- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2013-1-26
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2016-3-21
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 10
- เครดิต
- 0
- โพสต์
- 162
- สำคัญ
- 0
- UID
- 10617

|
8 Z# K( p4 a$ ]6 _+ p! x: ~" `ธรรมะหากใครปฏิบัติก็มีแต่ความสุข ความเจริญ ให้ผลในทางดีทั้งทางโลกมนุษย์ และโลกทิพย์ ไม่ว่าจะส่งผลช้าหรือส่งผลเร็ว ก็ส่งผลในทางที่ดีทั้งนั้น ในทางโลกมนุษย์แล้วนั้น หลายๆคนอาจจะมองว่าธรรมะ หากใครนำมาปฏิบัตินั้นเป็นเรื่องของคนแก่บ้างหละ เชยบ้างหละ แต่ในทางโลกทิพย์แล้วนั้นใครปฏิบัติธรรมถือว่าสร้างกรรมดีมีผลในทันที จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่เทวดา ที่ต้องการความเจริญก้าวหน้าทางธรรมเช่นกัน; U) F. g2 V/ r( J+ x0 W
ดังเรื่องราวที่ผมจะเล่าประสบการณ์การใช้บุญให้ฟังกันนะครับ. F! D; `3 L" [: \* q/ H
วันที่ 14 ธันวาคม 2558 ในเวลาพักเที่ยงจากการทำงานเมื่อผมรับประทานอาหารเสร็จ ก็เตรียมตัวพักผ่อนเพื่อจะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงบ่ายต่อไป ผมรู้สึกสัมผัสกับพลังจิตอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นพลังที่เย็นสบาย ไม่หนัก มาสัมผัสเบาๆ แต่แฝงด้วยพลังที่มั่นคง ทำให้ผมทราบทันทีว่าท่านต้องไม่ใช่จิตวิญญาณที่อยู่ภพภูมิต่ำๆแน่ๆ ผมจึงเดินกลับที่พัก เพื่อผมจะทราบว่า ท่านประสงค์ส่ิงใด เมื่อถึงที่พักแล้ว จึงกำหนดจิตเพื่อสื่อสารกับท่าน จิตที่นิ่งกลับนิ่งยิ่งขึ้นเมื่อสัมผัสกับพลังของท่าน การสนทนาจึงได้เริ่มต้นขึ้น& P4 [6 Y5 p2 P) W
ผม : สวัสดีครับ ท่านประสงค์สิ่งใดที่พอจะให้ผมช่วยได้
1 S$ E: ?" a9 `5 G/ ~: v- qเทวดา : ยินดีที่ได้พบ
1 R; D+ H4 g& ~" u( `# [ผม : ยินดีเช่นกันครับ / {6 V/ J8 u' N0 G# U
เทวดา : เรามีข้อธรรมอยากจะถามสักนิด ท่านช่วยเราหน่อยได้ไหม6 @4 z1 U% h9 W7 P$ G5 t% `; |
ผม : หากผมช่วยได้ ก็ยินดีช่วยครับ
8 e9 W9 O9 q9 b$ l% M9 R9 J4 Tเทวดา : เรามีข้อสงสัยว่าเทวดาสามารถหลุดพ้นสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นได้หรือไม่
3 r+ e3 m* [ @9 \( K Iผม : ได้สิครับ: F4 K, \2 e/ ^7 w' T" L
เทวดา : แล้วจะทำเช่นไร
+ ?2 M1 u+ l1 bผม : ท่านจะลองภูมิผมหรอครับ หรือมีสิ่งอื่น
% b# P; c) G& q9 f4 Jเทวดา : มิใช่เลย เราขออภัย ลืมบอกไปว่าเรากำลังหมดบุญ แต่เรายังไม่อยากมาเกิดยังเมืองมนุษย์ในเวลานี้ เพราะโลกมนุษย์เต็มไปด้วยความเสื่อม มนุษย์ขาดซึ่งศีลธรรม เราจึงยังไม่อยากมาเกิดในตอนนี้ จึงมีผู้แนะนำว่าให้มาหาท่าน เราจึงมาหา ขออภัยในความเข้าใจผิด# v- ^; B5 s% L
ผม : ผมมิได้ขุ่นเคืองแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าสงสัยเท่านั้น ต้องขออภัยเช่นกัน" l+ B5 `- b$ a, Z. T
เทวดา : เราเข้าใจ มาสู่คำถามที่ค้างไว้ ว่าเราจะทำเช่นไร
1 a$ F6 I l9 ]3 K3 f0 dผม : สิ่งแรกคือ #บุญชั้นทาน ครับ
% T% V2 J% J$ R" ?- h) vเทวดา : เราจะทำทานได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่มีกายเนื้อ3 _+ q8 f! o' Z: a+ g
ผม : ทำได้ครับ บุญชั้นทานนั้นมีหลายแบบ ซึ่งทานหมายถึงการให้ ให้ในสิ่งดี มีประโยชน์แก่ผู้รับ แล้วทานเองก็มีหลายแบบ เทวดาอย่างท่าน สิ่งที่ทำได้ก็คือ ให้ #บุญเป็นทาน สามารถทำได้โดยสละบุญของท่านให้วิญญาณที่เดือดร้อนโดยบอกว่า "ด้วยอำนาจของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำบุญของข้าพเจ้าส่งถึงวิญญาณดวงนี้ด้วยเทอญ" ต่อมาก็ #ธรรมทาน โดยการ นำคำสอนของพระพุทธองค์มาบอกผู้อื่น พูดกล่าวด้วยความเคารพ พูดด้วยเจตนาดี นี่ก็คือธรรมทาน ต่อมาก็ #อภัยทาน หากท่านโกรธ อาฆาตแค้น พยาบาท สิ่งใดหรือผู้ใดให้ท่าน ให้อภัยในสิ่งนั้นหรือคนคนนั้นเสีย พระพุทธองค์ทรงสอนไว้เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรโดยพูดว่า "ข้าแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า หากผู้หนึ่งผู้ใดหรือใครก็ตามที่กระทำกรรมกับข้าพเจ้าไว้ด้วยทางกาย วาจา ใจ ไม่ว่าภพใด ภูมิใด ชาติใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมต่อเขาผู้นั้น ขอให้เขาผู้นั้นพบแต่ความสุขความเจริญ ขอพระรัตนไตร ทรงเป็นพยานแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญสาธุ" แต่ต้องทำด้วยความจริงใจนะ แล้วท่านจะหลุดพ้นจากความพยาบาท ท่านจะพบแต่ความสุข ความเจริญ' Q! U' m( B$ N8 \5 v' k5 h1 B
เทวดา : สาธุ แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม
; |5 ?# K a$ mผม : มีครับ เป็น #บุญชั้นศีล ซึ่งบุญชั้นศีลนี่ท่านเป็นเทวดาทำได้อยู่แล้ว! b5 t' z9 _. `
เทวดา : เราจะทำได้อย่างไร7 Q" y/ |# K- W* b( ^2 ~
ผม : ก็ท่านเป็นเทวดา ท่านไปฆ่าใครหรือทำร้ายใครหรือไม่
% F' n) x' i4 }$ a# ?เทวดา : ไม่เคย
% `, i% O8 C0 o& w1 E7 cผม : ท่านเคยไปลักขโมยผู้ใดหรือไม่( i( ]. P$ g9 n9 g5 l$ a7 U1 @
เทวดา : ไม่เคย2 N* l- K: G( q
ผม : ท่านเคยผิดลูกผิดเมียใครหรือไม่1 @8 |$ X+ V: M7 g6 \. t
เทวดา : ไม่เคย# q& V" k3 h# Y' ~+ Y n: @) u! L
ผม : ท่านเคยโกหก หรือพูดไม่ดีทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือไม่
p: s' q' a3 s0 \/ A7 bเทวดา : ไม่เคย# t$ L. f" ^: a7 ~5 G* q+ N
ผม : แล้วท่านเคยดื่มสุรา น้ำจันทร์ จนขาดสติ หรือไม่, }/ W& v0 G/ T1 J" U
เทวดา : ไม่เคยเลย
( p3 |3 r2 P$ `) M4 g6 g9 iผม : ก็นี่อย่างไรหละคือศีล 5 ส่วนศีลที่สูงๆขึ้นกว่านี้ก็ยังมีอีก ท่านลองศึกษาดู การรักษาศีลของท่านให้ระลึกถึงคุณพระรัตนไตร โดยอธิษฐานว่า "ข้าแต่องค์พระรัตนไตร ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอรักษา ขอยึดมั่นต่อศีลธรรม ขอบารมีของพระรัตนไตรโปรดปกปักรักษาข้าพเจ้าด้วยเทอญ" ให้ท่านลองทำดู
3 g! Y6 E' M: M6 c* ~+ V5 d" aเทวดา : สาธุ เราจะทำ แล้วยังมีอีกไหม ดีจังที่ได้สนทนากับท่าน
3 R6 V1 z# U7 z' ?' dผม : มีครับ ก็ #บุญภาวนา สิ่งนี้ไม่ยากเลย การภาวนา ก็คือการสวดมนต์ ไม่ว่าสวดมนต์บทใดก็ได้อนิสงค์เช่นเดียวกัน หากท่านไม่รู้จะสวดมนต์บทใด ก็ให้ท่านกล่าวว่า " ข้าพเจ้าขอระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ ........" ไปเรื่อยๆจนกว่าท่านจะพอใจ7 o8 G. H! R0 m8 h! G1 F( `: Y
เทวดา : สาธุ ง่ายดีแฮะ J' o; I' d8 I! z: a" y t) `3 I
ผม : ก็สิ่งง่ายๆนี่แหละที่คนมองข้าม ไปมองอะไรก็ไม่รู้ให้ยากให้ลำบาก
# T; \% |7 T. `! v( z$ Gเทวดา : จริงของท่าน แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม# L. F3 x: h* ]" L9 y, s
ผม : มีครับ #บุญชั้นสมาธิ เป็นบุญที่ดีเป็นบุญที่เจริญ ซ้ำยังมีกุศลมาก
' i* [* M4 x) d U+ Aเทวดา : แล้วเราจะทำได้อย่างไร/ x, s' K& n- v& p5 @( k1 H
ผม : ท่านจำคำภาวนาที่ผมบอกได้ใช่ไหมครับ0 E- J. b) S7 y* d" D
เทวดา : ได้สิเราจำขึ้นใจเลยหละ
- r/ S" m5 a3 ^8 M4 Y! T+ x8 g5 @5 Vผม : ให้ท่านภาวนาเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ภาวนาจนกว่าจิตจะนิ่ง จิตจะจับที่คำภาวนา มีเหลือแต่คำภาวนา นี่แหละสมาธิครับ หรือให้ท่านกล่าวว่า "พุทโธ ๆๆๆ" คำเดียวก็ได้ โดยกล่าวว่า "ข้าแต่พระรัตนไตย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำดวงจิตข้าพเจ้าให้กลายเป็นสมาธิด้วยเทอญ พุทธโธ ๆ ๆ ๆ " เพียงเท่านี้ก็เป็นการทำสมาธิแล้ว
! m- u/ b' V* J& T* eเทวดา : สาธุ ดีจริงง่ายๆเช่นนี้เอง เราจะนำไปปฏิบัติ มิเสียเวลาจริงๆที่มาพบท่าน แล้วยังมีข้อธรรมอีกหรือไม่# i6 a! v+ C$ R u: H6 X
ผม : มีครับ8 t$ m: n8 \! U
เทวดา : มีอีกหรอ น่าสนใจจริงๆ ไหนท่านลองกล่าวมาสิ
' W! R* w4 r$ Iผม : ได้สิ เขาเรียกว่าวิปัสสนา ท่านรู้จักวิปัสสนาไหม- y }) W9 b2 }1 J9 h
เทวดา : ไม่รู้เลย ไหนท่านลองอธิบาย# u* E! `# r+ B8 g2 j
ผม : วิปัสสนาคือการระลึกรู้ เข้าใจในธรรมชาติของสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจกฏของธรรมชาติว่าสิ่งใดมีเกิด สิ่งนั้นมาตั้งอยู่ และดับไปในท้ายที่สุด เป็นกฏของธรรมชาติ & o% z8 O' Q; _- L- v1 u- D
เทวดา : นั้นสินะ จริงของท่าน# I. {+ l5 s' o* c7 o! M
ผม : มนุษย์กับ ชาวทิพย์จะต่างกันตรงที่มนุษย์มีร่างกายหยาบ แต่เทวดาอย่างท่านไม่มี
7 B" k! c2 N0 A1 z$ |เทวดา : ใช่แล้ว
5 u) O& w4 {8 s1 ~: g' Y5 f( f' jผม : แต่พื้นฐานแล้วไม่ต่างกัน มนุษย์มีขันธ์ 5 ซึ่งประกอบด้วย
0 a9 r k% B' ^( x- รูป คือธาตุที่ประกอบมาเป็นกายเนื้อนี่เอง
# V7 h8 e" Y5 ] |( g5 q- เวทนา คือ ความทุกข์ ความสุข ความไม่สุขไม่ทุกข์ I8 I# b2 v$ v0 K7 l
- สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้เช่น จำว่าเราชื่ออะไร อยู่ที่ไหน 1 n' e" }- \1 ]! Z* P' B, {
- สังขาร คือ ความร่วงโรยของวัยเด็ก วัยกลางคน วัยชรา ความตายอย่างเทวดาก็จะมีบุญเป็นสังขาร มีมรณะ เป็นสังขาร ใช่ไหม9 ?: v! Y1 g. y% B- ~0 {
เทวดา : ใช่
2 D, ~; f K' dผม : วิญญาณ คือการรับรู้สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง การรับรู้ว่า สิ่งนี้เป็นดี เป็นเลว แต่เทวดาจะมีข้อแตกต่างจากมนุษย์เพียงข้อเดียว ก็คือรูป แต่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ยังมีอยู่ครบ ให้ท่านพิจารณาดูเถิดว่าสิ่งที่ท่านมีนี้เที่ยงหรือไม่ 3 f4 b. h1 k1 G+ f) m9 D. d) H0 S
เทวดา : ไม่เที่ยง ไม่คงทน หากคงทนเราคงไม่มาหาท่าน* s+ {) E6 I0 c- E. C; s
ผม : จริงที่สุด ให้ท่านพิจารณาดูว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่% a6 }- o# }$ z& d) \
เทวดา : เป็นเช่นนั้นจริงๆ, `+ U% Z8 W" N# G9 g2 ?7 b
ผม : มีข้อสงสัยอีกหรือไม่
4 I" d% R' f. p! d# C1 Qเทวดา : หมดข้อสงสัย หากมีข้อสงสัยเราจะมาหาท่านและคุยกับท่านอีก
6 I+ b: \3 M+ _7 u- Gผม : ยินดี และน้อมส่งท่านกลับยังวิมานของท่าน "ข้าพเจ้าขออำนาจพระรัตนไตร โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าลงมาถวายแด่เทวดาผู้นี้ด้วยเทอญ"9 I6 @# R5 I$ Z+ E! |
เทวดา : สาธุ ไปแล้วนะ
+ ^4 @) j- \$ ^+ m. i8 u: rแม้แต่เทวดายังมีความเสื่อมถอยของบุญ แล้วเราเป็นเพียงแค่มนุษย์ความเสื่อมถอยของบุญจะไม่เกิดแก่เราได้เช่นไร จงถามตัวเองเสมอว่า #วันนี้คุณสร้างบุญแล้วหรือยัง ขอบุญนี้จงไปถึงวิญญาณทุกดวงที่ต้องการบุญด้วยเถิด สาธุ Q2 O" z& |9 | Y# {) j
|
|