แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 7029|ตอบ: 15
go

วัดศรีเกิด (พีชชอาราม) ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (พระเกศาธาตุ) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

Picture-793.jpg



วัดศรีเกิด (พีชชอาราม)

ถ.ราชดำเนิน  ต.พระสิงห์  อ.เมือง  จ.เชียงใหม่  

[พระเกศาธาตุ]



Rank: 8Rank: 8

ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
        •  วัดศรีเกิด อ.เมือง จ.เชียงใหม่  
        •  พระภิกษุ วัดศรีเกิด อ.เมือง จ.เชียงใหม่  
        •  
นาคฤทธิ์ รวบรวมชำระสะสาง (๒๕๔๐-๒๕๔๕). (๒๕๔๕, ๑ ตุลาคม). พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง (พิมพ์ครั้งที่ ๑). เชียงใหม่: ลานนาการพิมพ์.
        •  พระชัยวัฒน์ อชิโต สำนักงานธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี. (๒๕๔๙, ๑ มกราคม). ตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๑ (พิมพ์ครั้งที่ ๑). กรุงเทพฯ : เยลโล่การพิมพ์, หน้า ๓๘๕.
      


  
หมายเหตุ   
ถ้าหากข้าพเจ้าพบข้อผิดพลาดจากภาพที่ลงบอร์ดไปเรียบร้อยแล้วว่าไม่ตรงกับข้อมูลที่ถูกต้องในภายหลัง หรือพบว่าสถานที่นั้นมีโบราณวัตถุ โบราณสถาน ฯลฯ ที่สำคัญแต่ยังไม่ได้นำมาลงบอร์ด ข้าพเจ้าขออนุญาตนำภาพหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสถานที่นั้นนำมาลงบอร์ดเพิ่มเติมในภายหลัง เพื่อประโยชน์สูงสุดในการเผยแผ่พระศาสนาสืบต่อไป และขออภัยในความบกพร่องต่างๆ ในฐานะปุถุชนที่ย่อมทำผิดและถูกสลับกันไป หวังว่าสมาชิกและท่านผู้อ่านทุกท่านจะให้อภัยในความบกพร่องทั้งปวงแก่ข้าพเจ้าด้วย

ถ้าหากสมาชิกท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดพระธาตุหรือรอยพระพุทธบาทที่ลงบอร์ดนี้เรียบร้อยแล้ว สามารถโพสข้อมูลเพิ่มเติมนั้นต่อจากบอร์ดข้างล่างนี้ได้เลย เพื่อประโยชน์สูงสุดในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบต่อไป ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญเป็นอย่างสูงสำหรับธรรมทาน





Rank: 8Rank: 8

Picture-784.jpg


Picture-785.jpg



ศาลาเอนกประสงค์ วัดศรีเกิด ค่ะ


Picture-766.jpg



ศาลาพักร้อน วัดศรีเกิด ค่ะ


การเดินทางมากราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ วัดศรีเกิด วันนี้ก็ขอจบการเดินทางเพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีค่ะ


Rank: 8Rank: 8

Picture-790.jpg


กู่อัฐิพระครูวิเชียรปัญญา อดีตเจ้าอาวาส วัดศรีเกิด เจ้าคณะอำเภอสันป่าตอง ชาตะ ๒๓ ก.ย. ๒๔๒๓ มรณะ ๑๘ มี.ค. ๒๔๙๘ รวมพรรษา ๕๕ พรรษา ค่ะ


Picture-792.jpg


กู่อัฐิ เรียงรายรอบกำแพงด้านใน อยู่ด้านข้าง พระบรมธาตุเจดีย์ วัดศรีเกิด ค่ะ



Rank: 8Rank: 8

Picture-764.jpg


รูปพระสีวลีมหาเถระ วัดศรีเกิด ค่ะ


คำบูชาพระสีวลี
  (กล่าวนะโม ๓ จบ) สีวะลี  จะ  มหาเถโร  เทวะตานะระปูชิโต  โสระโห  ปัจจะยา  ทิมหิ  สีวะลี  จะ  มหาเถโร  ยักขา เทวาภิปูชิโต  โสระโห  ปัจจะยา  ทิมหิ  อะหังวันทามิ  ตังสะทา



Picture-801.jpg


Picture-802.jpg



ศาลพระเจ้าสิริธรรมจักรพรรดิพิลกราชาธิราช (พระเจ้าติโลกราช) พระมหากษัตริย์ล้านนา องค์ที่ ๙ ราชวงศ์มังราย (พ.ศ.๑๙๘๔ - ๒๐๓๐) วัดศรีเกิด ค่ะ


Rank: 8Rank: 8

Picture-799.jpg



จุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ ลูกแก้วจักรพรรดิ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา  และขอโมทนาบุญกับผู้สร้าง ผู้บูรณะ  หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในบุญกุศล ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้  ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปจน ๕๐๐๐ ปี ค่ะ สาธุ สาธุ

  

Picture-793.jpg


เดี๋ยวเรามากราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ วัดศรีเกิด พร้อมกันนะคะ

  (กล่าวนะโม ๓ จบ) วันทามิ  เจติยัง  สัพพัง  สัพพัฏฐาเนสุ  ปะติฏฐิตา  สะรีระธาตุโย  เกศาธาตุโย  อะระหันตา  ธาตุโย  เจติยัง  คันทะกุฏิง  จะตุละสี  ติสสะหิสเส  ธัมมักขันเธ  สัพเพสัง  ปาทะเจติยัง  อะหังวันทามิ  ธาตุโย  วันทามิทุระโส  อะหังวันทามิ สัพพะทา  อะหัง  วันทามิ  สิระสา ฯ


ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นพึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไปจนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตามกราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แต่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ



Rank: 8Rank: 8

Picture-788.jpg


Picture-789.jpg



Picture-797.jpg



Picture-800.jpg



ซุ้มจระนำ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ทั้งสี่ทิศ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดศรีเกิด ค่ะ


Rank: 8Rank: 8

Picture-795.jpg



พระบรมธาตุเจดีย์
วัดศรีเกิด บรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระโคตมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ค่ะ


ตำนานพระบรมธาตุเจดีย์ วัดศรีเกิด จากตำนานพระเจ้าเลียบโลก

(แหล่งที่มา : นาคฤทธิ์ รวบรวมชำระสะสาง (๒๕๔๐-๒๕๔๕). (๒๕๔๕, ๑ ตุลาคม). พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง (พิมพ์ครั้งที่ ๑). เชียงใหม่: ลานนาการพิมพ์, หน้า ๑๕๓.)



กล่าวว่า  พระพุทธเจ้าเสด็จไปสู่ทิศใต้ ทรงประทับนั่งอยู่ที่แห่งหนึ่ง มีลัวะสองคนเอามะม่วง ๒ ผลมาถวายพระพุทธเจ้า ลัวะทั้งหลายก็นำมะปราง มะขุน (ส้มซ่า) และข้าวซ้อมมืออันขาวงามมาถวายแก่พระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธองค์เสวยแล้ว พวกเขาก็เอาส้มป่อยและน้ำหอมถวาย พร้อมทั้งน้ำสำหรับสรงและน้ำสำหรับชำระล้างพระหัตถ์ พระพุทธองค์ก็ทรงสรงน้ำและสระพระเกศา ก็ประทับอยู่ทรงแสดงพระธรรมเทศนาสั่งสอนพวกลัวะทั้งหลายตลอด ๓ วัน ๓ คืน

แล้วทรงพยากรณ์ว่า “ต่อไปภายภาคหน้าคนทั้งหลายจะมาสร้างอารามขึ้น ณ สถานที่นี้เป็นอารามใหญ่จักปรากฏชื่อว่า “พิชอาราม” แล้ว
พระเจ้าอโศกราชก็ทูลขอพระเกศาธาตุอัญเชิญบรรจุไว้ในสถานที่นั้น (วัดหลวงศรีเกิด อ.เมือง จ.เชียงใหม่)


Picture-803.jpg


ประวัติวัดศรีเกิด  


วัดศรีเกิด หรือเรียกว่า วัดปิ๊ดจาราม หรือพัชราม วัดนี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่มีชื่อปรากฏในโครงราศหริภุญชัย เมื่อประมาณปีพ.ศ.๒๓๔๓ ซึ่งสมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่าอาจมีชื่อว่า วัดหลวงโพธิรุกขพิชชาราม เพราะปรากฏในศิลาจารึกคราวอัญเชิญพระเจ้าแข้งคมเข้ามาประดิษฐานในวิหาร ครั้งสมัยพระบรมราชาธิบดีกาวิละได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์เพราะวัดวาอารามต่างๆ ที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่นอกกำแพงเมือง เนื่องจากเป็นระยะที่พม่ายกทัพมาตีเมืองเชียงใหม่ และพระบรมราชาธิบดีกาวิละทรงจัดย้ายพระพุทธรูปพระเจ้าแข้งคมจากวัดป่าตาลน้อยมาประดิษฐานไว้ที่วัดศรีเกิด และสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณพ.ศ.๒๑๔๐ ต่อมาได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อปีพ.ศ.๒๔๗๘

Picture-794.jpg


ประวัติวัดศรีเกิด (ต่อ)

วัดศรีเกิด ตั้งอยู่กำแพงชั้นใน เป็นวัดโบราณแห่งหนึ่งในนครพิงค์ก่อนพญามังรายจะมาสร้างเวียงใหม่แห่งนี้ ตามปรากฏในคัมภีร์พื้นเมืองนครเชียงใหม่ว่า พญามังรายให้ข้าบริวารแผ้วถางป่างในบริเวณที่จะสร้างเวียง พบรูปกุมภัณฑ์เก่าแก่อยู่ในป่า (เชียงใหม่เป็นเมืองร้างมาแต่เดิม) ข้าบริวารบางหมู่จะทำลาย บางหมู่ก็นำเรื่องไปทูลพญามังราย แต่พญามังรายทรงห้ามไว้ แล้วจึงใช้อำมาตย์ท่านหนึ่งนำเครื่องบรรณาการไปถวายพญาลั้วะที่บนดอยอุชุปัพพัตตะ เพื่อถามวิธีบูชาผีกุมภัณฑ์ พญาลั้วะก็บอกวิธีปฏิบัติ หลังจากนั้นพญามังรายก็ทำตาม สำหรับบริเวณที่ตั้งของวัดศรีเกิดแห่งนี้เป็นวัดมาก่อนหรือไม่นั้นยังไม่พบหลักฐาน

หลังจากที่พญามังรายสร้างเวียงเสร็จแล้ว ก็ได้รับยกย่องเท่ากับว่าเป็นเมืองหลวง บรรดาเมืองต่างๆ ก็เกรงเดชานุภาพพากันนำเครื่องราชบรรณาการมาขอสวามิภักดิ์อันได้แก่ เมืองหงสาวดี เมืองอังวะ เมืองเชียงตุง เมืองเชียงราย ลำปาง แพร่ น่าน เชียงของ เขลางค์ฯ ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกว่า แคว้นล้านนาไทย พญามังรายประทับอยู่เมืองนครพิงค์จนสวรรคต เมื่อปีกุน พ.ศ.๑๘๕๕ รวมพระชนมายุได้ ๗๒ ปี จากนั้นก็มีเชื้อพระวงศ์สืบสมบัติสันติวงศ์ดำรงต่อๆ กันมาดังนี้

พระเจ้าคราม พระเจ้าแสนภู พ่อขุนน้ำท่วม พระเจ้าคำฟู พระเจ้าผายู พระเจ้ากือนา พระเจ้าแสนเมืองมา พระเจ้าสามฝั่งแกน พระยาติโลกราช พระยอดเชียงรายเสวยราชตั้งแต่พ.ศ.๒๐๓๑ ปีมะแม ถึงพ.ศ.๒๐๓๙ พระเจ้าปนัดดาติโลกราช (พระเมืองแก้ว) เสวยราชตั้งแต่พ.ศ.๒๐๔๐ - ๒๐๖๙ ปีมะโรง ในระหว่างนี้มีนักกวีแต่งนิราศหริภุญชัยปรากฏชื่อวัดศรีเกิด ในบทที่ ๑๒ ว่า

ทุงยู                   สิริเกิดใกล้   ผาเกียร
สามสีอาวาสเจียร  จิ่มไหว้
กุศลที่ทำเพียบ      พบราช       เดียวเอย
มิใช่จงห้องได้      แต่พื้นนรา    สาดล

ตามที่ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร อธิบายว่า โครงนิราศหริภุญชัยแต่งขึ้นประมาณพ.ศ.๒๐๒๕ - ๒๐๖๐ เป็นเอกสารแสดงว่า วัดศรีเกิดมีอายุนานหลายร้อยปี แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้าง ในวัน เดือน ปีไหน และเมื่อไร






Rank: 8Rank: 8

Picture-787.jpg


ต้นไม้ศรีมหาโพธิ์ วัดศรีเกิด ต้องใช้ท่อเหล็กค้ำยันกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ศรีมหาโพธิ์ค่ะ


ประวัติต้นไม้ศรีมหาโพธิ์ วัดศรีเกิด


ประวัติบอกเล่าว่า เมื่อสมัยพญามังรายอยู่เวียงกุมกาม (ในเขตอำเภอสารภี) ยังมีพระมหาเถระเจ้าคณะหนึ่งนำพระบรมธาตุพระพุทธเจ้ามาตั้งลังกาสิงหลถวายแด่พญามังราย มีพระบรมสารีริกธาตุสิบสององค์ พญามังรายบรรจุไว้ในพระเจดีย์กานโถมองค์หนึ่ง อีกองค์หนึ่งบรรจุไว้ในพระเมาลีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ แล้วพญามังรายถวายทองคำห้าร้อยฝากเจ้ามหาเถระไปบูชาพระศรีมหาโพธิ์ในเมืองลังกา

เสร็จการทั้งปวงแล้ว พระมหาเถรเจ้าทั้ง ๔ องค์ ก็กลับเมืองลังกา และนำเอาทองคำอันพญามังรายฝากไปนั้นบูชาพระศรีมหาโพธิ์ แล้วสัตยาธิษฐานว่า ผู้ข้าทั้งหลายจักเอาศาสนาพุทธเจ้าไปตั้งในเมืองล้านนา ผีว่าจักรุ่งเรื่องดังความปรารถนา ขอให้ต้นศรีมหาโพธิ์ตกลงเหนือจีวรของข้า แต่ครั้นสิ้นคำอธิษฐานแล้ว พระเถระทั้ง ๔ ก็ได้เมล็ดมหาโพธิ์ ๔ ผล พระมหาเถระเจ้าจึงนำมาสู่ล้านนาไทยและถวายแด่พญามังราย พญามังรายได้นำไปปลูกไว้ยังพันนาทะกาน (ปัจจุบันเรียกว่า เวียงท่ากาน) ต้นหนึ่ง อีกต้นหนึ่งถวายพระชนนีนาถผู้ชื่อว่า นางเทพคำขยาย นำไปปลูกไว้แทนไม้มะเดื่อที่อารามกานโถม อีกต้นหนึ่งนำไปปลูกที่เมืองฝาง อีกต้นหนึ่งนำไปปลูกที่ต้นน่าง น่าจะเป็นวัดรั้วนางในปัจจุบันนี้

ในสมัยของพระยาสามฝั่งแกน มีพระมหาญาณคัมภีระ ชาวเชียงใหม่ พร้อมทั้งคณะเดินทางไปศึกษาประเทศลังกา เมื่อศึกษาจบแล้วได้นำพระไตรปิฎกกับไม้ศรีมหาโพธิ์กลับมา สมัยพระยาติโลกราชเสวยราชเมืองเชียงใหม่ ได้นำไม้ศรีมหาโพธิ์นั้นปลูกที่วัดป่าแดงหลวงและวัดโพธาราม (วัดเจ็ดยอดในปัจจุบัน) ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่วัดศรีเกิดนั้น เชื่อกันว่าเป็นไม้ศรีมหาโพธิ์ที่พระมหาเถระเจ้าคณะนั้นนำมาจากประเทศลังกา แต่ยังไม่พบหลักฐานว่าได้นำมาปลูกในวัดศรีเกิดเมื่อใด



Picture-761.jpg



Picture-762.jpg



ซุ้มพระพุทธรูป ประดิษฐานรอบกำแพง ต้นไม้ศรีมหาโพธิ์ วัดศรีเกิด ค่ะ


Rank: 8Rank: 8

Picture-770.jpg


DSC08780.jpg




อุโบสถ วัดศรีเกิด ค่ะ


‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-5 20:55 , Processed in 0.048402 second(s), 17 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.