แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 3956|ตอบ: 13
go

ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ ครั้งที่ 8 2-5 พ.ค.57 มูลนิธินิธิกร บางปู สมุทรปราการ [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

1. สถานที่ตั้ง : มูลนิธินิธิกร เลยฟาร์มจระเข้ไปไม่มาก  เลยจุดกลับรถที่จะเข้าซอยวัดอโศการามเล็กน้อย อยู่ตรงข้ามกับสถานพักฟื้นสวางคนิเวศ มีคลองเล็กๆกั้นกับถนน จากบางนาอยู่ด้านซ้ายมือ(ไม่มีค่าใช้จ่ายแล้วแต่จะทำบุญค่ะ)

Rank: 1

"ทำไมจึงต้องสอบอารมณ์ทีละคน"

มีคนถามว่าทำไมแม่ชีเกณฑ์ท่านต้องสอบอารมณ์ทีละคน ให้รวมกลุ่มกันคุยไม่ได้หรือ และการสอบอารมณ์เป็นอย่างไรเหมือนคุยปกติไหม เราตอบไปว่าแม่ชีเกณฑ์ท่านบอกเสมอ ผู้สอบอารมณ์นั้นจำเป็นมากสำหรับผู้ที่ยังเดินทางอยู่ เห็นชัดจากตัวเอง ตอนแรกไม่ได้คุยกับท่าน ตอนนั้นเริ่มไปปฏิบัติที่วัดแล้ว มีแต่ความตั้งใจแต่ยังไม่มีหนทาง พอเริ่มเดินแบบเอาจริง กลับพบปัญหาว่าเดินแบบเดิมที่ทำมานานแล้วไม่ทำให้เราสงบลงเลย ยิ่งเดินยิ่งคิด แต่แบบไหนหนอที่เหมาะกับเรา เราไม่มีความรู้อะไร ไม่เคยไปอบรมที่ไหน แล้วใครจะให้คำตอบเราได้ พระที่วัดท่านก็บอกให้เดินแบบปกติ แต่ในใจเรารู้สึกว่าไม่ใช่                          

เมื่อมีโอกาสได้คุยกับแม่ชีเกณฑ์ ท่านจึงบอกลองแบบนี้สิ เมื่อลองแล้วเห็นผลเราจึงโทรหาท่านอีก คราวนี้ท่านจะมีคำถามให้เราไปสังเกตดูเช่น เสียงมาหาหูหรือหูไปหาเสียง ท่านมีวิธีสอนให้เราจดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้าไม่ไปตามความคิดที่ฟุ้งซ่าน เมื่อได้เริ่มปฏิบัติจริง เราจะมีทั้งสิ่งที่จะเล่าให้ท่านฟังและสิ่งที่จะถามท่าน ล้วนแต่เรื่องที่เกิดบนทางจงกรมหรือนั่งสมาธิ  โดยเฉพาะเริ่มแรกที่นั่งสมาธิแล้วหายเงียบสงบเรานึกว่าดีเป็นอย่างนั้นอยู่ 2 อาทิตย์จนมีโอกาสถามท่านจึงหลุดมาได้

เมื่อมาเจออาการโงกง่วงก็ท่านอีกที่ให้คำแนะนำ แรกๆเรื่องที่คุยจะเป็นเรื่องนอกกายของที่พะรุงพะรัง อยู่รอบตัว เมื่อเราวางสิ่งของนอกกายได้แล้ว คราวนี้ก็ถึงเรื่องละเอียดอ่อนที่ฝังอยู่ในใจ จนถึงวันนี้ใจของเราเปลี่ยนไปราวกับคนละคน เราไม่รู้สึกว่าโลกนี้โหดร้ายและไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าอยู่   ท่านบอกเสมอผู้สอบอารมณ์สำคัญที่สุด หากเจอผู้ที่ชี้นำได้ถูกทางเราก็จะเดินทางพ้นจากทุกข์ได้เร็ว เป็นบุญของเราที่มีโอกาสได้คุยกับท่าน ในช่วงเวลาสั้นๆไม่ถึงปีความทุกข์ใจที่มีมานานหลายปีมะลายหายไปสิ้น มองไปข้างในเราเห็นเพียงใจว่างเปล่า ไม่มีใครหรือสิ่งใดอยู่ในนั้น                        
  
และอีกคำถามหนึ่งที่อื่นเขามีผู้สอบอารมณ์ไหม ท่านบอกว่าที่ไหนเข้าปฏิบัติยาวๆ จะมีผู้สอบอารมณ์ ท่านเคยเล่าให้ฟังว่าหลวงปู่เลื่อนอาจารย์ของท่านก็สอบอารมณ์ท่านเช่นนี้ ท่านเคยบอกจะช่วยงานหลวงปู่เลื่อนเพื่อตอบแทนพระคุณท่าน แต่หลวงปู่เลื่อนกลับบอกให้ตอบแทนคุณพระพุทธศาสนา ก็เท่ากับตอบแทนคุณท่านแล้ว

Rank: 1

"รู้ปัจจุบันที่แม่ว่าคืออะไรค่ะ"

" ถ้าทุกข์เกิดขึ้นมาในใจ โกรธขึ้นมาในใจ ก็ให้รู้ว่ามันโกรธ แล้วก็ใช้ปัญญาดับมันทัน ทุกข์เกิดขึ้นให้รู้เท่าทันแล้วก็วางมันหรือปล่อยมันไป ก็เหมือนว่าปล่อยให้มันดับไป  รู้เท่าทันมันโกรธ มันเกลียด มันพยาบาท มันอาฆาต มันพอใจ รัก ชอบ ชัง ให้คุณรู้หมด รู้แล้วคุณก็วางมัน อารมณ์มันดีคุณก็อย่าไปหลงมัน "

Rank: 1

"คุณแม่สอบอารมณ์ยังไงค่ะ"

"แม่จะถามว่าเป็นยังไง กำหนดบริกรรมอะไร กำหนดแล้วรู้ยังไง รู้ลมหายใจเข้า รู้ลมหายใจออกไหม ถ้าเขาบอกว่าหายใจเข้าพุท หายในออกโธ แล้วมันยาวหรือว่ามันหยุดอยู่อึดใจกว่ามันจะออก"

"แล้วหูได้ยินเสียง กำหนดได้ยินไหม รู้ไหม เวลามีร้อนอ่อนแข็งเข้ามาถูกกาย ร้อนเย็นรู้ไหม บางคนบอกรู้ บางคนบอกหนูไม่รู้ไม่สังเกต แม่ก็บอกให้ไปสังเกตนะ "

"ถ้าเขาบอกว่าหูได้ยินเสียง  แม่ก็ถามว่าแล้วหูไปหาเสียงหรือเสียงมาหาหู เขาตอบ เอ้...หูไปหาเสีบง แม่ก็ตอบว่าลังเลไม่ได้ไปดูใหม่"

"สมมุติเขาเอาพุทโธ เวลาเขาเดินขวาพุทโธอะไรเป็นผู้พาก้าวล่ะ แม่ก็จะสอนให้เขามีสติปัญญาไหวพริบบางคนบอกจิตมันพาก้าว แล้วถ้ากายไม่ก้าวมันจะไปไหม จิตมันสั่งถ้ากายไม่กระดุกกระดิก ไม่เคลื่อนไหว แค่จิตมันสั่งได้ไหม อันนี้กายเป็นผู้เคลื่อนไหวใช่ไหม จิตเป็นผู้รับรู้ว่ากายนี้เป็นผู้เคลื่อนไหวใช่ไหม ในร่างกายมีแต่กายกับจิตใช่ไหม อะไรก็ได้ เราก็จะมีวิธีบอกเขา แต่จะถามก่อน"

"ลมหายใจเข้ารู้ไหม หายใจเบา หายใจอ่อน เหมือนไม่มีลมหายใจ มันเงียบไป มีสติรู้ไหม บางคนบอกไม่รู้เลย อย่างนั้นสติไม่มีนะ"

Rank: 1

"คุณแม่สอบอารมณ์ยังไงค่ะ"

"แม่จะถามว่าเป็นยังไง กำหนดบริกรรมอะไร กำหนดแล้วรู้ยังไง รู้ลมหายใจเข้า รู้ลมหายใจออกไหม ถ้าเขาบอกว่าหายใจเข้าพุท หายในออกโธ แล้วมันยาวหรือว่ามันหยุดอยู่อึดใจกว่ามันจะออก"

"แล้วหูได้ยินเสียง กำหนดได้ยินไหม รู้ไหม เวลามีร้อนอ่อนแข็งเข้ามาถูกกาย ร้อนเย็นรู้ไหม บางคนบอกรู้ บางคนบอกหนูไม่รู้ไม่สังเกต แม่ก็บอกให้ไปสังเกตนะ "

"ถ้าเขาบอกว่าหูได้ยินเสียง  แม่ก็ถามว่าแล้วหูไปหาเสียงหรือเสียงมาหาหู เขาตอบ เอ้...หูไปหาเสีบง แม่ก็ตอบว่าลังเลไม่ได้ไปดูใหม่"

"สมมุติเขาเอาพุทโธ เวลาเขาเดินขวาพุทโธอะไรเป็นผู้พาก้าวล่ะ แม่ก็จะสอนให้เขามีสติปัญญาไหวพริบบางคนบอกจิตมันพาก้าว แล้วถ้ากายไม่ก้าวมันจะไปไหม จิตมันสั่งถ้ากายไม่กระดุกกระดิก ไม่เคลื่อนไหว แค่จิตมันสั่งได้ไหม อันนี้กายเป็นผู้เคลื่อนไหวใช่ไหม จิตเป็นผู้รับรู้ว่ากายนี้เป็นผู้เคลื่อนไหวใช่ไหม ในร่างกายมีแต่กายกับจิตใช่ไหม อะไรก็ได้ เราก็จะมีวิธีบอกเขา แต่จะถามก่อน"

"ลมหายใจเข้ารู้ไหม หายใจเบา หายใจอ่อน เหมือนไม่มีลมหายใจ มันเงียบไป มีสติรู้ไหม บางคนบอกไม่รู้เลย อย่างนั้นสติไม่มีนะ"

Rank: 1

"คุณแม่สอนปฏิบัติแนวไหนค่ะ"

"วิปัสสนาในสติปัฏฐาน 4  มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ ดับอารมณ์ได้ทันปัจจุบัน ถามว่าแนวไหนก็แนวมรรคมีองค์ 8 คุณจะเอาแนวไหนก็ได้ แต่ให้คุณเอาแนวเจริญสติปัฏฐาน 4  สติปัฏฐาน 4 ไม่ใช่เฉพาะหนอ แม่เปิดกว้าง อะไรก็ได้  "

"มีผู้ปฏิบัติคนหนึ่ง เขาเล่นสมถะ จิตนิ่งเข้าฌานอยู่เป็นสิบปี แต่เขาไม่เจริญสติเลยทำให้เขาข้องอยู่นั่น เขาบริกรรมพุทโธ แม่ก็เลยบอกว่าก็เธอขาดสติและปัญญา เธอจงเจริญสติโดยเอาพุทโธนั่นแหละ "

"สติปัฏฐาน 4 กว้างคุณจะเอาวิธีกรรมใดก็ได้ คุณจะเอา 84,000 พระธรรมขันธ์มากำหนด คุณจะกำหนดเพ่งอะไร แต่จิตคุณสงบแล้วคุณต้องเจริญสติ ให้รู้เท่าทันอารมณ์มากระทบทางตาหูลิ้นจมูกกายใจ คุณจะบริกรรมอะไรก็ได้ จะเอาอะไรมาเป็นอารมณ์ก็ได้ ที่ล่อจิตคุณให้สงบก่อนแล้วทีนี้คุณแม่จะให้คุณเดินสติรู้เท่าทันอารมณ์ปัจจุบัน คุณต้องมีสติไม่ใช่หรือจึงจะรู้เท่าทันใช่ไหม"

"แม่ก็มีวิธีถามของแม่เหมือนกัน ในผู้ที่ไม่มีคำบริกรรมอะไรเลย ก็ให้รู้เท่าทันอารมณ์วันยังค่ำนั่นแหละ ให้มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ว่าคุณโกรธ ว่าคุณเกลียด คุณมีโทสะ คุณมีโมโหไหม ก็ให้รู้เท่าทันอารมณ์ที่คุณคิด ที่คุณปรุงแต่ง ให้รู้เท่าทันอารมณ์ ให้เจริญสติ"

"ถ้าให้เอาหนอเข้าไป เขาฝืน เขาเคือง เขาอึดอัด ก็เอาอะไรก็ได้ ที่เธอจะรู้ลมหายใจเข้าออกก็ได้ เธอก็ต้องเจริญสติอีกนั่นแหละ มีสติรู้ลมหายใจเข้าสั้น มีอารมณ์แผ่วเบาก็รู้ จิตเป็นปิติก็รู้ มีอารมณ์เข้ามากระทบก็รู้ ลงสติปัฏฐาน 4 อย่างเหมือนกัน"

"คุณต้องเจริญสติตาม เกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดา ให้คุณรู้เท่าทันว่าเวลาทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ทางโรค ทุกข์ทางใจ ทุกข์พยาบาทอาฆาต ให้มีสติรู้เท่าทัน  ดับอารมณ์ทันจิตของคุณ ที่มันคิด ปรุงแต่ง ย่อลงมาให้คุณดูกายกับใจ รู้เท่าทันอารมณ์ รู้เท่าทันแล้วก็วางได้ ตัดได้ ให้เห็นความทุกข์ที่มันเกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่ดับไป เห็นทุกขัง อนิจจัง"

Rank: 1

***ติดตามอ่านอารมณ์ใจจากผู้ปฏิบัติธรรมได้ที่****
https://www.facebook.com/profile ... 950&ref=tn_tnmn

Rank: 1

"ตารางการปฏิบัติธรรม"     

เงื่อนไขหลักของการปฏิบัติธรรมในครั้งนี้คือปิดวาจา ไม่ทานกาแฟ และปิดเครื่องมือสื่อสารโดยเด็ดขาด ห้ามส่งข้อความ ห้ามใช้เฟสบุค ให้เก็บไว้ในรถหรือฝากไว้ที่คุณแม่ จนกว่าจะถึงเวลาออกกรรมฐานจึงจะเริ่มเปิดโทรศัพท์ได้ และของมีค่าส่วนตัว เครื่องประดับทั้งหมดถอดเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อไม่ให้เป็นนิวรณ์ขณะปฏิบัติธรรม ทิ้งทุกอย่างทิ้งทุกคนไว้ที่บ้านอย่าได้นำไปด้วย  ให้นำไปเพียงหัวใจที่พร้อมสู้เท่านั้น  และห้ามนอนกลางวัน               

วันศุกร์ที่  2 พ.ค.  57     
คุณแม่ท่านเดินทางจากร้อยเอ็ดไปถึงช่วงบ่ายของวันที่ 2  แต่สามารถเข้าไปได้ตั้งแต่เช้าของวันนั้นเพราะคุณแม่ชีนันท่านเตรียมต้อนรับอยู่ที่มูลนิธิแล้ว - 4 ทุ่ม (หากดึกมากต้องโทรแจ้งท่าน) เก็บของเข้าที่พักและเริ่มปฏิบัติได้เลย คุณแม่ท่านบอกว่าถึงแม้ไม่ได้ขึ้นกรรมฐานด้วยวาจาแต่เราขึ้นกรรมฐานด้วยการปฏิบัติ จึงขอให้ผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านอย่าได้ข้องใจตรงจุดนี้ เราจะไปขึ้นกรรมฐานพร้อมกันกับผู้ที่เข้ามาวันที่ 3 เพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียเวลา      

วันเสาร์ที่ 3 – อาทิตย์ที่ 4 พ.ค.57 **สำหรับผู้ที่มาวันที่ 3 ช่วงเช้าขอให้เข้าไปถึงภายในเวลา 8.30 น.
- 3.00 น. เคาระฆังปลุก ให้รีบเข้าห้องน้ำ 30 นาทีและไปรวมกันที่ห้องพุทโธ
- 3.30 น. รวมกันที่ห้องพุทโธ เพื่อเริ่มปฏิบัติ
- 7.30 น. รับประทานอาหารเช้าและเข้าห้องน้ำ 20 นาที
- 9.00 น. ขึ้นกรรมฐานพร้อมกันสำหรับผู้มาใหม่และมาเก่า และเริ่มปฏิบัติ
- 11.00  น.รับประทานอาหาร
- 12.20  น. มารวมกันและเริ่มปฏิบัติ
- 14.00 น. เริ่มทะยอยมาสอบอารมณ์
- 18.00  น. เริ่มปฏิบัติต่อ
- 22.00 น. เข้านอน สำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการนอน ท่านอนุญาติให้ปฏิบัติต่อ
สำหรับวันที่ 4 ซึ่งถือว่าเป็นวันสุดท้ายของการปฏิบัติธรรม รวมตัวกัน 18.00 น. เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนและสนทนาธรรมกับคุณแม่ชีเกณฑ์

วันจันทร์ที่ 5 เม.ย. 57  (วันสุดท้ายของการปฏิบัติ)
- 3.00 น. เคาะระฆังปลุก จัดการเรื่องส่วนตัวและเริ่มปฏิบัติ
- 3.30 น.  ฟังธรรมและลาศีลกลับบ้าน
-7.30 น. ทานอาหารเช้าก่อนกลับเป็นข้าวต้มปลา หลังจากนั้น ช่วยกันทำความสะอาดเก็บกวาดที่พัก ห้องทานอาหาร ห้องครัว ห้องน้ำรวม ห้องสวดมนต์ ให้เรียบร้อย ถ่ายรูปหมู่แล้วจึงแยกย้ายกลับบ้าน

Rank: 1

*******สิ่งที่อาจต้องเตรียมไป******

ที่นี่เปิดปฏิบัติธรรมเฉพาะกิจ ของใช้บางส่วนต้องเตรียมไปเอง หมอนนิ่มๆ เพราะที่มีเป็นหมอนแข็งแบบทางอีสาน ผ้าห่มอาจเป็นผ้าคลุมบางๆหรือผ้าขนหนูผืนใหญ่ก็ได้ ผ้าปูนอน เสื่อพอจะมีหรือใครมีรถสามารถนำติดไปได้  มุ้งมีให้ประมาณ 10 หลัง หากไม่พอมีบริการขายหลังละ 250 บาท ถ้ามีนำติดไปด้วยได้ค่ะ นม นมถั่วเหลืองหรือน้ำปานะแบบชงต้องเตรียมเอง เพราะน้ำปานะจะมีให้บางมื้อเท่านั้น

หากใครมีเต้นท์สามารถนำไปกางนอนได้เลย เตรียมตัวไปเหมือนไปเขาใหญ่ ยกเว้นอาหารไม่ต้องนำไปค่ะ สามารถซักผ้าได้แต่ต้องนำไม้แขวนไปเอง ห้องนอนมีประมาณ 20 กว่าห้องในห้องนอนมีห้องน้ำ และสามารถนอนในศาลาใหญ่โล่งๆได้หากใครชอบลมเย็นๆ อุปกรณ์กันยุงแบบฉีด ธูปยุง ไฟแช็ค

  สำหรับชุดหากท่านใดไม่มีชุดขาวสามารถโทรไปขอยืมกับท่านแม่ชีได้ ท่านจะนำมาจากร้อยเอ็ด หรือใช้เสื้อผ้าสีอ่อนเช่นขาว ครีม หรือเป็นเสื้อขาวกับกางเกงดำก็ได้ และเตรียมใจไปเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆค่ะ (เข้าหน้าร้อนแล้วเตรียมพัดลมและปลั๊กสามตาติดรถไปด้วยค่ะ)

Rank: 1

1. สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติแนวไหน ธีไหน ได้ที่คุณแม่ชีเกณฑ์ นิลพันธ์ ท่านเป็นผู้นำปฏิบัติ และสอบอารมณ์ตัวต่อตัว รวมทั้งหากมีคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติก็จะสอนและแก้ปัญหาให้ตัวต่อตัวเช่นกัน ท่านเป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่คอยดูแลเราตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย 086 8540049 (ดีแทค)   0861009373 (วันทูคอล)

2. แจ้งชื่อลงทะเบียนพร้อมหมายเลขโทรกลับผ่านทางเฟสบุคชื่อ แม่ชีเกณฑ์ วัดป่าเจดีย์เทวธรรม จ.ร้อยเอ็ด  ซึ่งท่านไม่ได้ใช้เอง แต่มีผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งอ่านให้ท่านฟังเสมอและลงข่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมให้ท่าน
https://www.facebook.com/profile ... 950&ref=tn_tnmn

3. การปฏิบัติธรรมในครี้งนี้เปิดรับเพียง 49 คน แจ้งชื่อจองได้ภายในวันที่  26 พ.ค.57

‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 02:43 , Processed in 0.033890 second(s), 14 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.