แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 4345|ตอบ: 0
go

‪แนะนำเทวดากำลังหมดบุญให้ปฏิบัติธรรม [คัดลอกลิงค์]

Rank: 1

4.jpg ; D0 j. q* Y9 N* r
ธรรมะหากใครปฏิบัติก็มีแต่ความสุข ความเจริญ ให้ผลในทางดีทั้งทางโลกมนุษย์ และโลกทิพย์ ไม่ว่าจะส่งผลช้าหรือส่งผลเร็ว ก็ส่งผลในทางที่ดีทั้งนั้น ในทางโลกมนุษย์แล้วนั้น หลายๆคนอาจจะมองว่าธรรมะ หากใครนำมาปฏิบัตินั้นเป็นเรื่องของคนแก่บ้างหละ เชยบ้างหละ แต่ในทางโลกทิพย์แล้วนั้นใครปฏิบัติธรรมถือว่าสร้างกรรมดีมีผลในทันที จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่เทวดา ที่ต้องการความเจริญก้าวหน้าทางธรรมเช่นกัน
* a% M0 O5 t" X; a2 @1 Z3 `& Uดังเรื่องราวที่ผมจะเล่าประสบการณ์การใช้บุญให้ฟังกันนะครับ
& B, X% c$ X) Q. |วันที่ 14 ธันวาคม 2558 ในเวลาพักเที่ยงจากการทำงานเมื่อผมรับประทานอาหารเสร็จ ก็เตรียมตัวพักผ่อนเพื่อจะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงบ่ายต่อไป ผมรู้สึกสัมผัสกับพลังจิตอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นพลังที่เย็นสบาย ไม่หนัก มาสัมผัสเบาๆ แต่แฝงด้วยพลังที่มั่นคง ทำให้ผมทราบทันทีว่าท่านต้องไม่ใช่จิตวิญญาณที่อยู่ภพภูมิต่ำๆแน่ๆ ผมจึงเดินกลับที่พัก เพื่อผมจะทราบว่า ท่านประสงค์ส่ิงใด เมื่อถึงที่พักแล้ว จึงกำหนดจิตเพื่อสื่อสารกับท่าน จิตที่นิ่งกลับนิ่งยิ่งขึ้นเมื่อสัมผัสกับพลังของท่าน การสนทนาจึงได้เริ่มต้นขึ้น0 \/ j2 V/ i: u/ J
ผม : สวัสดีครับ ท่านประสงค์สิ่งใดที่พอจะให้ผมช่วยได้
! e# A% B% K. U- tเทวดา : ยินดีที่ได้พบ
. D$ p6 N% ]5 v) i" R9 tผม : ยินดีเช่นกันครับ
5 V2 U; p2 h) U7 iเทวดา : เรามีข้อธรรมอยากจะถามสักนิด ท่านช่วยเราหน่อยได้ไหม4 j5 i$ `5 I% e# x: |
ผม : หากผมช่วยได้ ก็ยินดีช่วยครับ+ m8 D/ V8 f$ [8 a1 R4 M& b
เทวดา : เรามีข้อสงสัยว่าเทวดาสามารถหลุดพ้นสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นได้หรือไม่
- N7 A0 @5 o2 L1 V& gผม : ได้สิครับ& R$ r9 t: {( s( }5 ]
เทวดา : แล้วจะทำเช่นไร
: O. }' Z7 v/ F! Tผม : ท่านจะลองภูมิผมหรอครับ หรือมีสิ่งอื่น1 W' l9 S3 F, h) X+ L% Y
เทวดา : มิใช่เลย เราขออภัย ลืมบอกไปว่าเรากำลังหมดบุญ แต่เรายังไม่อยากมาเกิดยังเมืองมนุษย์ในเวลานี้ เพราะโลกมนุษย์เต็มไปด้วยความเสื่อม มนุษย์ขาดซึ่งศีลธรรม เราจึงยังไม่อยากมาเกิดในตอนนี้ จึงมีผู้แนะนำว่าให้มาหาท่าน เราจึงมาหา ขออภัยในความเข้าใจผิด
. {2 {1 \1 D9 B: lผม : ผมมิได้ขุ่นเคืองแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าสงสัยเท่านั้น ต้องขออภัยเช่นกัน) H* X- M$ \' z" ^7 o2 g  L
เทวดา : เราเข้าใจ มาสู่คำถามที่ค้างไว้ ว่าเราจะทำเช่นไร* n9 ~0 C. ]3 F, [6 j
ผม : สิ่งแรกคือ ‪#‎บุญชั้นทาน‬ ครับ  b. x5 H/ w3 A1 c4 L9 @
เทวดา : เราจะทำทานได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่มีกายเนื้อ0 F# X+ n8 P" ]$ @' I
ผม : ทำได้ครับ บุญชั้นทานนั้นมีหลายแบบ ซึ่งทานหมายถึงการให้ ให้ในสิ่งดี มีประโยชน์แก่ผู้รับ แล้วทานเองก็มีหลายแบบ เทวดาอย่างท่าน สิ่งที่ทำได้ก็คือ ให้ ‪#‎บุญเป็นทาน‬ สามารถทำได้โดยสละบุญของท่านให้วิญญาณที่เดือดร้อนโดยบอกว่า "ด้วยอำนาจของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำบุญของข้าพเจ้าส่งถึงวิญญาณดวงนี้ด้วยเทอญ" ต่อมาก็ ‪#‎ธรรมทาน‬ โดยการ นำคำสอนของพระพุทธองค์มาบอกผู้อื่น พูดกล่าวด้วยความเคารพ พูดด้วยเจตนาดี นี่ก็คือธรรมทาน ต่อมาก็ ‪#‎อภัยทาน‬ หากท่านโกรธ อาฆาตแค้น พยาบาท สิ่งใดหรือผู้ใดให้ท่าน ให้อภัยในสิ่งนั้นหรือคนคนนั้นเสีย พระพุทธองค์ทรงสอนไว้เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรโดยพูดว่า "ข้าแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า หากผู้หนึ่งผู้ใดหรือใครก็ตามที่กระทำกรรมกับข้าพเจ้าไว้ด้วยทางกาย วาจา ใจ ไม่ว่าภพใด ภูมิใด ชาติใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมต่อเขาผู้นั้น ขอให้เขาผู้นั้นพบแต่ความสุขความเจริญ ขอพระรัตนไตร ทรงเป็นพยานแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญสาธุ" แต่ต้องทำด้วยความจริงใจนะ แล้วท่านจะหลุดพ้นจากความพยาบาท ท่านจะพบแต่ความสุข ความเจริญ* S% t5 w+ T0 @% Y8 q* J( R2 m
เทวดา : สาธุ แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม7 ?9 R& e( p! l; v
ผม : มีครับ เป็น ‪#‎บุญชั้นศีล‬ ซึ่งบุญชั้นศีลนี่ท่านเป็นเทวดาทำได้อยู่แล้ว
  i4 o- y" A# g9 L! z& b: t. oเทวดา : เราจะทำได้อย่างไร- }" M0 u1 i) k- ^# w* e
ผม : ก็ท่านเป็นเทวดา ท่านไปฆ่าใครหรือทำร้ายใครหรือไม่
6 E2 |9 y1 s* c4 J% t  tเทวดา : ไม่เคย# Q* ?1 n6 o+ ^9 b; E$ N' X
ผม : ท่านเคยไปลักขโมยผู้ใดหรือไม่! m% q# G/ |! K  f1 c" V8 K3 `/ i
เทวดา : ไม่เคย
& m# B9 C5 D' H, \7 Q! Kผม : ท่านเคยผิดลูกผิดเมียใครหรือไม่  Y0 }0 V& w2 ^# ]& Q$ v
เทวดา : ไม่เคย
7 C( K/ t$ `6 u4 I, B) C' @" K: cผม : ท่านเคยโกหก หรือพูดไม่ดีทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือไม่2 L5 t, E, o, x' ^) q
เทวดา : ไม่เคย1 f- A6 @) q: R4 o: W% {% n
ผม : แล้วท่านเคยดื่มสุรา น้ำจันทร์ จนขาดสติ หรือไม่
8 W- d+ K! Q5 T( V" Sเทวดา : ไม่เคยเลย
8 x- `  F; d* W/ `# v# |ผม : ก็นี่อย่างไรหละคือศีล 5 ส่วนศีลที่สูงๆขึ้นกว่านี้ก็ยังมีอีก ท่านลองศึกษาดู การรักษาศีลของท่านให้ระลึกถึงคุณพระรัตนไตร โดยอธิษฐานว่า "ข้าแต่องค์พระรัตนไตร ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอรักษา ขอยึดมั่นต่อศีลธรรม ขอบารมีของพระรัตนไตรโปรดปกปักรักษาข้าพเจ้าด้วยเทอญ" ให้ท่านลองทำดู, L6 \- y' O# ^% E4 T
เทวดา : สาธุ เราจะทำ แล้วยังมีอีกไหม ดีจังที่ได้สนทนากับท่าน
% b7 s1 ]2 T' s0 I3 p+ T: yผม : มีครับ ก็ ‪#‎บุญภาวนา‬ สิ่งนี้ไม่ยากเลย การภาวนา ก็คือการสวดมนต์ ไม่ว่าสวดมนต์บทใดก็ได้อนิสงค์เช่นเดียวกัน หากท่านไม่รู้จะสวดมนต์บทใด ก็ให้ท่านกล่าวว่า " ข้าพเจ้าขอระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ ........" ไปเรื่อยๆจนกว่าท่านจะพอใจ4 T# r$ W* a* [8 r0 U) F7 w
เทวดา : สาธุ ง่ายดีแฮะ
! c' b. a' M+ x! C9 D9 }ผม : ก็สิ่งง่ายๆนี่แหละที่คนมองข้าม ไปมองอะไรก็ไม่รู้ให้ยากให้ลำบาก
4 l2 N# D& r% V5 T. Dเทวดา : จริงของท่าน แล้วมีข้อธรรมอื่นอีกไหม
9 ^5 {- @) M3 D; O1 T2 O! ~4 Vผม : มีครับ ‪#‎บุญชั้นสมาธิ‬ เป็นบุญที่ดีเป็นบุญที่เจริญ ซ้ำยังมีกุศลมาก$ [$ S+ m" v0 p8 b2 X8 N* j
เทวดา : แล้วเราจะทำได้อย่างไร! @# ~/ y6 n# q6 t4 v
ผม : ท่านจำคำภาวนาที่ผมบอกได้ใช่ไหมครับ2 K( s( k* Y( t
เทวดา : ได้สิเราจำขึ้นใจเลยหละ
9 O1 b2 E) I  N. n0 gผม : ให้ท่านภาวนาเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ภาวนาจนกว่าจิตจะนิ่ง จิตจะจับที่คำภาวนา มีเหลือแต่คำภาวนา นี่แหละสมาธิครับ หรือให้ท่านกล่าวว่า "พุทโธ ๆๆๆ" คำเดียวก็ได้ โดยกล่าวว่า "ข้าแต่พระรัตนไตย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำดวงจิตข้าพเจ้าให้กลายเป็นสมาธิด้วยเทอญ พุทธโธ ๆ ๆ ๆ " เพียงเท่านี้ก็เป็นการทำสมาธิแล้ว  s, K# w# }( x4 I3 `
เทวดา : สาธุ ดีจริงง่ายๆเช่นนี้เอง เราจะนำไปปฏิบัติ มิเสียเวลาจริงๆที่มาพบท่าน แล้วยังมีข้อธรรมอีกหรือไม่
0 H/ n* x- I; G+ D" ]ผม : มีครับ
7 T0 S" w2 }9 t% ?/ }เทวดา : มีอีกหรอ น่าสนใจจริงๆ ไหนท่านลองกล่าวมาสิ5 Y7 E0 \4 `. ]' Q1 p5 _( A
ผม : ได้สิ เขาเรียกว่าวิปัสสนา ท่านรู้จักวิปัสสนาไหม
6 x: g, {" I' u# hเทวดา : ไม่รู้เลย ไหนท่านลองอธิบาย
0 c" j' t. s' {3 M! x. mผม : วิปัสสนาคือการระลึกรู้ เข้าใจในธรรมชาติของสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจกฏของธรรมชาติว่าสิ่งใดมีเกิด สิ่งนั้นมาตั้งอยู่ และดับไปในท้ายที่สุด เป็นกฏของธรรมชาติ
8 R3 F) I, h: }+ W. \& Eเทวดา : นั้นสินะ จริงของท่าน/ \: p9 C2 B+ v9 z6 m
ผม : มนุษย์กับ ชาวทิพย์จะต่างกันตรงที่มนุษย์มีร่างกายหยาบ แต่เทวดาอย่างท่านไม่มี" W- N1 Z* L& t3 [( A  ^
เทวดา : ใช่แล้ว$ N; L7 N% ]( [+ @3 o
ผม : แต่พื้นฐานแล้วไม่ต่างกัน มนุษย์มีขันธ์ 5 ซึ่งประกอบด้วย * f+ {- s( J3 k: g
- รูป คือธาตุที่ประกอบมาเป็นกายเนื้อนี่เอง
, \% L+ M9 v' |# E- S" u9 E- เวทนา คือ ความทุกข์ ความสุข ความไม่สุขไม่ทุกข์
5 Z: c/ k8 f2 E' i2 N- สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้เช่น จำว่าเราชื่ออะไร อยู่ที่ไหน
0 K1 q8 @0 K/ P* w- สังขาร คือ ความร่วงโรยของวัยเด็ก วัยกลางคน วัยชรา ความตายอย่างเทวดาก็จะมีบุญเป็นสังขาร มีมรณะ เป็นสังขาร ใช่ไหม
% _% K" X! M( w( ]/ d, @* e/ iเทวดา : ใช่" Z$ C7 u' h  h2 R4 _
ผม : วิญญาณ คือการรับรู้สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง การรับรู้ว่า สิ่งนี้เป็นดี เป็นเลว แต่เทวดาจะมีข้อแตกต่างจากมนุษย์เพียงข้อเดียว ก็คือรูป แต่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ยังมีอยู่ครบ ให้ท่านพิจารณาดูเถิดว่าสิ่งที่ท่านมีนี้เที่ยงหรือไม่
  A4 U: f( p4 o4 b/ P/ g6 aเทวดา : ไม่เที่ยง ไม่คงทน หากคงทนเราคงไม่มาหาท่าน
7 T( F/ Y0 `0 D7 Fผม : จริงที่สุด ให้ท่านพิจารณาดูว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่, ^9 o1 K! ~) g8 F- v
เทวดา : เป็นเช่นนั้นจริงๆ
1 b# Z$ M+ @6 o" C  R. Uผม : มีข้อสงสัยอีกหรือไม่
6 V5 J6 L- [4 K3 t6 Aเทวดา : หมดข้อสงสัย หากมีข้อสงสัยเราจะมาหาท่านและคุยกับท่านอีก 0 o- e$ O) M7 {/ t* h, \
ผม : ยินดี และน้อมส่งท่านกลับยังวิมานของท่าน "ข้าพเจ้าขออำนาจพระรัตนไตร โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าลงมาถวายแด่เทวดาผู้นี้ด้วยเทอญ"' t/ N$ Z( S* u7 D3 F- ?
เทวดา : สาธุ ไปแล้วนะ4 G% m) a' D% j1 T
แม้แต่เทวดายังมีความเสื่อมถอยของบุญ แล้วเราเป็นเพียงแค่มนุษย์ความเสื่อมถอยของบุญจะไม่เกิดแก่เราได้เช่นไร จงถามตัวเองเสมอว่า ‪#‎วันนี้คุณสร้างบุญแล้วหรือยัง‬ ขอบุญนี้จงไปถึงวิญญาณทุกดวงที่ต้องการบุญด้วยเถิด สาธุ! p% S$ f' ?  N: g, u( l
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-2-23 22:41 , Processed in 0.031378 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.