วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2557
ณ มูลนิธิพระมหาจักรพรรดิพระโพธิสัตว์กวนอิม
( พระโพธิสัตว์กวนอิม 4 พระพักตร์ สูง 42 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย )
ขอเชิญร่วมพิธี " ซิโกเด็ก " ประจำปี 2557 ซึ่งจะจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2557 ได้ย้ายพิธีซิโกเด็กจากวัดหน้าพระเมรุ มาที่มูลนิธิพระมหามงคลพุทธนิมิตอวโลกิเตศวร ( พระโพธิสัตว์กวนอิม ) อยู่ใกล้กับเทศบาลเมือง ต.ตลาดเกรียบ ติดถนนใหญ่สาย 347 หรือถัดจากโรงงานยาคูลท์ประมาณ 3 กิโลเมตร จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชน และประชาชนทั่วไปร่วมงานบุญในวันดังกล่าว
พิธีกรรมทำบุญ / เผา / สวดส่งดวงวิญญาณที่ทารกคลอดก่อนกำหนด ( แท้ง ) ภาษาจีน เรียกว่า “ ซิโกเด็ก ” ( ศพเด็กไม่มีญาติ ) การทำแท้งถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดทั้งทางโลกและทางธรรม ความผิดทางโลกนั้น ผู้ลงมือทำแท้งและบุคคลที่ต้องการเอาทารกออก ถือว่ามีความผิดกฎหมายบ้านเมือง ส่วนทางธรรมถือว่าเป็นบาปหนัก นอกจากนี้วิบากกรรมของการทำแท้ง ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะผู้เป็นมารดาของเด็กเท่านั้น
ฉะนั้นผู้ที่มีส่วนร่วมให้การสนับสนุนการทำแท้ง ( ผู้แนะนำสถานที่ทำแท้ง , ผู้ที่พาไปทำแท้ง , ออกค่าใช้จ่ายในการทำแท้ง ( ให้ยืมเงิน หรือ ออกเงินให้ ) , ผู้ที่บังคับให้ไปทำแท้ง เช่น บิดามารดาของผู้ตั้งท้อง และบิดาของเด็กที่ถูกทำแท้งก็มีความผิดและบาปติดตัวเช่นกัน ฯลฯ ) ล้วนได้รับผลกรรมจากการมีส่วนร่วมทำแท้งทั้งนั้น ทุกๆรายมักพบความหายนะในการดำรงชีวิต บางคนทำมาหากินไม่ขึ้น การงานไม่ก้าวหน้า ค้าขายไม่เจริญ ครอบครัวแตกแยก การเงินฝืดเคืองขัดสนติดขัด เก็บเงินทองไม่อยู่ โชคลาภไม่มี สุขภาพไม่ดี เจ็บป่วยเป็นประจำ บางรายถึงกับมีเรื่องฟ้องร้องเป็นคดีความ ติดคุกติดตะราง ต้องล้มละลายหมดเนื้อหมดตัว หรือไม่ก็มีบุตรเป็นเด็กพิการไปเลยก็มี เพราะผลของกรรมจากผู้มีส่วนร่วมสนับสนุนการทำแท้ง
พระครูโกศลธรรมโสภิต หรือ เรียกในกลุ่มลูกศิษย์ว่า พระอาจารย์อ๊อด “ ประธานมูลนิธิพระมหามงคลพุทธนิมิตอวโลกิเตศวร ( พระโพธิสัตว์กวนอิม ) ” ซึ่งปัจจุบันได้จำพรรษาที่ วัดหน้าพระเมรุราชิการาม หรือเรียกสั้นๆว่า วัดหน้าพระเมรุ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา
เมื่อพุทธศักราช 2540 พระอาจารย์ได้ริเริ่มจัดงานพิธีซิโกเด็กที่วัดหน้าพระเมรุ ( วัดหน้าพระเมรุราชิการาม จ.พระนครศรีอยุธยา ) ได้รับการตอบรับจากทั่วสารทิศเป็นอย่างมาก จนระยะเวลาต่อมา ได้เปลี่ยนสถานที่การจัดงานพิธีซิโกเด็ก ไว้ ณ สถานที่ มูลนิธิพระมหามงคลพุทธนิมิตอวโลกิเตศวร ( กวนอิม ) หรือเรียกสั้นๆว่าในคณะกลุ่มลูกศิษย์ว่า พระมหาจักรพรรดิพระโพธิสัตว์กวนอิม “ กวนอิมใหญ่สุดในประเทศไทย สูง 42 เมตร ” โดยเหตุที่ย้ายการจัดงานพิธีซิโกเด็ก นั้นมีหลายประการ 1. สถานที่แห่งนี้กว้างขวางกว่าวัดหน้าพระเมรุ สามารถรองรับผู้มีจิตศรัทธาได้เป็นจำนวนมาก 2. สะดวกสบายในการจัดพิธีซิโกเด็ก และสถานที่จอดรถ 3. ทางจราจรคล่องตัวตลอดไม่ติดขัด 4. บริเวณโดยรอบบรรยากาศสดชื่นมีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา 5. สถานที่ไม่มีเสียงรบกวน จากโรงงานต่างๆ ฯลฯ
ครั้งนี้กำหนดจัดพิธีซิโกเด็กประจำปี 2557 จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ซึ่งคาดว่าจะยิ่งใหญ่กว่าทุกปีๆ ที่ผ่านมา
โดยปี 2557 เริ่มงานตั้งแต่ 9.19 โมงเช้า ไปจนถึงช่วงเย็น โดยจะมีเครื่องบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประกอบไปด้วย
" บรรลังก์เทียน " , " บายศรีพรหมศิวะนารายณ์ " , " บายศรีธรรมจักร " , " บายศรีบารมีเปิด 3 ภพ " , " บายศรีพรหมอภัยทาน " , " บายศรี ตอ " , " บายศรีบรมครูปากชาม 1 " , " บายศรีพราหมณ์หลัก 12 " , " บายศรีพราหมณ์หลัก 9 " , " บายศรีเกตุแก้วจุฬามณี " , " บายศรีพญานาคเก้าเศียร " ฯลฯ และบวงสรวงให้ดวงวิญญาณสัมภเวสี ที่ยังเร่ร่อนอยู่ โดยยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด บรรยากาศในงานจะมีการเลี้ยงพระ แสดงธรรมเทศนา และมีการเขียนชื่อผู้ตายลงในกระดาษ แล้วใส่ไปในโลง นอกจากนี้ยังมีการ เผาภูเขาทอง สิ่งของเครื่องใช้ไปให้แก่ดวงวิญญาณทารก หลังจากเผาเสร็จจะมีการเดินข้าม สะพานข้ามอุปสรรค ซึ่งเป็นสะพานที่คลี่คลายและลดปัญหาวุ่นวายในชีวิต
ภายในวันงาน ห้ามฝากกันทำบุญ ภายในงานพิธีซิโกเด็กนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ( เว้นแต่ความศรัทธาของแต่ละบุคคลที่จะร่วมบุญกุศล ) ผู้ร่วมงานสามารถนำข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวกับเด็กได้ เช่น ที่นอน หมอน มุ้ง ขวดนม แป้ง ผ้าอ้อม เสื้อผ้า รวมทั้งของเล่นประเภทต่างๆได้ ซึ่งหลังจากเสร็จพิธีแล้ว ทาง พระมหาจักรพรรดิพระโพธิสัตว์กวนอิม จะนำไปมอบให้พ่อแม่เด็กที่ขาดแคลน
ภายในงานเจ้าหน้าที่จะบอกบุญ คนที่มางานร่วมบริจาคให้เขียนใบอุทิศส่วนกุศล ให้เด็กๆ ที่เสียชีวิตหรืออาจจะเป็นญาติๆ ( ผู้ไม่เคยทำแท้งสามารถเขียนชื่อสมมุติวิญญาณทารกได้ )
พระอาจารย์อ๊อด ได้อธิบายทัศนคติ การจัดพิธีกรรมนี้ แก่ลูกศิษย์ว่า " ความจริงแล้ว พิธีกรรมนี้ไม่ใช่การไถ่บาปสำหรับผู้ที่เคยทำแท้งมาก่อน หากแต่เป็นการทำเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นมีโอกาสได้พบกับความสงบสุข มีโอกาสได้รับส่วนบุญส่วนกุศล ถือเป็นการส่งดวงวิญญาณเหล่านั้น ให้พ้นจากห้วงทรมาน และสามารถไปสู่สัมปรายภพได้ " , " ความเชื่อของผู้เคยผ่านการทำแท้งมาก่อน ส่วนใหญ่มักจะถูกรบกวนจากดวงวิญญาณ ของทารกที่ถูกทำลาย เนื่องจากการทำแท้ง เป็นการเอาร่างศพเด็กออก แต่ดวงวิญญาณยังถือตนอยู่ในครรภ์ ว่าเป็นลูกของพ่อแม่ผู้ก่อให้กำเนิดมา การทำแท้งโดยทางโลก ก็ผิดกฎหมายบ้านเมือง ย่อมมีโทษทัณฑ์ โดยทางธรรม ก็ผิดศีลธรรม ถือว่าเป็นบาปหนัก มีคนจำนวนไม่น้อยได้รับผลกรรม จากการทำแท้งอย่างหนักหน่วง และทุกรายได้รับหายนะ เป็นผลของกรรมบาปนั้น เป็นที่ทรมานทุกทางกายและทางจิตใจ " , " พิธีกรรมซิโกเด็ก เป็นวิถีการอ้างเป็นเหตุทำบุญเหมือน การทำบุญให้ตุ๊กตาแป้ง ของหลานท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี ในครั้งพุทธกาลทางวัดจัดเครื่องไทยธรรมให้บูชา ตามแต่กำลังศรัทธา มีโลงศพกระดาษ และกระดาษป้ายชื่อทารก ตุ๊กตาหุ่นทารก ผ้าบังสุกุล เป็นเครื่องพิธีกรรมสำคัญ มิได้ก่อความเดือดร้อนแก่สังคมด้วย " พิธีกรรมหากเป็นเช่นนี้จริง ก็ย่อมเป็นวิถีทำบุญกรรม
1. ช่วยปลดเปลื้องความทุกขโทมนัส ของดวงวิญญาณทารก ให้รับรู้ปัตตานุโมทนามัยบุญ ส่งไปเป็นโอปปาติกะกำเนิดที่ดี
2. ช่วยสร้างความสำนึกแก่พ่อแม่ผู้ผิดพลาดในชีวิต ให้ตั้งต้นชีวิตใหม่ดีเกินกว่าที่เคยเป็นมา
3. ช่วยประกาศความผิดทั้งโดยกฎหมายบ้านเมืองและโดยศีลธรรม แก่หมอเถื่อนผู้ประกอบการทำแท้งเด็กเป็นอาชึพ เป็นมิจฉาวณิชา ฆ่ามนุษย์เป็นอาชีพ
4. ช่วยกระตุ้นรัฐให้หันมาพิทักษ์สันติราษฎร์ ใช้กฎหมายบ้านเมือง ให้มีผลทัดเทียมกัน
5. กระตุ้นพุทธบริษัท ให้ลุกขึ้นมาต่อต้าน การกระทำผิดศีลธรรม ฯลฯ
ในขณะที่พุทธบริษัท ๔ ยังอ่อนแอทางสติรู้ตัว และปัญญารู้คิดอยู่ จะรู้เห็นได้ตามความเป็นจริง พิธีกรรมนี้ ย่อมมีผลดีมากกว่าผลเสีย ทางภูมิภาคล้านนาไท มีพิธีกรรมกวมผ้าสังฆาฏิ์ สวดพุทธมนต์ถอนจิตวิญญาณ คล้ายกันกับพิธีกรรมนี้ กระทำกับแม่เด็กที่ถูกแท้ง ด้วยสาเหตุคาดไม่ถึง เช่นหกล้มครรภ์กระแทกเป็นต้นซึ่งแต่ละปีผู้ที่มาร่วมพิธีส่วนใหญ่จะเป็นคนที่อายุยังน้อย รวมทั้งเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ที่สำคัญคือ ผู้ที่มาร่วมพิธีแต่ละปี เป็นคนหน้าใหม่ๆ ตัวเลขคนที่มาร่วมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเครื่องบ่งชี้ว่า การทำแท้งไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
พระครูโกศลธรรมโสภิต ( พระอาจารย์อ๊อด ) ได้กล่าวทิ้งท้ายกับคณะลูกศิษย์ว่า ~ แต่ละปีจะมีกำหนดวันทำพิธีซิโกเด็ก หากจัดพิธีซิโกเด็กไม่ตรงกับวันเปิดประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพ ( สรรค์ มนุษย์ นรก ) และจัดเครื่องบวงสรวงไม่ถูกหลักวิธี จะไม่สามารถ ส่งดวงวิญญาณให้พ้นจากห้วงทรมาน และไปสู่สัมปรายภพได้ เปรียบเหมือนฤกษ์ยามในการประกอบพิธี~
คำถามยอดฮิต ที่พบบ่อย
1. ไม่เคยทำแท้งมาร่วมงานได้หรือไม่ ?
ตอบ มาร่วมงานได้ เพราะว่าญาติพี่น้องมิตรสหายหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรา ที่ล่วงลับไปแล้ว จะได้รับบุญ
2. ถ้ามาร่วมงานแล้วจะได้อะไร ?
ตอบ บุคคลที่มาร่วมงาน ถือว่าช่วยกันส่งดวงวิญญาณของเด็ก ผู้ที่มีส่วนร่วมการทำแท้ง วิญญาณจะหยุดอาฆาต และเมื่อเด็กไปอยู่ภพที่ดีแล้ว เด็กๆเหล่านั้นจะมาช่วยเรา
3. ไม่มีปัจจัย( เงิน )มาได้มั้ย ?
ตอบ ไม่มีปัจจัย( เงิน ) สามารถมาได้ เพียงแต่ท่านต้อง ทำจิตใจให้ผ่องใส ยิ้มแย้มแจ่มใส
4. ต้องแต่งชุดยังไง ?
ตอบ แต่งชุดสบายๆเป็นกันเอง ไม่กำหนดว่าต้องใส่สีขาว กางเกงขาว
5. ต้องเตรียมอาหารมาหรือเปล่า ?
ตอบ มีโรงทาน ( ฟรี )
6. ฝากมาทำบุญ หรือเป็นสะพานบุญแก่กันได้มั้ย ?
ตอบ ไม่แนะนำให้ฝากกันทำบุญ ( หลวงพ่อ เคยกล่าวว่า ใครกินใครอิ่ม ใครทำใครได้ )
7. หลังจากเข้าร่วมพิธีซิโกเด็กเสร็จแล้ว กลับบ้านไปต้องทำอย่างไรอีกมั้ย ?
ตอบ แนะนำให้สวดมนต์ ภาวนา ( ทุกวัน ) บทไหนก็ได้
8. ถ้าไม่สะดวกสวดมนต์ ภาวนา ( ทุกวัน ) ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
ตอบ ให้เข้าห้องพระ กราบลง 5 ครั้ง เพื่อระลึก ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า บิดามารดา ครูบาอาจารย์
9. ถ้าไม่มีห้องพระทำอย่างไร ?
ตอบ ให้ระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เราชอบ หรือ พระสงฆ์ที่เราเคารพ ถือว่า เกิดกุศลแล้ว
เคล็ดลับ : หลังมาร่วมพิธีซิโกเด็ก ส่งวิญญาณเด็กให้พ้นจากห้วงทรมานไปสู่สัมปรายภพนั้นแล้ว ผู้ที่มีส่วนร่วมทำแท้งหรือไม่มีส่วนร่วมทำแท้ง ทุกๆวันควรสวดมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลเสริมดวงชะตาให้คล่องตัวในการดำรงชีวิต ได้แก่ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น บทปัตติทานะคาถา ( กรวดน้ำตอนเช้า ) และ กรณียเมตตาสูตร ( บทแผ่เมตตาพระขรรค์เพชรของพระพุทธเจ้า ) หากต้องการที่จะสวดบทอื่นๆ แนะนำให้สวดเพิ่มเติมตามกำลังศรัทธา บทธัมมจักกัปปวัตนสูตร ( พระธรรมเทศนากัณฑ์แรกให้ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ) พุทธชัยมงคลคาถา หรือ พาหุงมหากา ( ชัยชนะของพระพุทธเจ้า ) พระคาถาธารณปริตร ( สรรเสริญคุณของพระพุทธองค์ ป้องกันภัยอันตราย ) เมตตาพรหมะวิหาระภาวนา ( แผ่เมตตาใหญ่ )
แหล่งที่มา chakrapatkuanim.com/board และ chakrapat.com