แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 3834|ตอบ: 1
go

อภิญญาผลสมาบัติ ตอนที่ ๑ [คัดลอกลิงค์]

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

อภิญญาผลสมาบัติ ตอนที่ ๑
วันที่: วันเสาร์ 21 กรกฎาคม 2007 @ 17:34:33
หัวข้อ: รวมคำสอน หลวงพ่อฯ



อภิญญาผลสมาบัติ ตอนที่ ๑

วันที่ 20 กรกฎาคม 2506 ตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 8 เข้าเจริญสมณธรรมตั้งแต่เวลา 9.00 น. ตรง วันนี้มีอารมณืดีเป็นพิเศษ ตั้งแต่เริ่มจับอารมณ์ปั๊บ อารมณ์ก็ใสสว่าง ซึ่งไม่เคยมีมาในกาลก่อน แล้วท่านพยายามทำไปตามลำดับ

- อันดับแรกท่านจับอานาปนสติควบกับพุทธานุสสติกรรมฐาน
- จิตเป็นสุขถึงที่สุดถึงฌาน4 ทิ้งฌาน4 วิ่งเข้าไปฌาน8 ถอยหลังลงมาจับอริยสัจสี่
- จิตสะอาดผ่องใสถอยลงมาถึงอุปจารสมาธิ จับเมตตาพรหมวิหารสี่
- จิตเข้าถึงที่สุดทันที ถอยลงมาอุปจารสมาธิ จิตจับอสุภกรรมฐานจนกระทั่งมีความรู้สึกเป็นสุข ไม่มีความติดพันในภาพภพใดๆ
- ถอยลงมาถึงอุปจารสมาธิเข้ามรณัสสติกรรมฐาน
- เมื่ออารมณ์ถึงที่สุด ถอยลงมาอุปจารสมาธิจับบารมีสิบประการ
- แล้วถอยลงมาจับสักกายทิฎฐิ จนกระทั่งเข้าจุดถึงขีณาสวานิยดา

วิธีทำเขาทำกันแบบนี้ คือไล่ตั้งแต่ต้นลงมาว่า จับอารมณ์ของจุดไหนอารมณ์จิตมันโปร่งไปหมด ไม่มีอารมณ์เกาะอันนั้นใช้ได้ หรือว่าเป็นฌานทันทีใช้ได้ แล้วจึงจะจับตัวปลาย ถ้าตัวต้นยังไม่คล่องไม่ผ่องใส ยังไม่จับตัวปลาย ต้องไล่เรียงลำดับอย่างนั้นลงมา

จับตามลำดับอย่างนั้นลงมาถึง ขีณาสวานิยดา อารมณ์ปักแน่น แล้วก็เลยแสวงหานิพพาสุขขังต่อไป อารมณ์ปักแน่นก็เป็นฌานสูงสุด อารมณ์เป็นสุข จับหานิพพาน ภาวนานิพพานสุขขังต่อไป

ท่านตรวจดูอารมณ์เห็นจิตผ่องใสเหมือนกับแก้วสะอาด แต่ว่ายังคลื่นนิดๆ หน่อยๆ คือยังมีไหวตัวกระเพื่อมๆ จึงรู้สึกว่าจิตนี่ยังดีไม่พอ

จิตได้ถอนจิตจากนิพพานสุขัง เอาอารมณ์เข้ามาจับขีณาสวานิยดาใหม่ คราวนี้อารมณ์แจ่มใสมาก แล้วก็หันเข้ามาจับนิพพานสุขัง จิตทรงตัว

ตอนนี้ท่านมีความรู้สึกว่าเวลานี้จิตเป็นอภิญญาผลสมาบัติ จิตมีอารมณ์ประเสริฐเพราะท่านเป็นผู้ได้อภิญญาผล คือ ผลที่ตนได้มา สมาบัติคือ เข้าถึงๆ ผลที่ตนฝึกอภิญญามาแล้วควบกับวิปัสสนาญาณทรงตัว อารมณ์เป็นสุข ตั้งใจไว้ว่าจะถอนเวลา 11.00 น. เพื่อกินข้าวละซิ ท่านว่าตอนนี้ชักจะถอนเกือบไม่ออก ดึงเท่าไร่ก็ไม่ออก จิตมันปักแน่น มันไม่ยอมคลายสมาธิ จิตอารมณ์เป็นทิพย์ ก็รู้สึกว่าดีใจมาก ว่ากำลังใจของเรานี่ดีพอแล้ว มีกำลังใจใหญ่พอจะสู้กับกิเลสได้ สามารถจะห้ำหั่นให้กิเลสทั้งหลายมันสลายตัวไปได้

ท่านพิจารณาว่าการที่เราจะไม่ต้องเกิดอีกมันใกล้เข้ามาแล้ว จิตท่านเป็นทิพย์พบหน้ากิเลสตัณหา กิเลสตัณหามันยื่นหน้าเข้ามาตั้งแต่วันวานนี้ วันที่ 19 วันนี้ก็พบมันอีกแต่วันนี้พบชัดมากเพราะจิตมันใสมาก แล้วท่านบอกให้กิเลสมันเลี่ยงไป บอกเอ็งถอยไป ไม่ใช่เรื่องของเอ็งจะมายุ่งกับข้า ข้าไม่ต้องการ ท่านว่ามึงจงหลีกไป ท่านว่าอย่างนั้นมึงจงอย่ามายุ่งกับกู กูไม่พึงต้องการมึงอีก มึงเป็นเจ้านายกูทรมานกูมาหลายแสนกัปแล้ว หลายแสนอสงขัยกัปแล้วต่อแต่นี้ไปมึงกับกูไม่มีทางแล้วที่จะมาบังคับกูได้ เป็นอันว่ากูจะต้องหลีกไปหรือทำลายมึงให้พินาศไปเพื่อการเข้าพระนิพพานของกู ท่านตั้งใจจะเข้าอภิญญาผลสมาบัติอย่างนี้ทุกวันและทุกคืน จะไม่ยอมให้จิตดวงนี้คลาดจากอภิญญาผลสมาบัติ เพื่อประโยชน์ของมหาชนทั่วไปตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่ง

วันที่ 22 กรกฎาคม เวลาเช้าเข้าอภิญญาผลสมาบัติ ท่านบอกแล้วนี่ ท่านไม่เลิกแน่ เรื่องอภิญยาผลสมาบัติไม่ยอมถอนตัวเด็ดขาด ว่ามันทั้งกลางวันกลางคืน ท่านบอกขณะนี้ได้ผลดีมาก อารมณ์แห่งพระนิพพานกำลังต่อต้านอารมณ์กระแสกิเลส จิตรักพระนิพพานกิเลสบางอย่างมันพุ่งเข้ามาก็เป็นการเตือนว่า นี่อย่าเพิ่งไปเลย เพื่อนเอ๋ย สาวๆ สวยๆ รวยๆ มีเยอะ หน้าตากระจุ๋มกระจิ๋มผิวเนื้อนุ่มนิ่ม อย่าเพิ่งไปนิพพาน อย่าเพิ่งไปเลยเพื่อน มีเมียก่อนดีกว่า กิเลสบางตัวก็บอกว่าจะไปทำไมเล่าเพื่อนเอ๋ย ทรัพย์สินของเรามีเยอะแยะใหญ่โตมโหฬาร จะเอาสักกี่ร้อยล้านก็ได้ ถ้าหากว่าทำอย่างนี้ นี่กิเลสตัวหนึ่งก็บอกว่า นี่รู้ไหมเจ้าเหม่งคณะนี้มันประกาศตัวเป็นศัตรูกับเจ้า ทำลายมันเสียก่อนซี จะรีบไปนิพพานทำไม เรื่องนิพพานเรื่องเล็กๆ ของเด็กๆ ไปเมื่อไร่ก็ได้ นี่เรื่องของกิเลสมันสอน

แต่ทว่าอารมณ์ปรารถนานิพพานก็ตัดไปเสียหมด ว่าเชิญเลี่ยงไปเสียให้พ้น อย่ามายุ่งเจ้าตัวร้าย เราเกลียดเจ้า เรามีความรู้สึกว่าเจ้านี่เป็นศพเน่าที่เราไม่พึงต้องการ เมื่อเจ้ากิเลสมันว่างไป อารมณ์พระนิพพานก็แจ่มใส ทำไปจนกระทั่งมีความรู้สึกสบาย ถอนอารมณ์มานิดหน่อยเข้ามาตั้งอยู่ในปฐมฌาน เวลานั้นเจ้ายุงตัวสำคัญมันย่องเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร่ก็ไม่รู้ รู้สึกคันๆ เอามือไปลูบเข้าเจ้ายุงมันตายไป 1 ตัว นึกเสียใจว่าเรานี่มันเลวไปเสียแล้วว่านี่ทำไมไปทำให้ยุงมันตาย แต่ความจริงเจตนาไม่มีเพราะว่าเสียใจ มานั่งคิดในใจว่านี่พระโสดาบันเขาไม่ทำกันแบบนี้ พระโสดาบันเขาไม่ยุ่งแม้แต่ยุงกับมด นี่เจ้าฆ่ายุงตาย จะเป็นพระโสดาบันกับเขาได้อย่างไร มาตัดกำลังใจกันว่านี่เราเลวไปเสียแล้ว เอาแก้ตัวมันใหม่วันนี้ ไม่เลิกมันละ ล่อมันให้ตายไปทั้งวัน ถ้าไม่มีใครมารบกวน ว่างแขกไม่ได้ละ ว่าดะ เวลามีแขกมา ท่านก็จับในอริยสัจ ทุกขอริยสัจบ้าง อสุภสัญญาบ้าง ท่านก็จับอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ว่ากันเรื่อยไปไม่ให้มันติด

ท่านจับอภิญญาผลสมาบัติต่อไป แป๊บเดียวอารมณ์ใจเป็นสุขดิ่งถึงจุดจบ ก็ได้พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้มีพระพุทธฎีกาว่า ถ้าขยันและสนใจอย่างนี้ภายในพรรษานี้จะได้เป็นผู้ไม่เสื่อมลง หมายถึงว่าจะได้อริยผล

ท่านว่ามันน่าแปลกใจที่เรายิ่งจะหนีให้มันไกล เจ้าสาวๆ ก็มากันมากเข้าทุกที ท่านบันทึกว่ามันชอบรักเรา นี่แปลกจริงๆ แฮะ ท่านว่าอย่างนั้น นี่เราอายุ 47 ปี แก่จะตายโหงแล้วนี่ยังไงนี่ เจ้าเด็กสาวๆ อายุ 17 18 20 เศษๆ ดันมาปองรักคนแก่นี่ มันจะหวังอะไรของมันนะ คนระยำ หนุ่มๆ ถมเถไปไม่รัก ดันมารักคนแก่ได้ ความจริงการรักแบบนี้เขาไม่ได้รักจริงๆหรอก กิเลสมันสอนมา ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายปฏิบัติ ถ้าเข้าถึงเขตนี้ จำไว้ด้วยนะว่า คนที่เข้ามาแสดงความรัก มาขออยากจะรัก อยากจะแต่งงานด้วยน่ะ อย่าไปเชื่อ คือนั่นมันเป็นอารมณ์ของกิเลสมันเข้ามาผูกพัน หมายความว่ามันเสี้ยมสอนเขามา เขาไม่ได้มาด้วยความจริงใจ กิเลสมันดันมาชั่วคราว ท่านบันทึกว่าเจ้าเด็กที่มีความรุ้ ม.6 บ้าง อาชีวะชั้นสูงบ้าง ได้ปริญญาบ้าง มันน่าจะไปหาหนุ่มๆเป็นผัว มารักพระแก่มันจะมีหวังหรืออีหนู เอ็งอดเถอะ ฉันขอลาแล้ว ขึ้นชื่อว่าความเกิดฉันไม่พึงปรารถนา ทำไมฉันต้องไปแต่งกับเธออีก

ไม่ได้ระบุหนังสือ
ไม่ได้ระบุชื่อคนผู้บทความ

ไฟล์แนบ: คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถดูและดาวน์โหลดไฟล์แนบได้ หากยังไม่มีแอคเคานต์หรือยังไม่ได้เป็นสมาชิก กรุณาสมัครสมาชิก

Rank: 1

โมทนาสาธุในธรรมทานกับหลวงพ่อ และ ท่านเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ   เก้าขออนุญาตคัดลอกเพื่อนำไปฝึกฝนเป็นกำลังใจต่อไปนะคะ  ขอบพระคุณค่ะ

‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-12-1 00:47 , Processed in 0.041093 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.