็จแล้ว นายตัมพทาฐิกะก็คอยรับบาตรจากพระสารีบุตร  พระสารีบุตรจึงได้อนุโมทนากถา ให้นายเคราแดงฟัง  แต่นายเคราแดงไม่อาจกระทำจิตไปตามอนุโมทนากถา  ของพระสารีบุตรได้  พระสารีบุตรสังเกตเห็นจึงถามว่า  เหตุไร  นายเคราแดงจึงไม่อาจทำจิตไปตามอนุโมทนากถาได้  $ ?/ w. L! T6 B0 ^9 k7 {: g" E9 P
            นายตัมพทาฐิกะ  ตอบว่า  “ท่านผู้เจริญ  ข้าพเจ้ากระทำกรรมหยาบช้ามานาน มนุษย์เป็นอันมากถูกข้าพเจ้าฆ่าตาย  ข้าพเจ้ามัวระลึกถึงกรรมของตนนั้นอยู่  จึงไม่อาจทำจิตให้ไปตามเทศนา  ของพระคุณเจ้าได้”
. d4 U8 P. a$ ]4 ?5 a+ N7 Z            พระสารีบุตรคิดว่า  “เราจักลวงบุรุษนั้น”  จึงถามนายเคราแดงว่า  “ท่านกระทำตามชอบใจตน  หรือถูกคนอื่นให้กระทำเล่า? ”
1 k0 u$ z4 g4 _8 o            ตัมพทาฐิกะ   “ข้าแต่ท่านผู้เจริญ  พระราชาให้ข้าพเจ้าทำ”
1 y" m3 i4 c7 w3 v/ }8 I" c            พระสารีบุตรกล่าวว่า  “อุบาสก  เมื่อเป็นเช่นนั้น  อกุศลจะมีแก่ท่านอย่างไรเล่า?”  ^! Q8 I8 L. X1 A1 O5 u
            นายตัมพทาฐิกะเป็นคนธาตุทึบ  ถูกพระเถระกล่าวอย่างนั้น  ก็มีความสำคัญว่า  + r% d! G0 t. v9 U" Z
            “อกุศลไม่มีแก่เรา”  จึงกล่าวว่า  “ท่านผู้เจริญ  ถ้ากระนั้น  ขอท่านจงกล่าวธรรมเถิด”
& A/ x2 [) E: c6 N$ a. o1 u            ตอนนั้นเอง  นายเคราแดง  มีจิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง  ฟังอนุโมทนากถาแล้วบรรลุเป็นพระโสดาบัน ณ ที่นั้นเอง - p3 B* |; o) T* b  d
            หลังจากนั้นพระสารีบุตรหมดธุระ  ก็ออกจากเรือน  ส่วนนายตัมพทาฐิกะตามไปส่งระยะทางหนึ่งแล้วเดินทางกลับ  แต่ในระหว่างเดินทางกลับนั้น  นายตัมพทาฐิกะโดนแม่โคขวิดที่อก  นายเคราแดงได้เสียชีวิตลง  ณ ที่นั้นเอง  หลังจากที่นายเคราแดงเสียชีวิต  นายเคราแดงได้ไปเป็นเทพบุตรบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต 7 ]% m+ R$ b3 m, t, ?2 \
            ระหว่างนั้นภิกษุทั้งหลาย  ได้สนทนากันในโรงธรรมว่าบุรุษฆ่าโจร  กระทำกรรมหยาบช้าเป็นเวลาถึง  ๕๕  ปี  เขาพ้นจากตำแหน่งนั้นในวันนี้  พร้อมกับได้ถวายอาหารแก่พระเถระในวันนี้  อีกทั้งก็ได้ตายในวันนี้  ทั้งสามเหตุการณ์นั้นได้บังเกิดขึ้นในวันเดียวกันนี้เอง  หลังจากที่เขาตายแล้วจะไปบังเกิดที่ไหนหนอ - t0 ]' ]7 K& ^+ d- p
            ขณะนั้นพระศาสดาเสด็จมา แล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่าได้สนทนาเรื่องอะไรอยู่   ภิกษุเหล่านั้นจึงกราบทูลเรื่องที่คุยกันอยู่ให้ทรงทราบ  พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสเฉลยว่า  บุรุษเคราแดงผู้นั้นได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต   
0 Z5 X+ T  Q: P) k. l* K            ภิกษุทั้งหลายเมื่อฟังดังนั้นแล้ว  ถึงกลับประหลาดใจเป็นอันมาก  จึงทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าต่อไปว่า  “พระองค์ตรัสว่าอะไรนะ ?   บุรุษผู้นั้นได้ใช้เวลายาวนานฆ่ามนุษย์ตั้งมากมาย  แต่กลับไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตได้อย่างไร  พระเจ้าข้า”
! t4 `3 Y6 Y5 D' B3 N6 W; E            เมื่อได้ยินคำถามนั้น  พระศาสดาจึงตรัสตอบกลับไปว่า  “เนื่องจากบุรุษผู้นั้นได้พบกัลยาณมิตรผู้ใหญ่  ดังเช่น  พระสารีบุตร  และได้ฟังอนุโมทนากถาจากพระสารีบุตร  จึงได้ไปเกิดในวิมานชั้นดุสิต”- b( G/ E) K# h9 K
             ภิกษุเหล่านั้นกล่าวว่า  “ธรรมดาแค่อนุโมทนากถานั้นก็มีกำลังเพียงแค่ประมาณหนึ่งเท่านั้น  แต่บุรุษผู้นั้นกระทำอกุศลกรรมไว้ตั้งมากมาย  เขาได้บรรลุคุณวิเศษขนาดนั้นด้วยเหตุเพียงแค่ฟังอนุโมทนากถาได้อย่างไร”
$ ~  f2 E! `2 W" `            พระศาสดาตรัสตอบว่า   “ภิกษุทั้งหลาย  เธอทั้งหลายจงอย่าถือประมาณแห่งธรรมที่เราแสดงแล้วว่า  ‘น้อยหรือมาก’  เพราะว่า  แม้วาจาคำเดียวที่อาศัยประโยชน์  ประเสริฐโดยแท้”  
! Q5 _  o5 ]# u* P- @            จึงตรัสพระคาถานี้ว่า:-: O# T# G  r  c! Y/ U1 l5 }8 u
                     “   หากวาจาแม้ตั้งพัน      ไม่ประกอบด้วยบทที่เป็น; [- }& ~0 C- ~6 F6 [! A2 h0 F" _
                          ประโยชน์ไซร้,     บทที่เป็นประโยชน์     บทเดียว  
2 i# o& ]5 S& Q                          ซึ่งบุคคลฟังแล้วสงบระงับได้       ประเสริฐกว่า   ”; B, O- E; U/ h" y" ~; d5 t- R
            หลังจากจบเทศนา  ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย               
- v0 @0 o' N) [$ U            มีโสดาปัตติผลเป็นต้น  3 p4 B" ]2 w: ]& P) C8 T
จบเรื่องโจร(เพชฌฆาต)เคราแดง
' O" [- Z5 _; p; i. u7 c5 e+ G' k* x5 c( c
   อ้างอิง ๑  พระสารีบุตรเพิ่งออกจากสมาบัติ  ได้ทำการพิจารณาว่าควรจะสงเคราะห์ผู้ใด  เมื่อพิจารณาแล้วเห็นบุรุษเคราแดงที่ปรากฏ  จึงได้ทำการสงเคราะห์แก่นายเคราแดง
$ D4 @# Q* H5 z6 D/ yที่มา :  พระไตรปิฎกและอรรถกถาไทย  ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย  จำนวน  ๙๑  เล่ม
5 R5 U& m0 j' iเล่มที่  ๔๑  พระสุตตันตปิฎก  ขุททกนิกาย  คาถาธรรมบท  เล่ม  ๑  ภาค  ๒   ตอน ๒ - หน้าที่ ๔๑๘  (เรื่องเพชฌฆาตเคราแดง)# c4 k. ~8 ^1 A, [: P
            
โดย: ณัฐดนัย    เวลา: 2013-7-14 19:52

อนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ สาธุครับ




ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://dannipparn.com/) Powered by Discuz! X1.5