- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2013-1-26
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2016-3-21
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 10
- เครดิต
- 0
- โพสต์
- 162
- สำคัญ
- 0
- UID
- 10617
|
* D; N2 \ ?" E8 K8 D
- n( l+ A% v9 T l2 \ประเพณีไทย ผู้ชายทุกคนเมื่ออายุครบ 20 ปี ไปแล้วต้องบวชพระเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา เป็นประเพณีที่ดีมาก ที่ให้ผู้ชายทุกคนได้เข้าไปเรียนรู้พระพุทธศาสนาที่ตนนับถือ ให้เข้าใจเพื่อจะได้เป็นคนดีมีศีลมีธรรม เมื่อมีครอบครัวจะได้เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี พาบุตรภรรยาประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในความดี พ่อแม่ก็พลอยได้บุญจากการบวชด้วย บุญจากการบวชของลูก ถ้าพ่อหรือแม่เสียชีวิตไปแล้ว บุญนี้จะไปถึงพ่อแม่ได้โดยตรงโดยไม่ต้องอุทิศบุญ นับว่าเป็นกระแสบุญใหญ่มาก นับว่าบรรพบุรุษของเราคิดไว้ละเอียดรอบครอบมาก) W# l9 G! ?& X) Y5 Z6 S; G7 h& Q
แต่ผู้ที่บวชเป็นภิกษุแล้วเกิดบุญจากการบวช หมายถึง ภิกษุนั้นประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ดำเนินรอยตามพระพุทธองค์ มีศีลสังวรในความเป็นภิกษุ ปฏิบัติตัวในกรอบของภิกษุที่ควรทำทั้งศีล สมาธิ ปัญญา ภิกษุผู้นั้นจะมีผลบุญจากการบวชมหาศาล
1 B& B! ^* k( l* Y& \ ส่วนผู้ที่บวชเป็นภิกษุ แต่ไม่ประพฤติตามธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติไว้ ประพฤติตนเยี่ยงฆราวาส มีศีลที่ด่างพร้อย ผิดวินัยเป็นอาจิณ ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่ปรากฏในภิกษุรูปนั้น ดำรงตนเป็นคนโกนหัวห่มผ้าเหลือง ผลจากการปฏิบัติตนเยี่ยงนี้เกิดผลบาปมหันต์ที่แดนนรกภูมิ มีภิกษุเยี่ยงนี้ท่านไปจำพรรษามากเหลือเกิน. D, c; a( O R* T6 t
ตามที่เราพบเห็นทุกวันนี้ ผู้ที่บวชเข้าเป็นภิกษุที่บวชด้วยศรัทธาเข้ามาเพื่อปฏิบัติสู่หนทางหลุดพ้นไปสู่นิพพาน มีจำนวนเพียงน้อยนิด ท่านเหล่านี้เป็นกำลังของพระพุทธศาสนาและเป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนิกชน ผลบุญจากการบวชปฏิบัติที่ของท่านเหล่านั้น มีพลังมหาศาล ส่งผลถึงบิดามารดาของท่าน โดยมิต้องอุทิศอย่างมากมายท่วมท้น. O2 @. Z$ U( R6 t; b! B
แล้วชาวพุทธทั่วๆ ไปล่ะครับ รู้จักการทำบุญกันเป็นครั้งคราว ศีลก็รับจากพระมาหลายครั้ง แต่ไม่มีเวลาถือศีล เลยฝากคืนพระไว้ก่อน สมาธิกับวิปัสสนาญาณคงไม่ต้องพูดถึง ชาวพุทธเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สนใจปฏิบัติ ส่วนใหญ่ที่ชาวพุทธทั้งหลายเข้าวัดก็ตอนมีงานประจำปี มีการละเล่น ฝังลูกนิมิต ยกช่อฟ้า งานกฐิน ก็มาร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา อีกทีก็งานเผาศพอย่างที่เราพอเห็นกัน อีกกลุ่มหนึ่งชาวพุทธเราเข้าไปหาเกจิอาจารย์ที่อาคมขลัง วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้ไปหาธรรมะกันเลย ยึดมั่นอยู่กับความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ไม่ได้ยึดถือตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การคล้องพระเราคล้องไว้ก็ควรระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ให้พระที่เราคล้องคออยู่เป็นเครื่องเตือนสติไม่ให้ทำชั่วทำผิดศีลผิดธรรม เมื่อบุคคลเหล่านี้มีครอบครัวมีบุตรชาย พออายุครบบวชก็คิดให้ลูกชายบวชตามประเพณีของชาวพุทธ แล้วเขาทำกันยังไงหรือ4 r$ o. X4 @, F# @, _; O' q0 f
อันดับแรก กำหนดวันบวช ส่วนมากบวชกันระยะสั้นๆ เช่น 3 วัน 7 วัน 15 วัน ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวนี้การทำงานทำการจะมาขอลาบวช 3 เดือน รู้สึกจะไม่ค่อยได้ ผมเองก็ลาบวชได้ 15 วันเท่านั้น เมื่อแน่นอนแล้วก็ไปเตรียมพิมพ์การ์ดแจก ญาติพี่น้องเพื่อนฝูง มีรายการแจกซองล้างแค้นกันก็มีนะ เป็นบางคนนะครับ ทำบัญชีไว้เลย เอาเงินใส่ซองให้เขาไว้เท่าไร เขาจะมางานเราจะใส่ซองเท่าไร เอาแล้วคิดกำไรขาดทุนแล้ว ถ้าใส่ซองมาน้อยกว่าในบัญชี โกรธเขาอีก แล้วจะได้บุญมั๊ยนี้ เสร็จแล้วไปจองโต๊ะจีน ดนตรีหางเครื่อง เจ้าของวงดนตรีก็จะมีให้เลือกอีก ถ้าเอาหางเครื่องปกติราคาคิดเท่านี้ แต่ถ้าหางเครื่องชุดประหยัดเสื้อผ้า ก็ต้องแพงขึ้นไปอีก อ้อ! ไปหาหมออีก ก็หมอทำขวัญ เอามาทำขวัญนาค บรรยายถึงบุญคุณบิดามารดาให้นาคเข้าใจซาบซึ้งถึงพระคุณบิดามารดา น่าตกใจค่าใช้จ่ายงานบวชลูกสักคน เป็นหมื่นเป็นแสน ไม่รู้ทำไมต้องทำอย่างนี้ พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยสอนเลย
u6 m7 U0 L& K* I+ {/ b แล้วคนเขียนบวชยังไงล่ะ เล่าให้ฟังก็ได้ ผมขออนุญาตลาได้ 15 วัน เพราะผมเป็นข้าราชการ พอผมลาได้ ก็มาบอกพ่อกับแม่ผมว่าผมจะบวช 15 วัน พ่อแม่ไม่ยอม จะให้บวช 1 พรรษา ผมเลยถามว่าคนบวช 1 พรรษาแล้วจะเป็นคนดีไหม นี่ผมยังไม่ได้บวช แต่ผมไปปฏิบัติกรรมฐานอยู่ตามวัดป่าที่จังหวัดขอนแก่น เพราะตอนนั้นผมทำงานที่ขอนแก่น ศึกษาธรรมะปฏิบัติสายหลวงปู่มั่นไปฝึกอยู่ตามป่าช้าก็ไป ที่ผมทำอยู่นี่ดีกว่าคนที่บวช 1 พรรษาแล้วไม่ได้อะไรมาเลยเยอะแยะ พ่อแม่ผมก็ต้องยอม เอาบวช 15 วันก็เอา แม่บอกเดี๋ยวเอาหมอทำขวัญที่รู้จักมาสอนนาค คือเขารู้จักกัน จะมาทำขวัญนาคให้ฟรี ผมบอกว่าอย่าเลยแม่ ผมขอบวชเงียบๆ ไม่มีอะไรเลย เครื่องขยายเสียงก็ไม่ต้อง โกนหัวเข้าวัดเลย แม่ไม่ยอม ต้องจัดงานมีหมอทำขวัญมาร้องแหล่เพราะๆ ผมเลยต้องร่ายยาวอีก หมอทำขวัญคนนี้เวลาว่างเขาก็เอาแหไปหาปลามากิน ศีลเขาก็ไม่เคยถือ ท่องบทท่องกลอนเอาไว้หากินเท่านั้น จะมีอะไรมาสอนผม ก็ผมปฏิบัติธรรมเองมาตั้งหลายปีแล้วทั้งทางโลกทางธรรม ผมรู้มากกว่าเขาอีก ผมซิต้องสอนเขา ไม่ใช่เขาสอนผม ถ้าจะจัดงานใหญ่ ผมไม่บวชที่นี่ล่ะ จะไปบวชที่ภาคอีสานตามวัดป่าแทน ถ้าบวชที่บ้านหมูกี่ศพ ปลากี่ศพ กุ้งกี่ศพ ไก่กี่ศพ ที่ต้องตายเพราะผมบวช กรรมทั้งนั้น จะให้ผมบวชที่บ้านต้องจัดเงียบๆ เท่านั้น การ์ดก็ไม่ต้องแจก ซองไม่ต้องรับ เดินบอกมาร่วมบุญกันในหมู่บ้านและบ้านใกล้เรือนเคียงพอแล้ว ตกลงผมเลยบวชเงียบๆ ครับ
9 r8 `5 Y: H y6 N8 S5 J0 i) w; H* \. t อันดับสอง ลูกชายที่จะบวชเขาเรียน รู้ธรรมะของพระพุทธเจ้ามาบ้างไหม ว่าบวชแล้วควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นอย่างไร คนที่เรียนรู้และปฏิบัติมาแล้วจะถือโอกาสตอนบวชตั้งใจปฏิบัติให้เต็มที่ บุญจากการบวชเกิดมหาศาล แต่คนทั่วๆ ไปเขาจะบวชเมื่อเรียนจบ หรือลางานมาบวช ก็บวชกันไปตามประเพณี ไม่รู้เรื่องอะไรเลย บวชพอให้มีรูปร่างเป็นพระเป็นใช้ได้ ถ้าบวชที่วัดที่มีการสอนอบรมธรรมะ พอได้ศึกษาก็ดีไป แต่หลายๆ วัดมากเลย บวชไปนอนเฝ้าวัดเฉยๆ ไม่มีใครสอนอะไรเลย เอาแค่ท่องบทสวดมนต์ให้ได้ เอาไว้สวดไปวันๆ ศีลก็ไม่เคยถือ ปฏิบัติตัวเหมือนฆราวาส ศีลพร่องไปทุกวัน บาปมันก็เกิดจากการผิดศีลทุกวัน ยิ่งบวชนานบาปยิ่งมาก บุญอยู่ไหนล่ะ ไม่เห็นมีเลย บวชเป็นพระอย่านึกว่าได้บุญ มันต้องอยู่ที่ปฏิบัติตัวของผู้บวช ส่วนใหญ่ที่พบเห็นบวชเพิ่มบาปกรรมกันเป็นแถว
: e6 a3 e0 M% r บวชพระเขาบวชกันในโบสถ์ คำบาลีทั้งนั้นที่ใช้ในการบวช ไม่รู้เรื่องเลย คนไทยพระไทยพูดภาษาแขกให้กันฟัง เลยไม่รู้เรื่องอะไรกันเลย ว่าที่กล่าวคำขอบวชนั้น เพื่อสละทุกอย่าง เพื่อเดินตามรอยบาทพระพุทธองค์ไปสู่มรรคผลนิพพาน พอบวชเสร็จแล้วได้ทำตามคำที่ขอบวชหรือเปล่าล่ะ โกหกพระพุทธเจ้า บาปมากนะ อย่าเห็นเป็นของเล่นกัน พอบวชเสร็จ ตอนออกจากโบสถ์คนแย่งกันเอาเงินใส่ย่ามพระใหม่กันใหญ่ บอกว่าพระยังบริสุทธิ์อยู่ได้บุญเยอะ โถ! คิดได้ยังไงนะ บริสุทธิ์หรือ สมองและความคิดพระใหม่ก็คือคนตอนเป็นฆราวาสนั่นแหละ จิตยังไม่ได้ฝึกฝนจนเป็นพระสักหน่อย ถ้าจะว่าบริสุทธิ์ก็ใช่ คือยังโง่บริสุทธิ์ ยังไม่รู้อะไรเลยไงล่ะ เงินที่เขาใส่ย่ามมานั่น ถ้าเก็บไว้ใช้เองไม่สละไปเข้ากองกลางของวัด ผิดวินัย แล้วบาปเกิดทั้งโยมที่เอาของผิดวินัยใส่ย่ามพระ พระบวชใหม่ใจยังเป็นฆราวาส ถ้าเกิดความโลภ ก็ผิดวินัยทันทีที่ก้าวออกจากโบสถ์ ไหนล่ะ บุญจากการบวช; P: y1 ^- x4 B6 h" r, i* ]
ท่านผู้มีลูกชายทั้งหลาย ถ้าจะให้ลูกชายบวชแล้วเกิดผลบุญ ขอให้ถามความสมัครใจของลูกดูก่อน ว่ายินดีที่จะบวชเพื่อศึกษาปฏิบัติธรรมหรือไม่ ถ้าสมัครใจจริง ควรให้เขาศึกษาข้อวัตรปฏิบัติของพระดูก่อน ว่าเขาทำได้ไหม แล้วควรจะเลือกวัดที่มีครูบาอาจารย์สอนการปฏิบัติเท่านั้น แต่ถ้าลูกจำใจหรือถูกบังคับให้บวช อย่าบวชเลยครับ เดี๋ยวไปเป็นพระแต่ตัว มุ่งแต่ผิดวินัยพระตามวินัยของฆราวาสในวัยหนุ่ม บาปหนักกว่าตอนเป็นฆราวาสอีก ผลบาปมันจะตกไปถึงพ่อแม่ด้วยไม่รู้นา ความจริงลูกจะสนใจธรรมะหรือไม่ มันจะเริ่มจากพ่อแม่นั่นแหละ เคยสนใจทำบุญ ปฏิบัติธรรมหรือไม่ล่ะนั่นแหละ ตัวอย่างที่ลูกเห็นและทำตาม อย่าอ้างว่าไม่มีเวลา ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน มันต้องอยู่ที่มีเจตนา ใช่หรือไม่ครับ
0 A0 F, j$ d$ A9 G8 h q9 `0 {* T อีกอย่างหนึ่งการบวชหน้าไฟ คือบวชเนื่องในงานศพ เพื่อจูงศพขึ้นเมรุ มักจะเกณฑ์ลูกหลานมาโกนหัวบวชเณรกันเป็นแถว หวังให้ผ้าเหลืองของลูกหลานนำพาวิญญาณขึ้นสวรรค์ พอเผาศพเสร็จก็สึกจากเณร ตกลงบวชวันเดียวเอง ไม่เห็นมีผลบุญอะไรเลย เอาเด็กมาบวชเณร เด็กก็คือเด็กไม่รู้เรื่องอะไร ทำกันเหมือนเล่นลิเกพอเป็นพิธี เมื่อเด็กบวชเณรก็ต้องมีศีล 10 แล้วเณรเด็กๆ เหล่านั้นเขาตั้งใจถือศีลให้บริสุทธิ์หรือเปล่าล่ะ ถ้าตั้งใจถือศีลให้บริสุทธิ์ แล้วอุทิศผลบุญให้ผู้ตายรับรองวิญญาณผู้ตายได้บุญเยอะเลย แต่ถ้าจ้างเด็กมาบวชเณร นอกจากวิญญาณจะไม่ได้รับบุญแล้ว เด็กๆ เหล่านั้นกล่าวคำขอบวชเณรกับพระอุปชฌาย์แล้ว เป็นเณรแล้วกลับไม่ปฏิบัติตัวเป็นเณรที่มีศีลบริสุทธิ์ ประพฤติผิดศีลแล้ว บาปก็เกิดกับเด็กอีกต่างหาก ตกลงมันคุ้มหรือที่จับเด็กมาบวชเณรจูงศพ ไปสร้างผลบาปให้กับเด็กเปล่าๆ พุทธศาสนาเป็นเรื่องลึกซึ้ง อย่าทำแค่เป็นพิธีการกันเลยครับ8 L7 |3 ?3 k1 s3 N+ x+ @( O
|
|