แก้ไขล่าสุด Nepenthes เมื่อ 2009-1-26 00:05
9 B2 Q& \2 T+ J& A) H/ n" H" V- T6 V1 k$ F9 W3 V
3 {% v" R* S* t6 W, `6 {9 j# U2 m* f8 U
แตกตื่นพบรอยพระหัตถ์พระพุทธเจ้า รอยพระบาทเกือกแก้วพระอรหันต์ 7 ขวบผู้ติดตามพระพุทธเจ้า สมัยพุทธกาล ก่อนพบรอยพระบาท เจ้าอาวาสวัดฝันเห็นชีปะขาวมาอวยพร จึงให้สามเณรลงมือปัดกวาดสถานที่ หน้าวัดเพื่อจัดตั้งทำเวทีพุทธาภิเษก ตะลึงพบรอยพระบาทขนาดใหญ่ ยาว 29 นิ้ว กว้าง 23 นิ้ว ปรากฏบนก้อนหินขนาดใหญ่ ด้านล่างมีบ่อน้ำทิพย์ที่ล้างบาตร และบ่อน้ำดื่ม เผยแหล่งที่พบ เป็นที่เส้นทางผ่านกองทัพ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ยกทัพไปรบกับพม่าเมื่อ 700 ปี ทีมงานสร้างภาพยนตร์หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ได้มาสำรวจเส้นทางการเดินทัพเพื่อจัดสร้างภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 7 D2 k7 z. G; } v* S2 A
% \& h) V, ]) M# Uผู้สื่อข่าวรายงานมาเมื่อ เวลา 11.30 น.วันที่ 19 ม.ค.นี้ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก พระอธิการถา รัตนวัณฺโณ เจ้าอาวาสวัดเมืองกึ๊ด หมู่ 1 ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตงเชียงใหม่ ว่า ได้พบรอยพระหัตถ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปรากฏอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ และพบรอยพระบาทเกือกแก้ว พระอรหันต ์ 7 ขวบ ผู้ติดตามพระพุทธเจ้า สมัยพุทธกาล และยังพบ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้เป็นยารักษาโรคที่วัด ขอให้ไปร่วมตรวจสอบด้วย
. v2 o4 g. T1 b: x4 M: I
ดังนั้นต่อมาผู้สื่อข่าว ได้เดินทางเข้าพบ พระอธิการถา รตนวณฺโณ เจ้าอาวาสวัด และ พระปิยะพันธ์ สุนทรปญโญ รองเจ้าอาวาสวัด และ พระจิรพงศ์ ชยมมงคโล เลขาเจ้าอาวาส ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูรอยพระหัตถ์ รอยพระบาท และบ่อน้ำทิพย์ ที่อยู่บริเวณหน้าวัดเมืองกื้ด ซึ่งทางวัดได้มีกั้นบริเวณไว้ และ มีด้ายสายสิญจน์โยงใยเป็นลักษณะการผ่านการสวดเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล
$ R% \9 V4 c* R
& t |( X3 G% I& kพระอธิการถา รัตนวณฺโณ เปิดเผยว่า การค้นพบรอยพระหัตถ์ รอยพระบาท และบ่อน้ำทิพย์ นั้น มีเรื่องราวความเป็นมาคือ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.51 ในตอนเย็น ได้มีพระภิกษุสามเณร ได้พากันกวาดบริเวณทางขึ้นวัดได้พบก้อนหินก้อนหนึ่งอยู่ริมทางเดินมีลักษณะคล้ายรอยเท้าเด็ก แต่ไม่มีนิ้ว จึงคิดว่า น่าจะใช่รอยพระบาท จึงได้เขียนวันที่พบก้อนหินนั้นไว้ จากนั้นได้นำดอกไม้ธูปเทียนมาสักการบูชา แล้วไปค้นคว้าสอบถามผู้รู้หลายคนบอกว่า เป็นรอยพระบาทของพระอรหันต์ 7 ขวบ ที่ติดตามพระพุทธเจ้าสมัยพุทธกาล และประทับรอยพระบาทเอาไว้เป็นที่ระลึก จึงได้ตั้งชื่อไว้ว่า "พระบาทเกือกแก้วร่มโพธิ์นเรศวร"
1 M8 v: `; }: q; d. K5 H
: u/ g! S/ C6 F) ~9 C" X7 L$ Hจากนั้นวันที่ 8 ธ.ค.51 ได้มีการประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจัดงานสมโภช พระธาตุก้าวหน้ามหามงคลคีรี ศรีเมืองกื้ดขึ้น จากนั้นในที่ประชุมได้มีมติ จะเอาวงแห่พื้นเมืองมาตั้งบริเวณทางขึ้นหน้าวัด เจ้าอาวาสวัดจึงได้ให้พระภิกษุ สามเณร ทำความสะอาดบริเวณหน้าวัด ได้มีการถอนหญ้าที่รกขึ้นใกล้ก้อนหินปรากฏว่า พบรอยพระหัตถ์ สร้างความปลื้มยินดีแก่พระเณร และศรัทธาบ้านเมืองกื้ดเป็นอย่างมาก จึงได้ตั้งชื่อว่า"พระหัตถบาทก๊อแก้วเมืองกื้ด" เพราะเจอระหว่างต้นก๊อกับต้นแก้วโดยพระหัตถ์ มีความกว้าง 23 นิ้ว ความยาว 29 นิ้ว แต่ละนิ้วกว้าง 3 นิ้ว เมื่อมีข่าวแพร่ออกไปก็มีคณะศรัทธาสาธุชนทั่วทุกสารทิศ พากันมากราบไหว้ เพื่อเยี่ยมชม สักการะไม่ขาดสาย
3 a# E* R, x8 J+ d0 C$ V) d* ]1 h" x& i5 O3 z
ซึ่งในคืน วันที่ 8 ธ.ค.51 เจ้าอาวาสวัดได้นิมิตฝันเห็นชีปะขาวมาอวยพร พร้อมกับบอกแหล่งบ่อน้ำทิพย์ ซึ่งมีกบตัวใหญ่หนักประมาณครึ่งกิโลกรัม เฝ้าอยู่ จึงได้ลงไปค้นหาก็เจอบ่อน้ำทิพย์ในวันที่ 10 ธ.ค.51 ทางเจ้าอาวาสวัด จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ พอรุ่งเช้ากบตัวนั้นได้หายไป ทุกวันชาวบ้านจะมาอธิษฐานเพื่อขอน้ำจากบ่อน้ำทิพย์ไปดื่มบางคนก็หายจากโรคภัยไข้เจ็บเป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันจะมีศรัทธาสาธุชนทั่วสารทิศมาสักการะ รอยพระหัตถบาท รอยพระบาทเกือกแก้ว และเอาน้ำจากบ่อน้ำทิพย์ไปดื่มกินไม่ขาดสาย
0 z9 B% j' t+ F- F7 R& B/ Z
# k4 {- l7 o) s( m$ lเจ้าอาวาสวัดเมืองกื้ด เปิดเผยต่ออีกว่า ในครั้งแรกชาวบ้านบางคนไม่เชื่อว่าเป็นรอยพระหัตถ์และรอยพระบาทของพระพุทธเจ้า แต่หลังจากมีข่าวแพร่ออกไปทางด้านหลวงพ่อไชยวัฒน์ อชิโต จากวัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ผู้ที่ทำการศึกษาคิดค้นเกี่ยวกับตำรารอยพระพุทธบาท รอยพระหัตถ์ พระพุทธเจ้า ได้เดินทางมานั่งสมาธิกรรมฐานภายใน เกิดอาการปวดหัวอย่างแรง จึงได้สวดพระพุทธมนต์ และนำน้ำจากบ่อน้ำทิพย์มาดื่มปรากฏว่า หายเฉียบพลัน จึงเกิดความเชื่อว่า เป็นรอยพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้าที่ได้เดินทางมาจารึกไว้ ซึ่งรอยพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้าจะปรากฏน้อยกว่ารอยพระบาท โดยรอยพระหัตถ์ที่พบเป็นรอยพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้าจริงๆนอกจากนั้นทางวัดได้ก่อสร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้นมาหนึ่งองค์บนภูเขา เพื่อเป็นการกราบไหว้สักการะแก่หมู่คนและเทวดา และเพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ต่อไป จึงตั้งชื่อว่า "พระธาตุก้าวหน้ามหามงคลคีรีศรีเมืองกื้ด " เป็นชื่อที่เป็นสิริมงคลใครมากราบไหว้และจะพบแต่ความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป
7 g$ Z& t- T G% \$ R' a$ y
# t& q# G I6 U4 ~6 g2 I3 u3 z
ทางด้านพระปิยะพนธ์ สุนทรปญโญ รองเจ้าอาวาสวัดเมืองกื้ด เปิดเผยว่า สำหรับเมืองกื้ดเป็นเมืองโบราณ ประมาณว่าสร้างขึ้นสมัยเมืองเชียงใหม่ เมืองพร้าว เมืองแหง ประมาณ 700 ปีที่ผ่านมา มีการจารึกไว้ในไม้กระดานเป็นอักษรขอม แต่ปัจจุบันได้หายไป ในยุคสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงทำศึกกับพม่าเพื่อขับไล่ออกไปจากแผ่นดินไทยนั้น ได้มีการปรารภธรรมกับครูบาพรหมมหาปัญญา (ครูบาหน้อย) ในคราวเสด็จไปเมืองแหง โดยพระองค์ทรงปลูกต้นโพธิ์กับครูบาพรหมมหาปัญญาไว้หน้าวัด ในปัจจุบันต้นโพธิ์ยังคงอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับเอกสารจากการศึกษาค้นคว้าของนายชัยยง ไชยศรี อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ได้ศึกษาค้นคว้าทราบว่ากองทัพสมเด็จพระนเรศวร ได้มาพักทัพที่เมืองกื้ด และได้สั่งให้บูรณะวัดเมืองกื้ดด้วย หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2147 พระองค์ได้ยกทัพเสด็จไปเมืองแหงและทรงสวรรคต มีพระชนมายุ 50 พรรษา เมื่อเดือนธันวาคม 51 ที่ผ่านมาทางทีมงานภาพยนตร์เรื่อง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ได้จัดส่งทีมงานติดต่อมาทางวัดเพื่อถ่ายทำเส้นทางการเดินทัพและหนังประวัติศาสตร์สมเด็จพระนเรศวรภาค 3 โดยในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและหาโลเกชั่นเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์.
, o, C b: L; n# l7 ^( c) F+ J" w
อ้างอิงจาก :
http://www.thainews70.com/news/news-head/view.php?topic=136