แก้ไขล่าสุด putthapaun เมื่อ 2010-8-20 22:59
[size=180%]ยอดพระไตรปิฎก
หลวงพ่อพระ ราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง)
[size=85%]จากบทความ"สวดมนต์ เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน" หนังสือธรรมปฏิบัติ...ฉบับที่ ๑๓ หน้า ๑๓-๑๔
“การสวดมนต์ยอดพระไตรปิฎก ถ้าสวดทุกวันจะเป็นยังไงคะ...?”
ดี สวดได้ก็ดี ไอ้ยอดพระไตรปิฎกนี่มันอยู่ไหนหนอ... ยอดพระไตรปิฎกจริงๆ มันสวดไม่มากหรอก อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ เท่านี้
“ต้องหมดซิคะ”
ไอ้นั่นโคนพระ ไตรปิฎก ยอดพระไตรปิฎกเราต้องดูอย่างนี้ซิ ตอนวันที่พระพุทธเจ้าพระนิพพาน ใช่ไหม วันนั้นพระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า
“อานันทะ ดูก่อน อานนท์ พระธรรมวินัยที่ตถาคตสอนมาสิ้นเวลา ๔๕ ปี ย่อมรวมอยู่ในความไม่ประมาท”
จึง ตรัสว่า
อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ แปลว่า “ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม”
นี่ยอดพระ ไตรปิฎกแล้ว ยอดมันต้องเล็กนิดเดียว โตเบ้อเร่อเป็นยอดได้ไง ไอ้ที่เขาบอกว่ายอด ฉันไปดูแล้วมันโคนพระไตรปิฎก เอ้า... จริงๆ ท่านบอกว่า คำสอนทั้งหมดรวมอยู่ในคำว่าไม่ประมาทคำเดียว ใช่ไหม พออ่านๆ ดูแล้ว ไม่รู้เป็นยอดแบบไหน ที่เขาพิมพ์ขายน่ะ ไม่รู้แกไปคิดเอาอะไรมาบ้าง
“ที่ วัดหนูก็มียอดพระไตรปิฎก”
มีโคนพระไตรปิฎก ก็บอกแล้วยอดมันมีแค่อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ นี่ยอด คือรวมหมด ท่านตรัสวันนิพพาน คือว่า คำสอนทั้งหมดรวมอยู่ในคำนี้คำเดียว นี่ยอดใช่ไหม
นี่ ฉันมันมีความเห็นไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเขา เพราะอะไร เพราะฉันถือเอากฎความเป็นจริงมาใช้เท่านั้น แต่ที่เขาบอกยอดพระไตรปิฎก ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเรียกยอดพระไตรปิฎก ยอดใหญ่มันต้องโคน เดี๋ยวหล่นหักมา
เราไม่ประมาท คือ หนึ่ง ไม่ประมาทในชีวิต
เราคิดว่าชีวิตนี่มันไม่สามารถจะทรงตัวต่อไปได้ มันต้องตาย ไม่ประมาท ที่จิตเราจะไปคิดจับในขันธ์ ๕ ว่ามันเป็นเราเป็นของเรา ใช่ไหม นี่เราไม่ประมาท
เราคิดว่าร่างกาย เป็นเราเป็นของเรา ไม่ช้าก็เจ๊ง เดี๋ยวมันก็พัง ถ้ามันเป็นเราเป็นของเราจริง มันก็ต้องไม่ตาย ถ้าเราต้องการขันธ์ ๕ แบบนี้ มันก็มีแต่ความทุกข์ มันหาความสุขไม่ได้ ก็แค่นั้น จบ.
พิมพ์โดย มิ้ม
