แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 5491|ตอบ: 4
go

อาจารย์ อธิษฐานจิต รักษา มะเร็งตับ ระยะสุดท้าย [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1


% k: h: T/ t0 p0 J6 [0 ~" ?; _* m* Z, K( h% m9 B
ตอนวันศุกร์เรียนอภิญญาแล้วได้ข่าวว่าวันเสาร์จะมีพิธี พลังจิตพิชิตกรรม รอบ 2 ที่ตกค้างจากรอบแรก เลยสนใจเผื่อว่างาน นี้จะได้รู้อะไรดีๆ เท่าที่ผ่านมาอาจารย์ยังไม่ได้แสดงความสามารถด้านพลังจิต อภิญญาแบบจะๆ ให้ชมเท่าไหร่ เลยอยากขอชมสักครั้ง ก็อธิษฐานในใจว่าอยากให้ อาจารย์ทำให้เชื่อมั่นสักหน่อย พอดีวันนั้นก็มีการใช้พลังจิตพิชิตกรรม และมีสถานีช่องใหม่มาขอถ่ายทำเอาไปลงทีวี แล้วมีอยู่เคสหนึ่ง เขานั่งด้านหลังสุดอาจารย์ชี้ตัวให้ลุกขึ้นว่า รำคาญเมียเอ็งไหม จู้จี้ พูดมาก ขี้บ่น ยอมรับไหม เขาก็ยอมรับ แล้ว อาจารย์ก็ถามว่า เอ็งเชื่อมั่นอาจารย์ไหม คนนั้นที่ยืนอยู่บอกว่าเชื่อมั่น 100% ครับ อาจารย์ถามว่าทำไมเชื่อมั่น เขาบอกว่าตอนที่เจออาจารย์ครั้งแรก ที่นอกห้อง อาจารย์ทักโรคเขาถูกหมดเลย ตอนนั้นผมหันไปมองคนนั้น หน้าตาเขาเหมือนคนดวงตกมาก คือไม่สดเชื่อเหมือนคนธรรมดาเลย พอมารู้ว่าคนนี้เป็น มะเร็งตับระยะสุดท้าย และหมอไม่เอาแล้ว และทานอะไรไม่ได้แล้ว รอวันนับถอยหลัง ... # }, b$ t( m5 O( |; _+ B& K
' [( U. K) a, M+ A6 P9 o
เอาหละสิ คงมีเรื่องตื่นเต้นให้ได้ติดตามอีกแน่ พออาจารย์ถามคนั้น เขาบอกว่าเชื่อมั่นอาจารย์มาก ทีนี้อาจารย์ก็พูดอย่างหนักแน่นว่า อยากให้หายจากโรคไหม เขาบอกว่าอยากหาย อาจารย์ก็หลับตานิ่งสักพักก็ บอกว่างั้น จะทำให้หาย แล้วอาจารย์ก็ เขียนจุดตรงกระดาษเป็นจุดแดงๆ ตรงกลางกระดาษA4 แล้วอาจารย์ก็' h% {- y% r& e0 e# F/ \
บอกคนนั้น บอกว่า ให้เอาตาจับจ้องที่จุดแดงๆ บนกระดาษนี่นะ ทันทีที่อาจารย์ฉีกกระดาษเอ็งจะหายจะโรคทันที!!! ...
6 y: f2 i" |3 ^3 I: ]& y* Y9 U5 _9 k3 L6 A3 y! U5 |! k/ d
ทันทีได้ยินแบบนี้ ผมเอง ตื่นเต้นแทนคนที่อาจารย์รักษาเลยว่า เอาหละวันนี้ได้ชมของจริงเป็นบุญตาเลยแน่ๆ ... พออาจารย์ เพ่งพลังจิตแล้วให้คนที่เป็นโรคมองที่จุดแดงๆ ตรงกลางกระดาษ ทันทีที่อาจารย์ฉีกกระดาษ อาจารย์ก็บอกว่า ไอ้หนูไปตรวจกับเครื่องที่ อโรคยาได้เลย ถ้าพบเซลมะเร็งสักเซลหนึ่ง% w$ r- x* [( B" `8 C
กูให้มึงเลยเซลละล้าน!!! ... - F+ Z$ d: N2 R9 ^
  H( X; Y9 p- ~" I2 W8 s3 W
พอเลิกจากห้องกิจกรรม พลังจิตพิชิตกรรม แล้วพวกผมก็ติดตามคนที่เป็นมะเร็งตับระยะสุดท้ายไปยังห้องแสกนร่างกายคนนั้นยังเอาใบที่โรงบาลตรวจพบว่าเป็นมะเร็งในตับระยะสุดท้ายมาด้วยมายืนยัน ตอนนี้ตื่นเต้นมา แต่รอคิวคนอื่นอีก 2 คน ผมเองก็รอจนดึกเลย  แต่ก็คุ้มค่าเพราะพอคนนั้นเข้าตรวจกับเครื่อง แสกนช่วงตับเลยปรากฏว่า ตับปกติไม่มีเซลมะเร็งเลย ทำให้อึ้ง!!! ว่านี่หละของจริงพลังจิตในการรักษาโรค % y5 e  B9 W" _, v5 r

9 N% |5 Q3 r' B& U( A" Rผู้ชายคนนั้นและแฟนเขาพอผลตรวจออกมาไม่เจอมะเร็งเขาดีใจ หน้าตาเขาเปลี่ยนไปจากเดิม เขาบอกว่าตอนแรกเขาปลงตกแล้ว แต่เขายังไม่อยากตาย เพราะเขาห่วงลูกๆที่ยังเล็ก หลังจากที่อาจารย์รักษาจนหายแล้วเขาก็เดินไหว้กราบขอบพระคุณสิ่งศักสิทธิ์ในอโรคยา ผมเองมองตามผู้ชายคนนั้นพร้อมความปิติยินดี และการทำความดีอันยิ่งใหญ่ของท่านอาจารย์วิเชียร อยู่เกตุ ว่านี่แหละคือแนวทางการใช้อภิญญาที่มีประโยชน์ และได้บุญกุศล มากว่าจะเอาไปเล่นฤทธิ์จนหลงในฤทธิ์ แล้วยังต้องโง่มาวนเวียนเกิดในวัฏฏะสงสารอีก ...* w0 q% x' f0 v6 [7 s3 S

0 I, y# k5 }7 n5 qตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาความสงสัยในพลังจิตของอาจารย์วิเชียร ไม่มีในจิตใจอีกเลย มีแต่เชื่อมั่นว่าเราได้เจอของแท้เข้าให้ นักพลังจิตอันดับ 8 ของโลก และอันดับหนึ่งในไทย!!! ... ตอนนี้ต่อไปเราจะตั้งใจเรียนอภิญญาเพื่อเอาความรู้ไปช่วยคน เหมือนอาจารย์ได้ช่วยคนมา สามแสนกว่าคน ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ เรียกว่า "แพทย์หมดทางเลือก" ...
4 t3 P3 Z2 U- p% c
ไฟล์แนบ: คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีแอคเคานต์หรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาสมัครสมาชิก

Rank: 8Rank: 8

โมทนาบุญกับแนวทางของพี่ธนาค่ะ แล้วก็ชอบแนวทางการช่วยเหลือคนของอาจารย์วิเชียร ที่ท่านได้อภิญญาแล้วเอาไปใช้ประโยชน์เพื่อช่วยเหลือคนหมู่มากด้วยค่ะ ในยุคนี้ถ้าได้อภิญญาแล้ว เหาะเหินเดินอากาศเล่นฤทธิ์เฉยๆ ก็เสียดายความสามารถที่ได้มาเปล่าๆ กว่าจะฝึกได้ก็ต้องใช้เวลามาก พอจะใช้ประโยชน์ที่ได้ก็อายุมากแล้ว เสียดายเวลาสร้างบารมี เพราะมีประโยชน์ต่อตนเอง ต่อส่วนรวม ต่อพระศาสนาน้อย ดีใจที่พี่ธนาเจอแนวทางของตนเอง ขอให้พี่ธนาสมปรารถนาในสิ่งที่ตั้งใจนะคะ  น้องสาวโมทนาสาธุ ค่ะ
บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 1

บอกได้คำเดียวเลยว่า..สุดยอด อันดับแปดของโลก อันดับหนึ่งในไทย..สาธุกับอ.วิเชียร และยินดีล่วงหน้ากับความสำเร็จของพี่ธนาด้วยนะคะ..สาธุค่ะ

Rank: 1

ยินดีและโมทนาสาธุกับทุกบุญกุศลของอ.วิเชียร อยู่เกตุด้วยค่ะ สาธุๆๆ

Rank: 8Rank: 8

ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะคิดว่าเป็นพวกหน้าม้า แต่พ่อเราพาน้าผู้หญิงไปเข้ารับการรักษา น้าของเรามีอาการปวดเข่าเรื้อรังมานานกว่า 5 ปี บางครั้งปวดมากจนร้องไห้ เพราะถึงปวดก็ยังต้องออกไปขับรถส่งของให้เจ้านาย & s. x: Q+ ]8 A5 t  O' m: U  B
พอให้อาจารย์วิเชียรตรวจ  ท่านบอกว่ามีพังพืดเกาะที่เข่า เดี๋ยวจะช่วยดึงออกให้ แล้วก็พูดนิดหน่อยเกี่ยวกับนิสัยน้าที่เป็นคนปากไว มักพูดอะไรไปก่อนโดยไม่คิด แล้วอาจารย์ก็บอกให้น้าปรับปรุงตัวใหม่ น้าก็ยอมรับจะว่าทำตามที่อาจารย์แนะนำ! s7 ]* c' J" Y4 t' n7 a, C/ a
0 h0 L4 u2 Y$ D
จากนั้นอาจารย์ก็ให้น้าผู้หญิงของเราจับเอามือเข่าตัวเองทั้ง 2 ข้าง (อาจารย์นั่งอยู่บนโต๊ะที่หน้าห้อง พูดไมค์) ส่วนน้าเรานั่งอยู่กลางห้อง ท่ามกลางผู้เข้าร่วมกิจกรรมคนอื่นๆ แล้วอาจารย์ก็บอกให้หลับตา เอามือกลึงเข่าตัวเองไว้ ถ้าอาจารย์สั่งให้หยุดเมื่อไหร่ก็ให้ลองลุกเดิน
' n' L) O% V( N: M3 T% z, Q6 S" l
+ W6 n9 V0 B& o# V& _อาจารย์นิ่งไปประมาณ 5 วินาทีได้ ก็สั่งให้หยุด พอน้าเราลุกขึ้นทดสอบเดินไป-เดินมา ทดลองนั่งย่องๆ ปรากฏว่าอาการปวดเข่าหายไปเป็นปลิดทิ้ง ไม่มีเหลือปรากฏอยู่เลย; l- B# u; l& o! [$ H( @' ]+ K7 c5 M2 |$ O

/ ]  k5 k6 r4 z8 C4 y7 Gปัจจัยหลักที่ทำให้อาจารย์รักษาคนไม่หาย... คือความเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ ไม่มี2 l* d* x$ l, i/ a

; n$ c/ `$ p: {  ~* bอาจารย์เล่าว่าทุกคนล้วนมีพลังจิตในตัว และพลังจิตของแต่ละคน ก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อตัวคนๆนั้น ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อาจารย์รักษาคนไม่หายคือ เมื่อรักษาจนหายให้แล้ว(ดึงเชื้อโรคออกจากร่างกายหมดแล้ว) แต่คนๆนั้นยังคิดว่าตัวเองป่วยอยู่ ไม่มีวันหายแน่ๆ และความคิดนี้เองจึงทำให้เขาป่วยตลอดเวลา และสุดท้ายก็กลายเป็นป่วยจริงๆ และเสียชีวิตไปในที่สุด!!! คนที่อาจารย์จะรักษาให้หายได้ 1. ต้องเป็นคนดีต่อสังคม 2. เจ้ากรรมนายเวรปล่อย 3. เชื่อมั่นในการรักษาของอาจารย์ และหลังจากรักษาให้แล้ว ก็ควรเปลี่ยนนิสัยที่แย่ๆของตัวเองใหม่ หมั่นทำบุญกุศล ไม่ประมาทในชีวิต หมั่นออกกำลังกาย ใส่ใจสุขภาพให้มาก กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนด้านจิตใจก็ให้เปลี่ยนความคิด เปิดวิสัยทัศน์ให้กว้าง ไม่ใช่คิดแต่เรื่องร้ายๆใส่ตัวเอง ทำไมเกิดมาอาภัพ ทำไมเกิดมาเจอแต่เรื่องซวยๆ ทำไมป่วยเรื้อรังไม่หายสักที สงสัยต้องรับกรรมไปจนตาย ฯลฯ คนพวกนี้รักษาไปก็เหนื่อยฟรี เพราะถึงรักษาดึงโรคออกให้ เดี๋ยวก็กลับไปได้ไม่นาน ก็ป่วยหนักกลับมาให้รักษาใหม่อีก เพราะพลังจิตของตัวเอง(ผู้เข้ารับการรักษา) มันสั่งย้ำทุกวัน ทุกชั่วโมงๆ ทุกนาที ทุกวินาที ว่าตัวเองยังป่วยหนักอยู่

" V& e/ Q+ ~7 W8 W

+ w. [4 I' A4 ?การคิดว่าตนเองไม่มีวันหายจากโรคร้าย จะส่งผลให้พลังจิตใต้สำนึกของตัวผู้ป่วยเอง เป็นตัวการดึงเชื้อโรคชนิดนั้นๆ วิ่งเข้าสู่ตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัว และช่วยซ้ำร้ายให้ตายเร็วขึ้น
6 m# H1 A1 g0 H' e
, E/ v/ @9 `" `5 o6 L
- j9 C/ [1 |* Wทุกวันนี้เรายังคอยถามน้าของเราเรื่อย ว่าปวดอีกไหม? น้าเราก็ส่ายหน้าให้ทุกครั้ง บอก.. ไม่ปวดแล้ว ทุกวันนี้นั่งได้ปกติ เดินก็ไม่ปวด เราถามย้ำว่าจริงๆนะ ไม่มีอาการปวดเลยเหรอ น้าก็บอกจะโกหกทำไม ก็มันไม่ปวดแล้ว ตั้งแต่วันที่อาจารย์รักษาให้ก็ไม่มีอาการปวดอีกเลย
7 I) V9 Q# M2 O% r3 X, V) i6 D

1 R8 p& X, I6 l* m9 _! y
0 `2 z+ g# [) m. t# N
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-12-1 04:01 , Processed in 0.038410 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.