- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2009-1-20
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2017-1-4
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 150
- เครดิต
- 0
- โพสต์
- 131
- สำคัญ
- 0
- UID
- 5
|
| | | |
) p) J z6 p, R3 ]! `& x) R
! i1 m2 z0 Q2 D5 yความเป็นมาของรอยพระพุทธบาทบางปลาสร้อย จ.ชลบุรี
+ u" [3 l# E0 S# D k
. [, J& P9 v/ C6 M, Rโดยบางแสนโพส วันเสาร์ ที่ 30 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2552 เวลา 21:43:222 N/ I6 j' C2 y1 N- b- y9 s" C
6 O" a& C: j9 k$ g
การบูชารูปและรอยพระพุทธบาทในหมู่พุทธศาสนิกชนมีมานานแล้ว เนื่องจากมีความเชื่อว่า ครั้งที่พระพุทธองค์ยังมีพระชนม์อยู่ได้เคยเสด็จประทับหรือเคยเสด็จไปเยี่ยมเยียนนานประเทศ และได้ประทับรอยไว้ แม้ในพระบาลีจะไม่ปรากฏการอ้างว่า พระพุทธองค์ได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ ณ ที่แห่งใด แต่ในลังกาซึ่งมีคติเกิดขึ้นในภายหลัง ว่าพระพุทธองค์ได้ประทับรอยพระพุทธบาทประดิษฐานไว้ 5 แห่ง คือ สุวรรณมาลิก สุวรรณบรรพต เขาสุมนกูฎ เมืองโบนกบุรี และที่หาดไนลำน้ำนัมทานที ส่วนคติการบูชารอยพระพุทธบาทในประเทศไทยที่สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยทวารวดี สมัยสุโขทัย ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยอยุธยา และรัตนโกสินทร์ จนเป็นประเพณีถึงปัจจุบัน
* T/ @# Y0 t. f9 A" w. h5 O+ q, h* ?8 e! e. | j
) U0 r9 _3 F0 R4 ]" O0 k" ~' a
8 o2 e. r; I0 V) w การค้นพบรอยพระพุทธบาทที่เขาสุวรรณบรรพตนั้น (เขาสุวรรณบรรพต คือ บริเวณเทือกเขาเขียวในพื้นที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี)มาปรากฏในสมัยกรุงศรีอยุธยาในรัชการสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม(พ.ศ.2153 - 2171) โดยมีเรื่องเล่าว่าพระภิกษุสงฆ์ไทยกลุ่มหนึ่งเดินทางไปยังลังกาทวีป เพื่อไปบูชารอยพระพุทธบาทที่เขาสุมนกูฎ พระสงฆ์ลังกาถามว่ารอยพระพุทธบาทที่มีอยู่ 5 รอยนั้น มีแห่งหนึ่งที่ประดิษฐานอยู่ ณ เขาสุวรรณบรรพต ในดินแดนสยามประเทศ ชาวไทยไม่ไปบูชารอยพระพุทธบาทที่นั่น คณะพระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ หลังจากกลับมาถึงจึงนำความมากราบทูลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้มีตราสั่งหัวเมืองให้เที่ยวตรวจค้นดูตามภูเขาว่าจะมีรอยพระพุทธบาทอยู่ ณ ที่แห่งใดหรือไม่8 o, g: b* o' d! j* H& I
; S @; [- S7 ]9 ^5 |; Y
& E8 C/ X' P7 s. U* X# D3 ?
3 g! K/ x" S8 ^ F ครั้งนั้นเจ้าเมืองบางปลาสร้อยสืบได้ความว่ามีรอยอยู่ในศิลาเหมือนรูปเท้าคน ตั้งอยู่บนเนินเขาทางทิศตะวันออกของเมืองบางปลาสร้อย บริเวณเทือกเขาเขียว ใกล้ห้วยน้ำคงคาลัยซึ่งเป็นห้วงน้ำใหญ่ในครั้งนั้น จึงมีใบบอกเขามายังกรุงศรีอยุธยา ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม และได้ตั้งกองทหารมาตรวจสอบและรักษาตลอดถึงการทำแผนที่บอกตำแหน่งที่ตั้งของรอยให้ชัดเจนแล้วทำเป็นใบบอกส่งกลับถวายพระเจ้าทรงธรรม รอยพระพุทธบาทที่เมืองบางปลาสร้อยนี้ หลังมีปบบอกส่งกลับถวายพระเจ้าทรงธรรมแล้วก็เป็นที่สนใจของผู้คน ผู้ศรัทธาเป็นอย่างมากจึงมีการเดินทางมาสนมัสการเสมอ แต่จะเดินทางมานมัสการจะทำใด้เพียงไม่กี่เดือนในแต่ละปีเพราะมีอุปสรรคจากกระแสน้ำในห้วงน้ำคงคาลัยที่เชียวมากในฤดูน้ำ การเดินทางจะมาได้ก็ในช่วงปลายเดือนยี่ถึงกลางเดือนห้าเท่านั้น โดยมาทางเรือจากท่าตะกรูด (อำเภอพานทอง) พายเรือทวนน้ำมาตามห้วงน้ำคงคาลัย ขึ้นที่ท่าวัดคงคาลัยและค้างแรมที่วัดนี้หนึ่งคืน รุ่งเช้าจึงข้ามฟากจากวัดคงคาลัยมาขึ้นที่ท่าขุนด่าน(ปัจจุบันคือบ้านห้วยมะไฟ หมู่4 ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี) แล้วใช้เกวียนบรรทุกสิ่งของขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทด้วยการที่เดินทางมาได้ในเวลาจำกัดในแต่ละปี จึงมีการทำจำลองรอยพระพุทธบาทนี้ไปประดิษฐานที่วัดบางทรายเพื่อให้ผู้มีจิตเลื่อมใสศรัทธาได้นมัสการตลอดทั้งปี ต่อมาห้วงน้ำคลคาลัยตื้นเขิน(ปัจจุบันเหลือเพียงร่องน้ำลึก เป็นห้วงบ้านบึงและห้วยควายเผือก) ไม่สะดวกกับการเดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาทบางปลาสร้อยจึงได้มีการขาดช่วงไป จะมีผู้มานมัสการเพียงเฉพาะผู้ที่ทราบที่ตั้งและอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น จากคำเล่าลือว่ามีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ในบริเวณเนินเขาหลังศาลพ่อขุนด่านเท่านั้น แต่สอบถามร่องรอยที่ตั้งที่แท้จริงไม่มีผู้ใดชี้ชัดได้% N5 V m( h6 l8 t* l' I* p$ l
5 U6 j* d1 H" T7 g) a, A
+ b( x: K8 f& K# C
/ W& h7 _# q; i( u- [2 j+ Y1 b ต่อมาชาวบ้านชุมชนบ้านห้วยมะไฟ หมู่4 ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี มีความเห็นตรงกันว่าควรค้นหารอยพระพุทธบาทให้พบ เพราะเชื่อว่าตำนานที่เล่าขานกันมาอาจเป็นความจริง โดยมีผู้ร่วมตำนานในครั้งนี้ประมาณสิบกว่าคน ได้ชักชวนกันสืบค้นหามาตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2552 ซึ่งเป็นการค้นพบได้ยากเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์ จะปรากฏให้เห็นในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น จนกระทั่งในวันที่ 8 พฤษภาคม 2552 เป็นวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนา ทางกลุ่มผู้คนหาพบรอยพระพุทธบาทจึงค้นพบเวลาประมาณ 9 โมงเศษ ซึ่งมีความยาวประมาณ 80 เซนติเมตร กว้างประมาณ 30 เซนติเมตร จากนั้นได้มีการปิดทองที่รอยพระพุทธบาทและชาวบ้านได้มีการประชุมเพื่อดำเนินการบูรณะบริเวณรอยพระพุทธบาทให้ส่วยงาม เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของชุมชน และประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ได้จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป# [" h) Q3 y8 U/ p) H6 P5 V2 b' P" o7 V
, w- y3 q$ Y* }! l
$ Y* x, ]& Q, g1 {* Z
ปริญญา/ข่าว/ภาพ 1 ? c, I* T9 C( \/ z! p
http://www.bangsaenpost.com/Q1/thememenu.php?id=6720&PHPSESSID=e3dd5d202efbc691978479f095d3ab53
| | | | |
|
|