แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

ชื่อกระทู้: ภาพนิมิต [สั่งพิมพ์]

โดย: webmaster    เวลา: 2011-6-11 19:29     ชื่อกระทู้: ภาพนิมิต

ภาพนิมิต
วันที่: วันอังคาร 30 ตุลาคม 2007 @ 2:50:25
หัวข้อ: บทความคำสอนปกิณกะ

[attach]18131[/attach]

ภาพนิมิต

เวลานี้ ทางภาคอีสานลำบากมาก พระที่มีชื่อเสียงเขาขึ้นไปไล่ในวัดบ้าง ส่งคนเข้าไปเพื่อจะสังหารบ้าง ยังมีท่านหนึ่งถึงกับส่งคนเข้าไปจะฆ่า แต่บังเอิญคนนั้นตาย เวลานี้เขาไม่ชอบใจใหญ่ ร้องขึ้นไปไล่ไม่ให้อยู่ที่นั่น นี่ไม่ช้าวัดเราอาจจะมีอย่างนี้ก็ได้ ทว่าวัดเรานี่เป็นจุดใหญ่ที่เขามีความต้องการ ถือว่าเป็นการรวมใจคน ฉะนั้นขอบรรดาท่านพุทธศาสนิกชน อย่าตกใจมากเกินไป กรรมย่อมเป็นเครื่องสนองกรรม คนชั่วจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู่ความรุ่งเรือง พระพุทธศาสนากำลังก้าวสู่ความรุ่งเรือง บุคคลใดหวังทำอะไรกับประเทศไทยก็ดี หรือหวังแก่พุทธศาสนาก็ดี พวกนี้จะต้องสลายตัวไปด้วยการตายเป็นกรณีพิเศษ

แล้วก็เมื่อเร็วๆ นี้ได้ทราบข่าวว่า เค.บี.จี เขาพูดกับนายทหารใหญ่ ขอความร่วมมือ นายทหารผู้ใหญ่ก็บอกว่าไม่ต้องการ ฉันอยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว เขาก็บอกว่าคุณจะต้องการหรือไม่ต้องการ จะร่วมมือหรือไม่ร่วมมือก็ตาม ผมจะต้องยึดประเทศของคุณให้ได้ภายใน ๒ ปี เมื่อฟังอย่างนี้แล้วก็ตกใจ ประการที่หนึ่ง พระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระจอมไตรจะต้องทรงอยู่ในประเทศไทยได้ครบ ๕ พันปี แล้วก็ ประการที่สอง ประเทศไทยเวลานี้ก็ไม่ใช่ประเทศโดดเดี่ยว เป็นประเทศที่มีสัมพันธมิตรร่วมมือกันมาก ถ้าเราเป็นประเทศโดดเดี่ยว เขาก็ยึดไปได้นานแล้ว อาศัยศาสนาขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว บารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และบุคคลที่มีความประพฤติอยู่ในธรรม สามารถจะทรงประเทศไทยไว้ได้ เป็นว่าวันนี้เทศน์เล่าเรื่องสู้กันฟัง เล่าเรื่องกันฟัง ก็นำไปคิดก็แล้วกันนะ

เมื่อปี ๒๕๑๘ อาตมาได้พบภาพๆหนึ่ง ที่บ้านรับรองของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปนอนค้างที่นั่น คืนนั้นปรากฏว่า เลิกจากการคุยกันแล้วก็เข้ามานอน ประมาณตีสองก็ใจสบาย ก็ปรากฏเป็นกองไฟลุกขึ้นท่วมประเทศไทย เป็นเปลวไฟสูงมาก เห็นเข้าก็ตกใจ ว่าไทยเราน่ากลัวจะแย่ พอดีเวลานั้นเอง ก็เป็นภาพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงฉัพพรรณรังสีรัศมี ๖ ประการ พร้อม มาถึงก็มีพระวรกายสูงเหนือกองไฟ ยืนอยู่ข้างกองไฟ ยกพระหัตถ์ขวาขึ้น ปลายนิ้วชี้ด้านในพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์เป็นหยดน้ำเล็กๆ นิดเดียว เท่ากับน้ำหยดหนึ่งไหลจากนิ้ว หล่นแปะไปในกองไฟ ไฟดับทันที

อาตมาก็ถามองค์สมเด็จพระชินศรีว่า หมายความว่ายังไง สมเด็จพระจอมไตรกล่าวว่า เวลานี้ประเทศไทยมีสภาพเหมือนไฟลุก มีแต่ความเร่าร้อน แต่ต่อไปจะดับอย่างนี้ แล้วองค์สเมด็จพระชินศรีก็ตรัสว่า ในเมื่อคนไทยมีศีลมีธรรมมากขึ้น ศีลธรรมสร้างความเยือกเย็น คนที่มีศีลธรรมถึงแม้ว่าจะมีประมาณน้อย คน ๔๕ ล้านคน อาจจะมีศีลธรรมจริงๆสักล้านสองล้านคน แต่องค์สมเด็จพระทศพลก็กล่าวว่า ธรรมย่อมมีความเยือกเย็นเหมือนน้ำ คือน้ำถึงแม้ว่าจะมีปริมาณน้อย แต่มีความเยือกเย็นสูง ก็ดับไฟได้ฉันใด กำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทที่มีความเยือกเย็นในศีลในธรรม ก็สามารถจะเป็นปัจจัย ให้ทรงประเทศอยู่ได้ตลอดกาล

ฉะนั้นขอบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน จงรวบรวมกำลังใจ พยายามสร้างความดี เพื่อความอยู่รอดของพวกเรา คำว่าพวกเรานี่คือคนในประเทศไทยทุกคน พยายามรักษาความดีที่องค์สมเด็จพระทศพลตรัสว่า

หนึ่ง สัพพปาปัสสะ อกรณัง เราจะไม่ทำความชั่วทั้งหมด
กุสลัสสูปสัมปทา เราจะทำความดี
สจิตปริโยทปนัง เจริญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน หักล้างความชั่วของใจ ที่เป็นกิเลสอนุสัยให้หมดไป

ต่อไปประเทศไทยจะทรงอยู่ในความดี จะสมกับพระบาลีที่กล่าวไว้เบื้องต้นว่า
ธัมโม หเว รักขติ ธัมมจาริง "ธรรมย่อมรักษาบุคคลผู้ประพฤติธรรม"

เอาล่ะท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า อาตมาแสดงพระธรรมเทศนามาก็เห็นจะพอแก่เวลา ๓๐ นาทีเศษๆ ก็ขอยุติพระธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้

ในที่สุดแห่งพระธรรมเทศนานี้ อาตมภาพขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีธรรม ตั้งอยู่ในความเคารพในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เคารพในพระธรรมวินัยทั้งหมด ให้ปรากฏมีแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล และจงเจริญไปด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ หากทุกท่านมีความประสงค์สิ่งใด ก็ขอให้ได้สิ่งนั้นสมความปราถนาทุกประการ อาตมภาพแสดงพระธรรมเทศนาในธัมมิกถา ก็ขอยุติพระสัทธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ สวัสดี...

คัดตัดตอนบางส่วนมาจากหนังสือ คำสอนหลวงพ่อ วัดท่าซุง ๑๘
โดย nookfufu2







ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://dannipparn.com/) Powered by Discuz! X1.5