แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 13636|ตอบ: 13
go

วัดพระธาตุม่วงคำ ต.กล้วยแพะ อ.เมือง จ.ลำปาง (พระเกศาธาตุ ๘ เส้น , พระบรมธาตุคางเบื้องซ้าย) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_2277.JPG



วัดพระธาตุม่วงคำ

ต.กล้วยแพะ  อ.เมือง  จ.ลำปาง

[พระเกศาธาตุ ๘ เส้น , พระบรมธาตุคางเบื้องซ้าย]



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_2114.JPG



IMG_2118.JPG



IMG_2126.JPG



วัดพระธาตุม่วงคำ ตั้งอยู่ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ถนนลำปาง-แม่ทะ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๓๗) อยู่ห่างจากอำเภอเมืองลำปาง ประมาณ ๑๗ กิโลเมตร ค่ะ



IMG_2121.JPG



IMG_2130.JPG



IMG_2135.JPG



IMG_2138.JPG



ถนนทางเข้า/ออก และป้ายชื่อ วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ


IMG_2143.JPG


IMG_2145.JPG



ถนนเจ้าแม่บัวตอง ทางไปกราบนมัสการพระไสยาสน์ วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

2.jpg



การเดินทางขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์บนดอย วัดพระธาตุม่วงคำ มี ๒ ทาง คือ

๑. เดินขึ้นบันไดนาค จากบริเวณตีนดอยม่วงคำ หรือ ดอยมะม่วงทองคำ จำนวน ๕๔๖ ขั้น
๒. ทางรถยนต์ ขับรถขึ้นไป แล้วจอดรถไว้ตรงหน้าวิหารกำพร้าบัวตอง และเดินขึ้นบันไดนาคต่อ


IMG_2432.JPG



IMG_2435.JPG



IMG_2447.JPG



IMG_2451.JPG



บันไดนาคทางขึ้นดอยม่วงคำ วัดพระธาตุม่วงคำ มีจำนวน ๕๔๖ ขั้น ค่ะ


IMG_2140.JPG



IMG_2411.JPG



ทางรถยนต์ขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์บนดอย วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_2153.JPG



IMG_2154.JPG



วิหารกำพร้าบัวตอง วัดพระธาตุม่วงคำ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๔ ค่ะ


IMG_2333.JPG



IMG_2337.JPG



พระพุทธรูป ประดิษฐานภายใน วิหารกำพร้าบัวตอง วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ



IMG_2151.JPG


IMG_2152.JPG



IMG_2175.JPG



IMG_2183.JPG



บันไดนาคทางขึ้น/ลง พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_2193.JPG



IMG_2268.JPG



IMG_2275.JPG



IMG_2306.JPG



IMG_2300.JPG



IMG_2308.JPG



พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุม่วงคำ ประดิษฐานพระเกศาธาตุ ๘ เส้น และพระบรมธาตุคางเบื้องซ้ายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ


IMG_2273.JPG



ประวัติวัดพระธาตุม่วงคำ


วัดพระธาตุม่วงคำ หรือเรียกว่า วัดดอยม่วงคำ ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นวัดชั้นราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่วัด ๑๓ ไร่ ๒ งาน เดิมพื้นที่วัดเป็นป่าเขา ต่อมามีการค้นพบฐานเจดีย์เก่าซึ่งสอดคล้องในตำนานหมาขนคำของคนโบราณ พระครูรัตนโศภณ (หลวงพ่ออิ่น) อดีตเจ้าคณะอำเภอแม่ทะ อดีตเจ้าอาวาสวัดเมืองศาสน์ ร่วมกับ หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จังหวัดลำปาง จึงได้ทำการสร้างวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๘ และได้รับความอุปถัมภ์สมณะศรัทธา เช่น พระครูสุเวทกิตติคุณ (หลวงปู่บุญชุบ) วัดเกาะวารุการาม จังหวัดลำปาง เป็นต้น

และชาวบ้านทั่วไป เช่น ครอบครัวของคุณพ่อเถียร คุณแม่กิมลี้ หาญกิติวัธน์ เป็นต้น ตลอดจนถึงคณะศรัทธาอำเภอแม่ทะ และคณะศรัทธาตำบลกล้วยแพะ และศรัทธาทั่วสารทิศจำนวนมาก เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๐-๒๕๐๙ โดยหลวงพ่อพระครูรัตนโศภณ ได้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสรูปแรก ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๖๘-๒๕๑๒ เป็นเวลา ๔๔ ปี จนท่านได้มรณภาพ จากนั้นวัดพระธาตุม่วงคำก็เป็นวัดร้างถึง ๒๑ ปี ต่อมาก็มี พระอธิการทินพันธ์ ทินฺนวโร จากวัดเมืองศาสน์ มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๓๓ จนถึงปัจจุบัน

ส่วนงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุประจำปี ตรงกับ วันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๙ เหนือ ซึ่งมีงานสมโภชอย่างใหญ่โต


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

ตำนานวัดพระธาตุม่วงคำ



IMG_2198.JPG



“เอกะทิวะสัง.....ครั้งหนึ่ง เมื่อสมเด็จพระศาสดาเสด็จมา ณ ดอยคำ พร้อมด้วยพระภิกษุ ๑,๕๐๐ รูป พระอานนท์ก็ปูอาสนะถวาย ณ ที่ริมปากโหม้งขุมคำ เมื่อจะแสดงธรรมโปรดพุทธบริษัททั้งหลายแล้วจึงได้ตรัสว่า ดอยโหม้งขุมคำนี้เป็นที่ประเสริฐยิ่ง เป็นที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายสร้างโพธิสมภารมาทุกพระองค์ ฉะนั้นตถาคตจักเอาพระเกศาบรรจุไว้ที่นี้ ๘ เส้น เมื่อตรัสอย่างนี้แล้วจึงประทานเส้นพระเกศาให้บรรจุไว้ที่โหม้งขุมคำนั้นลึกได้ ๒๕ วา


IMG_2202.JPG



พระอินทร์ก็ให้พระวิษณุกรรมไปนำเอากิ่งไม้มะม่วงที่พระพุทธเจ้าแสดงปาฏิหาริย์ต่อพวกอัญญเดียรถีย์ทั้ง ๖ ในเมืองพาราณสี ครั้นวิษณุกรรมนำมาแล้ว ท้าวสักกะจึงเอาปักไว้ที่ปากโหม้งขุมคำทันที องค์สมเด็จพระชินสีห์จึงตรัสต่อไปว่า ตั้งแต่นี้ไปภายหน้าสถานที่แห่งนี้จักได้ชื่อว่า “ดอยม่วงคำ” เมื่อตถาคตนิพพานไปแล้วพระสาวกจักนำเอาพระธาตุ “มหาจานุกัง” คือ กระดูกคางข้างซ้ายแห่งตถาคตมาบรรจุไว้ที่นี้

สถานที่นี้ตถาคตเกิดมา ๒ ชาติ ได้อาศัยดอยม่วงคำบำเพ็ญธรรม โดยชาติก่อนได้เกิดเป็นพญานาคราช จากชาตินั้นแล้วก็มาบังเกิดเป็นพระยาปรมะโฆสา ก็ได้มาอาศัยดอยม่วงคำแห่งนั้นบำเพ็ญโพธิสมภาร เมื่อพระพุทธเจ้าได้เทศนาให้พระอานนท์และภิกษุทั้งหลาย ๑,๕๐๐ รูป ฟังแล้วจึงได้นำอดีตกาลล่วงมานานนั้นมาแสดงให้พระสาวกทั้งหลายรับทราบดังนี้


IMG_2205.JPG



ในอดีตกาลนานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งทำไร่อยู่ในป่าดอยคำได้เลี้ยงสุนัขตัวเมียไว้สำหรับเฝ้ากระต๊อบ


IMG_2204.JPG



วันหนึ่งสุนัขตัวนั้นหลงเข้าไปในป่าแล้วหาทางกลับไม่ได้ แต่ก็ได้อาศัยกินน้ำในรอยเท้าของพญาช้างเชือกหนึ่งพอมีกำลังที่จะหาทางกลับมาได้


IMG_2206.JPG



ต่อมาสุนัขตัวนั้นก็ตั้งครรภ์ด้วยเหตุที่มันไปกินน้ำในรอยเท้าช้าง ชายผู้เป็นเจ้าของก็คิดในใจว่าแถวนี้ไม่มีสุนัขตัวอื่นเลย ทำไมมันจึงมีท้องขึ้นมาได้ หากขืนอยู่ต่อไปชาวบ้านเขาจะติเตียนว่าเรากินอยู่สมสู่กับสัตว์เดรัจฉาน เมื่อคิดอย่างนี้แล้วจึงไล่หมาตัวนั้นไปที่อื่น มันก็หลบไปออกลูกที่เงื้อมผาสามเส้า ด้วยบุญบันดาลลูกที่เกิดมาเป็นผู้หญิง ๒ คน


IMG_2207.JPG



แม่สุนัขได้ไปหาอาหารมาเลี้ยงพร้อมทั้งคาบเสื้อผ้าที่เขาตากไว้มาให้ลูกของตน จนกระทั่งลูกทั้งสองมีอายุได้ ๑๕ ปี มีรูปร่างสวยงามเหมือนนางฟ้าเทพกัญญา


IMG_2208.JPG



วันหนึ่งนางทั้งสองได้เอางาช้าง เขากวาง นอแรด เข้าไปสู่หมู่บ้านเพื่อแลกเอาเสื้อผ้า เสื้อหมอน ที่นอน และผ้าห่มทั้งหลาย จากนั้นก็ได้ปลูกกระต๊อบเป็นที่อยู่ ณ ที่นั้น จึงมีชื่อว่า “ผาตูบช้าง” มาตราบจนถึงทุกวันนี้


IMG_2209.JPG



ต่อมามีพรานป่าเข้ามาล่าสัตว์ก็ได้พบกับนางทั้งสองพี่น้อง


IMG_2211.JPG



พรานป่าจึงกลับเข้าไปกราบทูลให้พระยาประมะโฆสาทรงทราบ


IMG_2212.JPG



พระองค์จึงให้นำมาเป็นพระมเหสีทั้งสองคน


IMG_2213.JPG



ณ สถานที่ช้างคุกเข่ารับเอานางทั้งสอง สถานที่นั้นเรียกว่า "ผาช้างหมอบ" จนถึงบัดนีี้


IMG_2214.JPG



เมื่อแม่สุนัขกลับมาจากหากิน ไม่เห็นลูกสาวทั้งสองคน ก็ร้องไห้เห่าหอนอยู่ตลอดเวลา


IMG_2216.JPG



ขณะนั้นเทวดาก็มาดลใจให้มันพูดได้ แล้ววิ่งเข้าไปถามหาถึงในเมืองจนพบ


IMG_2218.JPG



ฝ่ายนางเขมฏฐิกาผู้พี่มีความละอายเกรงจะมีคนรู้ว่ามีแม่เป็นสุนัข จึงให้คนไล่มันให้พ้นไป จนมีคนช่วยกันรุมทุบตี


IMG_2219.JPG



นางสุนัขจึงได้หนีมาซุกซ่อนอยู่ใต้ร่มไม้ใกล้ปราสาทผู้น้องมีชื่อว่า ศรีบัวตอง แล้วก็ได้พบกับลูกสมความปรารถนาพร้อมกับบอกว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปอีก ๓ วัน แม่ก็คงจะตาย หากแม่ตายแล้วให้ลูกไปถามพญาช้างผู้เป็นบิดาว่าตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ ส่วนผู้ที่ช่วยเลี้ยงเจ้ามาคือ พญางูเห่ากับหงส์ทอง ๒ ตัว เจ้าจงจำไว้ให้ดี


IMG_2220.JPG



ฝ่ายนางศรีบัวตองเทวีก็จำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วได้เข้าไปทูลขอหีบไม้อันหนึ่งจากพระสวามี เพื่อจักเอาไปใส่ของดีมีค่า แต่ความจริงนางนำแม่สุนัขเข้าไปนอนในหีบนั้น ครั้น ๓ วันผ่านไปพระราชาเสด็จมาเพื่อจะขอดูของดีในหีบ นางก็ตกใจเกรงจะมีความผิด จึงตัดสินใจตายพร้อมกับแม่ ส่วนแม่สุนัขตัวนั้น เมื่อพระราชามาถึงปราสาทลูกแห่งตนก็สิ้นใจตายไปทันที


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

ตำนานวัดพระธาตุม่วงคำ (ต่อ)



IMG_2221.JPG



ขณะนั้นพระอินทร์จึงเสด็จลงมาเอาซากศพไปเร็วพลัน แล้วเนรมิตแก้วแหวนเงินทองไว้มากมายในหีบแทน ครั้นพระยาปรมะโฆสาขึ้นไปบนปราสาทพบสิ่งของมีค่าเหล่านั้นก็สงสัย จึงถามไปว่าเอามาจากไหน นางเทวีก็ตอบว่าได้มาจากป่าอันเป็นที่อยู่เดิม เมื่อพระราชสวามีเสด็จกลับไปแล้ว นางก็เสียใจร้องไห้ที่มิได้เห็นแม่ของตน เวลานั้นเทพยดาผู้รักษาปราสาทจึงได้เข้ามาบอกเรื่องราวให้ทราบ นางจึงได้คลายความเศร้าโศกเสียใจ



IMG_2222.JPG



แล้วได้นำเสด็จไปพร้อมกับพระราชา เพื่อไปเอาสมบัติในป่าอีก ระหว่างทางนางได้คิดถึงพญางูเห่า เทวดาก็เนรมิตเป็นพญางูเห่าตายอยู่ที่เก่า มีร่างอันเน่าและพองอยู่ข้างทาง เมื่อนางเห็นแล้วก็ก้มอภิวาท เอาน้ำมาอาบยังซากศพนั้น พญางูก็กลับมีชีวิตขึ้นมาอีก


ครั้นถามถึงทางที่จะไปและออกเดินทางต่อไป เทวดาก็ทิ้งเพศพญางู แล้วเนรมิตเป็นพญาช้างนอนตายเน่าอยู่ริมทางอีก นางก็นำน้ำมาอธิษฐานลูบไล้ยังซากศพ แต่เทวดาก็ให้ซากศพนั้นหายไปกับตา นางก็เสียใจเดินทางต่อไปยังผาสามเส้า ขณะนั้นเทวดาก็แปลงเป็นหงส์ทองนอนตาย นางก็เอาน้ำมาใส่ปากพร้อมกับลูบคลำ หงส์ทองทั้งคู่บินสู่อากาศแล้วก็ลงมาหานาง แล้วบินหันไปสู่ดอยคำ และเทวดาก็ละเพศจากหงส์ ๒ ตัว แปลงเพศเป็นผู้เฒ่าองคนเฝ้าไร่ฝ้าย



IMG_2223.JPG



ครั้นนางเดินผ่านมา สองตายายจึงบอกทางไปถึงหนองงู ซึ่งยังมีปรากฏอยู่ทุกวันนี้และฝ้ายที่เฝ้าอยู่นั้นก็ยังมีปรากฏอยู่เช่นกัน แล้วนางจึงไปถึงผาสามเส้ากราบไหว้บูชารอยเท้าแม่หน้าผา พร้อมกับพรรณนาว่าลูกจักตาย ณ ที่เก่าแห่งนี้ เพราะได้โกหกพระสวามีว่ามีสมบัติที่นี้มาก ฝ่ายเทวดาก็มาเนรมิตเป็นพญางู พญาช้าง และพญาหงส์ทองให้เห็นและถามนาง แต่นางไม่ยอมพูด ยกมือไหว้แล้วก็กระโดดลงมายังท้องห้วย



IMG_2224.JPG



เมื่อกระโดดลงมายังท้องห้วยไปตกใส่ผีเสื้อยักษ์ที่รักษาห้วย ขณะที่กำลังเจ็บป่วยเป็นฝีหนองไปไหนไม่ได้มาหลายวันแล้วนอนร้องครวญครางอยู่ เมื่อร่างของนางตกไปที่ตุ่มฝีนั้น น้ำหนองน้ำเหลืองก็แตกออกมาหายเจ็บปวดทันที



IMG_2225.JPG



ผีเสื้อยักษ์มันก็ชอบใจยินดีว่านางผู้นี้เป็นผู้มีพระคุณแก่มัน จึงได้มอบทรัพย์สมบัติอันมีค่าแก่นางมากมาย



IMG_2227.JPG



ต่อมานางก็ได้เป็นอัครมเหสี จนเป็นที่ริษยาของนางเทวีผู้พี่ จนเข้ามาสอบถามเรื่องราวจากน้องสาว



IMG_2228.JPG



แล้วนางเทวีผู้พี่จึงเดินทางเข้าไปในป่าหวังจะเอาทรัพย์สมบัติบ้าง แต่เป็นด้วยนางเป็นคนไม่ดีขึ้นไปบนหน้าผาเห็นนางยักษิณีผีเสื้อห้วยนอนหลับอยู่ นางก็ยกเท้าขึ้นเหยียบผีเสื้อสะดุ้งตื่น



IMG_2229.JPG



ผีเสื้อยักษ์จึงพูดว่า นางผู้นั้นหมิ่นประมาทกูและไม่รู้จักบุญคุณพ่อแม่ บาปกรรมอันนั้นคงมาตามทัน จึงได้จับเอานางฉีกกินเป็นอาหาร



IMG_2230.JPG



นางยักษิณีผีเสื้อห้วยไล่จับเหล่าทหารที่มากับนางบัวแก้วกิน ต่างพากันวิ่งหนีละทิ้ง ฆ้อง กลอง เครื่องดนตรี สถานที่นั้น เรียกว่า "ห้วยละก๊อง" หรือ "ห้วยละฆ้อง" จนถึงบัดนี้


IMG_2231.JPG



นางยักษิณีผีเสื้อห้วยยังไล่จับช้างที่นางบัวแก้วนั่งมากินเป็นอาหาร ณ สถานที่นั้นเรียกว่า "โทกหัวช้าง" จนถึงบัดนี้



IMG_2232.JPG



นับแต่นั้นมานางศรีบัวตองก็ได้อยู่ในปราสาทราชมณเฑียรร่วมกับพระยาปรมะโฆสาด้วยความสุขความเจริญ แล้วทรงมีพระราชบุตรสองพระองค์มีนามว่า เจ้าศรีบุญเรือง และเจ้าบุญศิริราชกุมาร และได้บำเพ็ญพระราชกุศลตราบเท่าสวรรคต แล้วได้ไปบังเกิดในสรวงสวรรค์เสวยทิพยสมบัติเป็นใหญ่กว่าเทพบุตรเทพธิดาทั้งหลายสุขเกษมสำราญในวิมานชั้นฟ้านั้น ตามตำนานพระธาตุดอยม่วงคำก็มีเท่านี้



IMG_2201.JPG



ครั้นพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว บุคคลทั้งหลายเหล่านี้ จึงได้กลับชาติมาเกิด ดังนี้


แม่สุนัข                   ได้มาเกิดเป็น  นางปฏาจารา

นางศรีบัวตอง           ได้เกิดเป็น      นางพิมพา

ชายผู้เป็นเจ้าของไร่    เกิดมาเป็น     พระเทวทัต

พญาช้าง                  เกิดมาเป็น     สุปปะพุทธะ

พญางูเห่า                 เกิดมาเป็น      นางบุตราเถรี

พญาหงส์ทอง            เกิดมาเป็น      อนาถบิณฑิกเศรษฐี

เจ้าศรีบุญเรือง           เกิดมาเป็น      พระราหุล

เจ้าบุญศรี                 เกิดมาเป็น      นางอุบลวรรณาเถรี

พรานป่าผู้นั้น            ได้เกิดมาเป็น    พระอุทายีเถระ

ผีเสื้อยักษ์                ได้เกิดมาเป็น    พระองคุลีมาร

พระยาปรมะโฆสา      คือ                 พระตถาคตในกาลบัดนี้


จากนิทานโบราณคดีพื้นบ้านผาสามเส้า-เวียงนางตอง ของชาวจังหวัดลำปางก็ได้นำมาร้องเป็นทำนองพื้นเมืองมานานแล้ว ความจริงก็เป็นเรื่อง “ชาดก” อันสืบเนื่องจากการเสวยพระชาติในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ ได้อาศัยอาณาเขตประเทศสยามแห่งนี้เป็นที่สร้างสมอบรมพระบรมโพธิสมภารมาหลายชาติหลายสมัย ดังตัวอย่างที่พระธาตุดอยม่วงคำแห่งนี้ ยังมีหลักฐานที่ตำนานกล่าวอ้างไว้จริงหลายแห่งเช่น ณ ผาสามเส้า ทางวัดได้สร้างรูปปั้นของนางบัวแก้ว นางบัวตอง และนางสุนัข ไว้เป็นอนุสรณ์ เพื่อเป็นที่กราบไหว้บูชา นอกจากบริเวณพระธาตุนี้ จะมีต้นมะม่วงป่า ๒ ต้นแล้ว ก็ยังมีรอยช้างหมอบ และรอยเท้าสุนัข เป็นต้น



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_2323.JPG



จุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และขอโมทนาบุญกับผู้สร้าง ผู้บูรณะ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในบุญกุศล ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปจน ๕๐๐๐ ปี ค่ะ สาธุ สาธุ



IMG_2315.JPG



IMG_2281.JPG



เดี๋ยวเรามากราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุม่วงคำ พร้อมกันเลยนะคะ

(กล่าวนะโม ๓ จบ)  อิมัง อะสะมานัญญะเจติยัง สุปปะภาวิตัง พุทธะสารีริกะปะติฏฐานัง นะระเทเวหิ ปูชิตัง สุวัณณัมภะ ปัพพะตะธาตุเจติยัง อะติคาระเวนะ วันทามิฯ อิมัสสานุภาเวนะ ระตะนัตตะยะเตชะสา สาทะ โสตถี ภะวันตุโน

ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆ ที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แด่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_2293.JPG



IMG_2286.JPG



IMG_2292.JPG



ต้นมะม่วง ๒ ต้น อยู่ใกล้ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ



IMG_2264.JPG


IMG_2267.JPG



ศาลพระภูมิ อยู่บริเวณ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ


IMG_2317.JPG


ระฆัง อยู่ข้าง พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_2296.JPG



วิหาร อยู่ด้านหน้า พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ


IMG_2243.JPG



IMG_2252.JPG



พระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานภายใน วิหาร วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ  


IMG_2248.JPG



IMG_2247.JPG



IMG_2245.JPG



พระพุทธรูปต่างๆ ประดิษฐานภายใน วิหาร วัดพระธาตุม่วงคำ ค่ะ  



IMG_2185.JPG



ศาลาราย อยู่ใกล้ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุม่วงคำ บูรณะเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๗ ค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-12-1 02:52 , Processed in 0.072412 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.