วัดโมคคัลลานและอุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์
บ.เชิงดอย ม.๓ ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
[พระนอนขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ , พระธาตุเจดีย์]
การเดินทางไปวัดโมคคัลลาน ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (ถนนเชียงใหม่-ฮอด) มุ่งหน้าสู่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านวัดพระธาตุศรีจอมทอง ประมาณ ๔ กิโลเมตร ปากทางเข้าวัดโมคคัลลานอยู่ทางทิศใต้ของอำเภอจอมทอง จะเห็นพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) พระพุทธรูปปางต่างๆ รูปพระพิฆเนศวร และรูปพระเกจิชื่อดังต่างๆ ประดิษฐานอยู่บนดอยค่ะ
อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลาน สร้างเมื่อวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๑ พระครูนิพัทร์ ธรรมทิน ดำเนินก่อสร้าง คุณสุทธิพร คุณเจียมจิตต์ จิราธิวัฒน์ ห้างเซ็นทรัล ประธานอุปถัมภ์ค่ะ
ประวัติพระโมคคัลลานเถระ
ท่านพระโมคคัลลานะ เป็นบุตรพราหมณ์ผู้เป็นนายบ้านชื่อว่า โกลิตะ ตามโคตรแห่งบิดา อีกอย่างหนึ่งเขาเรียกตามความที่เป็นบุตรนางโมคคัลลี ว่าโมคคัลลานะ ท่านเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาแล้ว พวกสพรหมจารีก็เรียกท่านว่า โมคคัลลานะทั้งนั้นฯ ท่านเกิดในตำบลไม่ห่างไกลแต่กรุงราชคฤห์ ได้เป็นสหายที่รักใคร่กันกับอุปติสสมาณพมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เพราะตระกูลทั้ง ๒ นั้นเป็นสหายสืบเนื่องกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษและเป็นตระกูลที่มั่งคั่งสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ และบริวารเสมอกัน ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้ว ได้เล่าเรียนศิลปด้วยกัน แม้จะไปไหนหรือทำอะไรก็ไปกระทำด้วยกัน จนกระทั่งเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาก็บวชพร้อมกัน ต่างกันแต่ว่าได้ดวงตาเห็นธรรมครั้งแรกคนละคราว พึงทราบเรื่องราวตามที่กล่าวแล้วในประวัติพระสารีบุตรเถระ ในที่นี้จะกล่าวตั้งแต่อุปสมบทแล้วไป ฯ
จำเดิมแต่ท่านได้มาอุปสมบทในพระธรรมวินัยนี้ได้ ๗ วัน ไปทำความเพียรอยู่ที่บ้านกัลลวาล-มุตตคามแขวงมคธ อ่อนใจนั่งโงกง่วงอยู่ พระบรมศาสดาเสด็จไปที่นั่น ทรงสั่งสอนแสดงอุบายสำหรับระงับความง่วงมีประการต่างๆ ดังต่อไปนี้
๑. โมคคัลลานะ เมื่อท่านมีสัญญาอย่างไร ความง่วงนั้นครอบงำได้ ท่านควรทำในใจถึงสัญญานั้นให้มาก ฯ
๒. ท่านควรตริตรองพิจารณาถึงธรรม ที่ตนได้ฟังแล้ว และได้เรียนแล้วอย่างไร ด้วยน้ำใจของตัวเอง ฯ
๓. ท่านควรสาธยายธรรมที่ตัวได้ฟังมาแล้ว และได้เรียนแล้วอย่างไรโดยพิสดาร
๔. ท่านควรยอนหูทั้งสองข้าง และลูบด้วยฝ่ามือ ฯ
๕. ท่านควรลุกขึ้นยืนแล้ว ลูบนัยน์ตาด้วยน้ำ เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์ ฯ
๖. ท่านควรทำในใจถึงอาโลกสัญญา คือ ความสำคัญในแสงสว่าง ตั้งความสำคัญว่ากลางวันไว้ในจิต ให้เหมือนกันทั้งกลางวันกลางคืนมีใจเปิดเผยฉะนี้ ไม่มีอะไรห่อหุ้มทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิด ฯ
๗. ท่านควรอธิษฐานจงกรม กำหนดหมายเดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์มีจิตไม่คิดไปภายนอก ฯ
๘. ท่านควรสำเร็จสีหไสยา คือ นอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมกัน มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในอันจะลุกขึ้นไว้ในใจ พอท่านตื่นแล้วควรรีบลุกขึ้น ฯ
ครั้นตรัสสอนอุบายสำหรับระงับความง่วงอย่างนี้แล้ว ทรงสั่งสอนให้สำเนียกในใจต่อไปอีกว่า เราจักไม่ชูงวง (คือการถือตัว) เข้าไปสู่ตระกูลฯ เราจักไม่พูดคำซึ่งที่เป็นเหตุให้เถียงกัน ถือผิดต่อกัน ฯ และตรัสสอนให้คลุกคลียินดีด้วยที่นอนที่นั่ง อันเงียบสงัด ควรเป็นที่หลีกออกเร้นสมณวิสัย ฯ เมื่อตรัสสอนอย่างนี้แล้ว พระโมคคัลลานะกราบทูลถามว่าโดยย่อข้อปฏิบัติเพียงเท่าไร ภิกษุชื่อว่าน้อมไปแล้วในธรรมที่สิ้นตัณหามีความสำเร็จล่วงส่วนเกษมจากโยคธรรมล่วงส่วน มีพรหมจารีบุคคลล่วงส่วน มีที่สุดล่วงส่วนประเสริฐสุดกว่าเทวดามนุษย์ทั้งหลาย ฯ
พระบรมศาสดาตรัสตอบว่า โมคคัลลานะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้สดับแล้วว่า บรรดาธรรมทั้งปวงไม่ควรถือมั่น เธอทราบชัดธรรมทั้งปวงเธอได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นสุขก็ดีเป็นทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี เธอพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง พิจารณาเห็นด้วยปัญญาเป็นเครื่องหน่ายเป็นเครื่องดับ เป็นเครื่องสละคืนในเวทนาทั้งหลายนั้น เมื่อพิจารณาเห็นดังนั้น ย่อมไม่ถือมั่นสิ่งอะไรๆ ในโลก ย่อมไม่สะดุ้งหวาดหวั่น ย่อมดับกิเลสให้สงบได้จำเพาะตัว และทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่จะต้องทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำอย่างนี้อีกมิได้มี ว่าโดยย่อข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แลภิกษุได้ชื่อว่าน้อมไปแล้วในธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา ฯ ท่านพระโมคคัลลานะปฏิบัติตามโอวาท ที่พระบรมศาสดาทรงสั่งสอน ก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหัตในวันนั้น ฯ
ครั้นพระโมคคัลลานะ ได้สำเร็จพระอรหัตแล้ว ท่านได้เป็นกำลังใหญ่ของพระบรมศาสดา ในอันยังการพระพุทธดำริให้สำเร็จเพราะท่านมีฤทธานุภาพมาก จึงได้รับการยกย่องจากสมเด็จพระบรมศาสดาว่า ท่านเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางเป็นผู้มีฤทธิ์ ฯ และยกย่องว่าเป็นคู่กันกับพระสารีบุตรในอันอุปการะภิกษุเข้ามาบวชในพระธรรมวินัย ดังกล่าวแล้วในประวัติท่านพระสารีบุตรว่า พระสารีบุตรเปรียบเหมือนมารดาผู้ยังบุตรให้เกิด โมคคัลลานะเปรียบเหมือนนางนมผู้เลี้ยงทารกที่เกิดแล้ว สารีบุตรย่อมแนะนำให้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล โมคคัลลานะแนะนำให้ตั้งอยู่ในคุณเบื้องบนที่สูงกว่านั้น ฯ
ด้วยเหตุนี้จึงมีคำยกย่องว่าพระสารีบุตรอัครสาวกฝ่ายขวา พระโมคคัลลานะเป็นพระอัครสาวกฝ่ายซ้าย ฯ พระธรรมเทศนาของพระโมคคัลลานะไม่ค่อยจะมี ที่เป็นโอวาทให้แก่ภิกษุสงฆ์ก็มีอนุมานสูตร ว่าด้วยธรรมอันทำให้คนเป็นผู้ว่ายากหรือง่าย ที่พระธรรมสังคาหกาจารย์ร้อยกรองไว้ในในมัชฌิมนิกาย ฯ พระโมคคัลลานะเข้าใจในนวกรรมด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อ นางวิสาขามหาอุบาสิกา สร้างบุพพารามที่กรุงสาวัตถี พระบรมศาสดารับสั่งให้ท่านเป็นนวกัมมาธิฏฐายี คือ ผู้ดูแลนวกรรม ฯ
ท่านพระโมคคัลลานะ ปรินิพพานก่อนพระบรมศาสดา มีเรื่องเล่าว่าครั้งเมื่อท่านพำนักอาศัยอยู่ ณ ตำบลกาฬศิลา แคว้นมคธ พวกเดียรถีย์ปรึกษากันว่า บรรดาลาภสักการะทั้งหลายที่เกิดขึ้นแก่พระบรมศาสดาในครั้งนี้ ด้วยอาศัยพระโมคคัลลานะ เพราะท่านสามารถไปนำข่าวในสวรรค์และนรกมาแจ้งแก่มนุษย์ ชักนำให้เกิดความเลื่อมใส ถ้าพวกเรากำจัดพระโมคคัลลานะเสียได้แล้ว ลัทธิฝ่ายของพวกเราก็จักรุ่งเรืองขึ้น ฯ เมื่อปรึกษากันดังนั้นแล้ว จึงจ้างโจรผู้ร้ายให้ลอบฆ่าพระโมคคัลลานะ ฯ
ตามตำนานท่านกล่าวว่า เมื่อโจรจะมาคิดทำร้ายฆ่าท่านพระโมคคัลลานะแจ้งเหตุนั้นจึงหนีไปเสียถึง ๒ ครั้ง ครั้งที่ ๓ ท่านพิจารณาเห็นว่ากรรมตามทัน จึงไม่หนี พวกโจรผู้ร้ายทุบตีจนแหลกสำคัญว่าตายแล้ว จึงนำสรีระของท่านไปซ่อนไว้ในพุ่มไม้แห่งหนึ่งแล้วพากันหนีไป ฯ ท่านพระโมคคัลลานะยังไม่ถึงมรณะ เยียวยาอัตภาพให้หายด้วยกำลังฌานแล้ว เข้าไปเฝ้าสมเด็จพระบรมศาสดา ทูลลากลับมาปรินิพพาน ณ ที่เดิม ในวันดับแห่งกัตติกมาสภายหลังพระสารีบุตรปักษ์หนึ่ง พระศาสดาได้เสด็จไปทำฌาปนกิจแล้วรับสั่งให้เก็บอัฐิธาตุมาก่อพระเจดีย์ที่ซุ้มประตูแห่งเวฬุวนาราม ฯ
รูปพระพิฆเนศวร อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลาน ค่ะ
ห้องใต้องค์พระพุทธมงคลประทานพร (พระนอนปางไสยาสน์) อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลาน ค่ะ
พระพุทธรูปปางทุกรกิริยา อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลาน ค่ะ
รูปพระแม่ธรณี อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลาน ค่ะ
พระพุทธรูปปางประทานพร อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลาน ค่ะ
พระพุทธรูป ประดิษฐานภายใน ห้องใต้องค์พระธาตุเจดีย์ อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลานอุทยาน ค่ะ
ลานพระแสดงธรรม อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลานอุทยาน ค่ะ
พระพุทธรูปประจำวันเกิด และพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประดิษฐานภายใน ศาลาการเปรียญ อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลานอุทยาน ค่ะ
รูปจำลองฟักทอง ภายใน อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลานอุทยาน ค่ะ
รูปจำลองหนีเสือปะจระเข้ ภายใน อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลานอุทยาน ค่ะ
รูปสัตว์จำลองต่างๆ เช่น ไดโนเสาร์ สิงห์กิเลน ยีราฟ ภายใน อุทยานพุทธสถานสุทธิจิตต์ วัดโมคคัลลานอุทยาน ค่ะ
วัดเป็นสถานที่สำหรับสร้างบุญกุศล
เป็นที่ให้ปัญญา ความสงบร่มเย็น และความสุขทางจิตใจ
"มีเงินล้นฟ้า ไม่เท่าค่าของคน"
ยินดีต้อนรับสู่ แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" (http://dannipparn.com/) | Powered by Discuz! X1.5 |