- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2009-1-19
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2024-9-18
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 200
- เครดิต
- 20
- โพสต์
- 460
- สำคัญ
- 8
- UID
- 2
|
8 p5 }5 x) J! ~4 q) {
) `) Y8 ~# w) \# T% t) Dอย่างที่เคยได้กล่าวใว้แล้วว่าบุญเกิดจากการทำ ทาน ศีล และ ภาวนา วันนี้เราจะพูดถึงเรื่องการภาวนาโดยการสวดมนต์ว่า สวดอย่างไรให้เกิดบุญมากที่สุด ...
1 `. c1 K( ]- x& v3 N/ Z: w! v( @: u; O5 q7 B
ในการสวดมนต์นั้น จิตต้องนิ่ง และสวดมนต์ให้ต่อเนื่องเป็นทำนอง และสวดแล้วไม่เหนื่อย มีความอิ่มอกอิ่มใจเมื่อขณะสวด และจิตน้อมนึกถึง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ให้เอาจิตน้อม และตั้งใจสวดมนต์จนระดับสมาธิ เข้าถึงอุปจารสมาธิ อันนี้ถือว่า ถ้าเกิดสภาวะอุปจาระสมาธิ แล้วจะทำให้การสวดมนต์นั้นเกิดพลังอำนาจและ ไม่อิ่มไม่เบื่อ สวดได้เรื่อยๆ ยิ่งสวดยิ่งสบายใจเบา กายเบาใจ แบบนี้ เพราะอาการของ อุปจารสมาธิ ประกอบไปด้วย วิตก วิจารย์ ปิติ สุข ถ้าเกิดสภาวะแบบนี้เรียกว่า อุปจาระสมาธิ เริ่มจาก การสวดแบบตั้งใจ คือ สวดถูกต้อง และเป็นทำนอง ถ้าสวดเป็นทำนอง จะไม่เหมือนการอ่าน ถ้าสวดแบบอ่านจะเหนื่อย แต่ถ้าสวดเป็นทำนองจะไม่เหนื่อยและเร็วนิ่งกว่าสวดแบบอ่าน ถ้าทำแบบนี้ได้ จิตจะไม่วอกแวกคิดเรื่องอื่น คิดแค่ว่าเราสวดถูกต้องไหม ทำนองได้ไหม เหนื่อยไหมเวลาสวด แบบนี้เรียกว่า สภาวะ วิตก วิจารย์ เกิดแล้ว คือ คิดพิจารณาแต่เรื่องสวดมนต์ โดยจิตไม่สนใจเรื่องอื่น แบบนี้ วิตก วิจารย์ เกิด เมื่อวิตกวิจารย์เกิดแล้ว สภาวะต่อไปจะตามมาคือ ปิติ คืออาการทางกาย เมื่อเกิดแล้วจะเกิดการสบายทางการเช่น ขนลุก ขนชัน น้ำตาไหล ชุ่มกาย เหมือนมีน้ำมารดกาย เปียกไปหมด หรือ ตัวเบาเหมือนจะลอยไปไหนๆ บางทีก็ตัวใหญ่ หรือ เกิดอาการโยกโครงเครงไปมา แบบนี้เรียกว่า กายเข้าสู่สภาวะปิติ หรือ เรียกว่า พระปิติ ทั้ง 5 อย่าง เมื่อสภาวะปิติเกิด สภาวะต่อไปที่จะมา คือ สภาวะสุข อันนี้หละ จะทำให้ การสวดมนต์มีอัธรสมาก คือ ยิ่งสวดยิ่งอิ่มอกอิ่มใจ สบายมากๆ อย่างบอกไม่ถูก อันนี้ จิตเป็นสุข เมื่อสภาวะสุขเกิด มันก็เหมือนมีกระแสแผ่ซ่ายออกมาจากร่างกาย เย็นสบายทั่วกาย ไม่เมื่อย ไม่เหนื่อย แทบไม่อยากจะขยับกาย อยู่ในท่านั้น ได้นานเท่าที่ต้องการ ถ้าเกิดสภาวะแบบนี้ เราวัดได้เลยว่า บุญกุศลที่เกิด จะเต็มที่มากในการสวดมนต์มากกว่า สวดธรรมดา และไม่เกิดสภาวะอุปจารสมาธิ ...
) R( f5 J1 a+ `3 {1 D4 @6 F
! c0 r6 l# U' |: Jส่วนใหญ่พอสวดมนต์เสร็จจะต่อ ด้วยการนั่งสมาธิทันที จะทำให้เข้าถึงความนิ่งในระดับ ฌาน ได้ เพราะ ตัวฌานเกิด คือ ตัว เอกคัตตา ตัวเดียว คือตัวนิ่งในอารมณ์ ....
. h; ?. @9 A+ @2 ~( K" O* w# P5 p1 n" Q9 Z$ h5 D" m. _' n
หลังจากทำการสวดมนต์ จนเกิดสภาวะจิตเต็มที่ แล้วให้ทำการ กรวดน้ำและแผ่เมตตา ด้วยบท อิมินา... $ a* f! a3 t9 z
7 }* ?# \; S" M- ?# w, t! M: Q7 Z- yตั้งแต่ ขอให้เทวดาทั่วทั้งจักรวาล จงมีความสุข และตัวเราเองจงมีความสุข และให้เจ้ากรรม และนายเวรจงมีความสุข8 } d0 l+ o4 T- V' _4 ?
% W$ Q& Y' G- u- a5 V4 K# n
... ยิ่งทำทุกวันจิตจะเกิดพลัง และบุญกุศลจะเพิ่งมากยิ่งขึ้น ความคล่องตัวจะเกิดมาก เพราะได้พลังเทวดาช่วย ทั้งในเรื่องหน้าที่การงาน และลาภต่างๆ5 L* {8 V1 i2 d2 Z( K: i" o$ B
* w) ^# b3 U9 k; y$ b
โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน H, o1 q9 V! a$ B0 ? d9 v
- W* n. c6 Q$ q' g' F9 Hเอวังโหนตุ ...
0 r! w0 C& W# V. B |
ไฟล์แนบ: คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีแอคเคานต์หรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาสมัครสมาชิก
|