วัดพระธาตุม่วงเนิ้ง
บ.ป่าห้า ม.๕ ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
[พระเกศาธาตุ]
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1430.jpg (2015-5-18 15:18, 95.22 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 138
การเดินทางไปวัดพระธาตุม่วงเนิ้ง ดูข้อมูลแผนที่จากเว็บ google ได้ตามลิงค์นี้ค่ะ
รูปภาพที่แนบมา: DSC00171.jpg (2015-5-18 15:19, 99.55 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 146
รูปภาพที่แนบมา: DSC00173.jpg (2015-5-18 15:21, 99.36 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 164
รูปภาพที่แนบมา: DSC00180.jpg (2015-5-18 15:53, 99.09 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 133
จิตรกรรมฝาผนังหน้าบันด้านหลัง วิหาร วัดพระธาตุม่วงเนิ้ง ค่ะ
รูปภาพที่แนบมา: DSC00195.jpg (2015-5-18 15:22, 99.6 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 146
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1437.jpg (2015-5-18 15:22, 99.4 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 144
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1440.jpg (2015-5-18 15:22, 99.94 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 119
รูปภาพที่แนบมา: DSC00189.jpg (2015-5-18 15:55, 99.81 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 156
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1422.jpg (2015-5-18 15:55, 99.7 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 137
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1417.JPG (2016-2-17 17:47, 99.9 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 150
ตำนานพระธาตุม่วงเนิ้ง จากตำนานพระเจ้าเลียบโลก
กล่าวว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับนั่งฉันภัตตาหารเพล ณ ที่สถานที่แห่งนี้ คำว่า “ม่วงเนิ้ง” มาจากพระพุทธเจ้าทรงนำบาตรไปแขวนกับต้นมะม่วง เนื่องจากบาตรหนักทำให้กิ่งมะม่วงโน้มลงมา ต้นมะม่วงดั้งเดิมสูงใหญ่มาก (มีต้นมะม่วงอยู่หน้าวิหารปรากฏให้เห็นจนถึงปัจจุบัน) เมื่อพระพุทธเจ้าฉันภัตตาหารเพลเรียบร้อยแล้ว ได้เทข้าวที่เหลือกองไว้ แล้วพระพุทธองค์ทรงลูบพระเกศาวางไว้บนกองข้าว ต่อมาได้สร้างเจดีย์ครอบไว้
ประวัติพระธาตุม่วงเนิ้ง
(แหล่งที่มา : พระชัยวัฒน์ อชิโต สำนักงานธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุงจ.อุทัยธานี. (๒๕๔๙, ๙ กรกฎาคม). ตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๒ (พิมพ์ครั้งที่ ๑). กรุงเทพฯ: เยลโล่การพิมพ์, หน้า ๑๗๒-๑๗๓.)
พระธาตุแห่งนี้ ถือว่าเป็นพระธาตุที่อยู่ทางใต้สุดของเมืองก็ว่าได้ โดยมี พระธาตุนางแล อยู่ทางเหนือสุดของพื้นที่ ตามหนังสือประวัติที่ท่านเจ้าคณะอำเภอเมืองพร้าวให้มามีเรื่องราวเล่าว่า
พระธาตุม่วงเนิ้งโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอพร้าว มีผู้คนนับถือกราบไหว้มานานหลายชั่วอายุคน เล่ากันว่าน่าจะมีอายุนานนับพันปีมาแล้ว เพราะฉะนั้น สถานที่นี้ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๗ หลังจาก ท่านครูบาศรีวิชัย มาทำการบูรณะซ่อมแซม วัดพระธาตุใจเมือง เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนขากลับท่านพร้อมด้วยคณะศิษย์ที่เป็นภิกษุสามเณรและอุบาสกอุบาสิกา ก็ได้เดินทางกลับสู่วัดพระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
แต่ในระหว่างทาง ท่านได้แวะขึ้นไปนมัสการองค์ พระธาตุม่วงเนิ้ง ในเวลาจวนบ่ายมากแล้ว หลังจากท่านไหว้แล้ว ได้ยืนทัศนารอบๆ บริเวณผืนแผ่นดินในตำนานโหล่งขอดแล้วพูดว่า
“มีของดีอยู่ในองค์พระธาตุม่วงเนิ้งไม่มาก ขนาดเท่าฝ่ามือนี้”
ว่าแล้วท่านก็ทำอุ้งมือเป็นรูปเรือให้ดู แล้วยังชี้นิ้วมือไปที่ภูเขาอีก ๒ ลูก พร้อมกับพูดว่า
“ยังมีพระธาตุอีก ๒ ดวงในเขตนี้ คือที่ ดอยเวียง (ชาวเวียงเรียก “ดอยคูเมือง”) และที่ ดอยสามเหลี่ยม วันเวลาใดที่พระธาตุ ๓ วงนี้ลุกเรื่อเรืองขึ้นมาเมื่อใด ชาวโหล่งขอดจะได้ยะนา (ทำนา) ข้าวสาร”
คำว่า “ทำนาข้าวสาร” หมายถึงอะไร ยังคงเป็นปริศนาของชาวบ้านมาจนถึงวันนี้ แต่ที่เป็นความจริงก็คือว่าท่านคิดจะบูรณะพระธาตุม่วงเนิ้งตามนิมนต์ของชาวบ้านนี้เหมือนกัน แต่อาชญาทางบ้านเมืองแจ้งให้ท่านรีบกลับวัดพระสิงห์โดยด่วนเพื่อแก้ข้อกล่าวหาอธิกรณ์กับทางคณะสงฆ์
เมื่อท่านกลับไป ๒ เดือน ต่อมาท่านได้จัดส่ง พระหน่อคำ มาเป็นตัวแทนของท่านเพื่อทำการซ่อมแซมพระธาตุม่วงเนิ้งจนแล้วเสร็จ สถานที่นี้จึงเป็นที่มาของประวัติเมืองพร้าว โดยพ่อเฒ่าคนหนึ่งในหมู่บ้านเล่าว่า
“ในสมัยพระพุทธเจ้าเสด็จโปรดสัตว์ที่เรียกกันว่า “พระเจ้าเลียบโลก” เข้ามาสู่เขตล้านนาไทย พระองค์ได้เสด็จบิณฑบาตมาถึงหมู่บ้านเขตนี้ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร มีผู้คนทำบุญใส่บาตรกันมากจนข้าวล้นบาตรหนักอึ้ง จนต้อง “ปาวบาตร” (คำว่า “ปาวบาตร” คือที่มาของ คำว่า “เมืองปาว” หรือ “เมืองป๊าว” หรือ “เมืองพร้าว” ในกาลต่อมา)
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปาวบาตรมายั้งพักที่ป๋างแห่งหนึ่ง (คำว่า “ป๋าง” คือ ที่พักชั่วคราวของคนเดินทาง “ปาง” ก็เรียก) ต่อมาสถานที่นั้นก็มีผู้คนเรียกว่า “แม่ป๋าง” แล้วเพี้ยนมาเป็น “แม่ปั๋ง” จนทุกวันนี้…”
ต่อมาพระพุทธองค์เสด็จมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีทิวเขาเป็นเสมือนกำแพงล้อมรอบ สายสนุกบาตรเกิดขาด เพราะทนทานต่อน้ำหนักของข้าวในบาตรไม่ได้ จึงใช้ให้พุทธอุปัฏฐากคือ พระอานนท์ ไปหาด้ายมาเย็บสายสนุกบาตร พระอานนท์จึงได้เดินย้อนกลับไปหาด้ายจากที่พักริมทางเดินที่ผ่านมาแล้วนั้น เป็นด้ายสีม่วง ภาษาล้านนาเรียกสีม่วงว่า “สีปั๋ง” นี่คือเป็นที่มาของคำว่า “แม่ปั๋ง” อีกเช่นกัน
ขณะที่สายบาตรของพระพุทธองค์ขาดและยังหาด้ายมาเย็บต่อไม่ได้นั้น พระพุทธเจ้าทรงทำการ “ขอดสายบาตร” (หมายถึงขมวดสายบาตร) นี้จึงเป็นที่มาของคำว่า “โหล่งขอด” (คำว่า “โหล่ง” หมายถึง แผ่นดินที่เป็นที่ราบและมีภูเขาล้อมรอบ”
พระพุทธองค์ได้นำบาตรไปคล้องไว้กับมะม่วงต้นหนึ่งบนภูเขา มะม่วงต้นนั้นไม่สามารถจะทานน้ำหนักของบาตรที่มีข้าวเต็มอยู่ได้ก็โน้มยอดลงมา (คำว่า “โน้ม” เรียกตามภาษาชาวเหนือว่า “เนิ้ง”)
หลังจากเสร็จภัตกิจแล้ว ข้าวในบาตรของพระพุทธเจ้าและของพระอานนท์ยังเหลืออยู่มากมาย พระพุทธองค์จึงทรงบัญชาให้พระอานนท์เทข้าวออกจากบาตร แล้วก่อเป็นเจดีย์ข้าวสุกไว้ที่ริมต้นมะม่วงที่โน้มกิ่งนั้นไว้ คนทั้งหลายก็พากันเรียกว่า พระธาตุม่วงเนิ้ง จนตราบเท่าทุกวันนี้
ท่านผู้เฒ่าเล่าต่อไปอีกว่า เดิมทีนั้นมะม่วงคำ (ทอง) ต้นนั้นมีปลายโน้มเอียงปกคลุมหลังคาวิหารอยู่คล้ายจะล้มทับองค์พระธาตุ แต่ต่อมาก็มีลมพัดอย่างแรง จึงทำให้มะม่วงต้นนั้นล้มลงไปทางภูเขา ไม่เป็นอันตรายกับองค์พระธาตุเลย จนเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจมาก
มะม่วงต้นนั้นไม่ปรากฏร่องรอยให้เห็นอีกแล้ว แต่มีต้นมะม่วงอีกต้นหนึ่ง ที่มีลักษณะลำต้นใหญ่โตมาก มีอายุนับ ๑๐๐ ปี ขึ้นอยู่หน้าวิหารทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ แผ่สาขาร่มเงาเป็นที่ร่มเย็นแก่ผู้ที่ขึ้นไปนมัสการพระธาตุตราบเท่าทุกวันนี้”
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1435.jpg (2015-5-18 15:24, 98.54 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 158
รูปภาพที่แนบมา: DSC00182.jpg (2015-5-18 15:24, 97.6 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 157
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1423.jpg (2015-5-18 15:24, 98.21 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 149
รูปภาพที่แนบมา: DSC00184.jpg (2015-5-18 15:27, 99.34 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 157
จุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ ลูกแก้วจักรพรรดิ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และขอโมทนาบุญกับผู้สร้าง ผู้บูรณะ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในบุญกุศล ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปจน ๕๐๐๐ ปี ค่ะ สาธุ สาธุ 
(กล่าวนะโม ๓ จบ) วันทามิ วังคะฐาเน เกสา อัมพา กาเยติ ทาติ นิพพานัง ปะระมัง สุขัง
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1424.jpg (2015-5-18 15:46, 99.38 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 147
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1439.jpg (2015-5-18 15:46, 99.47 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 130
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1428.jpg (2015-5-18 15:46, 97.39 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 150

รูปภาพที่แนบมา: DSC00170.jpg (2015-5-18 15:50, 91.97 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 133
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1427.jpg (2015-5-18 15:50, 98.57 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 145
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1421.jpg (2015-5-18 15:52, 99.58 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 152
รูปภาพที่แนบมา: IMG_1431.jpg (2015-5-18 15:52, 98.29 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 129
รูปภาพที่แนบมา: DSC00202.jpg (2015-5-18 15:52, 99.87 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 146

รูปภาพที่แนบมา: IMG_1434.jpg (2015-5-18 15:59, 99.04 KB) / ดาวน์โหลดแล้ว 147
ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก : | ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://dannipparn.com/) | Powered by Discuz! X1.5 |