แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

ชื่อกระทู้: วัดสวนดอก (บุปผาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (พระเกศาธาตุ, พระบรมธาตุส่วนกลางกระหม่อม องค์ที่ ๑) [สั่งพิมพ์]

โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:11     ชื่อกระทู้: วัดสวนดอก (บุปผาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (พระเกศาธาตุ, พระบรมธาตุส่วนกลางกระหม่อม องค์ที่ ๑)


DSC09544.jpg


วัดสวนดอก (บุปผาราม)

ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

[พระเกศาธาตุ , พระบรมธาตุส่วนกลางกระหม่อม องค์ที่ ๑]


วัดสวนดอก หรือชื่อเดิมว่า วัดบุปผารามสวนดอกไม้ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ซึ่งมีความสำคัญมากวัดหนึ่งของเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนสุเทพ เลขที่ ๒๑/๑ หมู่ที่ ๓ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยตั้งอยู่นอกเขตกำแพงเมืองเชียงใหม่ทางด้านทิศตะวันตก มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๓๕ ไร่ ๒ งาน ๔๔ ตารางวา และมีที่ธรณีสงฆ์จำนวน ๕ แปลง เนื้อที่ ๓ ไร่ ๒ งาน ๔๔ ตารางวา ปัจจุบันผนวกเอาวัดพระเจ้าเก้าตื้อรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของวัดสวนดอกแล้ว





รูปภาพที่แนบมา: DSC09544.jpg (2009-10-4 04:11, 55.83 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 62
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNDd8ZjM2NjExMjR8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:14

แก้ไขล่าสุด pimnuttapa เมื่อ 2009-10-4 07:40  

DSC08782.jpg

วัดสวนดอก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก นอกตัวเมืองชียงใหม่ เดิมบริเวณแถบนี้เป็นสวนดอกไม้ของพระเจ้าแผ่นดินเวลาเสด็จมาประพาสชมสวน ในสมัยนั้นบริเวณนี้น่าจะปลูกต้นพยอม (ขยอม) มาก เพราะเป็นไม้ยืนต้น ออกดอกสีขาว แต่พอขยายถนนหน้าวัด ทางวัดจึงได้ตัดต้นพะยอมออกไปค่ะ

รูปภาพที่แนบมา: DSC08782.jpg (2009-10-4 06:40, 74.07 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 54
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMTB8ODE0ZGY3ZmR8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:15

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:08 โดย pimnuttapa

  

DSC08785.jpg

ประตูทางเข้า/ออกด้านข้าง วัดสวนดอก ค่ะ


DSC09550.jpg

ซุ้มประตูโขงทางเข้า/ออกด้านหน้า วัดสวนดอก ค่ะ




รูปภาพที่แนบมา: DSC08785.jpg (2009-10-4 06:42, 69.95 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 53
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMTF8Yjg5NTg0NDJ8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09550.jpg (2009-10-4 06:42, 40.38 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 52
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMTJ8ZDBiMTEyYTN8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:18

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:08 โดย pimnuttapa

  

DSC09834.jpg

เมื่อเราเดินเข้ามาภายในวัดสวนดอก เราก็จะเห็นวิหารหลวงตั้งอยู่ด้านหน้าพระบรมธาตุเจดีย์ แต่เดี๋ยวเราจะเข้าไปกราบนมัสการพระประธานวิหารหลวงกันก่อนนะคะ ตามมาเลยค่ะ   




รูปภาพที่แนบมา: DSC09834.jpg (2009-10-4 04:20, 50.33 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 34
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNTF8Y2IxZDllNWF8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:20

DSC09510.jpg

วิหารหลวง วัดสวนดอก ค่ะ

วิหารหลวง วัดสวนดอก กว้าง ๒๕ เมตร ยาว ๖๖ เมตร สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๗๔ มีลักษณะพิเศษ คือเป็นวิหารโถง ฐานและโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ไม่มีผนัง ดังนั้นจึงต้องทำหลังคาให้ลาดลงมาเพื่อช่วยกันฝนได้ มีระเบียงโดยรอบตัววิหารและเป็นพระวิหารที่ใหญ่ที่สุดในล้านนา สร้างในสมัยครูบาศรีวิชัย มีชั้นหรือตับของหลังคาอยู่ในองศาที่ไม่เท่ากันตามเอกลักษณ์ของวัดทางเหนือ หน้าบันเป็นแผ่นใหญ่ยาวลงมา ปกติทางเหนือนิยมทำลายหน้าบันเป็นลายม้าต่างไหม แต่ที่วัดนี้เป็นลายพันธุ์พฤกษาแทน ก่อนจะขึ้นวิหารด้านหน้าและหลังจะเห็นลวดลายแกะสลักที่หน้าบันของวิหาร หากสังเกตให้ดีจะพบว่ามีลายเสือแทรกอยู่ในท่ามกลางลวดลายแกะสลักเหล่านั้น เสือเป็นสัญลักษณ์ปีเกิดของครูบาศรีวิชัยค่ะ


รูปภาพที่แนบมา: DSC09510.jpg (2009-10-4 04:21, 76.67 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 33
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNTJ8NDFjYTAxMjJ8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:22

DSC09511.jpg

ประวัติวิหารหลวง วัดสวนดอก

วิหารหลวง สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๔ หลังจากที่วัดสวนดอกถูกทอดทิ้งให้รกร้างขาดการอุปถัมภ์มายาวนานกว่า ๓๐ ปี วัดสวนดอกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยพระเจ้ากือนา เมื่อ ๖๐๐ กว่าปีก่อนถูกทิ้งร้างมาอย่างน้อย ๒ รอบ รอบแรกเมื่อครั้งเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองร้างหลังยุคพม่าครอบครอง จนเมื่อพระเจ้ากาวิละขับไล่พม่าออกไปและเก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมืองฟื้นฟูเชียงใหม่ให้เป็นเมืองเอกแห่งล้านนา ยุคนั้นวัดสวนดอกคงถูกทิ้งร้างไปพร้อมกับเมืองเชียงใหม่

รอบที่สองในยุคที่เชียงใหม่เป็นประเทศราชของกรุงรัตนโกสินทร์ พระเจ้ากาวิละฯ แต่งตั้งพระหาวชิระปัญญา วัดสวนดอกเป็นประมุขสงฆ์เมืองเชียงใหม่ ในยุคการฟื้นฟูเชียงใหม่ได้มีการฟื้นฟูวัดสวนดอก เป็นวัดสำคัญของเมือง ครั้งพระเจ้าอินทวิชยานนท์ถึงแก่พิราลัย (พ.ศ.๒๔๔๐) วัดทรุดโทรมขาดการดูแลรักษา แม้ว่าพระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ย้ายกู้เจ้านายฝ่ายเหนือจากริมแม่น้ำปิงมาตั้งในเขตวัดด้านทิศเหนือเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๒ แต่ในครั้งนั้นวัดก็ไม่ได้อยู่ในสภาพของวัดที่รุ่งเรือง พ.ศ. ๒๔๗๔ เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย (๒๔๕๔-๒๔๘๒) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และครูบาศรีวิชัย ประธานฝ่ายสงฆ์ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ ด้วยแรงศรัทธาที่ชาวเชียงใหม่มีต่อครูบาศรีวิชัย ทำให้มีประชาชนร่วมบริจาคทั้งทรัพย์และแรง การก่อสร้างซุ้มประตูโขงและกำแพง, บูรณะเจดีย์พระธาตุองค์ประธาน, สร้างวิหารหลวงค่ะ


รูปภาพที่แนบมา: DSC09511.jpg (2009-10-4 04:22, 64.37 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 32
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNTN8NDFhODAyNWZ8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:23

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:13 โดย pimnuttapa

DSC09512.jpg

ภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก ประดิษฐานพระประธาน ๒ องค์หันหลังพิงกัน คือองค์ที่นั่งอยู่หันทางทิศตะวันออก และองค์ที่ยืนจะหันทางทิศตะวันตกค่ะ   


DSC09513.jpg

พระประธาน องค์ที่นั่งหันทางทิศตะวันออก ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก พระประธานเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย สร้างขึ้นเมื่อแรกสร้างวัดสวนดอกในสมัยพระเจ้ากือนาค่ะ






รูปภาพที่แนบมา: DSC09512.jpg (2009-10-4 04:24, 73.91 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 32
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNTR8NmIyNzk1YmJ8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09513.jpg (2009-10-4 04:24, 80.26 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 33
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNTV8NGEwNGQ3ZTl8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:25

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:13 โดย pimnuttapa



DSC09518.jpg

พระเจ้าค่าคิง คือ พระพุทธรูปองค์เล็กด้านหน้าพระประธาน เป็นพระพุทธรูปของเก่าก่อนบูรณะใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง ๒ เมตร สูง ๒.๕ เมตร ตามตำนานสร้างขึ้นเมื่อพระเจ้ากือนาทรงประชวร พระมารดาจึงโปรดให้สร้างขึ้นให้มีขนาดเท่าพระวรกายค่ะ   


DSC09520.jpg

พระพุทธรูปทรงเครื่อง ประดิษฐานด้านขวา พระประธาน องค์ที่นั่งอยู่หันทางทิศตะวันออก ภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก ค่ะ   


DSC09519.jpg

พระพุทธรูปทรงเครื่อง ๒ องค์ ประดิษฐานด้านซ้าย-ขวา พระประธาน องค์ที่นั่งอยู่หันทางทิศตะวันออก  ภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก สร้างด้วยศิลปะแบบพม่า หรือที่เรียกว่าพระทรงเครื่อง สันนิษฐานว่าเป็นของเก่าเมื่อครั้งราชวงศ์มังราย และเป็นเครื่องชี้ถึงอิทธิพลและความสัมพันธ์ระหว่างล้านนากับพุกาม พระที่สร้างขึ้นในยุคบูรณะใหญ่ พ.ศ. ๒๔๗๔ ค่ะ   


DSC09521.jpg

รูปพระเวสสุวรรณ ประดิษฐาน ภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก ค่ะ






รูปภาพที่แนบมา: DSC09518.jpg (2009-10-4 04:26, 62.65 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 34
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNTZ8NTQxZDUzZDh8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09520.jpg (2009-10-4 04:26, 72.7 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 37
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNTd8MzQ3YTBjZWV8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09519.jpg (2009-10-4 04:26, 63.29 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 34
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNTh8MmQ1NTliOWR8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09521.jpg (2009-10-4 04:26, 56.63 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 34
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNTl8OTY1NWI0ZDN8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:27

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:14 โดย pimnuttapa

DSC09522.jpg

รูปเหมือนพระมหาธรรมโพธิ์ พระมหาวชิรปัญญา ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๒ – ๒๔๗๕ ค่ะ   


DSC09524.jpg

รูปเหมือนพระครูสุคันธศีลหรือ หลวงปู่คำแสน อินทะจะกะโร ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๙ – ๒๕๑๙ ค่ะ   


DSC09516.jpg

รูปเหมือนพระครูศรีปริยัติยานุรักษ์ ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง  วัดสวนดอก ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๔ – ๒๕๓๑ ค่ะ





รูปภาพที่แนบมา: DSC09522.jpg (2009-10-4 04:28, 63.09 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 32
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNjB8YmJhNjExOTF8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09524.jpg (2009-10-4 04:28, 61.28 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 33
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNjF8ZDgxNTkwZDN8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09516.jpg (2009-10-4 04:28, 59.58 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 38
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNjJ8Y2M0NzNmOTN8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:29

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:14 โดย pimnuttapa

DSC09526.jpg
DSC09525.jpg

พระประธาน องค์ที่ยืนหันทางทิศตะวันตก ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก เป็นพระพุทธรูปไม่กี่องค์ที่หันพระพักตร์ทางทิศตะวันตก พระพุทธรูปยืนสององค์ขนาดเท่ากับครูบาศรีวิชัย ทำด้วยทองเหลืองเบื้องซ้ายขวาพระประธานเฉพาะพระพุทธรูปในพระวิหารหลวงล้วนแต่มีประวัติความเป็นมายาวนานน่าสนใจ บอกเล่าประวัติของวัดสวนดอกและเมืองเชียงใหม่ในแต่ละช่วงตอนค่ะ




รูปภาพที่แนบมา: DSC09526.jpg (2009-10-4 04:30, 71.47 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 22
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNjN8YzMzNjhkYTd8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09525.jpg (2009-10-4 04:30, 62.62 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 15
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNjR8N2E5MmQ0MGN8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:31

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:18 โดย pimnuttapa

DSC09541.jpg

รูปเหมือนหลวงปู่คำหล้า ตาทิพย์  ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง  วัดสวนดอก ค่ะ




รูปภาพที่แนบมา: DSC09541.jpg (2009-10-4 04:31, 46.14 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 19
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNjV8ZGVjMGJiMTZ8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:32

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:19 โดย pimnuttapa



DSC09528.jpg

พระบรมธาตุเจดีย์จำลอง ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง  วัดสวนดอก ค่ะ   


DSC09532.jpg

DSC09534.jpg

พระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุข้าวบิณฑ์ พระปัจเจกพุทธะ พระองคุลิมาล ฯลฯ ประดิษฐานรอบฐานทั้งสี่ทิศ พระบรมธาตุเจดีย์จำลอง ภายใน วิหารหลวง  วัดสวนดอก ค่ะ






รูปภาพที่แนบมา: DSC09528.jpg (2009-10-4 04:34, 42.73 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 17
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNjZ8ODVjZmU1ZGN8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09534.jpg (2009-10-4 04:34, 31.64 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 22
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNjd8YjNmNTg4OGZ8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09532.jpg (2009-10-4 04:34, 40.34 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 15
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNjh8NDVmNTcwODV8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:34

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:19 โดย pimnuttapa

DSC09537.jpg

ที่กราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ ภายใน วิหารหลวง วัดสวนดอก เดี๋ยวเรามากราบนมัสการพระบรมธาตุพร้อมกันเลยนะคะ


DSC09546.jpg

พระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานด้านหลัง วิหารหลวง วัดสวนดอก ค่ะ   


การกราบบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (พระพุทธปฏิมากร)

  (กล่าวนะโม ๓ จบ) อะหัง  วันทามิ  ธาตุโย  อะหัง  วันทามิ  สัพพะโส  อะหัง  สุขิโต  โหมิ  

ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพานแม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แต่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงมีแต่ความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ







รูปภาพที่แนบมา: DSC09537.jpg (2009-10-4 04:36, 62.75 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 17
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNzB8OGYyZGE3ZWZ8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09546.jpg (2009-10-4 04:36, 55.06 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 16
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNzF8MWI4MWQ2ZWF8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:38

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:25 โดย pimnuttapa



DSC09839.jpg

พระบรมธาตุเจดีย์ วัดสวนดอก เป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบพื้นเมือง ตั้งอยู่บนฐานขนาดใหญ่ ประดิษฐานพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุส่วนกลางกระหม่อมใหญ่เกือบเท่าเม็ดถั่วเขียว วรรณะเรืองรองดังทองอุไรได้แสดงปาฏิหาริย์แยกออกเป็น ๒ องค์ ขณะที่พระมหาสวามีสุมนะและพระเจ้ากือนา สรงน้ำพระบรมธาตุแล้วบูชาด้วยบุปผามาลีนานาชนิด (ประมาณพ.ศ. ๑๘๗๕) อีกองค์หนึ่งจึงเอาไปบรรจุไว้ที่พระธาตุดอยสุเทพใน พ.ศ.๑๙๒๗ ค่ะ   


DSC09543.jpg

ฐานทั้งสี่ด้านพระบรมธาตุเจดีย์ วัดสวนดอก จะมีบันไดมกรคายนาคปูนปั้น เป็นราวบันไดทางขึ้นลานประทักษิณ มีอายุอยู่ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๑ ค่ะ






รูปภาพที่แนบมา: DSC09839.jpg (2009-10-4 04:40, 53.26 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 13
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNzJ8NTU3YWFjYjN8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09543.jpg (2009-10-4 04:40, 49.82 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 16
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNzN8OTQzMzFhMWN8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:41

DSC09548.jpg

ส่วนเครื่องยอดพระบรมธาตุเจดีย์ วัดสวนดอก ค่ะ

รูปภาพที่แนบมา: DSC09548.jpg (2009-10-4 04:41, 34.09 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 16
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNzR8NTNlYmM3MmJ8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:41

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:25 โดย pimnuttapa

DSC09867.jpg

พระบรมธาตุเจดีย์ วัดสวนดอก เจดีย์ใหญ่นี้ได้รับอิทธิพลมาจากเจดีย์ทรงกลมของสุโขทัยทรงลังกา มีฐานสูงซ้อนกันขึ้นไปหลายชั้น, เหนือเรือนธาตุมีบัลลังก์ ๔ เหลี่ยม มีปล้องไฉนซ้อนกันขึ้นไป, ปิดด้วยแผ่นทองจังโกฎิ ภายหลังแผ่นทองนี้ถูกลอกออกไป


ตำนานพระเจ้าเลียบโลก กล่าวว่า...

สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า หลังจากเสด็จไปวัดพระธาตุดอยคำแล้ว พระองค์ก็เสด็จลงไปประทับอยู่โคนต้นไม้บุนนาก (มณฑา) ต้นหนึ่ง มีคนแก่ ๒ คนปลูกดอกบุนนาก แล้วนำดอกบุนนากไปขายเลี้ยงชีวิต ทั้งสองคนเห็นพระพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่ที่นั้น จึงนำดอกบุนนากมาบูชาพระพุทธเจ้า พระองค์ตรัสว่า “สถานที่ตรงนี้ต่อไปภายหน้าคนทั้งหลายจะมาสร้างอารามใหญ่หลังหนึ่ง จะปรากฏชื่อว่า “บุปผาราม” (วัดสวนดอก) เมื่อนั้นพระอรหันต์ พระเจ้าอโศกราชก็กราบทูลว่า “ข้าแด่พระองค์ผู้ประเสริฐ ในฐานะที่ควรตั้งศาสนาที่หนึ่ง ขอพระองค์โปรดประทานพระเกศาธาตุแก่ข้าพระองค์เถิด” พระพุทธเจ้าลูบพระเศียรด้วยพระหัตถ์ขวา ได้พระเกศาธาตุ ๑ องค์แล้วตรัสว่า “สถานที่ที่จะบรรจุเกศาธาตุ ไม่ใช่มีแห่งเดียว แต่มีถึง ๓ แห่ง” ตรัสแล้วทรงวางพระเกศาธาตุไว้เหนือพระหัตย์ขวา แล้วทรงอธิษฐานว่า “หากฐานะที่นี้จะเป็นที่ตั้งพระศาสนา และจักเกิดในอารามใหญ่แท้ เกศาธาตุนี้จงกลับกลายเป็น ๓ องค์เถิด” เมื่อจบอธิษฐานแล้ว พระเกศาธาตุก็กลับเป็น ๓ องค์ มีลักษณะสั้นยาวใหญ่เล็กเสมอกัน พระยาอโศกราชทรงเห็นอัศจรรย์เช่นนั้น จึงกราบทูลขอพระเกศาธาตุหนึ่งองค์ ทรงบรรจุไว้ที่พระพุทธเจ้าประทับนั่ง จึงปรากฏชื่อว่า “บุปผาราม” วัดสวนดอกไม้ ในกาลบัดนี้ (วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่)






รูปภาพที่แนบมา: DSC09867.jpg (2009-10-4 05:05, 55.29 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 15
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwODN8NzA3OGIzMTF8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:46

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:26 โดย pimnuttapa

  

DSC09854.jpg

ประวัติวัดสวนดอก ที่ปรากฏใน ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ และ พงศาวดารโยนก มีโดยย่อดังนี้

พระญากือนา (ราชโอรสของพระยาผายู) ทรงเป็นกษัตริย์แห่งล้านนาองค์ที่ ๖ ในราชวงศ์มังราย ทรงเดชานุภาพทั้งในด้านยุทธศาสตร์ ศิลปศาสตร์ทั้งมวล อีกทั้งทรงมีความเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งต่อพระพุทธศาสนา ทรงครองราชย์ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๘๙๘ - ๑๙๒๘ พระองค์ทรงทราบว่ามีพระเถระรูปหนึ่งนามว่า พระสุมนเถระ ได้เข้ามาเผยแผ่พุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ในกรุงสุโขทัย เมื่อพระยาทรงเกิดความสนพระทัยและเลื่อมใสเป็นอันมาก จึงโปรดเกล้าฯ ให้หมื่นเงินกองไปอาราธนาพระสุมนเถระมาเผยแผ่ศาสนา ณ นครพิงค์เชียงใหม่พร้อมกับทรงพระราชทานอุทยานดอกไม้ส่วนพระองค์ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของนครเชียงใหม่ให้สร้างเป็นวัดขึ้นมาเมื่อราวปี พ.ศ. ๑๘๑๔ (ตาม ชินกาลมาลีปกรณ์ ของพระรัตนปัญญา) และทรงพระราชทานนามว่า “วัดบุปผาราม” ซึ่งแปลได้ว่าวัดสวนดอกไม้ แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “วัดสวนดอก” และในครั้งนั้นพระญากือนาได้สถาปนาพระสมุนเถระให้เป็นพระสังฆราช มีพระนามในตำแหน่งว่า “ พระสุมนสุวัณณรัตนมหาสวามี ”   


DSC09866.jpg

ประวัติวัดสวนดอก (ต่อ)

ต่อมาเมื่อถึง พ.ศ. ๑๙๑๖ พระสุมนสวามีเจ้า ได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุที่นำติดตัวมาด้วยแต่พระญากือนา ซึ่งพระองค์ทรงทำพิธีสักการบูชาและสรงน้ำพระธาตุ พงศาวดารโยนก กล่าวว่า ขณะที่พระองค์กระทำการสักการะพระธาตุอยู่นั้นเองได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นคือพระธาตุแสดงปาฏิหาริย์แบ่งออกเป็น ๒ องค์ และเปล่งฉัพพรรณรังสีให้เห็น พระญากือนาและพระสุมนสวามีจึงพร้อมใจกันสร้างเจดีย์ขึ้นบรรจุพระบรมธาตุองค์หนึ่ง ณ วัดสวนดอก สำหรับพระบรมธาตุอีกองค์ได้รับการประดิษฐานไว้ ณ พระบรมธาตุดอยสุเทพ ในปี พ.ศ. ๑๘๒๗

อนึ่ง ข้อความที่ปรากฏในชินกาลมาลีปกรณ์ เกี่ยวกับการสร้างวัดสวนดอกมีดังนี้ คือ “ฝ่ายพระเจ้ากือนาโปรดให้สร้างพระราชอุทยานของพระองค์เป็นวัดบุปผารามมหาวิหารเมื่อจุลศักราช ๗๓๓ (พ.ศ. ๑๘๑๔) แล้วนิมนต์พระสุมนเถระมาจากวัดพระยืน หริภุญชัย มอบถวายวัดบุปผารามแก่พระเถระนั้นแล้ว โปรดให้พระเถระจำพรรษาอยู่ที่นั้น ต่อจากนั้น พระสุมนเถระซึ่งมีพระเจ้ากือนาทรงอุปถัมภ์ ได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ท่านอัญเชิญมาจากเมืองสุโขทัยนั้นไว้ในวัดบุปผาราม เมื่อวันพุธ เดือน ๙ จุลศักราช ๗๓๕ (พ.ศ. ๑๘๑๖) และพระบรมสารีริกธาตุนั้นได้เป็นที่กราบไหว้บูชาของประชาชน พระมหากษัตริย์และคณะพระภิกษุทั้งหลายตราบเท่าทุกวันนี้ ฝ่ายพระเจ้ากือนามีพระชนมายุ ๔๖ ปี ครองราชสมบัติอยู่ ๓๐ ปีเต็มก็สวรรคต”






รูปภาพที่แนบมา: DSC09854.jpg (2009-10-4 04:53, 44.59 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 15
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNzZ8MGRhNmVkYTV8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09866.jpg (2009-10-4 04:54, 48.63 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 13
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNzh8YzRiNTNkNzl8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 04:53

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:26 โดย pimnuttapa

  

DSC09885.jpg

นอกจากตำนานและพงศาวดารต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ยังมีตำนานวัดสวนดอกซึ่งได้รับการปริวรรตโดยฝ่ายวิจัยคัมภีร์ใบลานในภาคเหนือ สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เนื่องในโอกาสที่เชียงใหม่จะมีอายุครบ ๗๐๐ ปีมีใจความดังต่อไปนี้ คือ

“วันนึ่ง ออกวัสสาแล้ว พระพุทธเจ้าวิหรดิชวนเอาภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ๔ ตน ออกเทศนาธรรมตามเมืองต่าง ๆ จนกระทั่งมาถึงเมืองพิงค์ (เชียงใหม่) ซึ่งในขณะนั้นเป็นเมืองแห่งทมิฬหรือชาวลวะ พระองค์ทรงประทับนั่งอยู่เค้าไม้บุนนาคบุปผารามที่นั้นเป็นเค้า ไว้พระเกศธาตุพระพุทธเจ้าเส้นหนึ่งให้แก่ชาวลวะผู้หนึ่งเพื่อบรรจุไว้ที่บุปผารามเป็นเค้าจากนั้นเสด็จไปทางทิศใต้เป็นระยะทางประมาณ ๗๐๐ วา แล้วไว้พระเทศธาตุเส้นหนึ่งแก่ชาวลวะ สถานที่นั้นจึงได้ชื่อว่า บุปผาราม…หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปได้ ๑๙๐๙ วัสสาตรงกับจุลศักราช ๗๒๙ ปี ท้าวกือนาได้เป็นกษัตริย์เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ เป็นราชวงศ์มังรายองค์ที่ ๗ ในยามนั้นเมืองเชียงใหม่มีความสงบสุขและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยข้าวปลาอาหาร อนึ่ง เนื่องด้วยท้าวกือนาเป็นผู้ที่มีพระภิกษุผู้รู้วจนา สามารถกระทำกรรมน้อยใหญ่ได้ทุกประการมาไว้ในเมืองเชียงใหม่ และในครั้งนั้นพระไทยสองตนชื่ออโนมรสี (ที่ถูกต้องคืออโนมทัสสี) และสุมนได้พากันไปเรียนพระไตรปิฎกที่นครศรีอยุธยาและที่นครสุโขทัย ภายหลังพระภิกษุสองรูปนี้ได้ข่าวเกี่ยวกับพระอุทุมพรบุปผามหาสวามี พระมหาเถระชาวรามัญ ผู้ตั้งศาสนาคณะลังกาวงศ์ ณ เมืองรามัญประเทศ ท่านทั้งสองจึงไปศึกษาในสำนักของมหาเถรอุทุมพรบุปผามหาสวามีแล้วกลับมาสู่สยามประเทศ โดยพระมหาสุมนเถรเจ้าอยู่ที่เมืองสุโขทัยและพระอโนมรสีอยู่ที่เมืองสะเรียงหรือกำแพงเพชร ”

จากนั้น “อยู่มาวันหนึ่ง พระมหาสุมนเถรเจ้ามีนิมิตฝันว่าเทวดาตนหนึ่งมาบอกสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าซึ่งอยู่ ณ เมืองบางจาในเขตเมืองศรีสัชนาลัย โดยพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ในซากเจดีย์ปรักหักพังและมีกอดอกเข็มรูปร่างเหมือนม้าขึ้นอยู่ต้นหนึ่ง พระมหาสุมนเถระจึงออกเดินทางไปยังเมืองบางจาและขอให้พระบรมธาตุแสดงปาฏิหาริย์ ตกกลางคืนก็ปรากฏรัศมีของพระบรมธาตุขึ้นที่กอดอกเข็มอย่างโชติช่วงตลอดทั้งคืน รุ่งเช้าของวันใหม่ เมื่อคนทั้งหลายทำการขุดหาพระบรมสารีริกธาตุซึ่งบรรจุในโกศแก้วซ้อนด้วยโกศเงินและโกศทองจนพบแล้ว ก็ทำการสักการบูชาแล้วเปิดโกศแก้วออกดู พบว่ามีพระบรมสารีริกธาตุขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวบรรจุอยู่ จากนั้นมีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้น คือพระบรมสารีริกธาตุได้กระทำปาฏิหาริย์ แยกออกเป็น ๒ องค์ ๓ องค์ ครั้นพระญาสัชนาลัยทราบเรื่องดังกล่าว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาพระบรมสารีริกธาตุเข้ามาสู่เมือง จากนั้นทรงแจ้งข่าวไปยังพระญาสุโขทัยทราบ ซึ่งพระองค์ทรงรำพึงว่า หากพระบรมสารีริกธาตุกระทำปาฏิหาริย์ปรากฏให้เห็น พระองค์จะสร้างเจดีย์ทองคำให้เป็นที่ประดิษฐาน แต่เมื่อพระองค์ทำการสักการบูชาแล้วสรงน้ำธาตุพระชินมารพระบรมสารีริกธาตุกลับไม่กระทำปาฏิหาริย์ พระองค์จึงให้พระมหาสุมนเถรเจ้าเป็นผู้เก็บรักษาไว้”

ภายหลัง เมื่อพระญากือนา เจ้านครพิงค์เชียงใหม่ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับพระอุทุมพรบุปผามหาสวามี พระองค์จึงอาราธนาพระมหาสวามีเจ้ามาสืบพระศาสนาในเมืองเชียงใหม่โดยตอนแรกโปรดเกล้าฯ ให้พระมหาสวามีพำนักอยู่ที่วัดพระยืนจังหวัดลำพูน ต่อมาหลังจากที่พระญากือนาและพระมหาสุมนเถระได้ร่วมกันสร้างพระพุทธเจ้ายืนไว้ที่วัดพระยืนในปีจุลศักราช ๗๓๑ พระมหาสุมนเถรเจ้าได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุซึ่งท่านนำติดตัวมาแต่พระญากือนา พระองค์จึงใคร่สร้างวัดถวายพระสุมนเถระ ซึ่งบังเอิญทรงมีนิมิตฝันว่าเทวดามาบอกให้พระองค์สร้างวัด ณ สวนดอกไม้ซึ่งเป็นสถานที่อันดี ดังนั้นพระองค์จึงนิมนต์พระมหาเถรเจ้าไปดูสวนบุปผา ซึ่งพระมหาเถรเจ้าเห็นว่าเป็นที่อันดี อีกทั้งท่านมีนิมิตฝันว่ามีดอกบัวหลวงดอกหนึ่งบังเกิดขึ้นในอุทยานแห่งนั้น พระญากือนาจึงโปรดเกล้าฯให้เบิกสวนอุทยานใหญ่กว้างและให้สร้างเท่าอารามเชตวัน โดยลวงยาวมี ๓๓๑ วาเขตอากาศ โดยลวงกว้าง ๓๑๑ วาขาดแท้ดีหลี ในปีรวงไก๊ จุลศักราชได้ ๗๓๓ ปีดีงามและให้ชื่อว่า วัดบุปผารามสวนดอกไม้ นอกจากนี้ พระญากือนายังโปรดเกล้าฯให้สร้างกุฏิ ๑ หลังถวายแด่พระสุมนเถรเจ้า พร้อมทั้งมีการผูกพัทธสีมาหนวันออกจ๊วยใต้ แห่งสวนดอกไม้บัวหลวงซึ่งพระญากือนาฝันเห็น”

จากนั้น “พระญากือนาและพระมหาสุมนเถรเจ้าได้ร่วมกันก่อสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในวัดสวนดอกไม้ เมื่อมีการอาราธนาพระบรมธาตุมาใส่โกศทองคำ พระบรมธาตุเจ้าก็แสดงปาฏิหาริย์ บังเกิดเป็นแสงสว่างสดใสให้คนทั้งหลายได้เห็นโดยทั่วกัน บางคนเห็นว่ามี ๒ องค์ ๓ องค์ และหลายองค์ต่างๆ กันไป ทั้งสีทอง นาก และสีอื่นๆ ในขณะนั้นท้องฟ้าก็พลันมืดมิด เมื่อพระมหาสุมนเถระเจ้านำพระบรมธาตุออกจากน้ำที่สรง ปรากฏว่ามีพระบรมธาตุจำนวน ๒ องค์ ท่านจึงเลือกเอาพระบรมสารีริกธาตุที่มีลักษณะอันงามสมบูรณ์บรรจุในองค์เจดีย์ จากนั้นจึงก่อกำแพงปราการที่ชั้นนอกและทั่วข่วงตลอดจนทำการก่อสร้างมหาวิหารไว้ที่วัด ท้ายสุดมีการเฉลิมฉลองพระอารามที่สร้างขึ้นใหม่อย่างยิ่งใหญ่ นับจากนั้นเป็นต้นมา ภิกษุทั้งหลายทั้งในเมืองเชียงใหม่และอาณาจักรใกล้เคียงได้มาเรียนธรรมที่วัดสวนดอกไม้อย่างไม่ขาดสาย” จึงอาจกล่าวได้ว่าคณะสงฆ์วัดสวนดอกไม้เริ่มขึ้นครั้งแรกในสมัยพระญากือนานี้เองและมีความรุ่งเรืองอย่างเห็นได้ชัด จากรูปแบบและการศึกษาของวัดที่ได้กลายมาเป็นแบบอย่างของคณะสงฆ์พื้นเมืองล้านนา รวมทั้งการที่พระสงฆ์ - สามเณรจากเชียงตุงพะเยา ลำปาง เชียงราย และเมืองอื่นๆ ได้เดินทางมาศึกษาพระศาสนาในสำนักสงฆ์วัดสวนดอกไม้ ซึ่งถอดรูปแบบการศึกษามาจากคณะสงฆ์พระอุทุมพรบุปผามหาสวามี เมืองพันทุกอย่าง รวมทั้งการอุปสมบทของคณะสงฆ์ในสำนักนี้ที่กระทำครั้งแรกในรัชกาลของพระญากือนาเช่นกัน โดยพระสุมนเถระได้กระทำพิธีด้วยวิธีที่เรียกว่า “สมมุตินทีสีมา” หรือการบวชในแพขนานในลำน้ำปิง (แพโบสถ์น้ำ) ซึ่งเป็นการรับอิทธิพลมาจากลังกาโดยตรง ทั้งนี้การจัดพระราชพิธีอุปสมบทหลวงของคระสงฆ์มักได้รับการส่งเสริมจากกษัตริย์ล้านนาแทบทุกพระองค์

อนึ่ง การปกครองวัดบุปผารามในฝ่ายคณะสงฆ์สมัยพระสุมนเถระ มีการลดหลั่นตามชั้นอำนาจ คือพระมหาสวามี (สังฆราช) ซึ่งมีอำนาจปกครองสูงสุดในฝ่ายอรัญวาสี รองลงมาคือพระสังฆราชา ซึ่งมีบทบาทดูแลคณะสงฆ์ในคณะ จากนั้นจึงจะเป็นตำแหน่งเจ้าอาวาสและพระอุปัชฌาย์   


DSC09890.jpg

นอกจากนี้ มีข้อความตอนหนึ่งใน พงศาวดารโยนก ซึ่งกล่าวถึงวัดบุปผาราม โดยมีใจความว่า

“…เจ้าท้าวกือนาเจ้านครพิงค์เชียงใหม่ได้ทัศนาดังนั้น ก็มีพระทัยเลื่อมใสศรัทธาปราโมทย์เป็นนักหนา จึงให้สร้างพระอาราม ณ ป่าไม้ พะยอม ให้นามว่า วัดบุปผารามสวนดอกไม้หลวง แล้วอาราธนาพระมหาสุมนเถรเจ้ามาอยู่ครองอารามนั้น ตั้งแต่พระมหาสุมนเถรเจ้ามาจากเมืองสุโขทัยและมาพำนักอยู่ ณ วัดพระยืนเมืองลำพูนไชย ได้ ๒๑ พรรษา

จึงได้มาอยู่ครองวัดบุปผารามในเมืองนครพิงค์เชียงใหม่ แล้วพระเจ้านครเชียงใหม่ได้สร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุองค์หนึ่งซึ่งเสด็จมาใหม่นั้น ไว้ในวัดบุปผารามนั้น …”

ต่อมา ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๑๐๐ – ๒๓๐๐ วัดสวนดอกได้ทรุดโทรมลงเพราะการล่มสายของอาณาจักรล้านนา จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๒๙ เมื่อพระราชชายาเจ้าดารารัศมี โปรดให้ย้ายกู่เจ้านายและญาติวงศ์ไปไว้ที่วัดสวนดอก เจ้านายตระกูล ณ เชียงใหม่ ก็ได้ทำนุบำรุงวัดสวนดอกให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้นตามลำดับ จากนั้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๔ ท่านครูบาศรีวิชัยได้เป็นผู้นำการบูรณะและก่อสร้างอาคารเสนาสนะของวัดขึ้นใหม่ ภายหลังวัดสวนดอกก็มีพัฒนาการเรื่อยมาค่ะ






รูปภาพที่แนบมา: DSC09885.jpg (2009-10-4 04:57, 54.3 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 16
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwNzl8NWNkOWQ2Njh8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09890.jpg (2009-10-4 04:57, 46.18 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 15
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwODB8NTE1ZThhZGJ8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:01

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:30 โดย pimnuttapa



DSC09852.jpg

พระเจดีย์  ประดิษฐานรอบทั้งสี่ทิศ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดสวนดอก ค่ะ   



ประวัติพระเจดีย์

ครูบาศรีวิชัยเป็นเค้าพร้อมด้วยพระภิกษุ สามเณร และนางหลวงมารดานายตรี ศรีอุปโย กับศรัทธาทั้งหลายได้ช่วยกันสร้างพระเจดีย์องค์นี้ขึ้นไว้เพื่อเป็นที่สักการบูชาแก่ปวงเทพเทวา และหมู่คนทั้งหลายตลอดกาลนานเทอญ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕


DSC09856.jpg

พระเจดีย์ ประดิษฐานด้านหลัง พระบรมธาตุเจดีย์ วัดสวนดอก ค่ะ







รูปภาพที่แนบมา: DSC09852.jpg (2009-10-4 05:02, 30.77 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 13
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwODF8YTA3OTc1NWR8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09856.jpg (2009-10-4 05:02, 43.14 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 18
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwODJ8OTBjOTljNjl8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:11

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:30 โดย pimnuttapa



DSC09858.jpg
DSC09861.jpg
DSC09862.jpg
DSC09863.jpg

พระเจ้าทันใจปางต่างๆ ประดิษฐานภายใน ซุ้มจระนำทั้งสี่ทิศ พระเจดีย์ วัดสวนดอก ค่ะ




รูปภาพที่แนบมา: DSC09858.jpg (2009-10-4 05:16, 48.73 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 11
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwODR8NDY0ZGIwODh8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09861.jpg (2009-10-4 05:16, 51.18 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 9
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwODV8OTQ0YzEyYTd8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09862.jpg (2009-10-4 05:16, 54.31 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 13
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwODZ8NTIwMDQwNzJ8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09863.jpg (2009-10-4 05:16, 54.34 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 9
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwODd8ZjYyY2Q3NWF8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:17

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:33 โดย pimnuttapa

  

DSC09552.jpg

อาคารเสนาสนะของวัดสวนดอกซึ่งมีอยู่มากมายนั้นประกอบด้วย กุฏิหลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก ค่ะ




รูปภาพที่แนบมา: DSC09552.jpg (2009-10-4 05:21, 65.86 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 17
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwODh8MzZhNWM4MWF8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:21

DSC09553.jpg

กุฏิไชยลังการ วัดสวนดอก ค่ะ

รูปภาพที่แนบมา: DSC09553.jpg (2009-10-4 05:21, 72.94 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 14
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwODl8M2VkNGIyNTh8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:22

แก้ไขล่าสุด pimnuttapa เมื่อ 2009-10-4 06:29  

DSC09555.jpg

สถาบันวิทยบริการ มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ วัดสวนดอก ค่ะ


DSC09554.jpg

สำนักงานศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มจร. วัดสวนดอก (พระอารามหลวง) ค่ะ


รูปภาพที่แนบมา: DSC09555.jpg (2009-10-4 05:22, 71.6 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 17
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwOTB8M2NmY2Y2MWV8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09554.jpg (2009-10-4 05:29, 62.66 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 19
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwOTF8NDY0N2Y5YmF8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:29

แก้ไขล่าสุด pimnuttapa เมื่อ 2009-10-4 06:32  

DSC09559.jpg

อุโบสถ วัดสวนดอก ค่ะ  

อุโบสถ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๗ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕ ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระเจ้าเก้าตื้อ ได้รับการปฏิสังขรณ์ในสมัยหลวงปู่คำแสน (พระครูสุคันธศีล) เมื่อราว พ.ศ. ๒๕๑๕ – ๒๕๑๖ เดิมเป็นอุโบสถของวัดพระเจ้าเก้าตื้อ เมื่อไม่นานมานี้มีการรวมวัดสวนดอกกับวัดพระเจ้าเก้าตื้อเข้าเป็นวัดเดียวกัน


DSC09560.jpg

อุโบสถ วัดสวนดอก จะไม่มีระเบียงคด (เพราะระเบียงคดเป็นอิทธิพลเขมรซึ่งขึ้นมาไม่ถึงภาคเหนือ จะอยู่แค่ภาคกลาง) ค่ะ


อุโบสถมีการผูกพัทธสีมา รวมทั้งหมด ๗ ครั้ง มีดังนี้

ครั้งที่ ๑ ปฐมสังฆนายก คือสมเด็จพระมหาสุมณวันรัตนสวามี ทำพิธีผูกครั้งที่ ๑
ครั้งที่ ๒ พระมหานันทปัญญา สังฆนายกของวัดสวนดอกองค์ที่ ๓ เห็นว่าสีมาของวัดมีขนาดเล็กเกินไป จึงทำพิธีถอนแล้วผูกใหม่
ครั้งที่ ๓ พระมหาพุทธญาณ สังฆนายกองค์ที่ ๔ พิจารณาเห็นว่าสีมานั้นเป็นนครสีมา ไม่ได้เป็นคามสีมาอย่างที่พระมหาเถรบุญวงศ์แห่งลำพูนคัดค้านไว้ จึงทำพิธีถอนแล้วผูกใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ครั้งที่ ๔ พระมหาติปิฎกสังฆราช สังฆนายกของวัดองค์ที่ ๗ ทราบมาว่าเมื่อตอนที่มีการปลูกสีมานั้น พระองค์หนึ่งอาพาธอย่างหนัก ไม่สามารถเข้าร่วมหัตถบาสในพิธีการถอนและปลูกได้ จึงต้องมีการถอนแล้วปลูกใหม่

ครั้งที่ ๕ พระมหาพุทธาทิจจะ (พระมหาพุทธรักขิต) สังฆนายกองค์ที่ ๘ พิจารณาเห็นว่าการถอนและปลูกครั้งก่อนไม่ถูกต้อง จึงทำพิธีถอนและปลูกใหม่
ครั้งที่ ๖ พระมหานาคเสน สังฆราชองค์ที่ ๑๐ ถูกพระสุวัณณ์ บ้านพรหมกุมกาม คัดค้านว่าเมื่อตอนที่มีพิธีถอนและปลูกนั้น ท่านไม่ได้เข้าร่วมด้วยแต่อยู่ที่วิหาร เมื่อสมมุตินทีสีมาไม่ถูกต้อง คนที่บวชในสีมานั้นก็ไม่เป็นพระ สังฆนายกจึงต้องทำพิธีถอนและปลูกใหม่อีก
ครั้งที่ ๗ พระมหาสุชาโตหรือธรรมโพธิ์ ทำพิธีถอนปลูกและสีมาใหม่แทนของเก่า เป็นครั้งสุดท้ายในระหว่าง พ.ศ. ๒๐๔๔ เนื่องจากอุโบสถมีขนาดเล็กและคับแคบเกินไป


รูปภาพที่แนบมา: DSC09559.jpg (2009-10-4 05:32, 61.95 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 13
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwOTJ8MGQwNDIzNGN8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09560.jpg (2009-10-4 05:32, 65.67 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 17
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwOTN8Yzc2OTIyZjJ8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:32

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:33 โดย pimnuttapa

  

DSC09562.jpg

ศาลาทำบุญพระประจำวันเกิด อยู่บริเวณด้านข้าง อุโบสถ วัดสวนดอก ค่ะ   


DSC09563.jpg

พระประจำวันเกิด ประดิษฐานภายใน ศาลาทำบุญพระประจำวันเกิด วัดสวนดอก ค่ะ   


DSC09568.jpg

พระพุทธรูปองค์เล็ก ประดิษฐานด้านข้าง ประตูทางเข้า/ออกด้านหน้า อุโบสถ วัดสวนดอก ค่ะ






รูปภาพที่แนบมา: DSC09562.jpg (2009-10-4 05:33, 75.18 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 15
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwOTR8ZjU0NDNjYTR8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09563.jpg (2009-10-4 05:33, 59.98 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 17
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwOTV8MzUzYzhmN2R8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09568.jpg (2009-10-4 05:33, 57.57 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 22
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwOTZ8NWQwNDQ4MmZ8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:34

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:34 โดย pimnuttapa

  

DSC09565.jpg

พระเจ้าเก้าตื้อ พระพุทธรูปพระประธานอุโบสถ นำประดิษฐานภายใน อุโบสถ วัดสวนดอก เมื่อปี พ.ศ.๒๐๕๓ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๐๔๗ วัดสวนดอกขึ้นทะเบียนโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๘ และกำหนดขอบเขต เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๓ ค่ะ   


DSC09567.jpg

ประวัติพระเจ้าเก้าตื้อ ประดิษฐานภายใน อุโบสถ วัดสวนดอก

พระเจ้าเก้าตื้อ ถือเป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญยิ่งของชาวเชียงใหม่ หล่อด้วยทองสำริด ปางมารวิชัยหรือปางสะดุ้งมาร ฝีมือช่างเชียงแสนผสมสุโขทัย หน้าตักกว้าง ๑๒๐ นิ้ว สูงจากฐานถึงยอดพระเมาฬีประมาณ ๑๓๐ นิ้ว ปีชวด ฉศก หนัก ๙ ตื้อ (ตามน้ำหนักชั่งโบราณ)  (ตื้อ=หน่วยวัดน้ำหนัก) หล่อด้วยสัมฤทธิ์ทั้งองค์สามารถแยกออกได้เป็น ๙ ส่วน

ในสมัยพระเมืองแก้ว ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์หนึ่งในราชวงศ์มังราย โปรดให้สร้างขึ้นในปี ๒๐๔๗ (ประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ ๒๑) องค์พระพุทธรูปได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัยตอนปลายสุด (Post Classic Sukhothai) สังเกตได้จากรัศมีเป็นรูปเปลวเพลิง, หน้ารูปไข่, จมูกโด่ง, คิ้วโก่ง, บ่าใหญ่-เอวเล็ก, นั่งแบบขัดสมาธิราบในท่าปางมารวิชัยบนฐานเกลี้ยงไม่มีลวดลาย, นิ้วทั้งสี่ยาวเท่ากัน พระเจ้าเก้าตื้อนี้ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่งามที่สุดในภาคเหนือในช่วงล้านนาตอนปลายเลยทีเดียว จุดเด่นอีกอย่างของพระพุทธรูปทางภาคเหนือคือปากจะทาสีแดง คิ้วจะเขียนให้มีสีดำเข้ม สันนิษฐานว่าเป็นการซ่อมในช่วงที่พม่าครองเมือง พม่าถือว่าพระพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ปากจึงเป็นสีแดง, เขียนคิ้วดำค่ะ






รูปภาพที่แนบมา: DSC09565.jpg (2009-10-4 05:36, 74.93 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 16
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwOTd8NDBhNGU2ZDB8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09567.jpg (2009-10-4 05:36, 55.09 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 13
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwOTh8ZjY4MGQ2NDl8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:37

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:35 โดย pimnuttapa

  

DSC09870.jpg

ศาลาครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดสวนดอก ค่ะ   


DSC09871.jpg

รูปครูบาเจ้าศรีวิชัย ประดิษฐานภายใน ศาลาครูบาศรีวิชัย วัดสวนดอก ค่ะ   


DSC09874.jpg

อนุสาวรีย์ (กู่) บรรจุอัฐิครูบาศรีวิชัย วัดสวนดอก ค่ะ   


DSC09875.jpg

รูปครูบาเจ้าศรีวิชัย ประดิษฐานภายใน อนุสาวรีย์ (กู่) บรรจุอัฐิครูบาศรีวิชัย วัดสวนดอก ค่ะ   

เดี๋ยวเรามากราบนมัสการอัฐิครูบาเจ้าศรีวิชัยพร้อมกันนะคะ

  (กล่าวนะโม ๓ จบ) อะยัง วุจจะติ สิริวิชะยะจะนะ จะ มหาเถโร อุตตะมัง สีลัง นะระเทเวหิ ปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มหาลาภา ภะวันตุเม อะหัง วันทามิ สัพพะทา อะหัง วันทามิ สิระสา อะหัง วันทามิ สัพพะโส สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ






รูปภาพที่แนบมา: DSC09870.jpg (2009-10-4 05:43, 77.1 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 22
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUwOTl8NTUxODQ4NDl8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09871.jpg (2009-10-4 05:43, 57.76 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 18
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMDB8ZTM4ZGU5ODB8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09874.jpg (2009-10-4 05:43, 71.33 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 21
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMDF8NGM0ZDhhOTl8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09875.jpg (2009-10-4 05:43, 27.42 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 20
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMDJ8NDQ5MTU1ZTN8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:44

แก้ไขล่าสุด pimnuttapa เมื่อ 2009-10-4 06:46  


DSC09868.jpg

อาคาร ๖๐ เกจิอาจารย์ วัดสวนดอก ค่ะ


รายนามเจ้าอาวาส วัดสวนดอก ได้แก่


• พระมหาสุมนเถระ (พ.ศ.๑๙๑๕ – ๑๙๓๓ )
• พระมหากัสสปะเถระ (พ.ศ.๑๙๓๓ – ๑๙๔๗)
• พระมหานันทปัญญาเถระ (พ.ศ.๑๙๔๗ – ๑๙๖๒)
• พระมหาพุทธญาณ พระมหาพุทธคัมภีร์มงคล พระมหาญาณรังษี (พ.ศ. ๑๙๘๗ – ๑๙๙๔)
• พระมหาปิฎกสังฆราช (พ.ศ.๑๙๙๔ – ๒๐๑๐)
• พระมหาพุทธรักขิต บางตำราว่าพระมหาพุทธรักโต (พ.ศ.๒๐๑๐ – ๒๐๑๒)

• พระมหาญาณสาคร พระมหาสังฆราชานาคเสน พระมหาญาณวชิรโพธิ์ (พ.ศ.๒๐๒๒ – ๒๐๓๓)
• พระมหาพุกามญาณสาท (พ.ศ.๒๐๓๓ – ๒๐๔๓ – ๒๐๔๔)
• พระมหาธรรมโพธิ์ พระมหาวชิรปัญญา ครูบาศรีวิชัย (พ.ศ.๒๔๕๒ – ๒๔๗๕)
• พระครูสุคันธศีล หรือหลวงปู่คำแสน อินทะจะกะโร (พ.ศ.๒๔๘๙ – ๒๕๑๙)
• พระครูศรีปริยัติยานุรักษ์ (พ.ศ.๒๕๒๔ – ๒๕๓๑)
• และเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน คือ พระมหาวรรณ เขมจารี (พ .ศ.๒๕๓๒ เป็นต้นมา)



รูปภาพที่แนบมา: DSC09868.jpg (2009-10-4 05:45, 71.89 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 21
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMDN8OWYxNzE4YmN8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 05:46

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:36 โดย pimnuttapa

DSC09845.jpg

สุสานหลวงของกษัตริย์และเจ้านายในราชวงศ์เชียงใหม่ (ราชวงศ์ของพญากาวิละ) วัดสวนดอก ค่ะ  


DSC09849.jpg

ประวัติกู่กษัตริย์และเจ้านายในราชวงศ์เชียงใหม่ (ราชวงศ์ของพญากาวิละ)

กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ เป็นอนุสาวรีย์ซึ่งบรรจุพระอัฐิของอดีตผู้เจ้าครองนครของเชียงใหม่แต่ละพระองค์ นอกจากนี้ยังมีกู่บรรจุพระอัฐิของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าจอมอยู่หัว รวมทั้งอัฐิของเจ้านายผู้ถือกำเนิดโดยตรงจากเจ้าหลวงเชียงใหม่ค่ะ






รูปภาพที่แนบมา: DSC09845.jpg (2009-10-4 06:22, 52.96 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 19
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMDR8NDExZTBmZTJ8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09849.jpg (2009-10-4 06:22, 38.95 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 13
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMDV8YjEyY2QwOGV8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 06:23

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:41 โดย pimnuttapa

DSC09883.jpg

กู่บรรจุพระอัฐิของพระเจ้ากาวิละ เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์แรกในราชวงศ์พญากาวิละ ภายใน สุสานหลวงของกษัตริย์และเจ้านายในราชวงศ์เชียงใหม่ วัดสวนดอก ค่ะ   


DSC09881.jpg

กู่บรรจุพระอัฐิของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ ๗ ในราชวงศ์พญากาวิละ (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๔๐) ภายใน สุสานหลวงของกษัตริย์และเจ้านายในราชวงศ์เชียงใหม่ วัดสวนดอก ค่ะ   


DSC09879.jpg

กู่บรรจุพระอัฐิของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ภายใน สุสานหลวงของกษัตริย์และเจ้านายในราชวงศ์เชียงใหม่ วัดสวนดอก ค่ะ    


ประวัติพระราชชายาเจ้าดารารัศมี

ในสมัย ร.๕ เจ้าอินทรวิชานนท์ได้ถวายเจ้าดารารัศมีให้เป็นพระราชชายาใน ร.๕ พอช่วงหลังที่ ร.๕ ย้ายมาประทับที่วังสวนดุสิต พระราชชายาจ้าดารารัศมีก็ย้ายมาประทับที่พระตำหนักสวนฝรั่งกังไสด้วย หลังจากที่ ร.๕ เสด็จสวรรคตแล้ว ท่านก็ยังประทับอยู่ที่นั่นอีกประมาณ ๕-๖ ปี จนประมาณปี ๒๔๕๖-๒๔๕๗ ท่านจึงย้ายกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่ตามเดิม โดยได้ขอพระบรมราชนุญาติจาก ร.๖ พระโอรสของ ร.๕ แล้วท่านก็ย้ายมาประทับยังพระตำหนักดาราภิรมย์ พระราชชายาเจ้าดารารัศมีสิ้นพระชนม์ในสมัย ร.๗ ได้มีการพระราชทานเพลิงที่วัดสวนดอกและบรรจุพระอัฐิไว้ที่นี่






รูปภาพที่แนบมา: DSC09883.jpg (2009-10-4 06:28, 55.12 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 15
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMDZ8ZTNkZDUwMjJ8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09881.jpg (2009-10-4 06:28, 44.84 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 14
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMDd8NjU0OGRkNDJ8MTczMjk4NTcyM3ww



รูปภาพที่แนบมา: DSC09879.jpg (2009-10-4 06:28, 40.78 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 13
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMDh8MTg4ZDZmMTN8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 06:30

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:44 โดย pimnuttapa

DSC09840.jpg

บ่อน้ำโบราณ อยู่ด้านหน้า สุสานหลวงของกษัตริย์และเจ้านายในราชวงศ์เชียงใหม่ (ราชวงศ์ของพญากาวิละ) วัดสวนดอก ค่ะ



สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวทำบุญนมัสการพระบรมธาตุ วัดสวนดอก ก็ขอจบการเดินทางเพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีค่ะ   





รูปภาพที่แนบมา: DSC09840.jpg (2009-10-4 06:31, 58.21 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 15
http://dannipparn.com/forum.php?mod=attachment&aid=MTUxMDl8ZTA5OTNmYjh8MTczMjk4NTcyM3ww


โดย: pimnuttapa    เวลา: 2009-10-4 06:32

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-20 08:45 โดย pimnuttapa

  

ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
• วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
• หนังสือพุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง. (คัดลอกจาก หนังสือพุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง. นาคฤทธิ์ รวบรวมชำระสะสาง ๒๕๔๐-๒๕๔๕. พิมพ์ครั้งที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕. หน้า ๒๓, ๑๕๑-๑๕๓.)
• และทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวทำบุญในครั้งนี้


หมายเหตุ   
ถ้าหากข้าพเจ้าพบข้อผิดพลาดจากภาพที่ลงบอร์ดไปเรียบร้อยแล้วว่าไม่ตรงกับข้อมูลที่ถูกต้องในภายหลัง หรือพบว่าสถานที่นั้นมีโบราณวัตถุ โบราณสถาน ฯลฯ ที่สำคัญแต่ยังไม่ได้นำมาลงบอร์ด ข้าพเจ้าขออนุญาตนำภาพหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสถานที่นั้นนำมาลงบอร์ดเพิ่มเติมในภายหลัง เพื่อประโยชน์สูงสุดในการเผยแผ่พระศาสนาสืบต่อไป และขออภัยในความบกพร่องต่างๆ ในฐานะปุถุชนที่ย่อมทำผิดและถูกสลับกันไป หวังว่าสมาชิกและท่านผู้อ่านทุกท่านจะให้อภัยในความบกพร่องทั้งปวงแก่ข้าพเจ้าด้วย

ถ้าหากสมาชิกท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดพระธาตุหรือรอยพระพุทธบาทที่ลงบอร์ดนี้เรียบร้อยแล้ว สามารถโพสข้อมูลเพิ่มเติมนั้นต่อจากบอร์ดข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบต่อไป ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญเป็นอย่างสูงสำหรับธรรมทานค่ะ




โดย: PAT    เวลา: 2009-10-20 08:58

สวยมากครับ อนุโมทนาบุญด้วยครับ
โดย: Arigatou    เวลา: 2011-2-22 02:57

สวยมากเลยค่ะ




ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://dannipparn.com/) Powered by Discuz! X1.5