 | แก้ไขล่าสุด noi เมื่อ 2009-9-25 15:54 3 V0 j2 @7 a4 H! \* X+ w1 M
# Y2 d0 O" y1 e6 v Y# E# H3 }: _วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552 เวลา 12:07:15 น.
2 l" z2 ]/ r) lพบรอยพระพุทธบาทเขาทับสีเทียน ชาวบ้านแห่กราบไหว้ 2 }+ W2 }# R, A5 Y. M
' N* D e" b0 M C& Q
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 12 มิถุนายน ว่า พระภิกษุซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ที่พักสงฆ์เชิงเขาทับสีเทียน ได้พบรอยพระพุทธบาทแห่งใหม่บนเขาทับสีเทียน (เขาแร่) ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่วังแขม หมู่ 12 ต.สระโบสถ์ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ! ]7 \* g4 \, o5 \' s6 p u
* F( R0 p* c( }0 k; w( {' B/ Gเมื่อเดินทางไปถึงพบว่า บริเวณลานที่พักสงฆ์ดังกล่าวมีรถยนต์เก๋ง และรถยนต์กระบะของประชาชนที่ทราบข่าว เดินทางมาดูรอยพระพุทธบาทที่พบกันเป็นจำนวนมาก โดยรอยพระพุทธบาทที่พบอยู่ระหว่างลานหินช่วงกลางภูเขา เดินจากด้านหลังที่พักสงฆ์ขึ้นภูเขาไปประมาณ 100 เมตร มีประชาชนนำธูปเทียนจุดกราบไหว้พร้อมนำแผ่นทองคำเปลวไปปิดทับรอยพระพุทธบาทกันอย่างเนื่องแน่น โดยรอยพระพุทธบาทที่พบเป็นรอยพระบาทข้างขวา วัดความยาวจากส้นเท้าถึงปลายนิ้วโป้งขวา 170 ซม. วัดความกว้างได้ 60 ซม.ลึกประมาณ 5 ซม. สภาพสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน$ x( O& I$ ~' w# D; b
3 e; t; N) f( S4 p" Y7 K
พระณรงค์ เสาร์วิชิต อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นพระที่นำไปพบรอยพระพุทธบาทกล่าวว่า เดินทางมาอยู่ที่พักสงฆ์ดังกล่าวได้ประมาณ 1 เดือนเศษ เนื่องจากป่วยไม่สบายด้วยโรคหอบและโรคปอด หายใจไม่ค่อยออก จึงเดินทางรักษาด้วยการกินยาสมุนไพรกับพระลำพอง ฐิตคุโณ ซึ่งมาอยู่ที่พักสงฆ์ก่อนหน้า หลังกินยาสมุนไพรของพระลำพองแล้ว อาการดีขึ้นหายใจสะดวก จึงเดินขึ้นมาบนเขาเพื่อท่องหนังสือพระและนอนพัก เนื่องจากมีอากาศที่เย็นสบาย5 v0 D0 X; R, r
$ J- j1 x* @0 g# b U+ }( Q
พระณรงค์เล่าให้ฟังต่อว่า วันที่ 5 มิถุนายน เดินขึ้นมาท่องหนังสือและนอนพักผ่อนตามปกติ และเกิดปวดปัสสาวะ จึงยืนฉี่บนภูเขาโดยไม่ทราบว่าบริเวณดังกล่าวมีรอยพระพุทธบาท เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีก้อนหินและใบไม้ปิดทับเอาไว้ หลังปัสสาวะเสร็จก็ท่องหนังสือและนอนพักผ่อนต่อ จนกระทั่งถึงเวลาเย็นรู้สึกตัวว่าไม่สบาย อาเจียน และอาการหนักขึ้นเรื่อยๆจนไม่รู้สึกตัว พระลำพองที่อยู่ด้วยกันจึงพาส่งโรงพยาบาลสระโบสถ์ให้แพทย์รักษา
+ q6 N' A0 x, ]
9 [. j# l2 \& |( ^3 ?ด้านพระลำพองกล่าวว่า เมื่อนำตัวพระณรงค์ไปถึงโรงพยาบาล พระณรงค์มีอาการเพ้อไม่รู้สึกตัวพร้อมส่งเสียงร้องโวยวายดังลั่นโรงพยาบาลคล้ายกับอาการผีเข้า พยาบาลต้องจับมัดมือและเท้าเอาไว้กับเตียง จากนั้นก็ให้ยากินพร้อมกับให้น้ำเกลือ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ตนเห็นดังนั้นจึงไปหาหมอร่างทรง เนื่องจากคิดว่าพระณรงค์คงจะถูกของอะไรสักอย่างแน่นอน หลังร่างทรงนั่งทางในแล้วได้บอกว่า พระณรงค์ไปปัสสาวะรดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตนจึงกลับมาที่พักสงฆ์พร้อมจัดเครื่องเซ่นพร้อมหัวหมู ไปขอขมาตรงจุดที่พระณรงค์ปัสสาวะ และทำความสะอาดด้วยการปัดกวาดบริเวณดังกล่าว และได้พบรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่บนลานหินดังกล่าว ส่วนอาการป่วยของพระณรงค์ก็หายกลับคืนสู่สภาพปกติในเวลาที่รวดเร็ว
| |