แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 57488|ตอบ: 3
go

พลังพระเครื่อง [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

                พระเครื่อง เครื่องรางของขลังกับคนไทยเป็นของคู่กันที่แยกไม่ออก แต่ละบ้านมีวัตถุมงคลอยู่บ้านละมากๆ ทั้งเก่าใหม่ พระเครื่องในประเทศไทยพบมาตั้งแต่ยุคทวาราวดี, ลพบุรี,  เชียงแสน, สุโขทัย, อยุธยา จนปัจจุบัน การสร้างของครูบาอาจารย์ที่สร้าง มีทั้งสร้างบรรจุไว้ตามเจดีย์ ตามวัด ตามถ้ำ เพื่อสืบต่อพระศาสนา บ้างก็สร้างไว้แจกให้ผู้คนที่นับถือนำไปเคารพบูชาหรือนำไปติดตัว เพื่อปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากภัยอันตราย, เมตตามหานิยม, แคล้วคลาด, อยู่ยงคงกระพัน, มหาอุด, ป้องกันภูตผีปีศาจ ฯลฯ: t8 _# D0 U  E8 H0 W4 V2 q  @
                รูปแบบการสร้าง ส่วนใหญ่จะสร้างรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นองค์ที่ชาวพุทธเคารพบูชาสูงสุด ส่วนรูปแบบอื่นก็มี แต่จะมีน้อยกว่า
  h- }! u; F2 t/ H8 o; ~0 B' z7 [                การปลุกเสก พระเครื่องแต่โบราณที่นิยมมากก็คือ การสวดอัญเชิญบารมีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แผ่บารมีลงสถิตที่พระเครื่องที่สร้างขึ้น บารมีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่สถิตอยู่ที่พระเครื่อง จะมีบารมีทางคุ้มครอง แคล้วคลาด เมตตา ป้องกันภัยจากภูตผีปีศาจที่จะมาทำร้าย รังสีจากองค์พระที่แผ่ออกมา เรียกรังสีออร่าจะเป็นสีเหลือง จับพลังด้วยมือจะพบพลังเย็น พลังที่พบจะมีมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับบารมีธรรมของผู้สร้าง ความบริสุทธิ์ใจของผู้สร้าง เป็นพลังสำคัญ
! Z& H; C# S' @& e                ถ้าการปลุกเสกมีจุดประสงค์เพื่อใช้ป้องกันตัวเวลาออกสงคราม เน้นให้เกิดความคงกระพัน ผู้สร้างจะใช้อาคมและพลังจิตในการปลุกเสก โบราณผู้ปลุกเสกก็มักเป็นผู้ทรงศีล ใช้เวลาสงัดและฤกษ์ยามที่เหมาะสมปลุกเสกเดี่ยวอยู่เพียงผู้เดียว ถ้าพลังจิตมีพลังมาก วัตถุมงคลที่ปลุกเสกจะถูกพลังจิตของผู้ปลุกเสกอัดเข้าไป จนวัตถุมงคลนั้นเคลื่อนไหว กระดุกกระดิกหรือกระโดดจากภาชนะที่ใส่อยู่ นั้นเรียกว่าปลุกเสกได้เข้าขั้นใช้ได้เลย ถ้าปลุกเสกแต่วัตถุมงคลนั้นยังนิ่งเฉย แสดงว่าพลังจิตและอาคมที่ประจุลงไปยังน้อยไปใช้ไปป้องกันตัวไม่ได้ ปัจจุบันที่ได้ข่าว พระที่ปลุกเสกได้อย่างนี้มีหลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม อ.บรรพตพิสัย นครสวรรค์ ส่วนองค์อื่นเชื่อว่ามีที่ท่านทำได้แต่ผมไม่รู้ข่าว; I$ q$ u3 c% s- h8 ~  U
                ส่วนที่เราเห็นพิธีปลุกเสกแบบพิธีการใหญ่โต นิมนต์เกจิอาจารย์มานั่งปรทตามกำหนดเวลาพร้อมๆกัน มีพระสวดดังลั่นอยู่เห็นแล้วส่ายหน้าเลยจะไปเหลือสมาธิจิตในการปลุกสักเท่าไร  ถ้าวัดใดสร้างและต้องไปอาศัยบารมีจากครูบาอาจารย์วัดอื่นๆ ช่วยในการปลุกเสก ขอให้นำวัตถุมงคลนั้นไปถวายให้ท่านทำการปลุกเสกเองที่วัดท่าน โดยนัดแนะเวลาอีก 3 วัน 7 วันหรือ 1 ไตรมาสค่อยมาขอรับคืน ครูบาอาจารย์ท่านจะได้หาเวลาสงัดที่กำลังจิตท่านดีผ่องใสว่างจากภารกิจ ทำการปลุกเสกวัตถุมงคล จะได้พลังที่รุนแรงเต็มที่7 H3 v  R# z, w2 `4 r/ l7 z1 c
                พระเนื้อดินแต่โบราณที่ผมมีอยู่เป็นของกรุต่างๆ ตั้งแต่ยุคทวาราวดี ลำพูลลงมาจนถึงอยุธยา  ผมพบสิ่งวิเศษสุดที่ครูบาอาจารย์ทำเป็นมวลสารใส่ไว้ในองค์พระ คือ เหล็กไหลที่แข็งตัวแล้วจำพวกโครตเหล็กไหล,  เหล็กไหลตาน้ำ,  เหล็กไหลเพลิง,  เหล็กไหลบารมี  นำมาบดเป็นผงสีดำๆ  ผสมกับดินที่มาสร้างพระทำให้พระเครื่องที่สร้างมีบารมีทางอยู่ยงคงกระพัน  แคล้วคลาด  มหาอุด  ด้วยบารมีของเหล็กไหลที่ใส่อยู่  ถ้าท่านมีพระกรุเก่าๆ อยู่ทดลองดูได้โดยอาศัยแม่เหล็กที่มีกำลังแรง  แหย่เข้าไปใกล้พระองค์พระที่วางอยู่บนที่เรียบนูนเช่น  กระจกเลนซ์นูนของแว่นขยาย องค์พระจะถูกแม่เหล็กดูดจนเคลื่อนที่ วิธีนี้พอจะพิศูจน์เองกันได้ทุกคน แต่ระวังนะครับปัจจุบันก็มีพระทำปลอมขึ้นมาแล้วใส่ผงเหล็กหรือฝังเศษเหล็กไหลไว้ภายใน  เอาแม่เหล็กดูดดูวิ่งเข้าใส่เลย
0 k# H, B6 Q, {1 a6 S2 y# c. H                อีกสิ่งหนึ่งที่ผมพบเป็นสิ่งที่สูงมากนำมาบรรจุในองค์พระหรือติดไว้ที่ผิวองค์พระคือ พระธาตุครับ ถ้าเป็นของจริงพลังบารมีของพระองค์นั้นจะสูงสุดๆ เลย แต่ผู้ที่จะใส่ควรจะมีศีลมีธรรม ท่านจึงจะปกป้องคุ้มครอง พบมีของปลอมอีก โดยวิธีนำทรายที่มีลักษณะคล้ายพระธาตุมาผสมใส่เนื้อดิน สร้างเป็นรูปพระขึ้นมา เอาไว้หลอกคนที่ชอบพระธาตุ) b8 B7 b2 n& ~% Q
                พลังในพระเครื่อง มีอยู่จริงๆ  บางท่านที่มีสมาธิจิตดีๆ สามารถสัมผัสกับพลังในองค์พระได้ มีทั้งการปลุกแบบเต้นไปทั้งตัว แสดงว่าผู้ปลุกจิตยังอ่อน ปลุกแล้วไม่รู้เรื่องว่ามีอะไรบ้างภายในองค์พระ บางท่านจับองค์พระไว้ทีมือพอจิตสัมผัสองค์พระ มือจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ  เช่นกระตุกไปข้างหน้า หมายถึง คงกระพัน กระตุกวิ่งเข้าหาอกนั่นคือพลังเมตตามหานิยม กระตุกมือลงข้างล่างเป็นมหาอุด มือเคลื่อนที่วิ่งวนอยู่ข้างหน้าคือ แคล้วคลาด  ถ้ามือยกขึ้นเหนือศีรษะคือ คุ้มครองป้องกัน  วิธีปลุกดูพุทธคุณโดยดูจากมือที่เคลื่อนที่นี้  เราจะรู้รายละเอียดในองค์พระว่ามีพลังอะไรอยู่บ้าง บางองค์มี 1 อย่าง บางองค์ลงไว้หลายอย่าง และพลังแรงของมือที่สะบัดไป ถ้าแรงมากแปลว่าพลังในองค์พระมาก  ผมพบวิธีนี้ตอนผมเรียนอยู่ที่ รร.ช่างกลไทยสุริยะ ประมาณปี 2517 ที่บางบัว อ.บางเขน กรุงเทพฯ  ผู้ที่ใช้วิธีนี้ชื่อ อาจารย์ทองคำ ที่จริงแกป็นภารโรงอยู่ในโรงเรียนที่ผมเรียนอยู่นั่นแหละ  ผมขนพระมาให้อาจารย์ทองคำปลุกดูเป็นร้อยๆ องค์ หาพระที่มีพลังสูงๆ ใส่  ส่วนมากพระที่มีพลังสูงๆ มักพบเป็นพระกรุแต่โบราณ  ส่วนพระรุ่นใหม่ที่มีพลังสูงๆ พบน้อยก็คงมีมาก แต่ผมอาจจะไม่มีพระเครื่ององค์นั้นๆ อยู่ จึงไม่สามารถจะรู้ทุกองค์ได้ ผมเองก็เรียนรู้วิธีการปลุกพระจากอาจารย์ทองคำ ท่านก็สอนให้แต่ใช่ว่าจะรู้วิธีทำแล้วจะทำได้ทุกคน  มันต้องขึ้นอยู่กับสมาธิจิตด้วย  วิธีการและคาถามีดังนี้
, C& N& l- b; D/ z* c                                นะโม 3 จบ        เอหิพุทธา มามานุภาเวนะ
! t2 s+ j( z; r% g" V) d5 p- @                                                เอหิธัมมา มามานุภาเวนะ
7 e- n/ C% S! a6 q                                                เอหิสังฆา มามานุภาเวนะ- d* @# T( Z4 ]
                                เสร็จแล้วว่าวนที่คำว่า  มะอะอุ อุอะมะ1 D" _8 ^# @$ R# M0 ^( y# Y
                ส่วนองค์พระที่เราจับให้ใช้นิ้วหัวแม่มือ กับนิ้วชี้จับองค์พระไว้  อย่าเกร็งมือ พุ่งจิตไปจับความรู้สึกตรงนิ้วที่จับองค์พระไว้  อย่าเพ่งไปใส่นะครับ ให้กำหนดจิตเปิดรับพลังจากปลายนิ้วที่จับองค์พระ ให้ไหลเข้าทางแขนมาหาตัวเรา  เมื่อจิตเรานิ่งจนละเอียดเพียงพอ  จิตจะรับสัมผัสพลัง ผ่านทางนิ้วมาแขนเข้ามาที่ตัวเรา  พลังจะวิ่งเหมือนไฟดูดนั่นแหละ  ส่วนมือจะสบัดไปในทิศทางตามพลังแต่ละอย่างที่ลงไว้ในองค์พระ  ท่านผู้อ่านท่านใดจะลองนำไปทดลองดูบ้างก็ได้  ส่วนตัวผมทดลองมาหลายครั้งแล้ว ตอบแบบภาคภูมิใจเลย  ผมยังทำไม่ได้ครับ!  ส่วนตัวอาจารย์ทองคำ ท่านตรวจพุทธคุณได้เร็วมาก  จิตท่านเร็วมาก  เอามือจับองค์พระกำหนดจิตแล้วมือสะบัดไปทันทีที่ไม่ได้ใช้พระคาถาเลย  เมื่ออาจารย์ทองคำทำเป็นตอนแรกก็ต้องใช้คาถานี่แหละ  แต่พอชำนาญเข้า  จิตไวมากไม่ได้ใช้ จับปุ๊บได้ปั๊บ  พระ 100 องค์เช็คชั่วโมงเดียว เรียบ
) D5 }. O. D4 a4 h+ p1 u% w                อีกวิธีที่ท่านอาจารย์ทองคำใช้ คือ กำหนดจิตมององค์พระ ดูรังสีที่พุ่งออกจากองค์พระ  องค์ไหนมีรัศมีสว่างแสงสีแจ่มชัด  ก็คือมองดูรังสีออร่าในองค์พระนั่นเอง  เรียกว่ามองพระที่วางปนกันทั้งกล่อง  ยื่นมือไปหยิบพระองค์ที่มีพลังแรงได้เลย  วิธีเช็คพลังพระเครื่องที่ผมพบที่อาจารย์ทองคำ เป็นวิธีแรกที่ผมรูจัก ถ้าท่านผู้อ่าน  อ่านแล้วอยากนำพระไปตรวจสอบ ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยเพราะอาจารย์ทองคำ  ท่านเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2538  ผมได้ไปงานฌาปณกิจศพท่านที่วัดบางบัวมาแล้ว  หลังจากที่พวกผมติดต่อวิญญาณได้ ก็ได้ติดตามหาอาจารย์ทองคำ  พบอยู่ที่ชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นอันว่าหมดห่วงไป$ Z& R4 [8 A0 v2 k% s
                ปัจจุบันที่ผมพบผู้ที่สามารถใช้วิธีตรวจสอบพลังในองค์พระได้ที่ชัยนาท  โดยดูจากการสะบัดมือ เคลื่อนที่ไปในทิศทางต่างๆ แล้วบอกรายละเอียดพลังที่อยู่ในองค์พระได้ละเอียด  เป็นข้าราชการของกรมชลประทาน ปัจจุบันที่เขียนอยู่นี้ปี 2551 ท่านผู้นี้อายุเกือบ 60 ปีแล้ว  ทำงานอยู่ที่ อ.วัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท นามสกุลบุญประสิทธิ์  ผมบอกให้แค่นี้นะครับ  ผมเองก็อาศัยท่านผู้นี้ในการตรวจสอบรายละเอียดในองค์พระเป็นครั้งคราว9 R! S; m4 _3 z0 e8 d+ g
                ส่วนพวกผมที่สำเร็จวิชามโนมยิทธิ  เองทดสอบลองตรวจพลังในองค์พระดูทำได้คือมีพลังวิ่งจากองค์พระพุ่งเข้าแขนผ่านอกไปยังมืออีกข้างหนึ่งพลังมากหรือน้อย  ดูจากพลังนั้นวิ่งข้ามไปได้ไกลถึงส่วนไหนของแขน  และแยกแยะได้เพียง  พลังเย็นคือพุทธคน  พลังร้อนคืออาคม
2 ~; E2 U$ K% |                อีกวิธีหนึ่งคือ  กำหนดดูรังสีออร่าจากองค์พระว่ามีสีอะไร  และสว่างแค่ไหน  ก็สามารถ  รู้พลังในองค์พระได้  d  a! g( @+ C: L& ?' ^
                อีกวิธีคือกำหนดจิต  ถาม  จากครูบาอาจารย์ที่ท่านสร้างไว้เลยสะดวกดีเพราะสามารถติดต่อกับโลกวิญญาณได้# x9 D3 s# _6 ~- O: v7 S# s
                ขอยกตัวอย่างพระที่ผมเคยตรวจสอบแล้วพบว่าพลังแรงในด้านต่างๆ  ดังนี้1 h' h: t* C4 L
                        1.  สมเด็จวัดระฆัง   กรุงวังหน้าขององค์สมเด็จโตที่เขานิยมกันมาก  พลังที่พบเป็นรังสีขาว  มีพลังเย็น  ผู้ที่อยากได้ไว้บูชาถ้าเช่าหาในราคาแพงๆ มาขึ้นคอผมเสียดายเงินจังเลย  ความจริงพระกรุวัดพระแก้วยุครัชกาลที่  4  ราคาเช่าบูชา  แค่หลักสิบหลักร้อย หลักพัน  ยังมีอยู่ตามแผงพระใน  กทม. เยอะแยะครับ  อันนี้แล้วแต่ใครจะดูเป็น  นั่นมีปัญหาอีกไม่เป็นไรดูไม่เป็นเปลี่ยนวิธีใหม่  ผมเคยตรวจสอบพลังพระใหม่ๆ ที่สร้างเป็นรูปสมเด็จ  เช่นวัดเกษไชโยอ่างทอง  ที่วัดระฆัง  หรือที่วัดอื่นๆ สร้างโดยอาราธนาบารมีขององค์สมเด็จโตท่านมาแผ่บารมี  ผมยืนยันจากการตรวจสอบมาหลายครั้งว่าพลังบารมีในองค์พระเท่ากันกับสมเด็จวัดระฆังองค์เป็นล้านนั่นแหละครับ  มีหลายๆวัดสร้างเป็นรูปองค์สมเด็จโตเป็นเหรียญบ้างเป็นเนื้อผมบ้าง  พุทธคุณเหมือนกันกับสมเด็จวัดระฆังเลย  ใครชอบของแพงของถูกก็เลือกเอาเองครับคุณภาพเท่ากัน
( k/ G+ O3 Q0 i" h2 q3 q9 _- M                        2.  พระหลวงปู่ทวด  ออกวัดไหนก็ช่างผมตรวจสอบกี่องค์พุทธคุณเหมือนกันหมดคือ  เป็นพลังเน้นแคล้วคลาด  เด่นมาก  เหมาะกับผู้ใช้รถควรมีติดตัวหรือหน้ารถไว้  เก่าใหม่ไม่ใช่ตัวแยกความศักดิ์สิทธิ์  ถ้าหลวงปู่ทวดได้รับอาราธนา  มาแผ่บารมีลงในรูปของท่าน  ของใหม่ๆ ก็มีพลังเท่ากับของวัดช้างไห้ปี  2497  นั่นแหละมีพลังออร่าสีขาว  เป็นพลังพระโพธิสัตว์  ความแรงเท่ากันกับสมเด็จวัดระฆัง
3 G5 e3 K6 ~" _7 r- o) o7 n" {9 Q                        3.  หลวงปู่เทพโลกอุดร  จะใหม่เก่าพลังออร่าสีทองอร่ามเลยดีครบทุกด้าน  มีพลังสูงมาก  ผมมีทั้งของเก่าดั้งเดิมและที่มีศิษย์สร้างขึ้นใหม่หลายองค์  พุทธคุณเท่ากันหมดทั้งเก่าใหม่  พลังที่ลงไว้แรงแต่หย่อนกว่าของหลวงปู่โตและหลวงปู่ทวด  ผมมีเพื่อนที่สามารถถอดจิตไปเรียนปฏิบัติจิตกับหลวงปู่เทพโลกอุดร  ผมฝากกราบเรียนถามว่าทำไมหลวงปู่ลงไว้เพียงเท่านี้  หลวงปู่ตอบว่าที่ลงให้เพียงเท่านี้รู้ว่าเพียงพอต่อการปกป้องคุ้มครองแล้ว  ถ้าใครจะให้มีพลังในองค์พระสูงกว่านี้ต้องปฏิบัติธรรมสื่อจิตกับท่านเมื่อนั้นพลังในองค์พระจะสูงขึ้นเอง  คืนท่านเน้นให้ผู้มีพระของท่าน  หันมาปฏิบัติธรรม  C. x' x1 R9 K8 W5 W" i% Q
                        4.  พระกรุถ้ำเสือ  แถบ จ.สุพรรณบุรี  มีออกมาเยอะมีทั้งพิมพ์ที่นิยมและไม่นิยม  สร้างโดยฤาษีก็มีพระก็มีบรรจุไว้ตามถ้ำตามวัด  สร้างมาหลายยุคหลายสมัย  มีพลังออร่าสีแดงเป็นหลักคือเน้นคงกระพัน  เหมาะสำหรับใช้ป้องกันตัวเวลาออกรบยามมีสงคราม  ที่ผมมีอยู่มีทั้งพิมพ์นิยมและไม่นิยม  เช่าหามาในราคาหลักสิบหลักร้อย  ตรวจสอบดูพุทธคุณ มากทุกพิมพ์เลย  ตกลงดีทั้งของถูกของแพง  ภายในองค์พระทุกองค์มีเหล็กไหลประเภทที่แข็งตัวแล้วตามธรรมชาติบรรจุอยู่เป็นเม็ดเล็กๆ จากการบดก็มี  ยัดไว้เป็นก้อนนูนเลยก็มี  แถมบางองค์บรรจุพระธาตุไว้ภายในองค์อีก  ตรวจสอบพบเพราะดูจากแสงออร่า  มีทั้งสีแดง  และขาว  คือออร่าของพระธาตุ  ปนอยู่ด้วยกัน  พระขุนแผนกรุบ้านกร่างก็ใช่มีทั้งเหล็กไหลและพระธาตุบรรจุอยู่ทำให้พลังสูงมากแต่ความนิยมทำให้ราคาแพงอย่าไปสนใจหาเลย  เลือกเอาพระถ้ำเสือเก่าๆที่นอกพิมพ์นิยมจะถูกกว่าเยอะ
# p3 X4 i1 u: }# U7 l                        5.  พระกรุสุโขทัย  ยุคพญาลิไทช่วงปี พ.ศ.1900  ทั้งที่สุโขทัย  กำแพงเพชร  พญาลิไท  ท่านสร้างพระบรรจุไว้ตามเจดีย์ตามวัด  มากมายจริงๆ ที่พบมากเป็นพระเนื้อดิน  ภายในเนื้อดินพบผงดำๆ ปนอยู่ตรวจสอบพลังดูจึงรู้ว่านั่นคือเหล็กไหลประเภทหนึ่งถูกบดปนอยู่  เห็นมั๊ยครับเหล็กไหลหาง่ายจังเลยพระกรุยุคสุโขทัย  เน้นการลงพุทธคุณมาก  ออร่าจะออกไปทางสีเหลืองปนส้ม  คือ  พลังแคล้วคลาด  เมตตา  คงกระพัน  คุ้มครอง  พลังพอๆกับพระของหลวงปู่ศุข  วัดปากคลองมะขามเฒ่า  อย่างพระซุ้มกอ  เม็ดขนุน  ลีลาถ้ำหีบ  แพงทั้งนั้นผมมีพระซุ้มกอพิมพ์กลางอยู่องค์หนึ่ง  นำมาทดสอบพลังพุทธคุณก็มีพลังเท่าๆ กับพระกรุสุโขทัยที่ถูกขุดพบโดยชาวบ้านภายหลังและนำมาจำหน่ายสามารถพบเห็นตามแผงพระได้  ตกลงถูกแพงไม่เกี่ยวกับพลังในองค์พระ  มันคนละเรื่อง  ใครชอบถูกแพงก็เลือกเอาเอง
. I0 p( E+ e$ N$ m                        6.  หลวงปู่ศุข  หลวงพ่อเงิน  หลวงพ่อเดิม  ทั้ง  3  ท่านนี้คือครูบาอาจารย์ที่ทางอภิญญาฤทธิ์จริงๆ  ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่เทพโลกอุดรทั้งหมด  รู้สึกว่าจะธุดงค์ไปเรียนกันที่ถ้ำวัวแดงในป่า  ชัยภูมิ  พลังอภิญญาฤทธิ์ของทั้ง  3  ท่านที่ลงในวัตถุมงคลใกล้เคียงกันมีพลังสูงมาก  ของรุ่นเก่าที่ท่านสร้างไว้ราคาไม่ต้องห่วง  แพงครับ  ถ้ามีอยู่ก็ดีครับโชคดี  ท่านลงกันครบทุกทางหมดแต่เน้นมากคือ  คงกระพัน  มหาอุด  นำหน้าเลยแถมยังล้อมอาคมไว้กันคัดวิชาออกอีกต่างหาก  ผมเองเก็บพระหลวงปู่ศุข  กรุวัดดอนตาลไว้เป็นร้อยเลย  เซียนเขาตีปลอมครับที่ชัยนาทนี่เขาใช่แว่นส่องปล่อยเขาไป  ผมใช้ตรวจพุทธคุณ  ตรวจออร่าจ้าออกมาสีเขียว  พลังอภิญญาฤทธิ์เต็มๆเลย  แถมไปกราบเรียนถามหลวงปู่ศุขอีกต่างหาก  ใครว่าปลอมช่าง  ผมพิสูจน์ตามวิธีของผมเรียบร้อยแล้ว  หลวงปู่ทำไว้ครั้งยังมีชีวิตอยู่จริงๆ  ผมนำออกไปถวายวัดช่วยในงานสร้างเจดีย์ที่อุทัยธานี  และเจดีย์ศรีชัยพาผึ้ง  ลักษณะเนื้อทองเหลือง  หล่อติดกัน  3  องค์  ทีนี้คนทั่วไปจะหาที่ไหนไม่ต้องคิดมาก  วัดใดสร้างรูปหลวงปู่ทั้งสามองค์นี้ที่สร้างใหม่นะครับ  ถ้าผ่านพิธีการปลุกเสกผู้สร้างก็ต้องอารธนาเชิญหลวงปู่เจ้าของรูปนั้นมาปลุกเสกด้วยตรวจสอบดูได้เลย  พุทธคุณเท่าของเก่าจริงๆ  เลือกเอาเองนะครับถูกกับแพง# {  l7 k- R! ]$ W: g6 }4 H# \) |
                        7.  หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง  อยู่ในคอผมตลอดเลยครับทั้งพระคำข้าวพระหางหมาก  พระคำข้าวเน้นพุทธคุณ  เมตตา  แคล้วคลาด  คุ้มครองคงกระพัน  คือดีครบทุกทางนั่นแหละ  พระหางหมากจะเน้นทางบู๊มากหน่อยแต่ดีครบทุกทางจริงๆ  หลวงพ่อฤาษีท่านเคยกล่าวไว้ว่าท่านไม่ได้ปลุกเสกเองท่านอาราธนาอัญเชิญ  บารมีของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์อีกทั้งเทพมหาศักดิ์  ผู้ทรงฤทธิ์มาแผ่บารมาลงในองค์พระ  ดีกว่าหลวงพ่อทำเองอีก   100  ปีก็ไม่เท่ารังสีออร่าสีเหลือง  ชักจำไม่แม่นเช็คมานานแล้วเป็นพลัง  พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  คือ  พุทธคุณนั่นเอง  ที่วัดตรงศาลารับแขกยังให้เช่าบูชาครับ  ดีทุกรุ่นครับเลือกเอาเอง  พลังเท่ากันทั้งนั้น$ W; R, x+ Y2 L1 Z( R% E% {
                        8.  พระรอดฝังพระธาตุข้าว  ของครูบาชัยวงษา  พระบาทห้วยต้ม  อ.ลี้  จ.ลำพูน บารมีพระธาตุข้าวของพระพุทธเจ้า  สูงมากๆ  กำลังสร้างเจดีย์อยู่ที่วัดยังมีให้บูชาอยู่  องค์ละ  100  บาท  เท่านั้น  พลังออร่าของพระธาตุข้าวเป็นสีขาวคลุมหมดเลย  ทั้งคุ้มครองแคล้วคลาด  เมตตา  ไปเอามาบูชาให้ได้นะครับของดีราคาถูก  สั่งทางไปรษณีย์ก็ได้ที่วัด2 s; _- r  k+ t% M! m
                        9.  พระผสมเหล็กไหลของวัดถ้ำแฝด  อ.ท่าม่วง  กาญจนบุรี  ของวัดนี้ใช้เหล็กไหลชนิดต่างๆ  นำมาสร้างพระจริงๆ  ผมไปที่ตู้วัตถุมงคลของวัดพลังจากเหล็กไหลในบริเวณนั้นบีบศีรษะปวดหัวเลย  พลังแรงจริงๆ เน้นทางคงกระพันมหาอุด  ดีจริงครับ  ที่วัดยังมีอยู่เยอะ  ใครชอบเชิญ% |% L1 D+ p/ S# H& R: l3 L
                        10.  เหล็กไหลวัดพุทไธสวรรค์  จ.อยุธยา  หลวงพ่อหวลปัจจุบันชรามากไปตัดเหล็กไหล  ไม่ไหวแล้ว  ของที่ยังเหลืออยู่ที่วัด  พลังแรงมากมีทั้งสีปีกแมลงทับ  สีเงินยวง  เป็นเม็ดข้าวสาร  เป็นกำไล  เป็นองค์พระ  อย่างถูกสุดขนาดเม็ดข้าวสาร  หรือกำไล  ราคาค่าเช่าบูชา  500  บาท  อย่างได้ของดีไปเอาเก็บไว้เสีย  หมดแล้วหมดเลย
1 {: r; S" N+ X4 [0 C' a$ s: Z& X) D9 z                        11.  พระลำพูน  สร้างมานานครับเข้าแม่จามเทวี  มีองค์ฤาษีเป็นผู้สร้างทุกพิมพ์ทุกองค์  ใส่เหล็กไหลครับ  พลังแรงเหลือเฟือ  ทั้งแคล้วคลาดคงกระพัน  แถมบางองค์มีพระธาตุปนอยู่เนื้อพระ  พิมพ์ที่นิยมไม่ต้องไปหาหรอกแพงครับ  ที่เราขุดพบภายหลังนำมาวางตามแผงพระผมพบบ่อยพลังก็เท่ากับองค์เป็นแสนเป็นล้าน  แต่ผมเช่ามาราคาหลังสิบหลักร้อยเอง. q, _) A1 W$ D, V% B" l
                        12.  หลวงพ่อปานวัดบางนมโค  จ.อยุธยา  พิมพ์ขี่สัตว์ต่างๆ  นิยมกันมากแต่ดีจริงๆครับ  ทั้งคุ้มครองแคล้วคลาด  คงกระพัน  เป็นพลังบารมีพุทธคุณทราบว่าท่านใช้วิชาในตำราของพระร่วงเจ้าแต่ครั้งสุโขทัย  นำมาปลุกเสกพระรุ่นหลังที่สร้างไว้ให้ประชาชนเช่าบูชาที่วัด  หลวงปู่ปานท่านอยู่ที่ชิ้นดุสิต  สวรรค์ชั้นที่ 4  ที่อยู่ของพระโพธิสัตว์  ท่านเมตตาลงมาปลุกเสกรูปพระของท่าน  พลังก็เท่ากับพระที่ท่านสร้างครั้งยังมีชีวิต
. a! _6 G+ [: f8 ]$ s2 H                        13.  หลวงพ่อจักร  วัดเขาถ้ำรังไก่  อ.วัดสิงห์  จ.ชัยนาท  อดีตทหารผ่านศึกเวียดนาม  ลาว  ฆ่าคนในสงครามมาเยอะ  สละชีวิตทางโลกบวชล้างบาปวิชาอาคมร่ำเรียนมามาก  ถนัดในการใช้ฤทธิ์จากวิชาอาคม  วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสก  เน้นด้านคงกระพันมหาอุด  หันคา  ชัยนาทไม่ไกลจากเขาถ้ำรังไก่  ยังมาช่วยปลุกเสกด้วย  ดังนั้นวัตถุมงคลที่วัดนี้เน้นด้านบู๊จริง  ยิ่งถ้าพระปิดตารุ่นแรกๆ ท่านทำสมัยปี  2525  เหลืออยู่ไม่มากผสมเหล็กไหลทั้งนั้นเลยแต่ท่านเรียกเลือดผา  ท่านได้จากถ้ำสมัยธุดงค์จากอุ้มผางผ่านป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมาโผล่ที่  อ.บ่อพลอย  กาญจนบุรี  ตอนผมไปเช่าบูชาคุยกับหลวงปู่ ท่านพูดตรงๆ  โผงผางแบบคนจริง  บอกถ้าไม่มั่นใจมึงเอาปืนมาลองยิงดูได้เลย  ถ้ายิงออกไม่ต้องเอาไป  ใครอยากได้รีบนะครับ อายุท่านมากแล้วสุขภาพไม่ดีด้วย
# ]& f+ s' E2 I$ H; j7 G" M                        14.  หลวงพ่อสุพจน์  วัดศรีทรงธรรม  อ.บรรพตพิสัย  นครสวรรค์  ทางจากนครสวรรค์ไปพิษณุโลก  ออกจากนครสวรรค์ไปประมาณ  40 กม.  จะเห็นป้ายบึงปลาทูอยู่ซ้ายมือ  เลี้ยวรถเข้าไปประมาณ  5  กม.  ถึงวัดท่านเป็นพระที่เชื่อมั่นในวิชาอาคมสูง  พลังจิตแรงมาก  พระหรือวัตถุมงคลของท่าน  ปลุกเสกจนกระดุกกระดิกได้  แรงจริงครับท่านทำให้ลองได้เลยยิงดูเลยยิ่งออกไม่ต้องใส่ให้หนักคอ  อายุท่านประมาณ  55  ปี  พลังกำลังแรง  ใครอยากได้เชิญที่วัด0 s4 S. d0 l+ v$ R2 d0 O' t( A
                        15.  วัดดอนหวาย  นครปฐมมีตลาดนัดวัดดอนหวาย  ผมไปเที่ยวปล่อยให้ภรรยากับลูกเดินซื้อของ  ส่วนผมเดินเข้าไปในศาลาที่จัดชุดสังฆทานเอาไว้ให้คนทำบุญ  มีตู้วัตถุมงคล  ยืนมองดูเอ๊ะ!  นั่นพระสมเด็จเนื้อหล่อด้วยเรซิ่นใสๆ  ภายในองค์พระนั่นพระธาตุทั้งนั้นเลย  ผมเช่าบูชามา  2  องค์พอตรวจสอบด้วยจิตดู  พลังจากพระธาตุสูงมากๆ เลยทราบว่าพระธาตุนี้ทางวัดได้มากจากถ้ำแถว  จ.นครศรีธรรมราช  ใครอยากได้พระบรรจุอรหันต์ธาตุของแท้จริงๆ  เชิญที่วัด$ L  |6 G. n3 {- d5 A
                        16.  ขอเป็นตัวอย่างสุดท้านนะครับ  พระของวัดถ้ำรัตนคีรี  (เขากวางทอง)  จ.อุทัยธานี  มีถ้ำซึ่งภายในพบพระสิวลีธาตุเต็มไปหมด  ทางวัดนำมาบรรจุลงในพระเครื่อง  ผมผ่านไปลองเช่าบูชามา  ตรวจทางจิตเป็นพระสิวลีธาตุจริงๆ ครับ พลังสูงมาก
& Z6 f$ P5 ^8 A3 C; g/ d. F                ของดีในเมืองไทยยังมีอีกมาก  แต่ผู้ที่รู้คือผู้ที่สามารถตรวจสอบพลังได้จึงจะรู้ว่าของดีอยู่ที่ไหนบ้าง  ผมเลยเขียนให้เป็นตัวอย่างพอสมควร  ที่ผมยังไม่รู้มีอีกเยอะครับ  ผมไม่ใช่เซียนพระตำหนิรูปพรรณดูไม่เป็น  เพียงแต่รู้จักพิมพ์ทรงบ้าง  ไปเดินดูตามแผงพระก็มีจุดประสงค์หาของดี  หาเทวดาที่สถิตตามองค์พระเอามาช่วยงานบุญที่บ้าน. E7 X9 D% b& @2 o" D
                ขอแยกแยะเรื่องออร่าหน่อย  ออร่าเป็นรังสีที่เปล่งออกจากวัตถุมงคลตามพลังที่บรรจุไว้ในวัตถุมงคลตามพลังที่บรรจุไว้ในวัตถุมงคล  เริ่มเลยคือผมอ่านหนังสือชื่อ  “พระเครื่อง”  ท่านมีจิตสัมผัสที่เก่งมาก  เห็นแสงจากองค์พระและแยกแยะคุณสมบัติของสีออกมา  ดังนี้
/ g# M! I  t9 l6 T8 U. T+ D7 Y$ ^                        สีแดง        เป็นพลังด้านคงกระพันชาตรี
' h% A; E; i3 ]- W; V: B" Q4 f/ q                        สีส้ม        เป็นพลังแคล้วคลาด6 {- v. h! H$ M- y
                        สีม่วง        เป็นพุทธบารมี: r) k8 l! t5 W# M4 Q2 B2 l* E
                        สีเขียว         เป็นพลังจากญาณสมาธิ  อภิญญา  เมตตา
) h* `" [. _+ y  g7 r% X                        สีเหลือง          เป็นพลังพุทธคุณ  พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์
+ u) h( o- @. c( q' E  O& q3 g                        สีขาว        เป็นพลังพระโพธิ์สัตว์7 `8 b" }1 C5 L. H
                        สีฟ้า        เป็นพลังส่งเสริมการค้าขาย5 E3 N2 d8 |, X& E# z
                นอกจากนี้  “คนเห็นผี”  ยังเขียนถึงพลังออร่าในตัวคนอีกว่ามีสีต่างๆ  คือการดูจิตคนว่าสีอะไรบ่งบอกถึงว่าเป็นคนอย่างไรได้อีก  เมื่ออ่านแล้วของพิสูจน์หน่อย  พวกผมใช้สมาธิจิตจับที่องค์พระก็พบสีแสงต่างๆ จริง ส่วนความหมายของสีผมเองก็ต้องดูจากหนังสือของ  “คนเห็นผี”  พอทดลองดูจิตคนก็เห็นแสงสีจริงๆ เออ!  แปลกดีครับ- q9 e& Y- Q4 F
                อีกอย่างหนึ่งที่แปลงมากคือ  ท่านผู้เขียนหนังสือลงในนิตยสารโลกทิพย์โลกลี้ลับ  ชื่อ  อ.ธีรศักดิ์  สามารถตรวจพลังพระเครื่องได้ เชิญที่ชมรมโลกทิพย์  แถวดินแดงช่วงวันเสาร์อาทิตย์  ท่านเขียนว่ารูปพระเครื่องในหนังสือนิตยสาร  ที่ถ่ายจากรูปพระเครื่องของแท้ๆ มีพลังในรูปเท่ากับพระเครื่องจริงสามารถทำมาห้อยคอบูชาติดตัวได้  แปลกมั๊ยครับต้องทดลองผมมีแสตมป์ชุดเบญจภาคี  ทั้งเนื้อดินเนื้อชินอยู่ลองให้พวกผมเอานิ้วแตะดูพลัง  โอ้โฮ!  ไม่น่าเชื่อพลังเท่ากับจับองค์จริงเลย  แปลกมากถ้าเป็นอย่างนี้ใครที่ไม่ยึดติดกับรูปร่างของจริง  ไปซื้อหนังสือนิตยสารที่รูปพระเยอะๆ มาเลยเลือกเอาเลยชอบองค์ไหน  ตัดเลี่ยมขึ้นคอเลย  พุทธคุณเท่ากันจริงๆ ครับบางครั้งผมซื้อหนังสือนิตสารพระเครื่องมาดูเล่น  นึกอยากรู้ว่าพระที่ลงโฆษณาในหนังสือองค์ไหนดีจริง  ก็ให้พวกผมเอานิ้วแตะดูจากรูปในหนังสือเลย  เท่านี้ผมก็รู้แล้วครับ
* _# N6 z: H# e3 W                พลังในพระเครื่องที่แรงสุดๆ ที่ผมพบ
+ \3 d4 D2 H1 G; \& g. d' X                        -  พลังด้านพุทธบารมี  ก็คือ  พระบรมสารีริกธาตุ  พระอรหันต์ธาตุ พระธาตุข้าวของพระพุทธเข้า% k' \/ o: G5 c5 W! u
                        -  พลังด้านคงกระพัน  ก็คือ  เหล็กไหล  ครับ9 c' m: C; D4 J' b; |6 M" Z
                ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมพบโดยบังเอิญ  คือผมเดินดูแผงพระเล่นๆ ไปพบขวดแก้วขนาดขวดรักยมบรรจุวัสดุใสมีสีต่างๆ เป็นก้อนเล็กๆ คล้ายพระธาตุผมเลยลองเก็บไปตรวจสอบดู  ปรากฏว่าพลังพุทธบารมีสูงมากๆ เกือบเท่าพระธาตุจนผมเข้าใจผิดว่าคือพระธาตุ  ผมเลยเหมาเอาไปหมดเลยประมาณ  50  ขวด  คิดว่าจะนำพระธาตุในขวดนี้ไป  บรรจุเจดีย์  ศรีชัยผาผึ้ง  อ.บ้านเขว้า  ชัยภูมิ  พอเอาทั้งหมดกลับไปบ้าน  ลองเอาแว่นขยายส่งพิจารณาดู  ผมชักสงสัยไม่ใช่พระธาตุแน่ๆ  คล้ายกับเป็นเรซิ่นหรือวัสดุทางวิทยาศาสตร์ชนิดใดชนิดหนึ่ง  ยิ่งชนิดที่เป็นเม็ดกลมเล็ก ดูออกชัดเลยว่าย้อมสี  เอ!  เราโดนหลอกเสียแล้วกระมังหมดไปหลายตังส์เลย  ลองตรวจสอบพลังแสงออร่าก็พบพลังแสงสีขาวใส่เกือบเท่าพระธาตุ  ตรวจสอบพลังดูก็เกือบแยกไม่ออกคืออ่อนกว่าพระธาตุนิดเดียวเอง  อะไรกันนี่ ลองสืบหาดูโดยขอติดต่อกับเทวดาที่มากับวัตถุมงคลนี้จึงทราบว่า  ของสิ่งนี้มาจากประเทศลาว  วัดอยู่แถวริมแม่น้ำโขง  โดยข้ามฝั่งที่จังหวัดหนองคาย  ทางวัดได้จัดการปลุกเสกโดยพระอรหันต์โดยสมมุติให้ของสิ่งนี้  เป็น  “สิ่งเทียมพระธาตุ”  ใช้เคารพบูชาแทนพระธาตุ  อึ้งเลยผมอย่างนี้ก็มีด้วย  แสดงว่าพระอรหันต์ฝั่งลาวที่ผมไม่ทราบนามนี้  คงจะเป็นพระอรหันต์ที่มีบุญบารมีและฤทธิ์บารมีสูงมากๆ ใครพบตามแผนพระเช่าไปบูชาเถิดดีจริงๆ  ลักษณะขวดขนาดขวดรักยม  มีจุดยางสีสดใสได้ข่าวว่าตามแผงพระใน กทม. ก็มีเยอะ คือมีคนไปเช่ามาจากวัดที่ประเทศลาว  นำมาไว้ตามแผงพระในประเทศไทย
  \. `9 p: @) b+ X( H/ U8 k+ ~                เขียนบอกพระองค์นี้ว่าดีจริงๆ  ขอทุกท่านโปรดเข้าใจ  ต่อให้ท่านคล้องพระที่ว่าดีที่สุดแล้ว  อย่านึกว่าท่านใส่เสื้อเกราะใครทำอะไรไม่ได้ผิดครับ  อิทธิฤทธิ์  บุญฤทธิ์  ในพระเครื่องแพ้กรรมฤทธิ์ครับถ้ากฎแห่งกรรม  อกุศลกรรมมาถึงตัวท่านพระทั้งหมดที่เต็มคอช่วยไม่ได้เลยครับ  เวลาเราคล้องพระหรือวัตถุมงคลชนิดใดก็ตาม  รังสีออร่าจากสิ่งที่เราคล้องอยู่จะแผ่ไปรอบๆ ตัวเราจริง  ปกป้องภัยอันตรายและเป็นคลื่นกระแสเย็นเมตตาได้จริง  พลังเหล่านี้จะปกป้องคุ้มครองคนที่มีศีลมีธรรม  ส่วนคนที่ไร้ศีลธรรมประพฤติผิดทำรองคลองธรรม  ไม่มีพุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณใดๆ ปกป้องท่านหรอก  หนักคอเปล่า# p  |; \% v3 @8 ^+ a3 ^. O2 C
                เราจะพบคนที่ไม่ยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าจะยึดถือวัตถุอาคมทางไสยศาสตร์เป็นที่พึ่งของชีวิต  รูปวัตถุที่เขาพกพาบูชาจะมีรูปร่างแปลกๆ เยอะแยะ มีทั้งรูปสัตว์  อวัยวะคน  เทพเจ้าในวรรณคดี  ของเหล่านี้ศักดิ์สิทธิ์นะครับอย่าดูถูกกัน  บทจะเหนียวๆ จริงๆ แต่ต้องยึดมั่นถือเคร่งตามที่ครูบาอาจารย์สั่ง  เนื่องจากเป็นอาคมจากไสยศาสตร์บวกกับพลังจิตของผู้สร้างและครูบาอาจารย์ของเขาที่ถูกฝึกด้วยมิจฉาสมาธิจนใช้พลังจิตได้  แต่ผู้ใช้วัตถุอาคมเหล่านี้  ซึ่งเป็นพลังร้อน  จะสังเกตราศีจะดูไม่ผ่องใส  จิตใจจะร้อนลุ่ม  ไม่เยือกเย็นเหมือนพลังพุทธคุณ  ถ้ายึดมั่นถือมั่นกับไสยศาสตร์ภายใต้อิทธิฤทธิ์ของครูบาอาจารย์  ระวังถ้าสิ้นชีวิตไปดวงวิญญาณอาจจะต้องตกเป็นบริวารของผู้มีฤทธิ์ด้านอาคมได้  คือข้าปกป้องคุ้มครองเจ้า  เจ้าก็ต้องมาเป็นบริวารเข้า  ตอบแทนกันไงครับ
/ q! W* l& e/ h                สรุปแล้วเราจะใส่อะไรติดตัวดีนะ  ก็บอกได้ว่าเราควรใช้พระเครื่องที่มีบารมีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์  สถิตอยู่  เป็นอันดับแรก  รองลงมาก็เป็นบารมีพระโพธิสัตว์  รองลงมาก็คือพลังจากวัตถุที่มีความศักดิ์สิทธิโดยธรรมชาติเช่น  เหล็กไหล  ชนิดต่างๆ  รองลงมาก็คือวัตถุอาคมที่ครูบาอาจารย์สร้างขึ้น$ u) Q7 o* j' v
                แล้วผู้เขียนใส่พระอะไรละ  บอกให้ก็ได้ผมไม่ได้มีพระดังๆ ที่เขานิยมกันใส่หรอก  ถึงมีก็ไม่ใช่รุ่นที่เขานิยม  จะเรียงลำดับให้ดู7 c. n. V; a  r% h
1.        สมเด็จ กรุวัดพระแก้ว  มีบารมีสมเด็จโตปลุกเสก  ในองค์บรรจุเหล็กไหลและพระธาตุ  (มีคนเขาให้มาจาก  กทม.)
. C# C9 o; K8 ?9 {; w" _2.        พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน  พิมพ์กลางปี  2505  (ของพ่อ)6 I0 P1 j; C6 b0 ~( y% }9 X4 A
3.        พระกรุวัดมหาธาตุ  สรรคบุรี  เน้นคงกระพันมหาอุดสร้างสมัยอยุธยาตอนต้น
$ x7 j6 u7 w5 s7 _" l1 r4.        หลวงปู่เทพโลกอุดร  จากถ้ำวัวแดง  พิมพ์อธิษฐานฤทธิ์
4 y7 I$ F. S" {5.        หลวงปู่ศุข  พิมพ์สี่เหลี่ยมเนื้อทองเหลืองหลังยันต์ใหญ่กรุวัดดอนตาล
9 T6 t( _7 f3 R7 [2 k/ `6.        พระรอดฝังพระธาตุข้าวพระพุทธเจ้าของวัดพระบาทห้วยต้ม  อ.ลี้  จ.ลำพูน/ |' O7 |6 p1 K5 q) z2 u; ~( R  S
7.        เหล็กไหลชีปะขาว  ปีกแมลงทับของวัดพุทไธสวรรค์  อยุธยา
7 l& A' p( I! t' l1 ]9 ?, t% i* i8.        เหล็กไหลบารมี  วัดเขาแร่กายสิทธิ์  อ.โคกสำโรง  ลพบุรี* Q9 ^' k# S8 u1 u1 O! z
9.        รูปพ่อวิษณุเทพ  และเจ้าพ่อศาลพระกาฬ  (ภาคหนึ่งขององค์นารายณ์)
* x8 F  n& n3 k3 I1 ]10.        พระคำข้าว  กับพระหางหมาก  วัดท่าซุง  อุทัยธานี
7 m/ v% g) O4 C4 h11.        องค์ท้าว  เวสสุวรรณ& Q- K/ ]8 J$ {- }& ]: _! N/ v
+ s* }  G: T' ]* K# X) R& ^
                เพียบเลยพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำคอ  แต่ละองค์ไม่ใหญ่ครับองค์เล็กๆ ทำไมใส่เยอะจังหรือจะไปรบหรือไงใช่ครับผมต้องใส่ไว้ทั้งพุทธคุณอาคม  และอิทธิฤทธิ์ เพราะทุกวันนี้ผมต้องเกี่ยวข้องกับวิญญาณทุกวันเลยไปช่วยเขา  อาจจะพบนักเลงโตผู้มีฤทธิ์ในโลกวิญญาณ อาจจะพบผู้ทรงอาคมที่มัดบังคับวิญญาณ  ทำให้ต้องมีหลายอย่างไว้ป้องกันตัว  แต่วิธีที่ช่วยได้มากกว่าพระเครื่องและสิ่งศักดิ์ที่ใส่อยู่คือ พยายามประคองศิล 5 ไว้ให้ดีที่สุด ปฏิบัติภาวนาเป็นประจำ อุทิศบุญให้นายเวรที่มาถึงตัวทุกวันอุทิศบุญให้ทุกวิญญาณที่รักษาตัว และที่อยู่ในบ้านทุกวัน ผมแปลกหน่อยคือ ไม่ค่อยสวดมนต์ต่างจากชาวพุทธทั้งหลาย เพราะเสียงสวดมนต์ไม่ว่าในใจหรือออกเสียง จะมีผลร้ายกับวิญญาณทั้งหลายที่ยังลำบาก เขาเดือดร้อน และคำสวดทั้งหลายก็คือ คำสรรเสริญ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ และเป็นคำสอนของชาวพุทธเจ้า ที่ชาวพุทธเราท่องจำสวดต่อๆกันมา ถ้าเราสวดทุกวันเข้าใจความหมาย และปฏิบัติตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เยี่ยมมากแต่ผมไม่เข้าใจภาษาบาลีเลย สวดก็พอได้มั่งแต่รู้สึกตัวเหมือนเราสวดอ้อนวอนทำการสักการะเคารพ แต่เราไม่รู้เรื่องในคำสวดนั้นเลย สู้เรานำคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาปฏิบัติเท่าที่เราทำได้ ผลเลยเลือกทางปฏิบัติแทนการสวดมนต์ ส่วนใครชอบสวด สวดแล้วสบายใจก็ไม่ว่ากันชอบใครชอบมันแต่ขอบอกว่าบุญที่ได้จากการสวดนั้นน้อยมากเทียบกับการปฏิบัติ ยกเว้นใช้คำสวดนั้นเป็นองค์ภาวนา เพื่อให้จิตสงบอันนี้บุญใหญ่ครับ; Q- D, q" P$ T+ y
                เราคล้องพระเรื่องรางของขลังอะไร โปรดทราบวัตถุมงคลหลายๆอย่างมีวิญญาณติดตามมากับวัตถุมงคลนั้น ถูกสิ่งให้มาเฝ้ารักษาอยู่กับวัตถุมงคลนั้นๆ  เช่น เทวดา,เทพธิดา, ยักษ์,  นาค,  บางครั้งพบผีคือ สัมภะเวสีถูกมนต์ผูกบังคับให้อยู่กับวัตถุมงคลนั้น  เขาเหล่านั้นถูกส่งมาทำหน้าที่รักษาอยู่กับวัตถุมงคลนั้นเมื่อคนเรานำวัตถุมงคลนั้นมาติดตัวหรือเอาไว้ในบ้าน, ในรถ  ถ้าคนเราไม่ได้ให้บุญเขาเลยเอาแต่กราบไหว้บูชา ขอความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาเหล่านั้นก็ไม่เต็มใจที่จะเข้ามาช่วยคนที่บูชาอยู่  ปล่อยให้พลังออร่าจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ ช่วยเอาเอง  แต่ถ้าคนเราอุทิศบุญให้ “ทุกวิญญาณที่รักษาอยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธที่ข้ามีอยู่ทั้งหมด”  ทุกวันโอ้โฮ!  รักตายเลย พลังบุญที่เขาเหล่านั้นได้รับ  จะเป็นพลังฤทธิ์ของเขาเหล่านั้นด้วย อำนาจการปกป้องคุ้มครองจากเขาเหล่าน้น จะปกป้องคุ้มครองช่วยเหลือเราด้วยความเต็มใจจริงใจอย่างยิ่ง เรียกว่าต่างฝ่ายต่างพึ่งกัน เราอุทิศบุญให้เขาเหล่านั้น เขาก็ตอบแทนด้วยการช่วยเหลือเรา ยุติธรรมดีออก" {  Z, k" ~3 H  x0 L! `) V9 x

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุครับ ได้ความรู้มากๆครับ ชอบตอนที่คุณตอบแบบภาคภูมิใจครับ หักมุมดีครับ อนุโมทนาสาธุครับ สาธุครับ

Rank: 1

สาธุ เข้าใจแล้วค่ะ จะอุทิศบุญให้วิญญานที่รักษาสิ่งศักสิทธิ์ที่บ้าน ขอบคุณค่ะ

Rank: 1

สาธุ..รับทราบจ้า เป็นกำลังใจให้นะ
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-2-22 13:42 , Processed in 0.036335 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.