แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"
ชื่อกระทู้:
พระปัจเจกพุทธเจ้า : ในคำภีร์อนาคตวงศ์
[สั่งพิมพ์]
โดย:
visutti
เวลา:
2012-3-5 16:41
ชื่อกระทู้:
พระปัจเจกพุทธเจ้า : ในคำภีร์อนาคตวงศ์
พระปัจเจกพุทธเจ้า : ในคำภีร์อนาคตวงศ์
... มีเรื่องของ
พระปัจเจกพุทธเจ้า
ที่ปรากฏในคัมภีร์อื่นที่ไม่ใช่ในพระไตรปิฏก แต่ก็มีพุทธศาสนิกชนรู้จักคัมภีร์นี้พอสมควร นั่นคือ "พระอานคตวงศ์" ซึ่งในคัมภีร์นี้ได้กล่าวถึง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต ๑๐ พระองค์ ในคัมภีร์นี้ได้กล่าวถึง อธิการในอดีตของพระนรสีหสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้กล่าวไว้ดังนี้
เรื่องพระนรสีหสัมมาสัมพุทธเจ้า
... ดูก่อน พระธรรมเสนาบดี สารีบุตร ผู้มีอายุ เมื่อศาสนาของ พระเทวเทพสัมมาสัมพุทธเจ้า เสื่อมไปแล้ว ในกัปนั้น โตเทยยพราหมณ์ จักได้เป็นพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "พระนรสีหสัมมาสัมพุทธเจ้า"
... พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงมีพระวรกายสูง ๖๐ ศอก แสงสว่างแห่งพระพุทธรัศมี กลางวันมีสีประหนึ่งว่า แสงสว่างแก้วมรณี กลางคืนเป็นเช่นกับแสงทอง ทรงมีต้นแคฝอยเป็นต้นไม้ตรัสรู้
... ด้วยพุทธานุภาพ มีข้าวสาลีหอมเกิดขึ้นตามปกติ มหาชนทุกจำพวกไม่ได้ค้าขาย ไม่ได้ทำไร่ไถนา พากันเก็บเอาข้าวสารแห่งสาลี มาหุงต้มบริโภค มีต้นกัลปพฤกษ์เกิดขึ้นต้นหนึ่ง มีสิ่งของต่างๆ เกิดขึ้น เพราะอาศัยต้นกัลปพฤกษ์ คนเหล่านั้นไม่ต้องแต่งกาย ตามปกติคนเหล่านั้น มีผิวพรรณสีเหมือนทอง
... เบื้องพระเศียรของพระผู้มีพระภาคเจ้า จะมีเศวตฉัตรแล้วด้วยแก้ว ๗ ประการ ปรากฏแก่กล้า จัดว่าได้มหาสมบัติ ด้วยประการฉะนี้
... ดูก่อน พระธรมเสนาบดี สารีบุตร ผู้เจริญ เมื่อศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้า ล่วงไปแล้ว ศาสนาของเรา ก็จักมีในกาล ระหว่างกลางศาสนาทั้งสอง โตเทยพราหมณ์ได้เป็นพ่อค้านามว่า "นันทมาณพ"
... สมัยหนึ่ง
พระปัจเจกพุทธเจ้า
องค์หนึ่ง เที่ยวบิณบาตอยู่ในเวลานั้น นันทมาณพ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว ถวายผ้ากัมพลผืนหนึ่ง และทอง ๑ แสน เป็นทานแก่
พระปัจเจกพุทธเจ้า
องค์หนึ่ง ในเวลาถวายทานสิ้นสุดลง เขาได้ตั้งความปรารถนาไว้ว่า : -
..." ข้าแต่
พระปัจเจกพุทธเจ้า
ผู้เจริญ ด้วยผลแห่งทานอันนี้ ขอจงเป็นปัจจัยให้ได้พระสัพพัญญตญาณเถิด "
...
พระปัจเจกพุทธเจ้า
รับเอาผ้าผืนนั้นมาห่มแล้ว เบื้องของ
พระปัจเจกพุทธเจ้า
เหลือ ๑ ศอก เบื้องล่างจากพื้นเท้าเหลือประมาณ ๑ ศอก ยืนอยู่ด้วยพระบาททั้งคู่ นันทมาณพเห็น
พระปัจเจกพุทธเจ้า
แล้ว ตั้งความปรารถนาไว้ ๒ อย่างว่า :-
... " ข้าแต่พระปัจเจกพุทธเจ้าผู้เจริญ ด้วยผลแห่งการถวายผ้ากัมพลเป็นทานนี้ ขออำนาจของข้าพเจ้าจงแผ่ไปเบื้องบน ๑ โยชน์ ในเบื้องล่าง ๑ โยชน์เถิด "
... ในเวลาจบคำปรารถนา
พระปัจเจกพุทธเจ้า
ก็ออกจากบ้านไป ตรงกลางทาง นางกุมารีรุ่นคนหนึ่ง พบพระปัจเจกพุทธเจ้ากำลังเดินไป จึงเรียนถามท่านว่า :-
..." ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ใครถวายผ้าแก่พระคุณเจ้า? "
... พระปัจเจกพุทธเจ้าบอกว่า " ดูก่อนอุบาสิกา พ่อค้านามว่า นันทมาณพ ถวายผ้ากัมพลผืนหนึ่งเป็นทานแก่อาตมาภาพ "
... นางกุมารีเรียนถามว่า:-
" ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เขาตั้งความปรารถนาว่าอย่างไร? "
...
พระปัจเจกพุทธเจ้า
บอกว่า " ดุก่อนอุบาสิกา พ่อค้านามว่า นันทมาณพ ได้ตั้งความปรารถไว้ ๒ อย่าง คือ ปรารถนาพระสัพพัญญตญาณ, ๒ ปรารถนาสมบัติคือความเป็นพระราชา "
... กุมารี ฟังคำนั้นแล้ว ทำจิตให้เลื่อมใส ถือเอาผ้าผืนหนึ่งถวายทานแด่
พระปัจเจกพุทธเจ้า
ในเวลาถวายทานเสร็จ นางกุมารีจึงตั้งความปรารถนาไว้ว่า :-
" ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ด้วยการถวายผ้าเป็นทานนี้ ถ้าชายพ่อค้าจักได้สมบัติแห่งมหาราชาไซร้ ดิฉันจักเป็นอัครมเหสีเขา "
... สรุปว่า ในกาลนั้น ปุถุชนทั้งสอง สร้างศาลาไว้หลังหนึ่งในสถานที่ถวายทานนั้น ให้ช่างจิตรกรรมสลักรูป
พระปัจเจกพุทธเจ้า
ณ เสาศาลานั้น นางกุมารีรวบผมบนศรีษะ เอาน้ำมันทาเอาไฟจุดบูชา
... นันทมาณพ กระทำการบริจาคทานนั้น ถวายทาน รักษาศีล ดำรงอยู่ชั่วอายุ ณ ที่นั้น ในเวลาสิ้นอายุ จุติแล้วไปบังเกิดในภพบนดาวดึงส์ กับด้วยนางกุมารีนั้น ในเวลานั้น คนทั้งสองดำรงอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สิ้นเวลา ๓๖ ล้านปี โดยนับปีของมนุษย์
... คนทั้งสองจุติจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น นันทมาณพ บังเกิดเป็น พระธรรมราชา ในนครทวาราวดี ฝ่ายกุมารีบังเกิดในมหาสมบัติในตระกูลเศรษฐี ในพระนครนั้น
... บิดามารดา ได้นำนางกุมารีซึ่งมีอายุครบ ๑๖ ปี เข้าไปถวายแด่ พระธรรมราชา ญาติๆ ทั้งหลายได้ตั้งชื่อนางกุมารีว่า " มงคลเทวี "
... ก็พระนางมงคลเทวี ได้เป็นหัวหน้าหญิง ๑๖,๐๐๐ นางแล้ว ตกว่าพระธรรมราชาทรงให้หญิงนางสนมทั้งหมด จัดสำรับอาหารเลี้ยงกันและกันแล้ว นางสนมทุกนางจะได้นิ้วทองบริโภคอาหารก็หามิได้ นางมลคลเทวีเป็นเจ้าแห่งทาน ให้ทานอย่างเดียว ในกาลก่อนจึงได้นิ้วทองในปัจจุบัน
... พระเจ้าธรรมราชา กับพระนางมงคลเทวี ครั้นถวายทานเสมอกันในชาติก่อน จุติแล้ว ปัจจุบันจึงได้มหาสมบัติ ด้วยอานุภาพแห่งทาน นันทมาณพ ได้เสวยมนุษยสมบัติและเทวสมบัติแล้วบังเกิดเป็น โตเทยยพราหมณ์แล้ว
... ดูก่อนพระธรรมเสนาบดี สารีบุตร ผู้เจริญ ด้วยผลแห่งทาน โตเทยยพราหมณ์จักได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า "นรสีห์" ในอานคต
... ดูก่อนพระธรรมเสนาบดี สารีบุตร ผู้เจริญ ด้วยอาการอย่างนี้ สรรพสัตว์ หากยังไม่ได้บรรลุธรรม อันเลิศในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๘ องค์เหล่านี้คือ
ของ เรา ๑ , ของพระรามพุทธเจ้า ๑ , ของพระธรรมราชาพุทธเจ้า ๑ , ของพระธรรมสามีพุทธเจ้า ๑ , ของพระนารทพุทธเจ้า ๑ , ของพระรังสีมุนีพุทธเจ้า ๑ , ของพระเทวเทพพุทธเจ้า
... ในอนาคต โตเทยยพราหมณ์ จักเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า นรสีห์ ขอท่านทั้งหลายจงปรารถนาพบศาสนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า นรสีห์ พระองค์นั้นเถิด
เหตุแห่งการบรรลุพระปัจเจกโพธิญาณ ที่ปรากฏในคัมภีร์ชาดก :
นอกจาก ขัคควิสาณสูตร ที่ปรากฏใน คัมภีร์สุตตนิบาต คัมภีร์อปทานและคัมภีร์จูฬนิทเทศแล้ว ในคัมภีร์ชาดก ก็ได้กล่าวถึงการบรรลุ
พระปัจเจกโพธิญาณ
ไว้เหมือนกัน จะได้นำมาแสดงโดยลำดับ
โดย:
วิศว์
เวลา:
2012-3-15 22:17
สาธุ
โดย:
mini7
เวลา:
2012-4-1 16:34
โดย:
hmu111
เวลา:
2012-5-27 17:19
สาธุ
โดย:
direk35
เวลา:
2012-8-9 11:13
โมทนาสาธุครับ
โดย:
bwilliam
เวลา:
2012-8-20 23:25
สาธุ
โดย:
Teerapat
เวลา:
2012-8-27 14:33
สาธุ ครับท่าน
โดย:
คันธมาทน์
เวลา:
2012-9-29 13:03
สาธุ
โดย:
ZAC
เวลา:
2012-10-17 20:33
สาธุ
โดย:
คนจากอดีต
เวลา:
2012-11-13 13:59
สาธุ...
โดย:
planoi
เวลา:
2012-12-17 18:13
eCab เป็นรุ่นที่ได้มีการพัฒนาต่อจากรุ่น eGo-C สามารถถอดเปลี่ยน Atomizer head ที่มีขนาดเล็กอยู่ด้านใน โดยใช้ตัวเดียวกับที่ใช้ใน eGo-C และยังสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ ได้สะดวกโดยใช้ถ่านขนาด 3.7v 360mAh eCab ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็ก ส่วนหลอดบรรจุ e-Liquid ยังคงใช้หลอดบรรจุแบบเดิมคล้ายกับ eGo-C จากสารผสมใน E-Liquid ข้างต้น นอกเหนือจาก Nicotine แล้ว ตัวที่ทุกคนสงสัยว่ามันคือเช่นไร ก็คือสารที่เรียกว่า Propylene Glycerol หรือ Propylene Glycol หรือ เรียกสั้นๆ ว่า PG ครับ
ovale
ไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซพิษทำลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลาย และถุงลม ทำให้ผนังถุงลมบางโป่งพอง ถุงลมเล็กๆ หลายอันแตก รวมกันเป็นถุงลมใหญ่ ทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง eRoll ดีไซด์ใหม่ของ บุหรี่ไฟฟ้า ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นของขวัญจาก Joyetech เหมาะสำหรับคนชอบ บุหรี่ไฟฟ้า ที่มุ่งเน้นในการพกพาและแฟชั่น eRoll มีความจุของแบตเตอรี่ 90mAh แต่มันความมีความสามารถที่แรงขับในการทำควัน ด้วยกำลังไฟ 3.7V จึงสามารถตอบสนองแก่คุณได้ทุกความต้องการ
บุหรี่
เรื่องที่ 2 ซึ่งสำคัญมาก คือเรื่องการนับจำนวนครั้งในการใช้งาน จะคิดเป็น % เช่น ใช้ไปแล้ว 50% เมื่อนำมาชาร์จจะยังไม่นับเป็น 1 และสมมุติว่าใช้ไปอีก 50% แล้วนำมาชาร์จ ตอนนี้ถึงจะนับเป็น 1 นั่นหมายความว่า สามารถชาร์จแบตได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องรอให้หมดเกลี้ยง และจะนับเป็น 1 ครั้งเมื่อครบทุก 100%
บุหรี่ไฟฟ้า
อีกทั้งยังมีตัวแทนหลากแบบเพื่อรอ ให้คำชี้แนะคุณ ในพท.ทั่วกรุงเทพ และทั่วทุกภาค
บุหรี่
คงไว้ซึ่งสุนทรีย์ในการสูบและแทนที่บุหรี่จริงได้ เป็นบุหรี่ที่ไม่มีใบยาสูบเป็นสารผสม สิ่งที่ผู้สูบเจ้าบูหรี่ไฟฟ้าจะได้รับมีอย่างเดียวก็คือ สารนิโคติน และสารเคมีโพรไพลีนไกลคอล (PG) ที่เป็นละอองมีลักษณะคล้ายควันบุหรี่ โดยจะบรรจุในรูปแท่ง (cartridge) ควบคุมโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ขนาดจิ๋ว และเทคโนโลยีอะตอม โดยใช้แบตเตอรี่สำหรับอัดไฟไว้ในเครื่องเพื่อใช้งานเมื่อเจ้าของต้องการสูบ ไม่มีกลิ่น ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องลมหายใจ ฟันไม่เหลือง และตัดปัญหาเรื่องควันบุหรี่มือสองได้ นอกจากนี้ บุหรี่ดังกล่าวไม่มีส่วนผสมของสารทาร์ สารพิษ หรือ สารก่อมะเร็งและไม่มีเปลวไฟ ไม่มีสารพิษใดๆ
ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://dannipparn.com/)
Powered by Discuz! X1.5