- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2013-1-26
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2016-3-21
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 10
- เครดิต
- 0
- โพสต์
- 162
- สำคัญ
- 0
- UID
- 10617
|
ไม่ใช่การสอนสมาธิ เพียงแต่เป็นการบอกวิธีทำจิตขณะอุทิศบุญ เรื่องนี้ไม่เคยอ่านตำราหรือฟังจากคำสอนของพระอาจารย์ท่านใด เป็นความรู้ที่ได้ขึ้นมาจากประสบการณ์ขณะกำลังอุทิศบุญให้วิญญาณ จะเล่าให้ฟังไม่ใช่ซิ ต้องบอกว่า จะเขียนให้อ่าน, o6 G- g8 A. x" O) G. I
ที่วัดดอนตูม อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ผมพาเยาวชนไปเข้าค่ายคุณธรรม ผมมีหน้าที่ไปดูแลความเรียบร้อยของเด็กๆก็ต้องไปนอนที่วัดด้วย คิดตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วว่ายังไงวันนี้ คงเจอผีแน่ๆ เพราะเราไปนอนที่วัดถิ่นเขา คือวัดนี้เป็นวัดปฎิบัติถึงจะไม่เคร่งครัดนัก แต่ก็ถือว่าเป็นวัดดีวัดหนึ่งพระท่านมีการทำวัตรเย็นนั่งภาวนากัน วิธีสังเกตุว่าวัดไหนถ้ามีผู้ที่สามารถเห็นวิญญาณ จะรู้ทันที คือถ้าวัดไหนพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ มีการปฎิบัติภาวนา วิญญาณสัมภะเวสี เปรต อสูรกายเพียบทั้งวัดเลย วิญญาณเหล่านี้มารออนุโมทนาบุญในขณะที่พระท่านปฎิบัติภาวนา แสงบุญจะออกจากจิตของพระท่านกระจายไปทั่ว ตอนนี้แหละที่วิญญาณที่ต้องการบุญจะอนุโมทนาบุญเอาเอง 7 z- a& U: a4 m7 ]$ ?( H
พอผมขับรถเข้าเขตวัด เท่านั้นเองก็มีพลังจิตของกลุ่มวิญญาณที่วัด มากระทบจิตผม สัมผัสที่ท้ายทอยหนักอึ้งเลย ส่วนผมก็ไม่รอช้า เบิกบุญของผมลงมาแจกกระจายไปทั่ววัดไปเรื่อยคือทำงานคุมเด็กไป จิตก็อธิษฐานเบิกบุญมาแจกไป วิญญาณที่วัดนี้เยอะๆจริงๆ รุมล้อมต่อจิตกับผมตลอดเวลาเลยพอตกค่ำอาบน้ำเสร็จ ยืนอยู่บนศาลาวัด มองไปที่ลานปูนภาพปรากฎในจิต เห็นวิญญาณรูปร่างคนยืนมองมาที่ผมเต็มลานปูนเลย ตอนนั้นญาติธรรมของผมเดินเข้ามาคุยด้วย เรื่องตาเขาดีกว่าผม เขาบอกว่าวิญญาณล้อมผมเต็มหมด ผมเลยบอกช่อยคอยดูด้วย เดี๋ยวจะอัดบุญให้เขาให้เต็มที่ จะเป็นอย่างไงบ้าง หลังจากนั้นผมก็รวบรวมสมาธิ กำหนดจิตอธิษฐานเบิกบุญของผมลงมา แล้วพุ่งจิตอุทิศบุญแจกกระจายรอบตัวโดยใช้การเพ่ง เท่านั้นเองญาติธรรมที่ช่วยดูเหตุการณ์อยู่รีบร้องบอกเบาหน่อยๆ กระเด็นหมดแล้ว ผ่อนจิตลงหน่อยวิญญาณเขารับไม่ไหว ผมเลยผ่อนจิตเป็นจิตแบบเบาๆแล้วเบิกบุญลงมาแจกกระจายออกไป เออ!ดีแล้ว เขารับได้เต็มที่เลย อย่เพ่งจิตออกมานะ ผ่อนจิตเบาๆ แจกบุญออกไป อย่างนี้ดีแล้ว ครับนี่คือการพิสูจน์ทราบการกำหนดจิตในการอุทิศบุย ทำให้ผมเข้าใจได้ทันทีว่า การอุทิศบุญนั้น เราอย่าเพ่งหรือพุ่งจิตไปยังวิญญาณอย่างแรง ด้วยความตั้งใจดีที่จะให้เขาได้รับบุญ ผลจะกลับเป็นว่า ร่างของวิญญาณที่อยู่ในสภาวะต่างๆเช่น เปรต อสูรกาย สัมภะเวสี เขารับไม่ไหว เหมือนพลังน้ำที่เชี่ยวกราดพุ่งไปหาเขา เราต้องทำจิตเบาๆ คล้ายการแผ่เมตตาคือ เราใช้การอุทิศบุญโดยกำหนดเหมือนเป็นลำแสงสีขาวจากจิตเรา หรือสมองเราให้กระจายหรือพุ่งไปเบาๆ ให้กับวิญญาณที่เราต้องการให้บุญเขา นั้นแหละครับวิธีการกำหนดจิตอุทิศบุญที่เหมาะสม ที่ผมได้ทดลองมา2 i- c7 Y) L+ P+ _
ผมโดนรุมขอบุญอยู่ 2 วัน ถึงเริ่มเบาลง ก็ไม่เป็นไรนึกว่าสงเคราะห์กัน ตอนบ่ายวันที่ 2 เดินไปตรวจตามห้องน้ำห้องส้วมที่อยู่ริมรั้ววัด เดินไปตรวจคนเดียว พอเดินไปหลังห้องส้วมริมรั้ววัด ความรู้สึกหนักอึ้งก็กลับมาอีก อ๋อ!พวกผีอยู่นอกรั้ววัด เล่นเกาะเรามาเต็มไปหมด ขอบุญมั้ง ผมก็อุทิศบุยด้วยการอธิษฐานเบิกบุญลงมาแจกกระจายไปทั่วให้เท่าไหร่ก็ไม่ยอมละ ต่อจิตกับผมขอบุญไม่เลิกเกาะเข้ามาในวัด ผมเดินไปทางไหนในวัด ผีจากนอกวัดก็เกาะตามเอาบุญตลอด สงสัยเป็นคนละพวกกับในวัดมั้ง! ตามใจอยากขอบุญก็ให้ไปเรื่อยๆ ความจริงผมไม่ต้องเบิกบุญลงมาให้ก็ได้ เพราะผมอธิษฐานเบิกบุญของผมลงมาให้กับทุกวิญญาณที่ต้องการ ตลอดชีวิตไว้แล้วแสงบุญสีขาวพุ่งจากฟ้าลงมาที่หัวผมตลอดเวลาทั้งหลับและตื่นวิญญาณใดต้องการบุญของผมก็อนุโมทนาเองได้เลย เพราะผมเปิดบุญของผมไว้แล้วตลอดชีวิต แต่ด้วยจิตมันเคยตัวพอถูกต่อจิตจากวิญญาณ ก็จะคิดอธิษฐานเบิกบุญลงมาให้ทันที; f" S; s7 r( `
พอวันที่ 3 เสร็จสิ้นการเข้าค่ายอบรมคุณธรรม ผมก็ขับรถกลับบ้าน แต่ เอ!รถหนักจังเหมือนมีคนนั่งมาเต็มรถเลย พอถึงบ้านลองตรวจสอบดู ปรากฎว่าทั้งสัมภะเวสี เปรต อสูรกายจากวัด ตามผมมาเต็มไปหมด ขออยู่ด้วย ก็ตามใจงั้นก็เชิญขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าตึกบ้าน ผม ไปเลยอนุญาต
/ [6 |% o }; G' N$ K2 j% Gทำไมผีที่วัดขึ้นรถผมได้ ไม่มีใครห้ามหรือ ที่รถผมมี แม่ย่านางเป็นสิบ อีกทั้งยักษ์เพียบ แต่ผมบอกพวกที่ประจำรถไว้แล้ว พบวิญญาณลำบากที่ไหน เก็บขึ้นรถเอาไปบ้านเรา เอาไปส่งให้ท่านที่สอนปฎิบัติธรรม ที่ดาดฟ้าบ้านเราคือ พระภูมิ เจ้าที่ และเทวดาที่ประจำอยู่กับพระเครื่องของผมอีกจำนวนมาก ท่านเหล่านี้รับหน้าที่สอนการปฎิบัติศีล สมาธิให้กับพวกวิญญาณ ที่ลำบากเหล่านั้น ท่านเหล่านั้นสนุกสนานกับการสอนเพื่อนสร้างบุญธรรมทานกันใหญ่ กลางคืนถ้าผมขึ้นไปเดินเล่นชมดาวบนดาดฟ้า ทำจิตเบาๆจะเห็นคนนุ่งชุดขาว นั่งสมาธิกันเต็มไปหมด นั้นและครับวิญญาณเขานั่งปฎิบัติธรรมกัน ใครปฎิบัติธรรมจนบุญเพียงพอ ดวงจิตเขาก็ลอยขึ้นไปเบื้องบนสู่สวรรค์ พวกวิญญาณลำบากพวกใหม่ก็มาแทน พวกเก็บวิญญาณก็มีจำนวนหลายท่านมากขยันเก็บกันเสียด้วย ดูนะ!ธุรกิจบุญที่บ้านผมรุ่งเรืองขนาดไหน ใครจะเลียนแบบบ้างก็ไม่สงวนสิทธิ์ ถ้าปริมาณวิญญาณมากเกินไป ก็จะมีเจ้าหน้าที่ที่บ้านผม นำไปส่งศูนย์ใหญ่คือลานปูนหน้าวิหาร 100 เมตร วัดท่าซุง เวลาผมไปทำบุญเหรียญทองที่วัดท่าซุง พอลงรถเท่านั้นแหละจะมีพลังจิตของวิญญาณที่วัดมารุมล้อม กระทบจิตผมตลอดเวลา ก็เหมือนคนรู้จักกันทักทายกันนั้นแหละ ใครศิษย์วัดท่าซุงที่ได้มโนมยิทธิ ท่านลองสำรวจลานปูนหน้าวิหาร 100 เมตร ดูซิครับ ยิ่งเวลาสงบยามค่ำคืน ลองเข้ามโนมยิทธิ สำรวจให้รอบวัดเลย วิญญาณเขาใส่ชุดขาวนั่งปฎิบัติกันเต็มไปหมด จิรงไหม!# i" h$ i, E9 [0 j8 ~
ย้อนกลับมาที่ผีทั้งหลายที่ตามผมจากวัดมาที่บ้านผม ตามมาทำไมเยอะจัง ชักสงสัย ตอนค่ำ เลยให้พวกของผมต่อจิตมาคุยกันหน่อย ปรากฎว่าผีที่มาตอบคำถามเป็นอสูรกายเขาบอกว่า เขาได้รับบุญจากผมมากกว่าพระที่วัดอีก จึงตัดสินใจตามมา และวิญญาณที่ไปกับผมรักษาดูแลผม ก็อนุญาต บอกว่าตามอยู่ที่บ้านคนๆนี้ได้ ผมก็สงสัยคือผมเป็นฆารวาสไม่ไช่พระ ทำไมจึงว่าอยู่ที่วัดได้บุญน้อยกว่ามาอยู่ที่บ้านผม
8 ~4 L3 i* y C# Rอสูรกายก็เฉลยว่า ที่พวกเขารวมกันอยู่ที่วัดนั้น เพราะวัดนี้เพราะบางองค์ท่านปฎิบัติภาวนา แสงบุญขณะภาวนาจะออกจากจิตของพระท่าน วิญญาณที่ลำบากทั้งหลายจะรออนุโมทนาบุญกันตอนนี้ แต่ตอนพระท่านสวดมนต์ แล้วแผ่เมตตานั้น พวกเขาไม่ได้อะไร แต่พอผมเข้าไปที่วัดบุญจากจิตผมแผ่กระจายทั่ววัดตลอดเวลา ทำให้วิญญาณลำบากทั่วทั้งวัดและจากนอกวัด พากันมาอนุโมทนาบุญของผม มากันเต็มวัดไปหมด พอผมกลับบ้านพวกเขาเลยตัดสินใจ ขออนุญาตวิญญาณที่ดูแลรักษาผม ขอตามผมมาอยู่ที่บ้านด้วย/ Y9 ^) u% J2 _( P! z
เอาละ เข้าใจแล้ว ผมใช้วิธีเบิกบุญลงมาแจกเป็นทานแต่พระท่าน แผ่เมตตา ทำให้ผลบุญในการอุทิศของผมส่งตรงถึงวิญญาณที่ลำบากได้เต็มที่ ส่วนกระแสแผ่เมตตานั้นผู้ที่รับได้ดีคือ พรหม วิญญาณที่ลำบากรับกระแสจากการแผ่เมตตาไม่ได้ แต่จะได้บุญจากพระ ก็ตอนที่ท่านนั่งภาวนานี่เอง 4 X$ }3 ]# Z3 y) G
แถมอีกเรื่องหนึ่ง น่ากลัวไปหน่อยนะครับ เมื่อต้นปี 2555 ผมถูกพระเขมรเล่นงานด้วยไสยศาสตร์ พระองค์นี้เก่งมากจริงๆ ผมสู้ท่านไม่ได้เลย เหตุเกี่ยวข้องกันโดยไม่ตั้งใจ คือมีเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานของผม โดนเล่นงานจากผีที่พระท่านนี้ส่งมา เพ่งพลังจิตใส่จนปวดหัวทนไม่ไหว แกเลยขอร้องผมให้ช่วยแกด้วย ปวดหัวเหลือเกินจนทำงานไม่ได้ ผมเลยเอาพระธาติของพระอุปคุตที่ผมเหน็บกระเป๋าเสื้ออยู่ให้แกใส่ เท่านั้นเองหายปวดหัวทันที ผมเองก็ไม่คิดอะไรนึกว่าจบเรื่องแล้ว เราไปทำงานต่อดีกว่า ก่อนไปเลยแบ่งพระธาตุของพระอุปคตให้ติดตัวแกไว้ จะได้ไม่โดนเล่นงานอีก พอตกค่ำงานเข้าได้รับการติดต่อเตือนอย่างแรงจากท่านผู้ช่วยคุ้มครองผมอยู่ พอพิสูจน์ทราบกับกุล่มญาติธรรม ผลปรากฎว่าขณะนี้ บริเวณหน้าบ้านผม เต็มไปด้วย วิญญาณสัมภเวสีที่ถูกอาคมบังคับ สั่งให้มาทำร้ายผม ด้วยความผิดที่ไปยุ่งเรื่องของพระเขมรท่านนี้ แต่วิญญาณร้ายเหล่านี้ เข้ามาในบ้านผมไม่ได้ เนื่องด้วยบารมีจากเบื้องบนคลุมบ้านผมอยู่เป็นกำแพงกั้นไว้ ถ้าวิญญาณที่มาร้ายจะเข้าไม่ได้ ส่วนวิญญาณที่เดือนร้อนมาขอรับการช่วยเหลือจะเข้ามาได้ และรอบบ้านผมมีญาติธรรมในโลกทิพย์ของผมจำนวนมากยืนกั้นเอาไว้หมด
0 b w; g4 E8 r' \เมื่อรู้เหตุร้ายอย่างนี้แล้ว ผมคิดสงสารวิญญาณที่ถูกอาคมบังคับ เหล่านี้ เขาทั้งอดอยากทุกข์ร้อน ถูกกักขังถูกบังคับด้วยอำนาจอาคมใช้งาน ถ้าไม่ทำหรือทำไม่สำเร็จก็ถูกลงโทษ อย่ากระนั้นเลย ช่วยปล่อยวิญญาณเหล่านี้ให้พ้นจากอาคมที่บังคับเสียเลย ยืนดำมึดเต็มหน้าบ้านไปหมด ผมยกมือพนมระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า “ลูกขอบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดแผ่บารมีของพระองค์ท่านลงมา มลายมนต์อาคมที่บังคับวิญญาณเหล่านี้ ให้หลุดเป็นอิสระด้วยเถิด สาธุ”1 i* r9 n# \9 n, v1 M
ผมอธิษฐานอยู่ 3 ครั้ง วิญญาณสัมภเวสี เหล่านั้นก็รู้สึกตัวคืนมา สภาพดำๆจากอาคมที่คลุมบังคับอยู่ก็หมดไป เป็นเพียงสภาพเหมือนคนธรรมดา ผมรีบอุทิศบุญแจกกระจายให้วิญญาณเหล่านั้น พวกเขารับจนสภาพดีขึ้น บางส่วนก็ไปตามหนทางของตัวเขาเอง อีกจำนวนไม่น้อย ญาติธรรมในโลกทิพย์ ช่วยกันเก็บเข้ามาไว้ที่ดาดฟ้าบ้านผม เพื่อสอนปฎิบัติธรรม บางส่วนยังไม่หลุดจากอาคมเนื่องด้วยกรรมของเขามีมากพวกนี้ก็หนีไป คาดว่าคงกลับไปรายงานพระเขมรท่านนั้น/ o8 k p) {# q1 o1 H4 g/ F! D9 O+ e4 W4 F
พอเสร็จเรื่องสบายใจแล้ว ลองให้ญาติธรรมของผมตรวจรอบๆ ปรากฎว่ามีผีอีก 2 ตน ยืนแอบอยู่หลังตึก คอยดูผมอยู่ คือเป็นสปายนำข่าวไปรายงานผู้คิดทำร้ายผม แสดงว่าเจ้าผี 2 ตนนี้ต้องเป็นลูกน้องคนสำคัญของเขา ขนาดมลายมนต์ให้แล้ว ยังไม่หลุดอีก ผมเลยรวบรวมสมาธิ เพ่งจิตอุทิศบุญพุ่งไปหาผี 2 ตนนี้อย่างเต็มที่ เท่านั้นเองสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คือบุญของผมกลายเป็นไฟลุกท่วมร่าง ผี 2 ตนนั้น ผลจึงทำให้ผี 2 ตนนั้นดิ้นรนจากความร้อนของไฟที่ไม่ได้ตั้งใจของผม ที่รู้นี้เพราะญาติธรรมของผมคอยประกบเป็นตาทิพย์ให้ อย่านึกว่าผมเองรู้เห็นทุกเรื่องนะครับ ส่วนผมมีหน้าที่ลุย พอเกิดเหตุอย่างนี้ ผมต้องรีบอธิษฐานเบิกบุญของผมลงมาดับไฟโดยด่วน ตอนนี้พลังอาคมที่บังคับหมดไปแล้วจากไฟที่เผาอย่างไม่ตั้งใจของผม ต่อไปผมต้องผ่อนจิตของผมเบาๆอธิษฐานเบิกบุญของผม ส่งให้ผี 2 ตนนี้ ปรากฎว่าได้เป็นอาหารกินกันอย่างหิวโหย น่าสงสารเหลือเกิน
, w% D' [% ~3 x1 ~. y; Hพออาการของผีสัมภเวสี 2 ตนนี้ ดีขึ้นแล้ว จากบุญที่ผมอุทิศให้ ลองสอบถามว่าเป็นใครมาจากไหน ปรากฎว่าตอนเป็นคนทั้งคู่คือสามีภรรยา มาจากเชียงใหม่ ขับรถมารถคว่ำตายทั้งคู่ พอตายแล้ววิญญาณถูกพระเขมรใช้อาคมบังคับเรียกเอามาใช้งาน ส่วนร่างญาติพี่น้องมารับกลับไปทำพิธีเผาไปนานแล้ว นี่แหละครับผีตายโหงละ หมอผีชอบไปเรียกวิญญาณ เอามาใช้งานนัก ดังนั้นญาติใครประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตที่ใหน รีบทำบุญสังฆทานให้เขาโดยด่วนเพื่อเติมพลังบุญให้กับวิญญาณ แล้วรีบนำวิญญาณกลับมาบ้านหรือวัดที่ตั้งศพโดยด่วน โดยญาติไปยังที่ที่ตายของคนตาย แล้วพูดชวนให้เกาะเรามาเลย หรือใช้การขอบารมีพระพุทธองค์ช่วยก็ได้ อธิษฐานดังนี้ “ลูกขอบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดแผ่บุญบารมีของพระองค์ท่าน ลงมานำวิญญาณของ .....(ผู้ตาย)......กลับไปยัง....(บ้านหรือวัด)......ด้วยเถิด สาธุ”% d8 l) P; \- }# z( ^
ถ้าทำแล้วหาทางพิสูจน์ทราบเอานะ ว่าวิญญาณเขาตามมาหรือเปล่า ถ้าหาวิธีไหนไม่ได้ก็ลองใช้วิธีเล่นผีถ้วยแก้วหรือผีตะเกียบดูก็ได้ แต่ขอให้เล่นในบ้านเรานะ ถ้าเราเชิญวิญญาณกลับบ้าน ขอร้องอย่าไปกลัวผีญาติเลยนะ เขาน่าสงสารออก+ ~, t6 c" y5 W6 _
ย้อนมาที่ผี 2 ผัวเมียจากเชียงใหม่ พอสภาพดีขึ้นมากแล้ว ผมเลยถามว่าอยากกลับบ้านที่เชียงใหม่ไหม เดี๋ยวผมจะส่งกลับไป ทั้งสองดีใจมาก ขอให้ช่วยส่งกลับบ้านที ผมจึงใช้การอธิษฐาน ดังนี้7 }$ ?* @- f( D3 Y' L8 ?3 o! { U
ลูกขอบารมีขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดแผ่บุญบารมีของพระองค์ท่านลงมา นำวิญญาณทั้งสองนี้ไปส่งยังบ้านของเขาที่เชียงใหม่ด้วยเถิด สาธุ
- B) J) {4 W6 L* X+ g# f. f Nเท่านั้นเองวิญญาณทั้งสองก็หายไป เป็นอันว่าเรียบร้อยส่วนเรื่องผมกับพระหมอผี นั้นกว่าจะจบเรื่องกันก็ร่วมเดือน ผมไม่มีวิชาอะไรไปสุ้กับท่านหรอก อาศัยญาติธรรมในโลกทิพย์ท่านผู้ทรงฤทธิ์เบื้องบน และกลุ่มปฎิบัติธรรมของผมช่วยกันกั้นพลังอาคม พลังจิต ไว้ไม่ให้เขาทำอันตรายเราได้ พอทำไม่ได้ผล และผมก็ไม่ได้ตอบโต้ พระเขมรท่านนั้นก็เลยเลิกราไปเอง จริงๆแล้วไม่อยากเจอเลย มันน่ากลัวนะครับ 4 Y- \3 H: _4 E) K( a+ {) v- D
สรุปแล้วการวางจิตในเวลาอุทิศบุญ ถ้าให้กับวิญญาณที่ลำบาก เช่น สัมภเวสี เปรต อสุรกาย ให้ทำจิตเบาๆ ในขณะอุทิศบุญ แต่ถ้าเป็นเทวดา ยักษ์ นาค พรหมหรือวิญญาณที่มีฤทธิ์ ท่านเหล่านี้รับพลังบุญได้สบายมากๆไม่ว่าเราจะรวมกำลังจิตอุทิศ แรงแค่ไหน ท่านรับบุญได้สบายมาก
. q' u! ?, V& O k8 Qอีกพวกหนึ่งที่ต้องใช้การอทิศบุญโดยการรวมกำลังจิตมากหน่อยคือ ญาติเราที่นรก หรือวิญญาณที่เราต้องอุทิศบุญให้ ในขณะที่เขาอยู่ที่นรก ให้อุทิศบุญแล้วกำหนดภาพนรก พุ่งจิตลงไปให้เต็มที่เลย จะทำให้วิญญาณที่ทรมานอยู่ในนรกนั้นรับบุญได้ วิธีนี้ผมทำทุกคืนเท่าที่พิสูจน์ทราบ เขารับบุญได้ วันเวลาในการลงโทษลดลง เมื่อหมั่นอุทิศบุญ ช่วยทุกๆ วัน เป็นแรมเดือน วิญญาณนั้นจะได้รับการลดโทษลงไปเรื่อยๆ จนหยุดการลงโทษ ได้ขึ้นมาที่โลกมนุษย์ เหมือนการประกันตัวขึ้นมานะครับ โทษจริงๆของเขายังไม่หมด วิญญาณนั้นต้องรีบปฎิบัติธรรมสร้างบุญของตัวเอง เพื่อหนีการลงโทษ เรื่องนี้ในโลกวิญญาณ จะมีท่านผู้คอยเก็บวิญญาณมาสอนปฎิบัติ เขาดำเนินการเอง โดยเราไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยว
# _, R$ d* w) ?5 p' f5 R |
|