เรื่องขำๆ ที่นั่งคุยเล่นกันในห้องเรียน

เรื่องขำๆ ที่นั่งคุยเล่นกันในห้องเรียน0 t5 ~0 x$ e! i3 J  m2 e

3 z/ c4 n6 e7 r4 M7 d6 Yมีครั้งหนึ่งอาจารย์วิเชียรนั่งคุยเล่นกับพวกลูกศิษย์พลังจิตในห้องเรียน บอก.. นี่ลูกศิษย์รู้ไหม เมื่อหลายปีก่อน ตอนอาจารย์มีเว็บไซต์ครั้งแรกนะ เว็บอาจารย์ถูกคนด่าเละเลยว่ะ มันเป็นกรรม อาจารย์รู้ อาจารย์สั่งพวกลูกศิษย์ทุกคนเลยนะ ถ้ามีใครมาด่าอาจารย์ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ อย่าไปแก้ต่างให้ เขาไม่รู้ เขาไม่เชื่อ ก็ช่างเขา อย่าโกรธแทนอาจารย์ ทำใจให้ว่าง ปล่อยให้เขาด่าไป ให้เขาด่าให้พอใจ เขาเหนื่อยเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็เงียบไปเอง...5 S4 q( o. K7 I' X- |

* l: j! _& x6 P% H0 k& C; R8 y"พวกของปลอมเขาดังเร็ว ดับเร็ว แต่ถ้าเป็นของจริงจะดังช้า แต่ดังถาวร.... "
4 P" V4 }! c  N$ _7 h8 V' V1 v, i9 g1 b1 h& P5 {0 M
ถ้าพอมีเวลาว่างบางครั้งอาจารย์จะเข้าดูเว็บต่างๆ และนั่งอ่านคอมเม้นต์พวกที่ชอบตามด่าอาจารย์ แล้วก็เอามาเป็นมุขตลกนั่งคุยเล่นกันกับพวกลูกศิษย์ในห้องเรียน& W. l/ E/ m+ i; h3 P3 I3 L
$ G; d, ?& B- C) t( V) ]
ระหว่างที่นั่งเรียน จิตลูกศิษย์ใครคิดอะไรอยู่ ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี หรือเรื่องฟุ้งซ่านไร้สาระ อาจารย์จะพูดประจานออกไมค์ทันที เพื่อให้เกิดความอาย และจะได้ไม่คิดอะไรที่ไม่ดีในสมองอีก
& i' r8 l% M; n. w; Y9 X8 b& x) ?' I& `3 F$ `& m
พวกลูกศิษย์ที่อยู่กับอาจารย์มานานทุกคน จะรู้กันว่า ไม่ว่าจะในเวลาเรียนหรือนอกเวลาเรียน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ห้ามคิดอะไรที่มันไม่ดีเด็ดขาด ไม่งั้นจะถูกอาจารย์เอามาพูดประจานในห้องเรียน
# D4 q  {7 C$ o/ b
5 B+ ^" W/ t1 o5 zเรื่องหูทิพย์นี่อาจารย์ไวมาก คิดอะไรในใจ อาจารย์รู้หมด มีครั้งหนึ่งมีป้ามารอรักษาอาการป่วยกับอาจารย์ ระหว่างที่เข้าคิว ป้าแกก็นั่งด่าอาจารย์ในใจไม่หยุด ด่าไปเรื่อยๆ   x( b* r7 P$ |! N: Q
. F2 \" G% l, Z% \$ Y1 ~  F/ M
นานเข้า อาจารย์ชักทนไม่ไหว บอกกับพวกลูกศิษย์ "ป้าแกด่าในใจ แต่สำหรับอาจารย์ เสียงมันดังเหมือนเสียงตะโกนจ่อด่าข้างหู" 9 Y. g% v/ n4 a) i9 Y4 R8 M2 k

2 d9 v: g, ^8 {8 V4 uอาจารย์เลยหันไปมองหน้าป้า พูดตรงๆ "แกด่าฉันแบบนี้ๆๆๆใช่ไหม จะด่าฉันทำไมเนี่ย หยุดด่าหน่อย มันกวนสมาธิฉัน" อาจารย์พูดตรงๆ ป้าแกก็ทำหน้างง และยอมรับว่าด่าอาจารย์ในใจตามนั้นทุกอย่าง5 ?/ n3 d$ G" M4 T$ P, T
( B; `& A! k; W! y( W

7 k9 R9 X, z5 {# [: C-------------------------------------------------------------( \1 o# d* K- o* J9 U

1 f6 U; n5 a# _& t
" X3 Y* Z! E( x+ ]0 L+ B! @2  วิชาที่อาจารย์ถนัดสอนมากที่สุด คือ "เจโตปริยญาณ"(การหยั่งรู้จิตใจผู้อื่น) กับ "บุพเพนิวาสานุสสติญาณ"(ดูอดีตชาติของผู้อื่นได้) เพราะสามารถใช้หากินได้ คือ เป็นหมอดูหาเงินเลี้ยงตัวตอนแก่ได้
% G4 P- o! ~4 p. m% E! d7 r8 U# c) k1 g& z- f" Z

! V- k* j5 l4 Q/ F( Uแต่ถ้าลูกศิษย์อยากจะช่วยคนด้วยการรักษาก็ควรฝึกให้ได้ถึงอภิญญา 5  3 H0 M) U  O1 T. r3 Z0 U8 u& t5 w
# P: ^  c" m* d

5 u9 D, q3 n/ h" l& [อภิญญา 5 จะยากแค่ตอนแรก ต้องไต่ระดับไปให้ถึงสมาบัติ 8 แต่ทำได้แล้วก็สบาย อยากจะเปลี่ยนดวงตัวเอง หรือดวงคนอื่นให้เป็นแบบไหนก็ทำได้ ใครที่อยากจะทำให้ได้แบบอาจารย์ก็ต้องตั้งใจฝึกให้ถึง จำไว้อภิญญา 5 น่ะโครตง่ายเลย ถ้ารู้เทคนิค กลับไปบ้านตั้งใจฝึกตามที่อาจารย์บอก (อาจารย์พูดเหมือนง่าย แต่มีหลายคนในห้องเรียนนั่งมองหน้ากัน ถอนหายใจ เฮ้อ.......  แล้วสักพักก็นั่งหัวเราะกันคิกคัก ส่วนอาจารย์กลายเป็นฝ่ายนั่งเอามือกุมขมับ)* f: h  x  |" R% }1 v; q4 ^) S( K

/ _, ~% ]# y' M" c3 ?4 }7 g& A
0 R: x# e& z3 m+ P: l# [7 |-------------------------------------------------------------
8 W1 \3 c! ?! s( _* T# E9 h) j9 V- n$ n3 ?+ ~/ |- a
) I  Y! @% U) A
ครั้งหนึ่งในห้องเรียนพลังจิต จู่ๆอาจารย์ก็หยุดสอนต่อ บอก.... ขี้เกียจสอนล่ะ เสนอขายของเลยดีกว่า พวกลูกศิษย์ก็นั่งมองหน้ากัน งง ไม่รู้ว่าวันนี้อาจารย์จะมามุขไหน
# F! |) Q! n( \$ b
4 J. Z/ Y, ]# J: n2 {2 B- Z* Hอาจารย์บอก วันนี้จะมาเสนอขายเครื่องแปลภาษา ติดตั้งใส่หัวสมองแล้ว จะทำให้ฟังภาษาเทวดา ภาษาพรหมได้ ใครรู้บ้างภาษาพรหมเป็นแบบไหน? อาจารย์ถาม ลูกศิษย์ก็มองหน้ากัน แล้วส่ายหน้าหงึกๆ อาจารย์บอกภาษาพรหม จะเสียงคล้ายๆ ลมเป่าหู เป็นเสียงฟา ซาเบาๆ พวกพรหม มักมจะชอบติดต่อกับมนุษย์ที่นั่งสมาธิ แต่มนุษย์มักแปลภาษาพวกเขาไม่ออก และเข้าใจว่ามีลมเข้าหู ดังฟี่ ฟา คันหูยิบๆๆ อาจารย์จะเสนอขายเครื่องแปลภาษาให้ ใช้งานได้เลยนะ ติดตั้งให้พร้อม สนใจไหมลูกศิษย์!
! W* F& P! H# `% ^. k6 s
$ D  N; R4 {: V6 _2 s. b9 Wเรากับเพื่อน และลูกศิษย์หลายคนพยักหน้าหงึกๆ อยากได้เครื่องแปลภาษาบ้าง
- O6 f# K4 Q; y& R) q# D, ~& p* V* J3 |& t
* P% h0 p, o$ iแล้วอาจารย์ก็เล่าสรรพคุณของเครื่องแปลภาษาต่อ.. เครื่องนี้มันแปลภาษาได้ทุกภาษาเลยนะ แม้แต่เสียงของนก หรือเสียงของปลาดุก -*- 7 m4 o9 d6 R8 u0 a5 w% {
' D$ ^5 a' F" h9 ]
อาจารย์เล่าต่อ.... เนื่ยมีปลาดุก 2 ตัวในร่องน้ำใกล้ห้องเรียน(เป็นปลาดุกที่อาจารย์เลี้ยงไว้ในร่องน้ำ เวลาอาจารย์ให้อาหารมันจะว่ายมาให้ลูบตัวเล่นได้ง่ายๆ) ....ปลาดุกมันกำลังคุยกัน มันนัดกันว่าจะว่ายไปคุยกันต่อที่ข้างห้องอาจารย์เผด็จ ใกล้หน้าทางเข้าอโรคยา แล้วอาจารย์ก็สั่งให้ลูกศิษย์ออกไปจับปลาดุก 2 ตัวนั้นมา (อาจารย์ยืนคุม) เอาสีสเปรย์พ่นใส่หลัง แล้วสักพักก็ปล่อยลงน้ำ
+ w" k( c1 k4 q& A5 V* j, f
4 r5 n: s: F! |7 a0 I+ Rแล้วลูกศิษย์ก็วิ่งรีบไปดักรอดูผลงานที่ร่องน้ำข้างห้องอาจารย์เผด็จ ปรากฏว่าปลาดุก 2 ตัวเดินที่พ่นสีไว้ที่หลังมันว่ายมาอ้าปากพะงาบๆ คุยกันที่ร่องน้ำข้างห้องอาจารย์เผด็จจริงๆ..& Q+ P* e& T! Q; z+ R: l
+ ?6 q% a) J2 T8 ]/ V
อาจารย์เล่าจบแล้วก็ถาม.. เอาล่ะ ใครอยากได้เครื่องแปลภาษาของอาจารย์บ้าง...
. m$ I7 R. g5 w  S: J
2 Z3 X+ w  v5 }3 M(ลูกศิษย์ทั้งห้องยกมือ)
, u& ]8 z5 p( x  v4 h. w* O& K; a! o! T* F/ Z1 U6 X1 b+ f
อาจารย์พูดต่อ เครื่องแปลภาษาอาจารย์ขายไม่แพง... แค่เครื่องละ 1 แสนบาท ใครอยากได้ยกมือขึ้น เดี๋ยวติดตั้งให้ตอนนี้เลย ! x; D; t( I& M% J  ?

, u) ?4 I: d/ Y. W* x(ลูกศิษย์เงียบกริบ!!! มองหน้ากัน ไม่มีใครยกมือ )/ r8 h$ [( G, h) H) d6 a

+ o5 u3 i- P" D* P7 y" X; l+ s1 f! @อาจารย์เลยถอนหายใจ แกล้งทำคอตก ทำหน้าผิดหวัง แล้วก็เริ่มสอนเรื่องประโยชน์ของ "เจโตปริยญาณ" ให้ลูกศิษย์ในห้องเรียนฟัง.....$ @8 B8 E9 I7 h  C& Z6 Y! i
+ F, ~0 j. [% a. L" B7 g

ขอบพระคุณอาจารย์สำหรับธรรมทานค่ะ  

หุหุ สาธุๆ อนุโมทนาครับ

อยากได้เครื่องแปลภาษา...จัง