แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
เจ้าของ: pimnuttapa
go

วัดพระธาตุลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง (รอยพระพุทธบาท , พระเกศาธาตุ ฯ ) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-23 07:17 โดย pimnuttapa


DSC06539.jpg

รูปภาพเจ้านางศรีอโนชา (แม้เจ้าครอกศรีอโนชา) พระนางทรงเป็นพระธิดาของเจ้าฟ้าชายแก้วและเจ้าแม่จันทาเทวี เชื้อสายของพระยาสุละวะฤาไชยสงคราม (ทิพย์ช้าง) ค่ะ



Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-23 07:13 โดย pimnuttapa

  
DSC06535.jpg

สถูปพระอัฐิเจ้านางศรีอโนชา (แม้เจ้าครอกศรีอโนชา) วัดพระธาตุลำปางหลวง ซึ่งพระนางทรงเป็นพระขนิษฐาของพระเจ้ากาวิละ และพระอัครชายาในสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (บุญมา) (ในรัชกาลที่ ๑) ค่ะ



Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-23 07:13 โดย pimnuttapa

  
DSC06534.jpg

รูปเหมือนพระครูมหาเจติยาภิบาล (ถา ถาวโร) วัดพระธาตุลำปางหลวง ค่ะ



Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-23 07:12 โดย pimnuttapa

  
DSC06532.jpg

อนุสาวรีย์พระครูมหาเจติยาภิบาล (ถา ถาวโร) วัดพระธาตุลำปางหลวง ค่ะ



Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-23 07:12 โดย pimnuttapa


DSC06527.jpg

หอบูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์ศรีลังกา วัดพระธาตุลำปางหลวง ค่ะ



Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-23 07:09 โดย pimnuttapa


DSC06529.jpg

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ศรีลังกา วัดพระธาตุลำปางหลวง ค่ะ



Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-23 07:05 โดย pimnuttapa

  
DSC06526.jpg

เดี๋ยวเราจะไปกราบนมัสการพระแก้วมรกตที่อาคารพระแก้วกันต่อเลยนะคะ อย่าพึ่งเหนื่อยกันซะก่อนนะคะ เดินตามมาเลยค่ะ



Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-23 06:56 โดย pimnuttapa

  
DSC06521.jpg

พระพุทธไสยาสน์ ประดิษฐานภายใน วิหารต้นแก้ว วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นพระพุทธรูปประจำตระกูลของเจ้านายฝ่ายเหนือ ซึ่งสร้างจากไม้มงคลยาว ตั้งแต่พระเศียรถึงพระบาท ๗๗ นิ้ว ค่ะ   

บันทึกเรื่องการสมโภชพระพุทธไสยาสน์ (พระเจ้านอน) พระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๐๗ โดย อริยะ เลิศรัตนกร

ใครสร้างพระพุทธไสยาสน์ (หรือพระเจ้านอน) ข้าพเจ้าได้รับคำบอกเล่าจากพระครูสิงหนันทะ อดีตเจ้าคณะแขวงสบยาว ขุนเลิศลำปาง อดีตกำนันตำบลลำปางหลวง ซึ่งทั้งสองได้ถึงแก่มรณภาพ ถึงแก่กรรมไปนานแล้ว ตลอดถึงท่านพระครูถา ถาวโร เจ้าอาวาส ผู้เฒ่าผู้แก่อีกหลายคนว่าพระพุทธไสยาสน์หรือพระเจ้านอน เจ้าทิพช้างเป็นผู้สร้างประมาณ พ.ศ. ๒๒๗๕ เมื่อพระองค์ปราบศึกสงครามแล้วได้ขึ้นครองนคร แต่ด้วยที่ได้ทำบาปฆ่าคนตายมากที่ในวัดหรือนอกวัด มีท้าวมหายศเป็นต้น จึงได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นองค์หนึ่งลักษณะเท่าพระองค์เป็นพระพุทธรูปไสยาสน์ ประดิษฐานอยู่วัดพระธาตุลำปางหลวง

เจ้าทิพช้าง หรือพระองค์เจ้าสุละวะฦาไชยสงคราม ท่านได้ตั้งสัจจอธิษฐานในการสร้าพระพุทธรูปองค์นี้ว่าหากบุญของท่านตลอดถึงราชตระกูลพระองค์ ยังจะรุ่งเรืองอยู่ ขอให้พระพุทธรูปองค์นี้มีวรรณ หากถึงคราวตระกูลจะเสื่อมก็ขอให้พระพุทธรูปองค์นี้มีอันเป็นอันเป็นไป เพื่อให้ลูกหลานในราชตระกูลนี้รู้ จะแก้ไขเสียก่อน

ต่อมาประมาณ พ.ศ. ๒๔๔๖ พระอุระของพระพุทธรูปแตกร้าว ไม้โพธิ์ลังกาเหี่ยว ไม่นานเท่าไรไม้โพธิ์ลังกากลับสดชื่นคืนมาเช่นเดิม ส่วนพระพุทธรูปหม่นหมอง เจ้านายในราชตระกูลไม่ได้เอาใจใส่ เพราะไม่รู้ความเป็นมา ท่านเจ้าอาวาสสมัยนั้นซ่อมแซมพระอุระด้วยผงเกษรดอกไม้ ลงรักปิดทอง ต่อมานานเข้าก็แตกร้าวอีก จนถึงวันที่ ๑๘ กรกฏาคม ๒๕๐๗ เจ้านายในราชตระกูลฝ่ายเหนือ มีพ.ท. พิเศษ พระเพชรคีรีศรีสงคราม เจ้าบุญส่ง ณ ลำปาง เจ้าอินทนนท์ ณ เชียงใหม่ เจ้าแม่ทิพวรรณ์ ณ เชียงตุง และเจ้านายอีกจำนวนมาก ไปทำการซ่อมแซม นำผงดอกไม้หอม ๑๐๘ ชนิด อุดพระอุระที่แตกร้าวสร้างแท่นแก้วใหม่ไว้ที่วิหารต้นแก้ว เหนือวิหารหลวง โดยฝีมือของครูบาถา ถาวโร เจ้าอาวาสอัญเชิญมา แล้วทำพิธีสมโภชพุทธาภิเษกเสียใหม่ โดยเจ้านายผู้เข้าพิธีนุ่งขาวห่มขาวทุกคน พระราชวิสุทธี เจ้าคณะจังหวัดลำปาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระมากพรรษาสวดพุทธาภิเษก ข้าราชกรชั้นผู้ใหญ่ไปร่วมงานพิธีเป็นจำนวนมาก มีพลตรีโสภณ กะราลัย ผู้บัญชาการทหาร พ.ต.อ. สนั่น นรินทร์ ศรศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจ พ.ต.ท. ชูเดช ขนิษฐานนท์ นายสุบิน เกษทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายเฉลิม ถาวรเวช นายอำเภอเมืองลำปาง นอนนั้นมมีพ่อค้าปะชาชนคหบดี ผู้แทนหนังสือพิมพ์เป็นจำนวนมาก

เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น.
ขณะที่พระสงฆ์กำลังสวดอยู่ก็ได้มีพญาหงษ์ทอง ๗ ตัว บินวนเวียนอยู่รอบๆ บริเวณพิธี ประชาชนผู้ร่วมงานต่างสาธุการ และเข้าใจว่าคงจะเป็นวิญญาณของพระเจ้า ๗ ตนมาดูพิธีการ ขอให้ตระกูลเจ้านายฝ่ายเหนือจงเจริญ หลังจากพญาหงษ์ทอง ๗ ตัว บินอยู่พักหนึ่งก็บินหนีไปจากสายตา ทันใดนั้นผู้ที่อยู่ในพิธีก็ต้องขนลุก ด้วยความมหัศจรรย์ใจ เพราะได้มีดวงไฟประหลาดโตขนาดลูกฟุตบอลเปล่งฉัพพรรณรังษี เป็นอภินิหารมี ๗ สี ลอยวนเวียนอยู่นานถึง ๑๕ นาที พุทธศาสนิกชนต่างกราบไหว้บูชาว่า เป็นพระบรมสารีริกธาตุ หลังจากดวงไฟประหลาดหายไปแล้ว ก็ได้มีฝูงผึ้งหลวงบินผ่านมาในบริเวณพิธีอีกน่าอัศจรรย์ยิ่ง

สำหรับวันที่ ๑๘ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๐๗ มีการสวดมนต์ สวดเบิกตลอดคืน วันที่ ๑๗ กรกฏาคม ๒๕๐๗ เวลา ๑๖.๐๐ น. ได้มีพิธีเบิกพระเนตร ครั้นเวลา ๑๕.๐๐ น. ได้มีดวงรัศมีแสงต่างๆ ลอยวนเวียนอยู่เหนือบริเวณพิธีอีกประมาณ ๑๕ นาที ประชาชนพากันกราบไหว้บูชา ขณะที่มีการแห่พระพุทธรูปพระเจ้าทิพช้างไปรอบๆ ขันธสีมา ๙ รอบแล้ว อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนแท่นแก้วที่สร้างขึ้นใหม่ในวิหารต้นแก้ว พระบรมสารีริกธาตุก็ได้แสดงอภินิหารมาเปล่งรัศมีวนเวียนอีกนานประมาณ ๑๕ นาที ก็หายวับไป พอพิธีแห่พระพุทธรูปครบ ๙ รอบ ก็อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนแท่นแก้วใหม่ หลังจากที่เจ้านายฝ่ายเหนือ และศรัทธาชาวบ้านลำปางหลวง พ่อค้าประชาชนข้าราชการได้ร่วมกันบูรณะพระเจ้าทิพช้างและทำพิธีพุทธาภิเษกเรียบร้อยแล้ว ชาวลำปางทั่วๆ ไปต่างกล่าวกันว่า นับแต่วันนี้ต่อไปชาวลำปางและเจ้านายในราชตระกูลฝ่ายเหนือ จะอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ทั้งนี้เพราะดวงพระวิญญาญของพระเจ้าทิพช้าง หรือพระองค์เจ้าพญาสุละวะฦาไชยสงคราม ซึ่งเป็นผู้กอบกู้ล้านนาไทย เป็นต้นตระกูลเจ้า ณ ลำปาง ณ เชียงใหม่ และเชื้อเจ็ดตนได้พ้นจากความห่วงใยที่ว่า ตระกูลเจ้านายฝ่ายเหนือจะเจริญรุ่งเรือง ก็เพราะเจ้านายได้มีความสามัคคีร่วมกันบูรณะพระพุทธรูปประจำตระกูลด้วยความเรียบร้อยและได้ทำการสมโภชน์เป็นประเพณีประจำปี คือวันที่ ๑๘ กรกฏาคมทุกปี ในการบูรณะและสร้างแท่นแก้วใหม่ ตลอดถึงงานพิธี สิ้นเงินประมาณ ๑๕,๐๐๐ บาท




Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 2010-12-23 06:55 โดย pimnuttapa


DSC06520.jpg

ภายใน วิหารต้นแก้ว วัดพระธาตุลำปางหลวง ค่ะ



Rank: 8Rank: 8

แก้ไขล่าสุด pimnuttapa เมื่อ 2009-5-29 08:33  

DSC06493.jpg

วิหารต้นแก้ว วัดพระธาตุลำปางหลวง กว้าง ๓ วา ๑ ศอก ๕ นิ้ว ยาว ๗ วา ๒ ศอก สร้างขึ้นใหม่แทนหลังเก่าเมื่อพ.ศ. ๒๕๑๐ มีผังแบบคล้ายวิหารน้ำแต้ม ไม่ปรากฏผู้สร้าง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ทำจากไม้ขนาดเท่ากับองค์จริงของหนานทิพย์ช้าง เป็นพระพุทธรูปประจำตระกูลของเจ้านายฝ่ายเหนือ คือ ณ.ลำปาง ณ.ลำพูน ณ.เชียงใหม่ และเชื้อเจ็ดตน ค่ะ

‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 04:44 , Processed in 0.045289 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.