แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

ชื่อกระทู้: ประสบการณ์พบเจออาคม [สั่งพิมพ์]

โดย: มารน้อย    เวลา: 2013-8-19 11:44     ชื่อกระทู้: ประสบการณ์พบเจออาคม

       kachon20116202114.jpg
1 i; ]" m, F  O4 M5 V2 }9 ^* U ประสบการณ์อีกประสบการณ์หนึ่งที่ผมต้องเกือบเอาชีวิตไม่รอด  จากสิ่งที่ตาเนื้อไม่สามารถมองเห็นได้ซึ่งหลายคนที่มองไม่เห็นก็บอกว่างมงายส่วนผู้ที่มีประสบการณ์ก็บอกว่ามันน่าเหลือเชื่อ  ส่วนผู้ที่ได้จักษุทิพญาณต่างบอกว่ามีจริงเรื่องที่ผมจะบอกก็คือไสยศาสตร์หรืออาคม  คำว่า  อาคมจะมีอยู่  2  ด้าน  คือด้านสว่างกับด้านมืด  ในส่วนของอาคมในด้านสว่างผมจะไม่ขอพูดถึง  แต่เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังก็คืออาคมในด้านมืด  ที่ผมได้พบเจอมาและเกือบเอาชีวิตไม่รอด  แต่ก็รอดมาได้ด้วยบุญฤทธิ์ และการอุทิศบุญ  หากไม่เป็นเพราะบุญฤทธิ์ผมคงไม่ได้มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังได  เอาเป็นว่าผมขอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็แล้วกันเดี่ยวจะยาวไปกันใหญ่* f2 x# R) W0 |& V( S
        วันนี้เป็นวันที่ผมมีเวรรักษาการดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียนเมื่อเวลาประมาณ  2  ทุ่มกว่าๆ ผมเดินตรวจมาถึงบริเวณบ้านพักของผู้ดูแลโรงเรียนและแล้วผมก็ต้องตกเพราะสิ่งที่ผมพบก็คือมีวิญญาณจำนวนหนึ่งมีทั้งเด็กและใหญ่อยู่ภายในบ้านพัก  เมื่อพบดังนั้นผมนึกขึ้นว่าทำไมมีวิญญาณมาอยู่ที่นี่ได้  วิญญาณเหล่านั้นต่างมีท่าทางตกใจเมื่อได้พบกับผม  เห็นดังนั้นผมจึงอุทิศบุญโดยเอ่ยว่า  ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์  โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าส่งมายังวิญญาณเหล่านี้ด้วยเทอญ  วิญญาณเหล่านั้นก็ปรากฏอาการดีใจเหมือนว่าไม่เคยได้รับบุญมาก่อนผมจึงขอคุยด้วย7 A" O8 [% r1 J3 M( W- k5 n1 k- T
        ผม  :                  สวัสดีได้รับบุญจากผมแล้วใช่ไหม8 m& |: c( G) e% \' a
        วิญญาณ  :          ได้รับแล้วดีจังเลย$ @, D  {& t' H# L/ R" d
        ผม  :                  ถ้าดีช่วยตอบคำถามผมสักหน่อยได้ไหมเดี๋ยวผมให้อีก
  i- X% w8 C8 z  [' n        วิญญาณ  :          ได้พวกเรายินดีตอบคำถาม
. k7 n, ?" |" t% C        ผม  :                  พวกท่านมาทำอะไรกัน  o, R$ B7 S) o% b' V; f6 b& }
        วิญญาณ  :          พวกเราถูกสั่งให้มาบังคับคนที่นี่ให้เชื่อฟังคำสั่ง
; r, U) f, f+ [" R, J9 S! W        ผม  :                  แล้วทำสำเร็จไหม9 y; k" K4 U: v8 b6 `; \
        วิญญาณ  :          ได้เป็นบางคนเท่านั้น
, h7 w$ G9 T- s% M. n6 S- K5 Y% |2 x        ผม  :                 แล้วทำไมไม่ออกมา  นอกบ้านล่ะ
4 x9 ^  {* D9 G2 b, t  e$ y9 u        วิญญาณ  :          พวกเราไม่กล้าออกเพราะที่นี่มีแต่คนเก่งๆ' w0 ^5 Z8 a9 ^! T+ g. \
        ผม  :                  พวกเธอมาจากที่ไหนกัน
3 K& M2 I* \4 ~+ C  C: u4 w2 i        วิญญาณ  :          พวกเราติดตามคนนี้มาจากหมออาคมคนหนึ่ง' u7 V' {% g$ w
        ผม  :                  พวกเธอถูกมัดด้วยอาคมใช่ไหม' b5 ?+ v! _2 `% \1 a  ?$ ]: G
        วิญญาณ  :          ท่านรู้
1 p, h) \+ \7 P9 Z$ R- m: }0 {        ผม  :                  ก็พอรู้บ้าง
5 }# ~, m, y; W2 g- R        วิญญาณ  :          ใช่พวกเราถูกมัดด้วยอาคม0 p( ]! o2 S3 J0 W
        ผม  :                  ต้องการให้ผมช่วยไหมล่ะ1 P. G# j7 Q" C2 z
        วิญญาณ  :          พวกเราทรมานเหลือเกินต้องทนกับการถูกบังคับท่านช่วยเราด้วย( {( c2 u4 _1 P8 U- k
        ผม  :                 ได้เดี๋ยวผมจะช่วยแต่ต้องเลิกบังคับคนอื่นนะ!
0 J! T5 G9 c) v) F$ H8 b        วิญญาณ  :          ขอบคุณท่านมากที่จะช่วยพวกเรา- ^7 E8 o# j* q
ผมผละออกมาจากบริเวณตรงนั้นแล้วผมกลับมาที่ห้องพัก  จากนั้นผมก็ทำการอุทิศบุญเพื่อช่วยเหลือวิญญาณเหล่านั้นให้เป็นอิสระจากอาคมที่ผูกมัดพวกเขาไว้  แต่สิ่งที่ผมไม่อาจลืมก็คือการขออัญเชิญบารมีของพระพุทธองค์เพื่อล้างอาคมที่ผูกมัดดวงวิญญาณเหล่านั้นไว้  การอุทิศบุญเพื่อช่วยเหลือพวกเขาก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาประมาณ  1  อาทิตย์  ผมได้เดินมาดูพวกเขา  ณ  ตรงบริเวณที่พบอีกครั้งก็ปรากฏว่าพวกเขาต่างมีสภาพที่ดีขึ้นจากตอนที่พบกันในตอนแรก  แต่พวกเขายังคงถูกมัดด้วยอาคมอยู่  ผมจึงขออัญเชิญบารมีของพระพุทธองค์เพื่อล้างอาคมที่มัดพวกเขาไว้อีกครั้งจนเวลาผ่านไป  ประมาณ  3  วัน ผมเดินอยู่ตรงบริเวณลานกว้างก็ได้ปรากฏมีวิญญาณจำนวนหนึ่งมาหาผมและมาขอบคุณผมแล้วพวกเขาก็จาไปยังภพภูมิของแต่ละคน  ผมรู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ช่วยเหลือพวกเขาให้หลุดพ้นจากการถูกบังคับ& M' T& |! x( [6 O, [  T
        ทำให้ผมได้ทราบว่าคนที่ใช้อาคมคอยบังคับคนอื่นโดยที่พวกเขาไม่เต็มใจพวกเขาก็จะไม่อยากอยู่กับคุณ  แต่ในทางกลับกันหากคุณดูแลพวกเขาด้วยความเมตตาพวกเขาก็จะคอยช่วยเหลือคุณอย่างเต็มใจนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีส่วนเกี่ยวกับ  อาคม  และเข้าไปล้างอาคมด้วยอำนาจบุญฤทธิ์ของพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  W& r0 Q, f7 Q# {9 O/ [
6 X, a+ Z' \) {0 B! [8 X; p' H9 [: H


รูปภาพที่แนบมา: kachon20116202114.jpg (2013-9-30 14:38, 172.7 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 5
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MjcwNDZ8MmVkNzE4NDN8MTczMTQ3OTk1NXww


โดย: มารน้อย    เวลา: 2013-8-19 11:52

จิตสำนึกของภูติที่ถูกบังคับด้วยไสยเวทย์
7 t3 f  ~1 s3 w% B4 j* D# \' R        ผมเองตั้งใจว่าจะไม่เขียนเรื่องการพบไสยเวทย์อีก แต่ก็ต้องมาคิดทบทวนดูใหม่ เมื่อต้องมาพบกับเรื่องที่จะเล่าดังต่อไปนี้  ในวันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554  พวกของผมคนหนึ่งถูกกระทำด้วยไสยเวทย์ ซึ่งผมเองถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้จากท่านผู้ดูแลที่อยู่ในโลกทิพย์ โดยท่านได้ปรามผมว่า “เธออย่าได้แก้ไสยเวทย์ให้ผู้ใดอีกนะ แม้กระทั่งตัวของเธอเอง เพราะว่าหากเธอแก้ผลจะกลับมาสู่ตัวเธออันเนื่องมาจากผลของกรรม” ดังนั้นผมจึงไม่อาจขัดคำเตือนได้ แต่หากถามว่า ผมสามารถแก้ไสยเวทย์ให้คนอื่นได้ไหม คำตอบก็คือ ได้ครับ แต่ผมต้องถูกพลังของไสยเวทย์ที่เขากระทำมันย้อนกลับเข้ามาสู่ตัวของผม อันเนื่องมาจากเข้าไปขัดขวางกรรมของผู้อื่น มันเป็นกฎที่ผมต้องแลก ผมจึงไม่สามารถแก้เรื่องของไสยเวทย์ให้แก่ผู้อื่นได้ มีแต่คำแนะนำเท่านั้น
# E4 ~5 Q3 z% n& _- s  eขอกลับเข้าเรื่องของจิตสำนึกของภูติที่ถูกบังคับ เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากพบว่าพวกของผมเขาถูกกระทำด้วยไสยเวทย์ จึงบอกให้พี่เขารู้ตัว ต่อจากนั้นผมได้พบกับวิญญาณที่หมอผีส่งมาด้วยเวทย์มนต์ เพื่อทำร้ายพวกของผม วิญญาณดวงนั้นมีรูปร่างเหมือนนักกล้ามไม่มีผิด มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ผิวสีคล้ำ ดวงตาสีแดงกล่ำ ด้วยความเป็นห่วงพวกของผม กลัวว่าเขาจะถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ ผมจึงเตรียมตัวอุทิศบุญให้แก่วิญญาณที่ติดตามเวทย์มนต์นั้นมา พลันผมก็ได้ยินเสียงห้ามจากวิญญาณนั้นว่า “ท่านอย่าทำแบบนั้น” ทำให้ผมต้องหยุดชะงัก และเกิดความสงสัย เพราะปกติวิญญาณโดยทั่วไปนั้น เมื่อผมอุทิศบุญให้เขาจะยินดี แต่นี่กลับห้ามผม แสดงว่าต้องมีเหตุที่ไม่ปกติแน่ ๆ ผมจึงถามออกไป3 g, f6 N+ ~. |9 C6 f  p2 W
ผม : “มีอะไรหรือ”4 I) o! T' U$ G4 ~" Y3 A" ]  g; d& T- v
เทพ : “มีสิ ท่านอย่าให้บุญกับผมนะครับ”5 Q, m3 ^0 l* A
ผม : “อ้าว ! ทำไมล่ะ”. g5 t, u9 K( ^: D: N  O' u+ n
เทพ : “ผมสงสารท่านนะสิ”9 d7 q" z4 _3 @& B4 `1 P" d
ผม : “ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อผมอุทิศบุญให้น่าจะดีไม่ใช่หรือ”5 G; U2 C, v9 O+ S3 m
เทพ : “มันก็ดีอยู่หรอก แต่มันไม่ดีแก่ตัวท่าน”9 j2 S" N- n9 V2 ~- p" ?* p
ผม : “ไม่ดีอย่างไร”) s: |- X0 }0 a) d4 r7 P# A6 N
เทพ : “หากท่านช่วยให้ผมหลุดพ้นจากอำนาจของหมอผี ท่านเองจะถูกกระทำจากไสยเวทย์มากขึ้นสิครับ”
  |% t7 K* c6 u& [+ V" `6 z. Iผม : “ด้วยเหตุผลอะไรล่ะ”
% R4 @- y; \, F, Y1 D6 E) p9 D" |เทพ : “ก็ด้วยเหตุที่ว่ามีวิญญาณที่ทำงานให้หมอผีอีกดวงหนึ่งคอยดูการกระทำของท่านอยู่ หากเขารู้ว่าท่านช่วยเหลือผมแล้วละก็ท่านก็จะถูกกระทำอาคมใส่ทำให้เดือดร้อนอีกแน่ ๆ”" q0 @2 H# S/ |- ~' W* p; F" {
ผม : “แล้วผมจะมีทางช่วยเหลือได้อย่างไร”7 o  ^8 l+ v2 l0 n; Q8 U+ j
เทพ : “ท่านไม่ต้องช่วยผม เดี๋ยวผมจะอนุโมทนาบุญจากท่านเอง เพียงเท่านี้ผมก็สามารถหลุดพ้นจากการถูกบังคับ) P; B- I: w; i- h  B& `, I
ด้วยอาคมเหมือนกัน”
2 X( k9 J7 p6 Z# l8 ?+ H7 xผม : “จริงสิ แบบนี้ก็ได้เหมือนกัน ขอบคุณมากที่เป็นห่วงผม ถึงแม้ตัวเองจะลำบากก็ยังอุตส่าห์เป็นห่วงในตัวผมอีก เอาเป็นว่าผมจะพยายามประคองสมาธิไว้ให้ได้นานที่สุดก็แล้วกัน เพื่อที่จะอนุโมทนาบุญได้มาก ๆ”2 E- `) @- N) @5 k, W
เทพ : “ขอบคุณท่านด้วยเช่นกัน”
" {+ ^: m) s, P9 Lผม : “ไม่เป็นไร ผมถือว่าทุกคนเป็นญาติธรรมกัน ถ้าเช่นนั้นผมเลิกติดต่อดีกว่า เดี๋ยวเขารู้ว่าเราติดต่อกันจะลำบาก”
1 k2 S- p! Z3 o5 z  N% y; w6 a& Wเทพ : “ก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้มีพรายกระซิบเริ่มมาดูการเปลี่ยนแปลงแล้ว”
$ k* q8 E/ p# p+ n/ ]ผม : “ถ้าเช่นนั้นผมเลิกติดต่อแล้วกัน ขอบคุณ สวัสดี”* ?, t5 K# D/ [: w; w9 T7 y
% D# D4 y& d6 ~! W" y& ^3 A
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมแอบสังเกตเทพอยู่เป็นระยะเป็นเวลาประมาณ 10 กว่าวัน เทพก็มีสภาวะเป็นเทวดา ทำให้ผมสบายใจขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผมได้เข้าใจว่า คนในหมู่มารก็มีคนดี ถ้าเป็นวิญญาณอื่นเขาคงให้ผมอุทิศบุญให้ไปแล้ว หากผมอุทิศบุญให้น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 วัน เขาก็สามารถเป็นเทวดาได้เลย หรือเป็นบุญจากสมาธิก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นไม่ต้องใช้เวลา 10 กว่าวัน ถึงจะพ้นจากการถูกบังคับ แต่ผลกระทบที่จะเกิดกับผมคงจะรุนแรงมาก ในหมู่มารยังมีเทวดา ในหมู่เทวดายังมีมารปนกันไป
5 R) ^7 E* a- E3 Z, ~7 {) ^
โดย: ณัฐดนัย    เวลา: 2013-8-19 16:01

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ อนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ ได้ความรู้อีกแล้วครับ ผมรู้สึกดีนะครับที่ได้รู้จักกับคุณนะครับ
โดย: ณัฐดนัย    เวลา: 2013-8-19 17:10

การที่เราพยายามมีสติให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผลอแล้วเริ่มใหม่ ทั้งวันจนกว่าจะนอน อย่างนี้เป็นบุญใช่ไหมครับ แล้วถ้าเป็นเท่ากับบุญสมถะภาวนาไหมครับ สาธุครับ
โดย: กำไร    เวลา: 2013-8-20 10:33

สาธุจ้า...รู้สึกดีเหมือนกันที่ได้รู้จักกับคุณมารน้อย...สู้สู้..นะ
โดย: yuiflukefo    เวลา: 2013-8-20 11:16

อนุโมทนาสาธุ
โดย: มารน้อย    เวลา: 2013-8-20 15:49

ต้นฉบับโพสต์โดย ณัฐดนัย เมื่อ 2013-8-19 17:10
, `0 }) i! d# s$ g' Tการที่เราพยายามมีสติให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผล ...

3 s; M, _% a; E9 j% x, C( Z, Y
" ~: o9 ]# G0 t- n/ P# @6 h% Y5 _! D7 Xจากที่คุณณัฐดนัย ถามมาผมขอตอบดังนี้ ผมขอยกคำกล่าวก่อนที่พุทธองค์จะเข้าสู่ปรินิพพาน คำกล่าวสุดท้ายก่อนที่ท่านจะดับขันธุ์ "อย่าประมาท" นั้นก็ทำให้เข้าใจได้ว่า ขอให้เรามีสติตั้งอยู่กับตัว อย่าหลงลืมสติ หากจะถามว่าการที่เราประคองสติไว้จนกว่าจะนอน จะเกิดบุญไหม เรื่องนี้บอกได้ว่าเป้นบุญอย่างแน่นอน บุญจะเทียบเท่าสมถะภาวนาไหม ผมว่าได้มากกว่า สมถะคือการบังคับจิตให้นิ่งไม่ไหวติง ไม่ให้ไหลตามกระแสของภายนอก  หากประคองสติไว้จะไม่ต่างอะไรกับวิปัสนา(เราต้องไม่บังคับ หากเราบังคับก็ไม่ต่างจากสมถะ) ทำให้เราเข้าใจถึงบทบาทของกาย และจิตที่ทำหน้าที่ของเขา เราพิจารณาตามสภาพจริงของเขาให้เขาทำหน้าที่ของเขาส่วนเราก็คอยดูและพิจารณา ถ้าสนใจลองศึกษาจากพระอาจารย์ปราโมทย์  ในเวปทั่วไปก็ได้ครับ
โดย: ณัฐดนัย    เวลา: 2013-8-21 19:10

สาธุครับ คุณมารน้อยทำให้ผมได้เข้าใจธรรมขึ้นอีกแล้วครับ อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
, n4 g6 P' k- ^) E: j% Aอนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ
โดย: กลางทาง    เวลา: 2013-9-10 07:16

อนุโมทนาสาธุ




ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://dannipparn.com/) Powered by Discuz! X1.5