แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 3769|ตอบ: 6
go

การกำหนดจิตขณะอุทิศบุญ [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

               ไม่ใช่การสอนสมาธิ เพียงแต่เป็นการบอกวิธีทำจิตขณะอุทิศบุญ เรื่องนี้ไม่เคยอ่านตำราหรือฟังจากคำสอนของพระอาจารย์ท่านใด เป็นความรู้ที่ได้ขึ้นมาจากประสบการณ์ขณะกำลังอุทิศบุญให้วิญญาณ จะเล่าให้ฟังไม่ใช่ซิ ต้องบอกว่า จะเขียนให้อ่าน
. ]& t2 O& U5 n: Oที่วัดดอนตูม อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ผมพาเยาวชนไปเข้าค่ายคุณธรรม ผมมีหน้าที่ไปดูแลความเรียบร้อยของเด็กๆก็ต้องไปนอนที่วัดด้วย คิดตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วว่ายังไงวันนี้ คงเจอผีแน่ๆ เพราะเราไปนอนที่วัดถิ่นเขา คือวัดนี้เป็นวัดปฎิบัติถึงจะไม่เคร่งครัดนัก แต่ก็ถือว่าเป็นวัดดีวัดหนึ่งพระท่านมีการทำวัตรเย็นนั่งภาวนากัน วิธีสังเกตุว่าวัดไหนถ้ามีผู้ที่สามารถเห็นวิญญาณ จะรู้ทันที คือถ้าวัดไหนพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ มีการปฎิบัติภาวนา วิญญาณสัมภะเวสี เปรต อสูรกายเพียบทั้งวัดเลย วิญญาณเหล่านี้มารออนุโมทนาบุญในขณะที่พระท่านปฎิบัติภาวนา แสงบุญจะออกจากจิตของพระท่านกระจายไปทั่ว ตอนนี้แหละที่วิญญาณที่ต้องการบุญจะอนุโมทนาบุญเอาเอง ' A0 j( X. G) a2 |
พอผมขับรถเข้าเขตวัด เท่านั้นเองก็มีพลังจิตของกลุ่มวิญญาณที่วัด มากระทบจิตผม สัมผัสที่ท้ายทอยหนักอึ้งเลย ส่วนผมก็ไม่รอช้า เบิกบุญของผมลงมาแจกกระจายไปทั่ววัดไปเรื่อยคือทำงานคุมเด็กไป จิตก็อธิษฐานเบิกบุญมาแจกไป วิญญาณที่วัดนี้เยอะๆจริงๆ รุมล้อมต่อจิตกับผมตลอดเวลาเลยพอตกค่ำอาบน้ำเสร็จ ยืนอยู่บนศาลาวัด มองไปที่ลานปูนภาพปรากฎในจิต เห็นวิญญาณรูปร่างคนยืนมองมาที่ผมเต็มลานปูนเลย ตอนนั้นญาติธรรมของผมเดินเข้ามาคุยด้วย เรื่องตาเขาดีกว่าผม เขาบอกว่าวิญญาณล้อมผมเต็มหมด ผมเลยบอกช่อยคอยดูด้วย เดี๋ยวจะอัดบุญให้เขาให้เต็มที่ จะเป็นอย่างไงบ้าง หลังจากนั้นผมก็รวบรวมสมาธิ กำหนดจิตอธิษฐานเบิกบุญของผมลงมา แล้วพุ่งจิตอุทิศบุญแจกกระจายรอบตัวโดยใช้การเพ่ง เท่านั้นเองญาติธรรมที่ช่วยดูเหตุการณ์อยู่รีบร้องบอกเบาหน่อยๆ กระเด็นหมดแล้ว ผ่อนจิตลงหน่อยวิญญาณเขารับไม่ไหว ผมเลยผ่อนจิตเป็นจิตแบบเบาๆแล้วเบิกบุญลงมาแจกกระจายออกไป เออ!ดีแล้ว เขารับได้เต็มที่เลย อย่เพ่งจิตออกมานะ ผ่อนจิตเบาๆ แจกบุญออกไป อย่างนี้ดีแล้ว ครับนี่คือการพิสูจน์ทราบการกำหนดจิตในการอุทิศบุย ทำให้ผมเข้าใจได้ทันทีว่า การอุทิศบุญนั้น เราอย่าเพ่งหรือพุ่งจิตไปยังวิญญาณอย่างแรง ด้วยความตั้งใจดีที่จะให้เขาได้รับบุญ ผลจะกลับเป็นว่า ร่างของวิญญาณที่อยู่ในสภาวะต่างๆเช่น เปรต อสูรกาย สัมภะเวสี เขารับไม่ไหว เหมือนพลังน้ำที่เชี่ยวกราดพุ่งไปหาเขา เราต้องทำจิตเบาๆ คล้ายการแผ่เมตตาคือ เราใช้การอุทิศบุญโดยกำหนดเหมือนเป็นลำแสงสีขาวจากจิตเรา หรือสมองเราให้กระจายหรือพุ่งไปเบาๆ ให้กับวิญญาณที่เราต้องการให้บุญเขา นั้นแหละครับวิธีการกำหนดจิตอุทิศบุญที่เหมาะสม ที่ผมได้ทดลองมา. N2 q! W4 x' o0 @# n/ \+ ?
ผมโดนรุมขอบุญอยู่ 2 วัน ถึงเริ่มเบาลง ก็ไม่เป็นไรนึกว่าสงเคราะห์กัน ตอนบ่ายวันที่ 2 เดินไปตรวจตามห้องน้ำห้องส้วมที่อยู่ริมรั้ววัด เดินไปตรวจคนเดียว พอเดินไปหลังห้องส้วมริมรั้ววัด ความรู้สึกหนักอึ้งก็กลับมาอีก อ๋อ!พวกผีอยู่นอกรั้ววัด เล่นเกาะเรามาเต็มไปหมด ขอบุญมั้ง ผมก็อุทิศบุยด้วยการอธิษฐานเบิกบุญลงมาแจกกระจายไปทั่วให้เท่าไหร่ก็ไม่ยอมละ ต่อจิตกับผมขอบุญไม่เลิกเกาะเข้ามาในวัด ผมเดินไปทางไหนในวัด ผีจากนอกวัดก็เกาะตามเอาบุญตลอด สงสัยเป็นคนละพวกกับในวัดมั้ง! ตามใจอยากขอบุญก็ให้ไปเรื่อยๆ ความจริงผมไม่ต้องเบิกบุญลงมาให้ก็ได้ เพราะผมอธิษฐานเบิกบุญของผมลงมาให้กับทุกวิญญาณที่ต้องการ ตลอดชีวิตไว้แล้วแสงบุญสีขาวพุ่งจากฟ้าลงมาที่หัวผมตลอดเวลาทั้งหลับและตื่นวิญญาณใดต้องการบุญของผมก็อนุโมทนาเองได้เลย เพราะผมเปิดบุญของผมไว้แล้วตลอดชีวิต แต่ด้วยจิตมันเคยตัวพอถูกต่อจิตจากวิญญาณ ก็จะคิดอธิษฐานเบิกบุญลงมาให้ทันที
/ F  p( {8 p, E7 l% _9 B" e) i# [พอวันที่ 3 เสร็จสิ้นการเข้าค่ายอบรมคุณธรรม ผมก็ขับรถกลับบ้าน แต่ เอ!รถหนักจังเหมือนมีคนนั่งมาเต็มรถเลย พอถึงบ้านลองตรวจสอบดู ปรากฎว่าทั้งสัมภะเวสี เปรต อสูรกายจากวัด ตามผมมาเต็มไปหมด ขออยู่ด้วย ก็ตามใจงั้นก็เชิญขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าตึกบ้าน ผม ไปเลยอนุญาต $ t7 k3 I6 \: y
ทำไมผีที่วัดขึ้นรถผมได้ ไม่มีใครห้ามหรือ ที่รถผมมี แม่ย่านางเป็นสิบ อีกทั้งยักษ์เพียบ แต่ผมบอกพวกที่ประจำรถไว้แล้ว พบวิญญาณลำบากที่ไหน เก็บขึ้นรถเอาไปบ้านเรา เอาไปส่งให้ท่านที่สอนปฎิบัติธรรม ที่ดาดฟ้าบ้านเราคือ พระภูมิ เจ้าที่ และเทวดาที่ประจำอยู่กับพระเครื่องของผมอีกจำนวนมาก ท่านเหล่านี้รับหน้าที่สอนการปฎิบัติศีล สมาธิให้กับพวกวิญญาณ ที่ลำบากเหล่านั้น ท่านเหล่านั้นสนุกสนานกับการสอนเพื่อนสร้างบุญธรรมทานกันใหญ่ กลางคืนถ้าผมขึ้นไปเดินเล่นชมดาวบนดาดฟ้า ทำจิตเบาๆจะเห็นคนนุ่งชุดขาว นั่งสมาธิกันเต็มไปหมด นั้นและครับวิญญาณเขานั่งปฎิบัติธรรมกัน ใครปฎิบัติธรรมจนบุญเพียงพอ ดวงจิตเขาก็ลอยขึ้นไปเบื้องบนสู่สวรรค์ พวกวิญญาณลำบากพวกใหม่ก็มาแทน พวกเก็บวิญญาณก็มีจำนวนหลายท่านมากขยันเก็บกันเสียด้วย ดูนะ!ธุรกิจบุญที่บ้านผมรุ่งเรืองขนาดไหน ใครจะเลียนแบบบ้างก็ไม่สงวนสิทธิ์ ถ้าปริมาณวิญญาณมากเกินไป ก็จะมีเจ้าหน้าที่ที่บ้านผม นำไปส่งศูนย์ใหญ่คือลานปูนหน้าวิหาร 100 เมตร วัดท่าซุง เวลาผมไปทำบุญเหรียญทองที่วัดท่าซุง พอลงรถเท่านั้นแหละจะมีพลังจิตของวิญญาณที่วัดมารุมล้อม กระทบจิตผมตลอดเวลา ก็เหมือนคนรู้จักกันทักทายกันนั้นแหละ ใครศิษย์วัดท่าซุงที่ได้มโนมยิทธิ ท่านลองสำรวจลานปูนหน้าวิหาร 100 เมตร ดูซิครับ ยิ่งเวลาสงบยามค่ำคืน ลองเข้ามโนมยิทธิ สำรวจให้รอบวัดเลย วิญญาณเขาใส่ชุดขาวนั่งปฎิบัติกันเต็มไปหมด จิรงไหม!
  k2 p/ E; r% m8 e( u# Z  k* @ย้อนกลับมาที่ผีทั้งหลายที่ตามผมจากวัดมาที่บ้านผม ตามมาทำไมเยอะจัง ชักสงสัย ตอนค่ำ เลยให้พวกของผมต่อจิตมาคุยกันหน่อย ปรากฎว่าผีที่มาตอบคำถามเป็นอสูรกายเขาบอกว่า เขาได้รับบุญจากผมมากกว่าพระที่วัดอีก จึงตัดสินใจตามมา และวิญญาณที่ไปกับผมรักษาดูแลผม ก็อนุญาต บอกว่าตามอยู่ที่บ้านคนๆนี้ได้ ผมก็สงสัยคือผมเป็นฆารวาสไม่ไช่พระ ทำไมจึงว่าอยู่ที่วัดได้บุญน้อยกว่ามาอยู่ที่บ้านผม
0 u0 q/ H$ y+ T. U8 Xอสูรกายก็เฉลยว่า ที่พวกเขารวมกันอยู่ที่วัดนั้น เพราะวัดนี้เพราะบางองค์ท่านปฎิบัติภาวนา แสงบุญขณะภาวนาจะออกจากจิตของพระท่าน วิญญาณที่ลำบากทั้งหลายจะรออนุโมทนาบุญกันตอนนี้ แต่ตอนพระท่านสวดมนต์ แล้วแผ่เมตตานั้น พวกเขาไม่ได้อะไร แต่พอผมเข้าไปที่วัดบุญจากจิตผมแผ่กระจายทั่ววัดตลอดเวลา ทำให้วิญญาณลำบากทั่วทั้งวัดและจากนอกวัด พากันมาอนุโมทนาบุญของผม มากันเต็มวัดไปหมด พอผมกลับบ้านพวกเขาเลยตัดสินใจ ขออนุญาตวิญญาณที่ดูแลรักษาผม ขอตามผมมาอยู่ที่บ้านด้วย
4 f* Z+ u& c2 t/ Q  Bเอาละ เข้าใจแล้ว ผมใช้วิธีเบิกบุญลงมาแจกเป็นทานแต่พระท่าน แผ่เมตตา ทำให้ผลบุญในการอุทิศของผมส่งตรงถึงวิญญาณที่ลำบากได้เต็มที่ ส่วนกระแสแผ่เมตตานั้นผู้ที่รับได้ดีคือ พรหม วิญญาณที่ลำบากรับกระแสจากการแผ่เมตตาไม่ได้ แต่จะได้บุญจากพระ ก็ตอนที่ท่านนั่งภาวนานี่เอง
1 n8 l" u$ v5 z' y8 e: a* Qแถมอีกเรื่องหนึ่ง น่ากลัวไปหน่อยนะครับ เมื่อต้นปี 2555 ผมถูกพระเขมรเล่นงานด้วยไสยศาสตร์ พระองค์นี้เก่งมากจริงๆ ผมสู้ท่านไม่ได้เลย เหตุเกี่ยวข้องกันโดยไม่ตั้งใจ คือมีเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานของผม โดนเล่นงานจากผีที่พระท่านนี้ส่งมา เพ่งพลังจิตใส่จนปวดหัวทนไม่ไหว แกเลยขอร้องผมให้ช่วยแกด้วย ปวดหัวเหลือเกินจนทำงานไม่ได้ ผมเลยเอาพระธาติของพระอุปคุตที่ผมเหน็บกระเป๋าเสื้ออยู่ให้แกใส่ เท่านั้นเองหายปวดหัวทันที ผมเองก็ไม่คิดอะไรนึกว่าจบเรื่องแล้ว เราไปทำงานต่อดีกว่า ก่อนไปเลยแบ่งพระธาตุของพระอุปคตให้ติดตัวแกไว้ จะได้ไม่โดนเล่นงานอีก พอตกค่ำงานเข้าได้รับการติดต่อเตือนอย่างแรงจากท่านผู้ช่วยคุ้มครองผมอยู่ พอพิสูจน์ทราบกับกุล่มญาติธรรม ผลปรากฎว่าขณะนี้ บริเวณหน้าบ้านผม เต็มไปด้วย วิญญาณสัมภเวสีที่ถูกอาคมบังคับ สั่งให้มาทำร้ายผม ด้วยความผิดที่ไปยุ่งเรื่องของพระเขมรท่านนี้ แต่วิญญาณร้ายเหล่านี้ เข้ามาในบ้านผมไม่ได้ เนื่องด้วยบารมีจากเบื้องบนคลุมบ้านผมอยู่เป็นกำแพงกั้นไว้ ถ้าวิญญาณที่มาร้ายจะเข้าไม่ได้ ส่วนวิญญาณที่เดือนร้อนมาขอรับการช่วยเหลือจะเข้ามาได้ และรอบบ้านผมมีญาติธรรมในโลกทิพย์ของผมจำนวนมากยืนกั้นเอาไว้หมด; ~2 p! b8 E1 I$ O6 R
เมื่อรู้เหตุร้ายอย่างนี้แล้ว ผมคิดสงสารวิญญาณที่ถูกอาคมบังคับ เหล่านี้ เขาทั้งอดอยากทุกข์ร้อน ถูกกักขังถูกบังคับด้วยอำนาจอาคมใช้งาน ถ้าไม่ทำหรือทำไม่สำเร็จก็ถูกลงโทษ อย่ากระนั้นเลย ช่วยปล่อยวิญญาณเหล่านี้ให้พ้นจากอาคมที่บังคับเสียเลย ยืนดำมึดเต็มหน้าบ้านไปหมด ผมยกมือพนมระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า “ลูกขอบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดแผ่บารมีของพระองค์ท่านลงมา มลายมนต์อาคมที่บังคับวิญญาณเหล่านี้ ให้หลุดเป็นอิสระด้วยเถิด สาธุ”
' k6 a2 x* [7 a3 @ผมอธิษฐานอยู่ 3 ครั้ง วิญญาณสัมภเวสี เหล่านั้นก็รู้สึกตัวคืนมา สภาพดำๆจากอาคมที่คลุมบังคับอยู่ก็หมดไป เป็นเพียงสภาพเหมือนคนธรรมดา ผมรีบอุทิศบุญแจกกระจายให้วิญญาณเหล่านั้น พวกเขารับจนสภาพดีขึ้น บางส่วนก็ไปตามหนทางของตัวเขาเอง อีกจำนวนไม่น้อย ญาติธรรมในโลกทิพย์ ช่วยกันเก็บเข้ามาไว้ที่ดาดฟ้าบ้านผม เพื่อสอนปฎิบัติธรรม บางส่วนยังไม่หลุดจากอาคมเนื่องด้วยกรรมของเขามีมากพวกนี้ก็หนีไป คาดว่าคงกลับไปรายงานพระเขมรท่านนั้น
9 j6 t0 B0 d3 dพอเสร็จเรื่องสบายใจแล้ว ลองให้ญาติธรรมของผมตรวจรอบๆ ปรากฎว่ามีผีอีก 2 ตน ยืนแอบอยู่หลังตึก คอยดูผมอยู่ คือเป็นสปายนำข่าวไปรายงานผู้คิดทำร้ายผม แสดงว่าเจ้าผี 2 ตนนี้ต้องเป็นลูกน้องคนสำคัญของเขา ขนาดมลายมนต์ให้แล้ว ยังไม่หลุดอีก ผมเลยรวบรวมสมาธิ เพ่งจิตอุทิศบุญพุ่งไปหาผี 2 ตนนี้อย่างเต็มที่ เท่านั้นเองสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คือบุญของผมกลายเป็นไฟลุกท่วมร่าง ผี 2 ตนนั้น ผลจึงทำให้ผี 2 ตนนั้นดิ้นรนจากความร้อนของไฟที่ไม่ได้ตั้งใจของผม ที่รู้นี้เพราะญาติธรรมของผมคอยประกบเป็นตาทิพย์ให้ อย่านึกว่าผมเองรู้เห็นทุกเรื่องนะครับ ส่วนผมมีหน้าที่ลุย พอเกิดเหตุอย่างนี้ ผมต้องรีบอธิษฐานเบิกบุญของผมลงมาดับไฟโดยด่วน ตอนนี้พลังอาคมที่บังคับหมดไปแล้วจากไฟที่เผาอย่างไม่ตั้งใจของผม ต่อไปผมต้องผ่อนจิตของผมเบาๆอธิษฐานเบิกบุญของผม ส่งให้ผี 2 ตนนี้ ปรากฎว่าได้เป็นอาหารกินกันอย่างหิวโหย น่าสงสารเหลือเกิน
" {: X) E+ K' k! N1 ?- q0 y4 iพออาการของผีสัมภเวสี 2 ตนนี้ ดีขึ้นแล้ว จากบุญที่ผมอุทิศให้ ลองสอบถามว่าเป็นใครมาจากไหน ปรากฎว่าตอนเป็นคนทั้งคู่คือสามีภรรยา มาจากเชียงใหม่ ขับรถมารถคว่ำตายทั้งคู่ พอตายแล้ววิญญาณถูกพระเขมรใช้อาคมบังคับเรียกเอามาใช้งาน ส่วนร่างญาติพี่น้องมารับกลับไปทำพิธีเผาไปนานแล้ว นี่แหละครับผีตายโหงละ หมอผีชอบไปเรียกวิญญาณ เอามาใช้งานนัก ดังนั้นญาติใครประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตที่ใหน รีบทำบุญสังฆทานให้เขาโดยด่วนเพื่อเติมพลังบุญให้กับวิญญาณ แล้วรีบนำวิญญาณกลับมาบ้านหรือวัดที่ตั้งศพโดยด่วน โดยญาติไปยังที่ที่ตายของคนตาย แล้วพูดชวนให้เกาะเรามาเลย หรือใช้การขอบารมีพระพุทธองค์ช่วยก็ได้ อธิษฐานดังนี้ “ลูกขอบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดแผ่บุญบารมีของพระองค์ท่าน ลงมานำวิญญาณของ .....(ผู้ตาย)......กลับไปยัง....(บ้านหรือวัด)......ด้วยเถิด สาธุ”; Z# y& @/ F  N" G' j$ Y. e
ถ้าทำแล้วหาทางพิสูจน์ทราบเอานะ ว่าวิญญาณเขาตามมาหรือเปล่า ถ้าหาวิธีไหนไม่ได้ก็ลองใช้วิธีเล่นผีถ้วยแก้วหรือผีตะเกียบดูก็ได้ แต่ขอให้เล่นในบ้านเรานะ ถ้าเราเชิญวิญญาณกลับบ้าน ขอร้องอย่าไปกลัวผีญาติเลยนะ เขาน่าสงสารออก
% l& Y9 s0 [  Dย้อนมาที่ผี 2 ผัวเมียจากเชียงใหม่ พอสภาพดีขึ้นมากแล้ว ผมเลยถามว่าอยากกลับบ้านที่เชียงใหม่ไหม เดี๋ยวผมจะส่งกลับไป ทั้งสองดีใจมาก ขอให้ช่วยส่งกลับบ้านที ผมจึงใช้การอธิษฐาน ดังนี้
+ S( X: n& a8 t# \  Xลูกขอบารมีขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดแผ่บุญบารมีของพระองค์ท่านลงมา นำวิญญาณทั้งสองนี้ไปส่งยังบ้านของเขาที่เชียงใหม่ด้วยเถิด สาธุ! R) J: i5 M) G( A
เท่านั้นเองวิญญาณทั้งสองก็หายไป เป็นอันว่าเรียบร้อยส่วนเรื่องผมกับพระหมอผี นั้นกว่าจะจบเรื่องกันก็ร่วมเดือน ผมไม่มีวิชาอะไรไปสุ้กับท่านหรอก อาศัยญาติธรรมในโลกทิพย์ท่านผู้ทรงฤทธิ์เบื้องบน และกลุ่มปฎิบัติธรรมของผมช่วยกันกั้นพลังอาคม พลังจิต ไว้ไม่ให้เขาทำอันตรายเราได้ พอทำไม่ได้ผล และผมก็ไม่ได้ตอบโต้ พระเขมรท่านนั้นก็เลยเลิกราไปเอง จริงๆแล้วไม่อยากเจอเลย มันน่ากลัวนะครับ % u0 g- U& W& i# O9 c# m- x1 w( m
สรุปแล้วการวางจิตในเวลาอุทิศบุญ ถ้าให้กับวิญญาณที่ลำบาก เช่น สัมภเวสี เปรต อสุรกาย ให้ทำจิตเบาๆ ในขณะอุทิศบุญ แต่ถ้าเป็นเทวดา ยักษ์ นาค พรหมหรือวิญญาณที่มีฤทธิ์ ท่านเหล่านี้รับพลังบุญได้สบายมากๆไม่ว่าเราจะรวมกำลังจิตอุทิศ แรงแค่ไหน ท่านรับบุญได้สบายมาก: W1 n# n, Z0 P% J( F
อีกพวกหนึ่งที่ต้องใช้การอทิศบุญโดยการรวมกำลังจิตมากหน่อยคือ ญาติเราที่นรก หรือวิญญาณที่เราต้องอุทิศบุญให้ ในขณะที่เขาอยู่ที่นรก ให้อุทิศบุญแล้วกำหนดภาพนรก พุ่งจิตลงไปให้เต็มที่เลย จะทำให้วิญญาณที่ทรมานอยู่ในนรกนั้นรับบุญได้ วิธีนี้ผมทำทุกคืนเท่าที่พิสูจน์ทราบ เขารับบุญได้ วันเวลาในการลงโทษลดลง เมื่อหมั่นอุทิศบุญ ช่วยทุกๆ วัน เป็นแรมเดือน วิญญาณนั้นจะได้รับการลดโทษลงไปเรื่อยๆ จนหยุดการลงโทษ ได้ขึ้นมาที่โลกมนุษย์ เหมือนการประกันตัวขึ้นมานะครับ โทษจริงๆของเขายังไม่หมด วิญญาณนั้นต้องรีบปฎิบัติธรรมสร้างบุญของตัวเอง เพื่อหนีการลงโทษ เรื่องนี้ในโลกวิญญาณ จะมีท่านผู้คอยเก็บวิญญาณมาสอนปฎิบัติ เขาดำเนินการเอง โดยเราไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยว
( q& P  R$ h( C2 ?( r  e

Rank: 1

สาธุกับธรรมทานของมารน้อยค่ะ เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ

Rank: 1

ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ ท่านที่มีบุญท่านใช้บุญถูกทางจริงๆนะครับ อนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ สาธุครับ
/ n7 ^; Q8 T' Aเมื่อไหรหนอผมถึงจะมีบารมีอย่างเขาบ้างหนอ

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุกับคุณมารน้อย เช่นกันครับ

Rank: 1

ผมเองก็ชอบโอนบุญอยู่เป็นประจำเหมือนกันเมื่อก่อนผมจะเน้นโอนบุญให้กับเทพเทวดาต่างๆ แต่มาตอนหลังๆพอรู้ว่าเหล่าสัมพเวสี เปรต อสูรกายน่าสงสารและลำบาก ผมก็จะเน้นโอนไปที่พวกเค้า แต่จากที่อ่านข้อความของคุณมารน้อยก็ได้ความรู้อีกอย่างว่าเวลาอุทิศบุญแก่ผู้ที่กำลังเดือดร้อนจะต้องโอนแบบเบาๆ ผมก็จะลองไปทำดูครับ ขอโมทนาสาธุกับคุณมารน้อยครับ

Rank: 1

อนุโมทนาสาธุค่ะ

Rank: 1

ตอบกระทู้ กลางทาง ตั้งกระทู้
4 c- J, |. ^( I$ a* X3 ]9 E: a! |. V# q" \% ?
ขอโมทนากับคุณกลางทางด้วยครับ
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 03:49 , Processed in 0.039520 second(s), 14 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.