"อสรพิษ"
เล่าให้แม่ชีเกณฑ์ท่านฟังว่าเวลาขับรถ มักจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทั้งที่เป็นเวลาที่มีสติมากที่สุด เจอรถจอดขวางทาง รถขับช้า รถผิดเลนส์ อารมณ์ขึ้นมาทันที บีบแตรใส่เขาด้วยความมีอารมณ์ ถามท่านว่าทำอย่างไรจึงจะบีบแตรไปแบบไม่มีอารมณ์ปนไปด้วย ท่านบอกว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะสติเราช้ากว่าใจ พอตาเห็นใจก็ถูกปรุงแต่งทันที ห้ามไม่ทันจนเกิดเป็นอารมณ์ขึ้นมา
ท่านบอกว่าถ้าตายขณะนั้น จะไปเกิดเป็นสัตว์ดุร้ายหรืออสรพิษ เช่น งูเห่า งูจงอาง หมาบ้า เสือ ตะขาบ แมงป่อง คงเคยเกิดเป็นงูเห่ามาก่อน จึงมีใจที่ร้ายเช่นนั้น พร้อมที่จะฉกกัดทุกคนที่ไม่พอใจ มันเกิดเพราะยังมีอัตตาตัวตนอยู่ข้างใน เห็นไหมของข้างนอกวางได้แต่ของข้างในมันยังไม่ขาด เราต้องเห็นโทษเห็นภัยมันอย่างแท้จริง จึงจะขาดจากมันได้
ถามท่านว่าแล้วทำอย่างไรจึงจะห้ามมันทัน ท่านบอกว่าต้องให้สติถี่ยิบทันกับสิ่งที่มากระทบทางอายตนะทั้ง 6 ให้สติหนาแน่นประดุจกำแพงปูน แค่รูขุมขนไม่พอเพราะความมีตัวตนมันแทรกขึ้นมาได้ทุกรูขุมขน ท่านแนะวิธีดึงใจให้ช้าลงและให้มีสติมากขึ้น ด้วยการกำหนด เห็นหนอๆๆ ได้เย็นหนอๆๆ คิดหนอๆๆ กำหนดทุกอิริยาบถเท่าที่จะกำหนดได้ หากไม่ทันโกรธขึ้นมาแล้วก็ต้องกำหนด โกรธหนอๆๆเพื่อดึงขามันไว้
การหนอเป็นการสะกัดกั้นความปรุงแต่งต่อ เช่นตาเห็นหากเรากำหนดทันมันก็จะไม่ไปต่อ ว่าเธอทำอย่างนั้นอย่างนี้ มันจะหยุดอยู่แค่นั้น หรือหูได้ยิน เราก็กำหนดได้ยินหนอๆๆ ไม่อย่างนั้นมันจะคิดต่อว่าเขาว่าเราหรือเปล่า ท่านบอกว่าแค่รู้ทัน มันแค่ห้ามไม่ให้มันเกิดขึ้น ถ้าวันใดสติอ่อนกำลัง มันก็จะโกรธขึ้นมาอีก ถามท่านว่าแล้วทำอย่างไรให้มันขาดไปเลย ท่านบอกว่าเราต้องเห็นโทษเห็นภัยของความมีอัตตาตัวตนอย่างแท้จริง มันจึงจะขาดไปได้ ปัญญาที่เกิดในขณะเดียวกันกับสติที่สมบูรณ์เท่านั้นที่จะตัดขาดได้
ถามท่านอีกว่าแล้วจะทำอย่างไรให้สติถี่ยิบและเร็วขึ้นอย่างที่ท่านว่า ท่านบอกว่าความต่อเนื่องคือเรื่องใหญ่และสำคัญมาก หากต้องทำงานให้แบ่งเวลาปฏิบัติบ้างทุกวัน วันละเล็กน้อยเพื่อความต่อเนื่อง ไปทำงานก็ต้องเจริญสติต่อไม่ให้ขาด ต้องรู้ทุกขณะที่มีอารมณ์มากระทบใจ โดนตำหนิรู้สึกอย่างไร หิวเป็นยังไง เห็นผู้ชายผู้หญิงรู้สึกอย่างไร ขับรถไปรถติดเป็นยังไง นั่งนานเป็นยังไง ไม่กินกาแฟเป็นยังไง เห็นอาหารแล้วเป็นอย่างไร เห็นเงินในกระเป๋ารู้สึกยังไง ถึงบ้านแล้วเป็นยังไง ให้รู้ไปจนกระทั่งหลับ ตื่นขึ้นมาก็ให้รู้ต่อ ความต่อเนื่องจะทำให้สติมีกำลัง ในคนทำงานต้องใช้เวลา เดือนหรือ 3 เดือนจิตจึงจะมีกำลังขึ้นมา
เราตั้งใจแล้วที่จะทำตามท่านบอก จะขยันกำหนดไม่ขี้เกียจไม่ขี้ลืม ไม่อิดออดอ้างโน่นอ้างนี่เพราะไม่อยากทำ เราทนกับนิสัยอันเลวร้ายของตัวเองไม่ได้แล้ว ตายไปไม่แคล้วเป็นงูเห่าแน่นอนหากปล่อยไว้เช่นนี้