- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2009-1-20
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2017-1-4
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 150
- เครดิต
- 0
- โพสต์
- 131
- สำคัญ
- 0
- UID
- 5
|
ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะคิดว่าเป็นพวกหน้าม้า แต่พ่อเราพาน้าผู้หญิงไปเข้ารับการรักษา น้าของเรามีอาการปวดเข่าเรื้อรังมานานกว่า 5 ปี บางครั้งปวดมากจนร้องไห้ เพราะถึงปวดก็ยังต้องออกไปขับรถส่งของให้เจ้านาย 2 k* ?" n! M2 O- X/ k
พอให้อาจารย์วิเชียรตรวจ ท่านบอกว่ามีพังพืดเกาะที่เข่า เดี๋ยวจะช่วยดึงออกให้ แล้วก็พูดนิดหน่อยเกี่ยวกับนิสัยน้าที่เป็นคนปากไว มักพูดอะไรไปก่อนโดยไม่คิด แล้วอาจารย์ก็บอกให้น้าปรับปรุงตัวใหม่ น้าก็ยอมรับจะว่าทำตามที่อาจารย์แนะนำ
3 B- q$ d! O/ `9 \3 I
: Y& A* j. C( \) Y& @! Lจากนั้นอาจารย์ก็ให้น้าผู้หญิงของเราจับเอามือเข่าตัวเองทั้ง 2 ข้าง (อาจารย์นั่งอยู่บนโต๊ะที่หน้าห้อง พูดไมค์) ส่วนน้าเรานั่งอยู่กลางห้อง ท่ามกลางผู้เข้าร่วมกิจกรรมคนอื่นๆ แล้วอาจารย์ก็บอกให้หลับตา เอามือกลึงเข่าตัวเองไว้ ถ้าอาจารย์สั่งให้หยุดเมื่อไหร่ก็ให้ลองลุกเดิน 0 ?, m. V' g7 X
8 L" b* i3 Q5 z9 d' o7 Cอาจารย์นิ่งไปประมาณ 5 วินาทีได้ ก็สั่งให้หยุด พอน้าเราลุกขึ้นทดสอบเดินไป-เดินมา ทดลองนั่งย่องๆ ปรากฏว่าอาการปวดเข่าหายไปเป็นปลิดทิ้ง ไม่มีเหลือปรากฏอยู่เลย- _$ H8 p/ F2 m! F8 n
' N5 T1 T7 @* F: h2 x dปัจจัยหลักที่ทำให้อาจารย์รักษาคนไม่หาย... คือความเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ ไม่มี
2 s9 ^7 c' K4 r' X, C U8 I! ]0 K / C p, @, M1 t4 d0 d- K9 a
อาจารย์เล่าว่าทุกคนล้วนมีพลังจิตในตัว และพลังจิตของแต่ละคน ก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อตัวคนๆนั้น ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อาจารย์รักษาคนไม่หายคือ เมื่อรักษาจนหายให้แล้ว(ดึงเชื้อโรคออกจากร่างกายหมดแล้ว) แต่คนๆนั้นยังคิดว่าตัวเองป่วยอยู่ ไม่มีวันหายแน่ๆ และความคิดนี้เองจึงทำให้เขาป่วยตลอดเวลา และสุดท้ายก็กลายเป็นป่วยจริงๆ และเสียชีวิตไปในที่สุด!!! คนที่อาจารย์จะรักษาให้หายได้ 1. ต้องเป็นคนดีต่อสังคม 2. เจ้ากรรมนายเวรปล่อย 3. เชื่อมั่นในการรักษาของอาจารย์ และหลังจากรักษาให้แล้ว ก็ควรเปลี่ยนนิสัยที่แย่ๆของตัวเองใหม่ หมั่นทำบุญกุศล ไม่ประมาทในชีวิต หมั่นออกกำลังกาย ใส่ใจสุขภาพให้มาก กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนด้านจิตใจก็ให้เปลี่ยนความคิด เปิดวิสัยทัศน์ให้กว้าง ไม่ใช่คิดแต่เรื่องร้ายๆใส่ตัวเอง ทำไมเกิดมาอาภัพ ทำไมเกิดมาเจอแต่เรื่องซวยๆ ทำไมป่วยเรื้อรังไม่หายสักที สงสัยต้องรับกรรมไปจนตาย ฯลฯ คนพวกนี้รักษาไปก็เหนื่อยฟรี เพราะถึงรักษาดึงโรคออกให้ เดี๋ยวก็กลับไปได้ไม่นาน ก็ป่วยหนักกลับมาให้รักษาใหม่อีก เพราะพลังจิตของตัวเอง(ผู้เข้ารับการรักษา) มันสั่งย้ำทุกวัน ทุกชั่วโมงๆ ทุกนาที ทุกวินาที ว่าตัวเองยังป่วยหนักอยู่
4 H! X* r* y; Y( i$ }
+ C% R/ X3 }& S- S" T1 M$ I) I" O/ eการคิดว่าตนเองไม่มีวันหายจากโรคร้าย จะส่งผลให้พลังจิตใต้สำนึกของตัวผู้ป่วยเอง เป็นตัวการดึงเชื้อโรคชนิดนั้นๆ วิ่งเข้าสู่ตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัว และช่วยซ้ำร้ายให้ตายเร็วขึ้น
8 x( M, Z, U& K6 s+ j
2 q$ T! y$ o- b* e
6 q5 Z) I8 |0 x2 j! @9 Cทุกวันนี้เรายังคอยถามน้าของเราเรื่อย ว่าปวดอีกไหม? น้าเราก็ส่ายหน้าให้ทุกครั้ง บอก.. ไม่ปวดแล้ว ทุกวันนี้นั่งได้ปกติ เดินก็ไม่ปวด เราถามย้ำว่าจริงๆนะ ไม่มีอาการปวดเลยเหรอ น้าก็บอกจะโกหกทำไม ก็มันไม่ปวดแล้ว ตั้งแต่วันที่อาจารย์รักษาให้ก็ไม่มีอาการปวดอีกเลย" q1 k8 |+ R4 U- h; k
2 T" C: {: _6 h
: `5 B7 _, r# V0 z2 @6 D |
|