แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 4826|ตอบ: 0
go

‪แนะนำเทวดากำลังหมดบุญให้ปฏิบัติธรรม [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

4.jpg , C- G- M$ R9 s6 M
ธรรมะหากใครปฏิบัติก็มีแต่ความสุข ความเจริญ ให้ผลในทางดีทั้งทางโลกมนุษย์ และโลกทิพย์ ไม่ว่าจะส่งผลช้าหรือส่งผลเร็ว ก็ส่งผลในทางที่ดีทั้งนั้น ในทางโลกมนุษย์แล้วนั้น หลายๆคนอาจจะมองว่าธรรมะ หากใครนำมาปฏิบัตินั้นเป็นเรื่องของคนแก่บ้างหละ เชยบ้างหละ แต่ในทางโลกทิพย์แล้วนั้นใครปฏิบัติธรรมถือว่าสร้างกรรมดีมีผลในทันที จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่เทวดา ที่ต้องการความเจริญก้าวหน้าทางธรรมเช่นกัน
, j/ W  Q; z/ yดังเรื่องราวที่ผมจะเล่าประสบการณ์การใช้บุญให้ฟังกันนะครับ$ y& G) Y% V, u- j5 a2 [
วันที่ 14 ธันวาคม 2558 ในเวลาพักเที่ยงจากการทำงานเมื่อผมรับประทานอาหารเสร็จ ก็เตรียมตัวพักผ่อนเพื่อจะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงบ่ายต่อไป ผมรู้สึกสัมผัสกับพลังจิตอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นพลังที่เย็นสบาย ไม่หนัก มาสัมผัสเบาๆ แต่แฝงด้วยพลังที่มั่นคง ทำให้ผมทราบทันทีว่าท่านต้องไม่ใช่จิตวิญญาณที่อยู่ภพภูมิต่ำๆแน่ๆ ผมจึงเดินกลับที่พัก เพื่อผมจะทราบว่า ท่านประสงค์ส่ิงใด เมื่อถึงที่พักแล้ว จึงกำหนดจิตเพื่อสื่อสารกับท่าน จิตที่นิ่งกลับนิ่งยิ่งขึ้นเมื่อสัมผัสกับพลังของท่าน การสนทนาจึงได้เริ่มต้นขึ้น
) b) o  D4 X( f4 a- Zผม : สวัสดีครับ ท่านประสงค์สิ่งใดที่พอจะให้ผมช่วยได้1 z; ^* B! l7 v) C1 i
เทวดา : ยินดีที่ได้พบ
' L! ^! \' `$ Q5 yผม : ยินดีเช่นกันครับ 8 t- ]& t/ d. l$ `  {% ?' }1 F7 s+ z
เทวดา : เรามีข้อธรรมอยากจะถามสักนิด ท่านช่วยเราหน่อยได้ไหม, f6 P# e# P6 |
ผม : หากผมช่วยได้ ก็ยินดีช่วยครับ' ~1 p' ], ]2 @; k
เทวดา : เรามีข้อสงสัยว่าเทวดาสามารถหลุดพ้นสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นได้หรือไม่, i3 b0 B: M; y; @2 E
ผม : ได้สิครับ
( Y3 z4 J& q: s! xเทวดา : แล้วจะทำเช่นไร
0 ?* y! a" I1 U- d. Uผม : ท่านจะลองภูมิผมหรอครับ หรือมีสิ่งอื่น% @* C1 v7 D, C# L  A
เทวดา : มิใช่เลย เราขออภัย ลืมบอกไปว่าเรากำลังหมดบุญ แต่เรายังไม่อยากมาเกิดยังเมืองมนุษย์ในเวลานี้ เพราะโลกมนุษย์เต็มไปด้วยความเสื่อม มนุษย์ขาดซึ่งศีลธรรม เราจึงยังไม่อยากมาเกิดในตอนนี้ จึงมีผู้แนะนำว่าให้มาหาท่าน เราจึงมาหา ขออภัยในความเข้าใจผิด
* i- w$ e2 L& t" o+ h: {ผม : ผมมิได้ขุ่นเคืองแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าสงสัยเท่านั้น ต้องขออภัยเช่นกัน
* T( a: n; h2 V6 q; Xเทวดา : เราเข้าใจ มาสู่คำถามที่ค้างไว้ ว่าเราจะทำเช่นไร
: v! f9 _! l, t$ c0 T' Iผม : สิ่งแรกคือ ‪#‎บุญชั้นทาน‬ ครับ
- y5 l- z+ R/ N( A) X# K( Aเทวดา : เราจะทำทานได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่มีกายเนื้อ; a2 [! h, M% u8 k6 H
ผม : ทำได้ครับ บุญชั้นทานนั้นมีหลายแบบ ซึ่งทานหมายถึงการให้ ให้ในสิ่งดี มีประโยชน์แก่ผู้รับ แล้วทานเองก็มีหลายแบบ เทวดาอย่างท่าน สิ่งที่ทำได้ก็คือ ให้ ‪#‎บุญเป็นทาน‬ สามารถทำได้โดยสละบุญของท่านให้วิญญาณที่เดือดร้อนโดยบอกว่า "ด้วยอำนาจของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำบุญของข้าพเจ้าส่งถึงวิญญาณดวงนี้ด้วยเทอญ" ต่อมาก็ ‪#‎ธรรมทาน‬ โดยการ นำคำสอนของพระพุทธองค์มาบอกผู้อื่น พูดกล่าวด้วยความเคารพ พูดด้วยเจตนาดี นี่ก็คือธรรมทาน ต่อมาก็ ‪#‎อภัยทาน‬ หากท่านโกรธ อาฆาตแค้น พยาบาท สิ่งใดหรือผู้ใดให้ท่าน ให้อภัยในสิ่งนั้นหรือคนคนนั้นเสีย พระพุทธองค์ทรงสอนไว้เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรโดยพูดว่า "ข้าแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า หากผู้หนึ่งผู้ใดหรือใครก็ตามที่กระทำกรรมกับข้าพเจ้าไว้ด้วยทางกาย วาจา ใจ ไม่ว่าภพใด ภูมิใด ชาติใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมต่อเขาผู้นั้น ขอให้เขาผู้นั้นพบแต่ความสุขความเจริญ ขอพระรัตนไตร ทรงเป็นพยานแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญสาธุ" แต่ต้องทำด้วยความจริงใจนะ แล้วท่านจะหลุดพ้นจากความพยาบาท ท่านจะพบแต่ความสุข ความเจริญ
* N: D) M& r# R: y4 P. {, b( C7 Bเทวดา : สาธุ แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม# m: f: h4 k, W+ h! ^0 d
ผม : มีครับ เป็น ‪#‎บุญชั้นศีล‬ ซึ่งบุญชั้นศีลนี่ท่านเป็นเทวดาทำได้อยู่แล้ว& {& R; P  r8 t
เทวดา : เราจะทำได้อย่างไร
$ j- ~7 y, q/ y, n# Lผม : ก็ท่านเป็นเทวดา ท่านไปฆ่าใครหรือทำร้ายใครหรือไม่# x" `! w7 Q; G) ~3 R
เทวดา : ไม่เคย: m1 L* o; I8 G, s+ H( }
ผม : ท่านเคยไปลักขโมยผู้ใดหรือไม่
; b8 ?. ]) ~0 B5 B. l% i$ Mเทวดา : ไม่เคย% F7 U- {1 u. K6 x- A) a# U
ผม : ท่านเคยผิดลูกผิดเมียใครหรือไม่
1 R. x4 S) F' M; E! H# x, gเทวดา : ไม่เคย5 I2 x6 X; D1 W; D- k/ D
ผม : ท่านเคยโกหก หรือพูดไม่ดีทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือไม่
* W" S; @4 N3 i8 `เทวดา : ไม่เคย
8 c# P1 ^9 }( p1 e* lผม : แล้วท่านเคยดื่มสุรา น้ำจันทร์ จนขาดสติ หรือไม่
: ~1 d3 q" x& S" V$ D2 eเทวดา : ไม่เคยเลย/ h# u4 W$ @# r( M
ผม : ก็นี่อย่างไรหละคือศีล 5 ส่วนศีลที่สูงๆขึ้นกว่านี้ก็ยังมีอีก ท่านลองศึกษาดู การรักษาศีลของท่านให้ระลึกถึงคุณพระรัตนไตร โดยอธิษฐานว่า "ข้าแต่องค์พระรัตนไตร ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอรักษา ขอยึดมั่นต่อศีลธรรม ขอบารมีของพระรัตนไตรโปรดปกปักรักษาข้าพเจ้าด้วยเทอญ" ให้ท่านลองทำดู4 p5 e& I  P1 S( S* V9 J$ N4 Y
เทวดา : สาธุ เราจะทำ แล้วยังมีอีกไหม ดีจังที่ได้สนทนากับท่าน3 Q  }* l+ d& I  K4 d( x
ผม : มีครับ ก็ ‪#‎บุญภาวนา‬ สิ่งนี้ไม่ยากเลย การภาวนา ก็คือการสวดมนต์ ไม่ว่าสวดมนต์บทใดก็ได้อนิสงค์เช่นเดียวกัน หากท่านไม่รู้จะสวดมนต์บทใด ก็ให้ท่านกล่าวว่า " ข้าพเจ้าขอระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ ........" ไปเรื่อยๆจนกว่าท่านจะพอใจ& F* r" M" K- d7 d) G
เทวดา : สาธุ ง่ายดีแฮะ
+ M6 M7 l$ M! ^7 `+ ^  u; ~ผม : ก็สิ่งง่ายๆนี่แหละที่คนมองข้าม ไปมองอะไรก็ไม่รู้ให้ยากให้ลำบาก
; g" ~1 j6 n9 nเทวดา : จริงของท่าน แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม. c( a% Z8 c3 m3 R9 U; |
ผม : มีครับ ‪#‎บุญชั้นสมาธิ‬ เป็นบุญที่ดีเป็นบุญที่เจริญ ซ้ำยังมีกุศลมาก
$ k) F! H8 X4 Tเทวดา : แล้วเราจะทำได้อย่างไร
. }/ Y* R) d6 ?& V/ H7 Aผม : ท่านจำคำภาวนาที่ผมบอกได้ใช่ไหมครับ# D5 X; z4 G1 h' X& M
เทวดา : ได้สิเราจำขึ้นใจเลยหละ( _+ n9 D. w& f" M5 R/ p0 V
ผม : ให้ท่านภาวนาเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ภาวนาจนกว่าจิตจะนิ่ง จิตจะจับที่คำภาวนา มีเหลือแต่คำภาวนา นี่แหละสมาธิครับ หรือให้ท่านกล่าวว่า "พุทโธ ๆๆๆ" คำเดียวก็ได้ โดยกล่าวว่า "ข้าแต่พระรัตนไตย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำดวงจิตข้าพเจ้าให้กลายเป็นสมาธิด้วยเทอญ พุทธโธ ๆ ๆ ๆ " เพียงเท่านี้ก็เป็นการทำสมาธิแล้ว
0 b: V5 S& w5 V" ~& N) nเทวดา : สาธุ ดีจริงง่ายๆเช่นนี้เอง เราจะนำไปปฏิบัติ มิเสียเวลาจริงๆที่มาพบท่าน แล้วยังมีข้อธรรมอีกหรือไม่: {: I* z; z+ G2 k, W! z+ v
ผม : มีครับ) N5 S0 U* y3 D9 ^- o
เทวดา : มีอีกหรอ น่าสนใจจริงๆ ไหนท่านลองกล่าวมาสิ$ Y7 N1 n9 V+ X& e6 N
ผม : ได้สิ เขาเรียกว่าวิปัสสนา ท่านรู้จักวิปัสสนาไหม& `- t0 v: h- s- A; Z& d6 R
เทวดา : ไม่รู้เลย ไหนท่านลองอธิบาย
# n/ K* i" d/ ]$ M$ t& ^: U& g4 aผม : วิปัสสนาคือการระลึกรู้ เข้าใจในธรรมชาติของสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจกฏของธรรมชาติว่าสิ่งใดมีเกิด สิ่งนั้นมาตั้งอยู่ และดับไปในท้ายที่สุด เป็นกฏของธรรมชาติ
7 l) x% d0 E( \; e  |เทวดา : นั้นสินะ จริงของท่าน
7 A( f0 ~/ F9 N& A* N$ ]ผม : มนุษย์กับ ชาวทิพย์จะต่างกันตรงที่มนุษย์มีร่างกายหยาบ แต่เทวดาอย่างท่านไม่มี: f9 V7 p: J* v6 b% _1 x* u0 p0 `" C
เทวดา : ใช่แล้ว5 j) Z$ V3 i6 l# @5 b2 F
ผม : แต่พื้นฐานแล้วไม่ต่างกัน มนุษย์มีขันธ์ 5 ซึ่งประกอบด้วย
% k$ t. w4 D9 T- รูป คือธาตุที่ประกอบมาเป็นกายเนื้อนี่เอง ' w" h8 x7 X9 R( {) w: ^% T
- เวทนา คือ ความทุกข์ ความสุข ความไม่สุขไม่ทุกข์
1 S) W7 {1 k& g0 x4 h- สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้เช่น จำว่าเราชื่ออะไร อยู่ที่ไหน 4 U. M6 d/ T8 B2 w8 h
- สังขาร คือ ความร่วงโรยของวัยเด็ก วัยกลางคน วัยชรา ความตายอย่างเทวดาก็จะมีบุญเป็นสังขาร มีมรณะ เป็นสังขาร ใช่ไหม  {$ Z( H% P6 r2 H- I
เทวดา : ใช่" {2 u" g) r9 d0 U  ]& ?" t& L, i
ผม : วิญญาณ คือการรับรู้สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง การรับรู้ว่า สิ่งนี้เป็นดี เป็นเลว แต่เทวดาจะมีข้อแตกต่างจากมนุษย์เพียงข้อเดียว ก็คือรูป แต่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ยังมีอยู่ครบ ให้ท่านพิจารณาดูเถิดว่าสิ่งที่ท่านมีนี้เที่ยงหรือไม่
1 E$ \, C( J4 q6 z! Hเทวดา : ไม่เที่ยง ไม่คงทน หากคงทนเราคงไม่มาหาท่าน
' R4 U  O% g+ f3 H. p: |ผม : จริงที่สุด ให้ท่านพิจารณาดูว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่
5 N9 d- f6 P# O' V6 bเทวดา : เป็นเช่นนั้นจริงๆ
) K* f2 f1 R# Z; m9 lผม : มีข้อสงสัยอีกหรือไม่ : V5 e* S* t' d1 U
เทวดา : หมดข้อสงสัย หากมีข้อสงสัยเราจะมาหาท่านและคุยกับท่านอีก
  M5 H( }) S2 e! t4 [4 P4 |ผม : ยินดี และน้อมส่งท่านกลับยังวิมานของท่าน "ข้าพเจ้าขออำนาจพระรัตนไตร โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าลงมาถวายแด่เทวดาผู้นี้ด้วยเทอญ"
. }1 {1 H/ h2 c+ m) K' {) |( \เทวดา : สาธุ ไปแล้วนะ
8 g# b/ g+ ]0 u0 }5 Cแม้แต่เทวดายังมีความเสื่อมถอยของบุญ แล้วเราเป็นเพียงแค่มนุษย์ความเสื่อมถอยของบุญจะไม่เกิดแก่เราได้เช่นไร จงถามตัวเองเสมอว่า ‪#‎วันนี้คุณสร้างบุญแล้วหรือยัง‬ ขอบุญนี้จงไปถึงวิญญาณทุกดวงที่ต้องการบุญด้วยเถิด สาธุ& L. j+ ?  y1 k% M2 J% A
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-6-20 21:48 , Processed in 0.054362 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.