แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 9934|ตอบ: 17
go

วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย ม.๔ ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

DSC07916.jpg



วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย

ม.๔  ต.ขี้เหล็ก  อ.แม่ริม  จ.เชียงใหม่

[พระบรมธาตุเจดีย์]


วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔ ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จากหลักฐานสันนิษฐานว่าสร้างในศตวรรษที่ ๑๕ ในเขตพื้นที่ ๑ ตารางกิโลเมตร มีเสนาสนะ และวัดร้างให้เห็นอยู่หลายแห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง เหมาะแก่การสร้างเมืองๆ หนึ่ง ผู้สร้างเมืองนี้ได้สร้างวัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อยติดแม่น้ำปิง

วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อยได้ร้างอยู่ ๒ ช่วง ช่วงแรกประมาณ ๑๐๐ ปี ต่อมาได้เป็นวัดอีกประมาณ ๒ เดือน และได้ร้างไปอีกครั้ง ประมาณ ๙๐ ปี จากคำยืนยันของพ่ออุ้ยราช ดวงสุข อายุ ๑๐๐ ปี (ปัจจุบันอยู่หมู่ที่ ๕ บ้านต้นขาม ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ยังมีชีวิตอยู่) เคยมาจำพรรษา ณ วัดแห่งนี้ ตอนเป็นสามเณร อายุ ๑๒ ปี และมายกขึ้นเป็นวัดอีกครั้ง เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ มาจนถึง วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ เป็นเวลา ๓ เดือน จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนว่า
ทุกคืนวันพระและวันสำคัญทางพุทธศาสนา เจดีย์พระธาตุจะแสดงปาฏิหาริย์มีดวงแสงลอยเด่นขึ้นมารอบบริเวณเจดีย์พระธาตุแห่งนี้

ต่อมาคณะชุมชนหมู่บ้านป่าอ้อย มอบวัดให้กับวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารเป็นสาขาที่ ๑๐ ของวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร พระเทพวรสิทธาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ได้ส่งพระอาจารย์สมชาย โกวิทธมฺโม พร้อมพระสงฆ์ ๓ รูป เพื่อพัฒนาก่อสร้างวัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย



Rank: 8Rank: 8

DSC07886.jpg



การเดินทางไปวัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย สามารถเดินทางไปตามถนนสายแม่ริม - ฝาง ผ่านที่ว่าการอำเภอแม่ริม และทางเข้าวัดพระธาตุจอมแตงไปประมาณ ๕๐๐ เมตร ถ้ามาจากตัวเมืองเชียงใหม่ จะเห็นป้ายทางเข้าวัดพระธาตุเปิงฟ้าอ้อยอยู่ด้านขวาของถนน ให้กลับรถเลี้ยวขวาเข้าไปในซอยน้ำริน ๑๖ แล้วขับรถไปทางบ้านซางหมู่ที่ ๔ ครับ


การเดินทางไปวัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย ดูข้อมูลแผนที่จากเว็บ google ได้ตามลิงค์นี้ครับ
https://www.google.co.th/maps/place/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2/@18.9976906,98.9639757,17z/data=!3m1!4b1!4m2!3m1!1s0x30da164bcf9200cd:0xc1c33e1238a60a


Rank: 8Rank: 8

DSC07888.jpg


หลังจากเราเลี้ยวซ้ายจากป้ายทางเข้าวัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย เราก็ขับรถตรงมาเรื่อยๆ จนเจอประตูทางเข้า/ออก วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย อยู่ด้านซ้ายของถนน ซึ่งคุณระมิดา เบญจศิวกร เป็นประธานในการสร้าง ลักษณะซุ้มประตูสร้างแบบธิดาเทวีครับ


DSC07890.jpg



บรรยากาศระหว่างทาง ประตูทางเข้า/ออก วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ดูแล้วสบายตาดีครับ


Rank: 8Rank: 8

DSC07894.jpg


เราก็มาถึงวัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อยแล้วครับ


DSC07940.jpg


บรรยากาศภายใน วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย ครับ


Rank: 8Rank: 8

DSC07897.jpg



DSC07941.jpg



หอพระธาตุ วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย ลักษณะเหมือนหอคำหลวง ภายในมีการตกแต่งลวดลายปูนปั้นแบบล้านนาโบราณ ปัจจุบัน (๒๕๕๒) กำลังดำเนินการก่อสร้างครับ


DSC07934.jpg



แบบหอพระธาตุ วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย ปัจจุบัน (๒๕๕๒) กำลังดำเนินการก่อสร้าง งบประมาณในการก่อสร้าง ๓,๗๐๐,๙๙๙ บาท ครับ


Rank: 8Rank: 8

DSC07936.jpg


DSC07939.jpg



พระพุทธมหาจักรพรรดิมิ่งมงคลโคดมบรมศาสดา (พระมหาจักร) พระประธานหอพระธาตุ ประดิษฐานภายใน หอพระธาตุ วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย เป็นพระพุทธรูปสิงห์สามทรงเครื่องมหากษัตริย์ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง ๙๙ นิ้ว ความสูง ๑๕๙ นิ้ว ครับ


Rank: 8Rank: 8

DSC07928.jpg


วิหาร วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย ครับ


DSC07935.jpg



แบบในการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย ครับ


Rank: 8Rank: 8

DSC07920.jpg


DSC07907.jpg



พระบรมธาตุเจดีย์ระดิษฐานด้านหลัง วิหาร วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย ครับ
  

DSC07911.jpg



ประวัติวัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย

วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย เดิมเป็นวัดร้างตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างบ้านต้นขามกับบ้านซาง ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ อยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน คือ ซากเจดีย์เก่าสูงประมาณ ๓ เมตร อยู่หลังวิหาร ซึ่งมีซากอิฐโบราณที่มีลักษณะใหญ่ทำมาจากดินเหนียวผสมแกลบและน้ำอ้อยเหลือปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน สูงประมาณ ๕๐ เซนติเมตร พื้นที่ของวัดร้างแห่งนี้มีประมาณ ๓ ไร่เศษ ปัจจุบันทางกระทรวงสาธารณะสุขได้ขอใช้พื้นที่เป็นที่ตั้งของสถานีอนามัยบ้านซาง

ไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าวัดนี้สร้างขึ้นในสมัยใดและใครเป็นผู้สร้าง จากการสันนิษฐานของนักโบราณคดีท้องถิ่นและผู้สูงอายุบางท่านต่างลงความเห็นว่า วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อยนี้น่าจะมีอายุไม่น้อยกว่า ๗๐๐ ปี และคาดว่าสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์มังรายตอนปลาย และถูกทอดทิ้งไว้เป็นวัดร้างช่วงที่ล้านนาตกอยู่ภายใต้การปกครองของพม่า และกลับมาฟื้นฟูคืนสภาพอีกครั้งหนึ่งหลังสิ้นสุดยุคพม่าปกครองเมือง โดยพระยากาวิละได้ขึ้นไปกวาดต้อนและชักชวนชาวไตใหญ่ ไตลื้อ และไตเขิน จากทางเหนือ (เชียงตุง เชียงรุ้ง และสิบสองปันนา) ให้ลงมาอยู่และช่วยสร้างบ้านฟื้นฟูเมืองและบูรณะวัดวาอารามต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่ที่ถูกทอดทิ้งมานาน ซึ่งอาจจะรวมถึงวัดป่าอ้อยนี้ด้วย

ทั้งนี้จากการศึกษาค้นคว้าทางประวัติศาสตร์จะพบว่า บริเวณตำบลขี้เหล็กนี้ในอดีตจะเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกลัวะ เงี้ยว ไตใหญ่ ไตเขิน และไตลื้อ แทบทั้งนั้น เหตุที่ได้ชื่อว่า “วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย” นี้ก็เพราะว่าในเวลากลางคืนชาวบ้านใกล้เคียงจะเห็นลำแสงพุ่งออกจากเจดีย์เก่าแห่งนี้ ขึ้นสู่ท้องฟ้าบ่อยครั้ง จนหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้มาสังเกตและพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงของลำแสงมหัศจรรย์นี้ แต่ก็ไม่สามารถจะสรุปได้ว่าปรากฏการณ์นี้มาจากอะไร ทางเกจิอาจารย์ที่ได้มานั่งทางในดูบอกว่า พระธาตุได้สำแดงปาฏิหาริย์ให้ผู้คนได้รับทราบว่ามีพระบรมธาตุอยู่ที่นี่


Rank: 8Rank: 8

DSC07913.jpg


ประวัติวัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย (ต่อ)

ในยุคของเจ้าหลวงเชียงใหม่ องค์ที่ ๗ เจ้าอินทวิชยานนท์ ท่านได้ขึ้นมาสร้างวิหารที่วัดขี้เหล็กหลวงเมื่อปีพ.ศ.๒๔๓๒ รวมถึงการพัฒนาวัดต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียง เช่น วัดป่าแงและวัดป่าอ้อย เป็นต้น ต่อมาไม่นาน วัดป่าอ้อยถูกทอดทิ้งกลายเป็นวัดร้างอีก จวบจนถึงปีพ.ศ.๒๔๗๐ นายจองแข่, นางโย่ว ขยันยิ่ง สองสามีภรรยา ชาวไตใหญ่ ได้นิมนต์พระกัน กันทะวงศ์ และสามเณรลาด ดวงสุข (ปัจจุบัน อุ๊ยลาด ดวงสุข อายุ ๙๘ ปี ยังมีชีวิตอยู่ ที่บ้านต้นขาม อีกทั้งมีความจำดีสามารถให้ข้อมูลได้) จากวัดแม่ริม มาจำพรรษาที่วัดร้างแห่งนี้ โดยสร้างกุฏิชั่วคราวให้อยู่ เพื่อหวังจะฟื้นฟูวัดป่าอ้อย อยู่ได้ ๒ ปีก็ยังไม่สามารถพัฒนาวัดนี้ได้ เพราะขาดแรงศรัทธาช่วยสนับสนุนและอุปถัมภ์ พระกันและเณรลาดจึงกลับไปอยู่ที่วัดแม่ริมตามเดิม คงปล่อยให้วัดป่าอ้อยกลับกลายเป็นวัดร้างอีกจนถึงทุกวันนี้

ต่อมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๙ ชาวบ้านป่าอ้อยซึ่งมีประมาณ ๖๐ หลังคาเรือน ได้มาประชุมปรึกษาหารือกันว่าจะฟื้นฟู วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อยอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เป็นวัดประจำหมู่บ้านและเป็นจุดรวมใจของชุมชนบ้านป่าอ้อย เพราะวัดต้นขาม และวัดบ้านซางต่างอยู่ห่างจากบ้านป่าอ้อยไปทางเหนือและใต้ประมาณ ๑ กิโลเมตร ซึ่งไม่สะดวกในการเดินทางไปทำกิจกรรมการกุศล จึงพร้อมใจกันเดินทางขึ้นมากราบขอความอนุเคราะห์จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เพื่อขอช่วยฟื้นฟูวัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อยให้เป็นวัดที่มีภิกษุสามเณรอยู่จำพรรษา เพื่อสะดวกต่อการจรรโลงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาให้อยู่มั่นคงสถาพรสืบไป

พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพวรสิทธาจารย์ ก็เมตตาตอบรับเข้ามาดำเนินการ ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในปี ๒๕๔๙ และทรงเจริญพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๐ โดยส่งพระภิกษุจากวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีพระเสกสรร ทวิสุวัณโณ ขึ้นมาเป็นประธานสงฆ์อยู่ในวัดร้างแห่งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๐ เป็นต้นมา



Rank: 8Rank: 8

DSC07947.jpg


จุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ ลูกแก้วจักรพรรดิ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และขอโมทนาบุญกับผู้สร้าง ผู้บูรณะ  หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในบุญกุศล ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปจน ๕๐๐๐ ปี ครับ สาธุ สาธุ


DSC07946.jpg


เดี๋ยวเรามากราบนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระธาตุเปิงฟ้าป่าอ้อย พร้อมกันเลยนะครับ

  (กล่าวนะโม ๓ จบ) วันทามิ  เจติยัง  สัพพัง  สัพพัฏฐาเนสุ  ปะติฏฐิตา  สะรีระธาตุโย  เกศาธาตุโย  อะระหันตา  ธาตุโย  เจติยัง  คันทะกุฏิง  จะตุละสี  ติสสะหิสเส  ธัมมักขันเธ  สัพเพสัง  ปาทะเจติยัง  อะหังวันทามิ  ธาตุโย  วันทามิทุระโส  อะหังวันทามิ สัพพะทา  อะหัง  วันทามิ  สิระสา ฯ

ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพานแม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แต่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์ และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ



‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 04:41 , Processed in 0.049676 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.