แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
เจ้าของ: pimnuttapa
go

วัดพระธาตุจอมปิง ต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง (พระบรมธาตุซี่โครงเบื้องซ้าย) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_0594.JPG



ประวัติวัดพระธาตุจอมปิง


(แหล่งที่มา : ป้ายประวัติพระธาตุจอมปิง ภายใน วัดพระธาตุจอมปิง)




IMG_0712.JPG



พระนางจามเทวี ขณะมาสร้างวัดพระธาตุลำปางหลวงเสร็จแล้วก็ได้มาสร้างวัดพระธาตุจอมปิงอีก จากนั้นวัดก็ร้างไป ต่อมาท่านนันทปัญญา พี่เลี้ยงของพระเจ้าลกคำ (เจ้าติโลกราช เจ้าเมืองเชียงใหม่) ได้ทำการบูรณะ ซึ่งเมืองนี้มีชื่อว่าเมืองจุมภิตาราม ท่านนันทปัญญามีเพื่อนชื่อว่า อ้ายจอมแพร่ ทั้งสองได้สร้างวัดคนละวัด วัดที่อ้ายจอมแพร่สร้างคือ วัดจอมปิงลุ่ม ปัจจุบันนี้ วัดที่ท่านนันทปัญญาสร้างชื่อ วัดจอมพี่เลี้ยง (วัดพระธาตุจอมปิง)

ถึง พ.ศ.๒๐๐๐ ได้เกิดศึกพระยาได้ยกทัพมาประชิดเมืองลำปาง (สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา) เจ้าหมื่นด้งนครไม่อยู่ไปราชการที่เชียงใหม่ เหลือแต่พระนางราชเทวีกำลังตั้งครรภ์เจ้าหาญแต่ท้อง ได้แต่งกายเป็นชายออกไปสู้รบจนกองทัพพระยาใต้พ่ายไป เมื่อเจ้าหมื่นด้งนครและเจ้าติโลกราชทราบก็ยกกองทัพจากเมืองเชียงใหม่มาช่วย สถานที่รบเรียกว่า  “มหาสนุก” และได้ฉลองชัยชนะที่วัดนี้ พระนางได้สร้างเจดีย์ไว้องค์หนึ่ง ส่วนสัณฐานดังกองข้าวเปลือกได้ตั้งชื่อวัดเสียใหม่ว่า “วัดจอมพิงค์ชัยมงคล” จนเพี้ยนมาเป็น จอมปิง ในปัจจุบัน


IMG_0681.JPG



การบูรณะวัดพระธาตุจอมปิงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

เริ่มตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ต่อจากนั้นมีจอมปี่เลี้ยง (จอมพี่เลี้ยง) และอ้ายจอมแพร่ได้มาบูรณะพระธาตุให้ใหญ่ และต่อมาก็มีพระมหาอัญญาโกณฑัญญะมารักษาไว้ในสมัยหนึ่ง พระกำพีละ (พระพุทธคัมภีระ) สมัยหนึ่ง และต่อนั้นก็มีผ้าขาวสามคนและพระป๋าระมี (พระมหาปารมี) สมัยหนึ่ง พระป๋าระมีอายุได้ ๙๕ ปี ก็มามรณะตอนนั้น ชะต๋าคาตได้ ๘๗๐ ธรรมจันดามณีสมัยหนึ่ง

ต่อมามีพระธรรมจันต๋า (พระธรรมจินดา) กับมหาปัญญาวงค์ษา (พระมหาบารกาชื่อ ญาณวงษา) ชะต๋าคาตได้ ๘๙๙ ต่อจากนั้นมีพระเจ้าแผ่นดินเชียงใหม่ ได้มาวัดธรณีสงฆ์ วัดจากพระธาตุ ด้านเหนือสองร้อยวา ด้านใต้สองร้อยวา ตะวันออกเอาแม่น้ำเป็นแดน ตะวันตกเอาทางเป็นแดน ต่อมามีฟ้าผ่าพระธาตุชำรุดไปเล็กน้อย ครูบาจินดามาบูรณะให้เหมือนเดิม ต่อมาครูบาสุนันตะและคณะสงฆ์มาบูรณะอุโบสถที่สร้างไว้หน้าพระวิหาร สักกะ ๑๒๘๐ แล้วต่อมาครูบาสุนันตะใช้ชาวบ้านไปนิมนต์ครูบาปีมาสร้างกำแพง และต่อจากนั้น ครูบาสุนันตะได้ใช้สามเณรอริยะ (อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมปิง) ไปนิมนต์ครูบาศรีวิชัยมาสร้างวิหารหลังนี้

สามเณรอริยะได้ขอกุฏิหลังเก่าจากครูบาสุนันตะ มาสร้างไว้นอกกำแพงด้านใต้ สามเณรอริยะได้บวชเป็นพระ อยู่ต่อมาสึกออกไป พออายุ ๗๐ ปี กลับมาบวชได้ ๑๒ พรรษา ต่อมาเจ้าคณะอำเภอป่าแข กับกำนันแปงภักดี พร้อมคณะกรรมการและชาวบ้านมารื้อพระอุโบสถหลังเก่า ที่อยู่หน้าพระวิหารมาสร้างไว้ทางเหนือพระธาตุ


IMG_0628.JPG




อนึ่ง ในหนังสือประชุมตำนานล้านนาไทย ได้กล่าวเกี่ยวกับประวัติของวัดพระธาตุจอมปิง สรุปใจความได้ว่า

"...พระเจ้าติโลกราชกษัตริย์เมืองเชียงใหม่ มีพี่เลี้ยงเป็นชาวจุมพิตานคร (ชื่อเดิมของหมู่บ้านจอมปิง จังหวัดลำปาง) ชื่อว่า “นันทปัญญา” เมื่อนันทปัญญาเห็นว่าพระเจ้าติโลกราชได้ขึ้นครองเมืองแล้วจึงขอพระบรมราชานุญาติกลับไปอยู่บ้านเดิม ซึ่งพระเจ้าติโลกราชก็ทรงอนุญาตพร้อมกับพระราชทานช้างม้า บ่าวไพร่ และยกบ้านส่วยยางทองเป็นบ้านส่วยแก่พี่เลี้ยงนันทปัญญา

เมื่อท่านนันทปัญญากลับมาอยู่ที่เมืองจุมพิตาแล้ว ท่านได้สหายสนิทเป็นพ่อค้าคนหนึ่งชื่อ “อ้ายจอมแพร่” ซึ่งอ้ายจอมแพร่ได้มาตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้ๆ กับท่านนันทปัญญา ภายหลังผู้เฒ่าทั้งสองได้แข่งกันสร้างวัดขึ้น โดยท่านนันทปัญญาสร้างวัด ณ สถานที่ตั้งขององค์เจดีย์ ซึ่งพระนางจามเทวีเคยสร้างไว้ก่อนแล้ว

สำหรับอ้ายจอมแพร่ได้สร้างวัดขึ้น ณ ที่ลุ่มแห่งแม่น้ำจิ่ม และได้ไปขอพระพุทธรูปจากหัวเวียงซึ่งมีนามว่า “พระเจ้าหัวคำ” มาประดิษฐานไว้ในวัด ต่อมาไม่นานเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้นที่วัดของอ้ายจอมแพร่ ท่านนันทปัญญาจึงให้สหายนำพระพุทธรูปพระเจ้าหัวคำมาประดิษฐานที่วัดของตน และช่วยกันบูรณะให้วัดแห่งนั้นมีขนาดใหญ่โตขึ้น พร้อมกับตั้งชื่อวัดว่า “วัดจอมพี่เลี้ยง”

จวบจนถึงปี พ.ศ.๒๐๐๐ ได้เกิดศึกครั้งใหญ่ขึ้น เนื่องจากสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ กษัตริย์เมืองใต้ (พิษณุโลก) ได้ยกทัพมาตีเมืองลำปางในขณะเจ้าเมืองลำปางไม่อยู่ มีเพียงพระนางราชเทวีซึ่งทรงตั้งพระครรภ์อยู่ แต่ด้วยความกล้าหาญและรักแผ่นดินยิ่ง พระนางจึงนำกองทัพออกรบโดยใช้อุบายว่าให้ทหารตีฝุ่นและลากไม้ตีดินพร้อมกับโห่ร้องกันว่าพระญาเจ้าเมืองมาแล้ว กองทัพของพระบรมไตรโลกนาถได้ยินเช่นนั้นจึงถอยทัพหนีไป ดังนั้นสถานที่ซึ่งใช้ในการรบจึงได้รับการขนานนามว่า “มหาสนุก”

ครั้นพระญาติโลกราชได้ทราบข่าว ทรงยกกองทัพมากลับเข้าเมืองลำปางเพื่อขับไล่ข้าศึกจนสำเร็จ จากนั้นพระองค์และเจ้าเมืองลำปางได้ไปบ้านของพี่เลี้ยงนันทปัญญา โดยให้พระนางราชเทวีอยู่ที่เมือง พระนางจึงสร้างเจดีย์ใหม่ขึ้นครอบเจดีย์องค์เก่าที่พระนางจามเทวีได้สร้างไว้ก่อนแล้วในวัดจอมพี่เลี้ยง ครั้นพระเจ้าติโลกราชและเจ้าเมืองลำปางเดินทางกลับมาทั้งสองพระองค์ได้ทำการสักการะพระพุทธรูปในวัด พร้อมกับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ในเจดีย์องค์ใหม่ซึ่งสร้างขึ้นนั้น และก่อนที่จะเดินทางกลับเมืองเชียงใหม่ พระเจ้าติโลกราชได้เปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่เป็น “วัดจอมพิงค์ชัยมงคล”

ใจความในประชุมตำนานล้านนาไทย มีต่ออีกว่า “เมื่อท่านนันทปัญญาตายไป คนทั้งหลายได้นำเอาขอช้าง เครื่องช้างทอง และฆ้องทองมาฝังไว้ที่หน้าวัด แต่เมื่อพระมหาอัญญาโกณฑัญญเถระ พระเถระรูปหนึ่งได้ขึ้นดำรงเจ้าอาวาสวัดจอมพิงค์ชัยมลคลแล้ว ท่านได้นำฆ้องทอง ขอช้าง ตลอดจนเครื่องทองทั้งหลายที่ฝังอยู่หน้าวัดมาหล่อเป็นพระพุทธรูปประดิษฐานที่วัด ภายหลังพระพุทธคัมภีระ พระเถระรูปหนึ่งได้ร่วมกับนักบุญทั้งหลายสร้างวิหารขึ้นที่วัดจอมพิงค์ชัยมงคลในปีกัดไส้ เดือน ๕ ออก ๑๑ ค่ำ วันอาทิตย์

IMG_0717.JPG



การบูรณะวัดมีมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงครั้งที่มหาเจดีย์ซึ่งพระนางจามเทวีสร้างขึ้นได้พังลงมา เจ้าอาวาสวัดในขณะนั้นคือพระมหาปารมี จึงร่วมกับชาวบ้านสร้างวิหารน้อยครอบเจดีย์ไว้โดยการสนับสนุนของเจ้าเมืองหาญสิทัศน์ เมื่อปีกัดใส้ศักราชได้ ๘๗๓ ตัว ในเดือน ๕ แรม ๘ ค่ำ วันเสาร์ไทยกัดเหม้า ฤกษ์ ๑๙ ตัว จากนั้นเมื่อพระมหาปารมีมรณภาพไปแล้ว เจ้าอาวาสสรูปต่อมา คือพระมหาธรรมจัณดา มณีจินดาได้ชักชวนเหล่าศรัทธาสร้างคูหาพระเจ้าขึ้นมาในปีกาบสันเดือน ๕ ออก ๒ ค่ำ วันอังคาร ไทร้วงเร้า ศักราชได้ ๘๘๘ ตัว

ต่อมาในปีกดยี ศักราช ๘๙๔ ตัว ในเดือน ๕ เพ็ญ เม็งวันอาทิตย์ พระมหาสามีชื่อธรรมจินดาพร้อมด้วยกับพระมหาบารกาชื่อ ญาณวงษา พร้อมกับเหล่าศรัทธาได้ร่วมกันสร้างมหาเจดีย์ขึ้นที่วัด โดยในครั้งนั้นพระญาแก้ว กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ.๒๐๓๘ - ๒๐๖๘) และเหล่าเสนาอำมาตย์เมืองเชียงใหม่ทำบุญเป็นเงินจำนวน ๒,๗๐๗ บาท ลักษณะขององค์เจดีย์ที่สร้างขึ้นครั้งนั้น มีความกว้าง ๙ วา และสูง ๑๗ วา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปจำนวนหลายสิบองค์

เหตุการณ์ในช่วงเวลาต่อมาของวัดพระธาตุจอมพิงค์ชัยตามที่ปรากฏในหนังสือเล่มเดียวกันกับข้างต้น คือ “ในปีกดไจ้ศักราช ๙๐๒ ตัว ในเดือน ๑๒ แรม ๑๓ ค่ำ วันอังคารพระเมืองแก้วโปรดให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นมาองค์หนึ่งเพื่อประดิษฐานไว้ในวิหารวัดจอมพิงค์ชัยมงคล (บางตำรากล่าวว่าพระองค์ทรงครองราชย์ถึง พ.ศ. ๒๐๖๘ หรือ จ.ศ. ๘๘๗ เท่านั้น) พร้อมกันนั้นได้มีกฎหมายกำหนดเขตพัทธสีมาของวัดไว้ที่ด้านเหนือ ๒๐๐ วา และที่ด้านใต้อีก ๒๐๐ วา จากนั้นในปีก่าเหม้า ศักราชได้ ๙๐๕ ตัว เดือนยี่ ออก ๑๒ ค่ำ วันเสาร์ไทกาบสัน สมเด็จมหาราชเจ้าแผ่นดิน เสด็จออกมาอยู่โรงกลางและปลงราชอาญาแก่แสนหลวงตีช่องตีนันทะเภรี หื้อคราดนาไว้เป็นราราชทานกับวัดจอมพิงค์ชัย … ”


IMG_0690.JPG



รายนามเจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมปิง  เท่าที่ทราบ ได้แก่
๑. พระมหาอัญญาโกณฑัญญเถระ
๒. พระพุทธคัมภีระ
๓. พระมหาปารมี
๔. พระมหาธรรมจัณดา มณีจินดา
๕. พระธรรมจินดา
๖. พระมหาบารกาชื่อ ญาณวงษา
๗. พระแปง จันทร์เรือง                    (พ.ศ. ๒๔๗๐ - ๒๔๗๘)
๘. พระผัด ธิดา                              (พ.ศ. ๒๔๗๘ – ๒๔๘๐)
๙. พระกิ้มคำหนัก                           (พ.ศ. ๒๔๘๐ - ๒๔๘๒)
๑๐. พระแก้วมา ศรีพรม                    (พ.ศ. ๒๔๘๓ – ๒๔๙๘)
๑๑. พระหา ต๊ะโก                           (พ.ศ. ๒๔๙๙ – ๒๕๑๑)
๑๒. พระปุกดำ ใจบุญ                      (พ.ศ. ๒๕๑๒ – ๒๕๑๖)
๑๓. พระทอง ต๊ะโก                         (พ.ศ. ๒๕๑๖ – ๒๕๑๘)
๑๔. พระประสิทธิ์ ไชยราช                (พ.ศ. ๒๕๑๘ - ๒๕๑๙)
๑๕. พระปันแก้ว แก้วจำปา                (พ.ศ. ๒๕๑๙ – ๒๕๒๔)
๑๖. พระอินทร์ จันทร์ปาน                 (พ.ศ. ๒๕๒๔ - ปีใดไม่ระบุ)
๑๗. หลวงพ่อแก้ว จรธมฺโม (ไชยราช)  (พ.ศ. ๒๕๓๖ – ๒๕๔๒)
๑๘. พระครูปลัดประหยัด  วรัญาโณ

IMG_0627.JPG



งานประเพณี วัดพระธาตุจอมปิง

๑. สรงน้ำพระบรมธาตุ วันสงกรานต์ที่ ๑๖ เม.ย. ทุกปี

๒. ประเพณีแปดเป็ง ตรงกับวันวิสาขบูชา ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ (๖ ใต้) มีการสรงน้ำพระธาตุ แห่ครัวตานและจุดบ้องไฟแข่งขันเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองลำปาง ทุกๆ ปี นอกจากที่กล่าวมาแล้วภายในหมู่บ้านยังมีประเพณีเก่าแก่และน่าสนใจอีกมากมาย


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_0583.JPG



IMG_0581.JPG



พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุจอมปิง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเสด็จมาปรากฏในพระโกศแก้ว ๙ พระองค์ พระธาตุอันสมมติ ๕๐,๓๕๙ องค์ พระแก้วเจ้า ๖๐ องค์ พระคำเจ้า ๒๐ องค์ พระเงินเจ้า ๕๐ องค์ พระทองเจ้า ๒๐๐ องค์ ค่ะ   


IMG_0576.JPG



ลักษณะพิเศษของพระบรมธาตุเจดีย์  คือเมื่อมีแสงสว่างเพียงพอ องค์เจดีย์จะเกิดเป็นภาพสะท้อนขึ้นในอุโบสถของวัดที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ซึ่งปิดประตูและหน้าต่างทั้งหมด โดยสามารถมองเห็นเงาของพระธาตุได้อย่างชัดเจน สำหรับความน่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับองค์พระธาตุได้อย่างชัดเจน ในลักษณะของ “เงาพระธาตุ” นั้น จะปรากฏเป็นภาพสะท้อนสีธรรมชาติซึ่งมีความสวยงามเหมือนกับภาพที่ถ่ายมาจากองค์พระธาตุ

นับแต่มีการสร้างองค์พระบรมธาตุเจดีย์ของวัดพระธาตุจอมปิง แล้วต่อมามีการบูรณะหลายครั้ง ดังนี้
- ปี พ.ศ. ๒๐๓๙ โดย เจ้าศรีธาตุมหาสุรมนตรี
- ปี พ.ศ. ๒๐๕๕ โดย เจ้าเมืองแก้ว
- ปี พ.ศ. ๒๐๗๕ โดย พระธรรมจินดามุณี และคณะศรัทธา
- ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ โดย พระแก้วมา และคณะศรัทธา
- ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ โดย สุรพงษ์ ภักดี และคณะศรัทธา ทำการปิดทององค์พระธาตุ
- ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ โดย พระทองอินทร์ จันทร์บาน ทำการปิดกระจก



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

DSC04885.JPG



DSC04903.JPG



IMG_0636.JPG



IMG_0647.JPG



พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุจอมปิง  กว้าง ๑๘ เมตร สูง ๓๔ เมตร  ถูกฟ้าผ่าปี ๒๕๐๐ ได้ทำการบูรณะใหม่อีกหลายครั้ง ปรากฏตามตำนานกล่าวว่า บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระบรมธาตุซี่โครงเบื้องซ้ายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_0698.JPG



IMG_0701.JPG



ภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องพุทธประวัติ ภายใน วิหารหลวง วัดพระธาตุจอมปิง ค่ะ


IMG_0715.JPG



ภาพเก่าขณะสร้างวิหารหลวงของวัดพระธาตุจอมปิง ครูบาศรีวิชัยนำสร้าง พ.ศ.๒๔๖๔ ภายใน วิหารหลวง วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ


IMG_0719.JPG



ภาพเก่าพระธาตุจอมปิง ถ่ายเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๐ ภายใน วิหารหลวง วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_0711.JPG



พระแก้วมรกต (จำลอง) ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ


IMG_0664.JPG



IMG_0709.JPG



รูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ


IMG_0694.JPG



ธรรมาสน์ ศิลปะล้านนา ภายใน วิหารหลวง วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

DSC04873.JPG



DSC04876.JPG



IMG_0676.JPG



IMG_0658.JPG



IMG_0682.JPG



พระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานภายใน วิหารหลวง วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_0543.JPG



IMG_0722.JPG



IMG_0721.JPG



รูปปั้นพญานาค และกุมภัณฑ์ บันไดนาคทางขึ้น/ลง วิหารหลวง วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

DSC04880.JPG



IMG_0459.JPG



DSC04867.JPG



IMG_0483.JPG



วิหารหลวงบูรพาจารย์
๓๐ ทัศ  วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ


วิหารหลวงบูรพาจารย์ ๓๐ ทัศ กว้าง ๑๔.๕๐ เมตร ยาว ๒๙ เมตร วิหารหลังนี้ไม่ปรากฏปีที่สร้าง แต่ได้รับการบูรณะในปีพ.ศ.๒๐๑๘ โดยเจ้าพื้นดำเพชร ปีพ.ศ.๒๐๓๙ โดยเจ้าศรีธาตุ มหาสุรมนตรี ในปีพ.ศ.๒๐๕๕ โดยเจ้าหาญสีรัต (ทัศน์) ปีพ.ศ.๒๔๗๐ โดยครูบาศรีวิชัย และในปีพ.ศ.๒๕๒๖ โดยพระทองอินทร์ จันทร์บาน และคณะศรัทธา โดยลำดับ

ภายในมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นประธาน กว้าง ๒.๒๐ เมตร สูง ๗.๓๐ เมตร หน้าบันวิหารมีภาพลายปูนปั้น นอกจากนั้นยังมีธรรมมาสน์โบราณ ภาพพุทธประวัติ ด้านรอบนอกมีรูปปั้นยักษ์ เสือ ช้าง พญานาค อยู่ตามประตูเข้าด้านต่างๆ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_0753.JPG



IMG_0752.JPG



DSC04849.JPG



IMG_0451.JPG



ซุ้มประตูโขง และบันไดนาคทางขึ้น/ลง วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ


IMG_0748.JPG



ลวดลายบานประตูทางเข้า/ออก ซุ้มประตูโขง วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_0434.JPG



DSC04845.JPG



ป้ายชื่อ วัดพระธาตุจอมปิง  ค่ะ


IMG_0420.JPG



IMG_0444.JPG



IMG_0440.JPG



วัดพระธาตุจอมปิง ตั้งอยู่เลขที่ ๕๗ บ้านพระธาตุจอมปิง หมู่ที่ ๘ (เดิมอยู่ บ้านจอมปิง หมู่ที่ ๕) ตำบลนาแก้ว อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๕ ไร่ ๒ งาน และมีที่ธรณีสงฆ์จำนวน ๓ แปลง เนื้อที่ ๓๙ ไร่ ๑ งาน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ ปัจจุบันสังกัดคณะสงฆ์มหานิกายค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-5 20:49 , Processed in 0.078934 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.