"คุณแม่สอนปฏิบัติแนวไหนค่ะ"
"วิปัสสนาในสติปัฏฐาน 4 มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ ดับอารมณ์ได้ทันปัจจุบัน ถามว่าแนวไหนก็แนวมรรคมีองค์ 8 คุณจะเอาแนวไหนก็ได้ แต่ให้คุณเอาแนวเจริญสติปัฏฐาน 4 สติปัฏฐาน 4 ไม่ใช่เฉพาะหนอ แม่เปิดกว้าง อะไรก็ได้ "
"มีผู้ปฏิบัติคนหนึ่ง เขาเล่นสมถะ จิตนิ่งเข้าฌานอยู่เป็นสิบปี แต่เขาไม่เจริญสติเลยทำให้เขาข้องอยู่นั่น เขาบริกรรมพุทโธ แม่ก็เลยบอกว่าก็เธอขาดสติและปัญญา เธอจงเจริญสติโดยเอาพุทโธนั่นแหละ "
"สติปัฏฐาน 4 กว้างคุณจะเอาวิธีกรรมใดก็ได้ คุณจะเอา 84,000 พระธรรมขันธ์มากำหนด คุณจะกำหนดเพ่งอะไร แต่จิตคุณสงบแล้วคุณต้องเจริญสติ ให้รู้เท่าทันอารมณ์มากระทบทางตาหูลิ้นจมูกกายใจ คุณจะบริกรรมอะไรก็ได้ จะเอาอะไรมาเป็นอารมณ์ก็ได้ ที่ล่อจิตคุณให้สงบก่อนแล้วทีนี้คุณแม่จะให้คุณเดินสติรู้เท่าทันอารมณ์ปัจจุบัน คุณต้องมีสติไม่ใช่หรือจึงจะรู้เท่าทันใช่ไหม"
"แม่ก็มีวิธีถามของแม่เหมือนกัน ในผู้ที่ไม่มีคำบริกรรมอะไรเลย ก็ให้รู้เท่าทันอารมณ์วันยังค่ำนั่นแหละ ให้มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ว่าคุณโกรธ ว่าคุณเกลียด คุณมีโทสะ คุณมีโมโหไหม ก็ให้รู้เท่าทันอารมณ์ที่คุณคิด ที่คุณปรุงแต่ง ให้รู้เท่าทันอารมณ์ ให้เจริญสติ"
"ถ้าให้เอาหนอเข้าไป เขาฝืน เขาเคือง เขาอึดอัด ก็เอาอะไรก็ได้ ที่เธอจะรู้ลมหายใจเข้าออกก็ได้ เธอก็ต้องเจริญสติอีกนั่นแหละ มีสติรู้ลมหายใจเข้าสั้น มีอารมณ์แผ่วเบาก็รู้ จิตเป็นปิติก็รู้ มีอารมณ์เข้ามากระทบก็รู้ ลงสติปัฏฐาน 4 อย่างเหมือนกัน"
"คุณต้องเจริญสติตาม เกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดา ให้คุณรู้เท่าทันว่าเวลาทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ทางโรค ทุกข์ทางใจ ทุกข์พยาบาทอาฆาต ให้มีสติรู้เท่าทัน ดับอารมณ์ทันจิตของคุณ ที่มันคิด ปรุงแต่ง ย่อลงมาให้คุณดูกายกับใจ รู้เท่าทันอารมณ์ รู้เท่าทันแล้วก็วางได้ ตัดได้ ให้เห็นความทุกข์ที่มันเกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่ดับไป เห็นทุกขัง อนิจจัง"