แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 22143|ตอบ: 21
go

วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ (พระบรมธาตุเจดีย์ , รอยพระบาทพระโมคคัลลานะ) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_3078.jpg



IMG_3119.JPG



วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ

ม.๓ ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

[พระบรมธาตุเจดีย์ , รอยพระบาทพระมหาโมคคัลลานเถระ]

---------------------


(กำลังรอแก้ไขข้อมูล : ธันวาคม 2567)



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_3012.JPG



IMG_2734.JPG



IMG_2759.JPG



IMG_3154.JPG



การเดินทางไปวัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (ถนนเชียงใหม่-ฮอด) มุ่งหน้าสู่อำเภอจอมทอง ผ่านวัดพระธาตุศรีจอมทอง ประมาณ ๔ กิโลเมตร ผ่านปากทางเข้าวัดโมคคัลลาน ประมาณ ๕๐๐ เมตร ก็จะเห็นถนนทางขึ้นวัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะอยู่ด้านขวามือของถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (เชียงใหม่-ฮอด) ค่ะ


IMG_3153.JPG


ถนนทางขึ้น/ลง วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่อนข้างแคบและชันนิดหน่อยค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_3015.JPG



IMG_3016.JPG



IMG_3017.JPG



บันไดนาคทางขึ้น/ลง วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ มีรูปปั้นสิงห์คู่ประดับบันไดค่ะ


ประวัติการสร้างบันไดนาค


หลวงปู่แก้ว สุทโธ ถือเอาคำพูดที่ชาวบ้านประสบพบเห็นพญานาคราชเลื้อยขึ้นสู่ยอดดอย ท่านจึงได้สร้างบันไดทางขึ้นสู่ดอยโมคคัลลาน์เป็นรูปพญานาคเลื้อยเอาส่วนหัวขึ้น ส่วนหางทอดลงไปยังเชิงดอยต่างจากที่แห่งอื่น ซึ่งเมื่อจัดสร้างบันไดนาค จะทำราวบันไดเป็นรูปพญานาคเอาส่วนหัวดึงลงข้างล่าง ส่วนหางอยู่ด้านบน เป็นสัญลักษณ์พิเศษของบันไดขึ้นดอยโมคคัลลาน์


IMG_3014.JPG



รูปปั้นช้าง อยู่ด้านข้าง บันไดนาคทางขึ้น/ลง วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่ะ



IMG_3024.JPG


IMG_3026.JPG



ทางเดินไปกราบนมัสการพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ซึ่งพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐานอยู่ด้านหลังอาคารค่ะ


IMG_3027.JPG


รูปปั้นเสือคู่ ประดับทางเข้า ด้านข้างอาคาร บนดอยโมคคัลลาน์ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_3067.JPG


IMG_3068.JPG



พระธาตุดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ โดยหลวงปู่แก้ว สุทโธ (สหธรรมิก ผู้เคยธุดงค์กับหลวงปู่ตื้อ ศิษย์ของพระอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต) ได้ธุดงค์ผ่านมา และได้ตั้งสัจจะอธิฐานขอสร้างพระธาตุขึ้นบนดอยแห่งนี้ โดยได้แรงศรัทธาจากชาวบ้านร่วมกันสร้างจนสำเร็จ และตั้งชื่อว่า "พระธาตุดอยโมคคัลลาน"


มาถึงปี พ.ศ.๒๔๗๕ ได้ย้ายสำนักสงฆ์จากยอดดอยมาสร้างวัดที่บ้านหนองเตา ตั้งชื่อวัดเสียใหม่ว่า "วัดโมคคัลลาน" ต่อมาได้เกิดอุทกภัย อาคารต่างๆ ชำรุดเสียหาย จึงได้ทำการย้ายวัดขึ้นไปอยู่บนเนินเขาและได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่จนถึงปัจจุบันค่ะ



IMG_3055.JPG



ตำนานดอยโมคคัลลาน์



ตำนานโบราณจากสมัยดึกดำบรรพ์ มีการจารึกข้อความเกี่ยวกับ “ดอยโมคคัลลาน์” แห่งภาคเหนือสุดของแผ่นดินสยามไว้ดังนี้

“สมัยพุทธกาล เมื่อสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังเสด็จออกโปรดเหล่าเวไนยสัตว์อยู่ในชมพูทวีป พร้อมด้วยพระอรหันตสาวกทั้งหลายที่ร่วมกันเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้ขจรขจาย คราวหนึ่ง พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรวจตราหมู่สัตว์ผู้เข้ามาข้องเกี่ยวอยู่ในพุทธญาณตามพุทธประเพณี พระผู้มีพระภาคเจ้าทอดทัศนาเห็น “พญาอังครัฏฐะ” เจ้าผู้ครองนครอังครัฏฐะ (อำเภอจอมทองในสมัยปัจจุบัน) เป็นผู้ประกอบไปด้วยศรัทธาเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนา บัดนี้พญาอังครัฏฐะมีความประสงค์จะถวายมหาทานแด่พระบรมศาสดา

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสสั่งให้องค์อัครสาวกเบื้องซ้าย “พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า” กับพระอรหันต์ผู้เป็นบริษัทของท่านอีก ๔ รูป มาโดยอากาศ (เหาะ) สู่นครอังครัฏฐะ เพื่ออนุเคราะห์แก่พญาอังครัฏฐะผู้มีศรัทธาแรงกล้า  เมื่อพระเอกอัครสาวกเบื้องซ้าย “พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า” พร้อมด้วยพระอรหันต์อีก ๔ รูป มาถึง ดอยแห่งนี้ อยู่ในอาณาเขตของนครอังครัฏฐะ จึงสำแดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้เป็นที่ประจักษ์ โดยก้าวลงมาจากอากาศเบื้องบน สู่พระบรมมหาราชวังของพญาผู้เป็นใหญ่ ณ นครแห่งนี้

พญาอังครัฏฐะแลเห็นพุทธสาวกเหาะลงมาจากท้องฟ้า นึกอัศจรรย์ใจในฤทธานุภาพเป็นกำลัง เข้าใจว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาด้วยพระองค์เอง รีบออกจากพระราชวังไปกราบอภิวาทวันทา

“เป็นบุญวาสนาเหลือเกิน ที่ข้าพระพุทธเจ้ามีโอกาสได้ถวายสักการะแด่สมเด็จพระบรมศาสดา”

พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า ผู้เป็นเลิศทางอิทธิฤทธิ์ยิ่งกว่าพระอรหันต์ทั้งปวง กล่าวว่า...

อาตมามิใช่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อาตมาเป็นเพียงสาวกของพระองค์ บัดนี้องค์พระศาสดาของอาตมาตรัสสั่งให้มาเพื่อยังความอนุเคราะห์แก่มหาบพิตร”

ทราบดังนั้น พญาอังครัฏฐะก็ยังทรงโสมนัสยินดี เพราะพระมหาโมคคัลลานะเป็นพระอรหันต์ผู้มีศักดิ์ใหญ่ ทรงฤทธานุภาพเหนือโลก จึงอัญเชิญพระเถรเจ้าทั้ง ๕ รูป ไปยังที่นั่งอันสมควร ทรงสมาทานศีล ๘ แล้วถวายภัตตาหารบิณฑบาตแด่พระอรหันต์ทั้ง ๕ องค์

หลังจากฉันภัตตาหารอันมีรสเลิศแล้ว พระมหาเถรเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพญาอังครัฏฐะ ให้พญาผู้เป็นใหญ่แห่งนครนี้ ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการประพฤติธรรมในการปกครองอาณาประชาราษฎร์ แล้วลาพญาอังครัฏฐะไปยัง “ดอยอังคะ สักการะ” (ดอยอินทนนท์) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของนคร

พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า พยากรณ์เหตุการณ์ที่จะอุบัติขึ้นในกาลเบื้องหน้าดังนี้

“เมืองพญาอังครัฏฐะ ต่อไปจากเพลานี้ถึงอนาคตอันยาวไกล จักอุดมด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล จักจำเริญรุ่งเรืองด้วยพระบวรพุทธศาสนาไปตลอดครบ ๕,๐๐๐ ปี”



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_3032.JPG



IMG_3068.JPG



ประวัติพระธาตุดอยโมคคัลลานะ

วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ



ดอยโมคคัลลาน์ ดอยซึ่งครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้า เหาะมาถึงก่อนเข้าสู่นครอังครัฏฐ ปรากฏว่า หลวงปู่แก้ว สุทโธ กล่าวกับเพื่อนสหธรรมิกทั้ง ๒ รูป เป็นที่ล่ำลา “ผมคงได้จำพรรษาที่ดอยแห่งนี้ เพราะถูกกับจริตนิสัยดีกว่าที่แห่งใดซึ่งเคยผ่านๆ มา” หลวงปู่แหวน สุจิณโณ กับ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม จึงแยกจากหลวงปู่แก้ว จาริกธุดงค์ไปสู่ป่าเขาเถื่อนถ้ำแห่งอื่น ส่วนหลวงปู่แก้ว ซึ่งพักจำพรรษาอยู่ที่นั่น เป็นผู้สร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้นบนดอยโมคคัลลาน์ ใช้เวลาก่อสร้างนานร่วม ๑๐ ปี

ช่วงที่หลวงปู่แก้ว สุทโธ เพิ่งปักกลดอยู่บนดอยโมคคัลลาน์ วันเดียวกันนั้น...
เพื่อนของ นายหาญ โพธิฉิม คนบ้านหนองอาบช้าง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ขับรถบรรทุกออกจากอำเภอ “จอมทอง” ไปทางอำเภอ “ฮอด” (เส้นทางไปยังวัดดอยโมคคัลลาน์) ถนนหนทางยุคนั้นพัฒนามาจากทางเกวียนบ้าง ถนนตัดใหม่ยังไม่มีการลาดยางบ้าง รถราบนท้องถนนมีแค่หยิบมือเดียว ความเป็นอยู่ของผู้คนเรียบง่ายไม่เร่งไม่ร้อน

เพื่อนของนายหาญขับรถบรรทุกออกจากอำเภอจอมทองได้ประมาณ ๓ กิโลเมตร (ละแวกดอยโมคคัลลาน์) บรรยากาศบนท้องถนนเงียบสงัดวังเวง ช่วงเวลามืดค่ำไม่มีรถวิ่งไปมานอกจากรถบรรทุกคันนี้ เพื่อนของนายหาญขับรถตามสบายไม่เร่งรีบ ผิวถนนขรุขระให้ความเร็วมาก็ไม่เหมาะ เผลอๆ เครื่องเคราพลอยจะรวนเอาง่ายๆ

ทันใดนั้นเอง...


จากแสงไฟหน้ารถที่สาดแจ่มจ้า มองเห็นเส้นทางข้างหน้าถนัดชัดเจน เพื่อนนายหาญต้องเหยียบเบรคโดยกะทันหัน มองสิ่งที่อยู่กลางถนนอย่างตกตะลึงพรึงเพริด


พญางูยักษ์มีลำตัวใหญ่ขนาดซุงทั้งต้น กำลังเคลื่อนที่เหมือนขบวนรถไฟคดเคี้ยวไปมาอยู่กลางถนนสายนั้น เกล็ดบนลำตัวเป็นสีน้ำเงินปนดำเหมือนสีปีกแมลงภู่ บนศีรษะมีหงอนแดงก่ำเหมือนลูกทับทิม ส่วนหัวของพญางูยักษ์ไม่ผิดอะไรกับเศียรพญานาคที่คุ้นหูคุ้นตา ตามราวบันไดนาคทางขึ้นโบสถ์

รถด่วนขบวนนี้เคลื่อนที่อย่างแช่มช้า บ่ายโฉมหน้าจากฝั่งแม่น้ำปิง มุ่งตรงข้ามถนนทั้งสายเพื่อเลื้อยขึ้นสู่ดอยโมคคัลลาน์ ท่ามกลางความเงียบสงัด มีเพียงเสียงลำตัวมหายักษ์ครูดไปกับกรวดดินทรายดังครึดคราดได้ยินถนัดหู ส่วนหัวหายลับเข้าไปในราวป่าฝั่งเชิงดอย ส่วนหางยังทอดยาวอยู่ในแม่น้ำปิง

เพื่อนนายหาญนั่งประจำตำแหน่งคนขับรถบรรทุก นัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความอัศจรรย์ใจจนบอกไม่ถูก ขนลุกชันไปทั่วร่าง พญางูยักษ์ซึ่งไม่ใช่อื่นไกลนอกจากพญานาคเป็นสิ่งที่เขาเคยอ่านเจอในหนังสือชาดก เคยเห็นเป็นรูปปูนปั้นราวบันไดอยู่ตามวัดวาอาราม ไม่นึกไม่ฝันว่าจะพบเห็นพญานาคราชตัวจริงด้วยสายตาตนเองในคืนนี้ จนกระทั่งร่างมหึมาผ่านพ้นแสงไฟหน้ารถไปแล้ว เพื่อนนายหาญจึงสติสตังกลับคืนมา รีบขับรถไปสู่จุดหมายของเขา

รุ่งขึ้น เพื่อนนายหาญนำเรื่องมหัศจรรย์เกี่ยวกับ พญานาคราชเลื้อยขึ้นจากแม่น้ำปิง มุ่งหน้าขึ้นไปสู่ยอดดอยโมคคัลลาน์ เล่าให้ชาวบ้านแถบอำเภอจอมทองฟัง ชาวบ้านอยากรู้อยากเห็นหลายคน ชักชวนกันตามไปดูบริเวณที่เพื่อนนายหาญเจอพญานาคเลื้อยข้ามถนน เวลานั้นพญานาคเหลือแต่ร่องรอยการเคลื่อนตัวขึ้นไปสู่ยอดดอย ชาวบ้านเหล่านั้นจึงแกะรอยพญางูไปเรื่อยๆ

สุดร่องรอยการเลื้อยคลานของพญางูยักษ์ พวกชาวบ้านพบพระภิกษุสงฆ์ลักษณะสำรวมระวังนั่งเจริญสมาธิอยู่ในกลด รอยพญานาคอันตรธานไม่เหลือหรออย่างน่าฉงน พวกชาวบ้านอำเภอจอมทองจึงพากันเข้าไปกราบนมัสการพระภิกษุรูปนั้น เล่าเรื่องมหัศจรรย์เกี่ยวกับพญานาคเลื้อยขึ้นดอยให้ท่านฟัง ทราบว่าท่านคือ “หลวงปู่แก้ว สุทโธ” เพิ่งจาริกธุดงค์มาถึงบริเวณนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา ชาวบ้านยิ่งคลางแคลงสงสัยหนักเข้าไปอีก ปรารภกับหลวงปู่แก้ว ว่า

“หรือจะเป็นพญานาคผู้ทำหน้าที่เฝ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่บนดอยแห่งนี้”

ชาวบ้านปรารภเช่นนั้น เนื่องจากในตำนาน “พระธาตุจอมทอง” ที่เล่าลือกันมาแต่ครั้งโบร่ำโบราณกล่าวอยู่ว่า

“มีเทพยดาจำนวน ๒ องค์ กับ พญานาคราชผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ๒ ตน ทราบว่ากาลในอนาคตจักมีพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์พระศาสดา มาสถิตเป็นมหามงคลอยู่ที่ดอยจอมทอง” เทพยดาผู้มีอำนาจมากทั้ง ๒ องค์ กับ พญานาคราช ๒ ตน จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ ที่ประทับ ขออาสาเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องดูแลพระธาตุเจดีย์ มิให้เป็นอันตรายไปด้วยเหตุร้ายประการใด...”

ช่วงปัจฉิมวัย หลวงปู่แก้ว สุทโธ ออกธุดงค์อีกเนิ่นนานหลังจากสร้างพระธาตุเจดีย์สำเร็จ ท้ายที่สุดท่านจึงย้ายกลับมาจำพรรษาที่ “วัดดอยโมคคัลลาน์” อบรมพระภิกษุสามเณรตลอดจนศรัทธาญาติโยมทั้งปวงให้รู้จักการรักษาศีล เจริญภาวนา ตามแนวทางของพระอาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_3054.JPG



IMG_3044.JPG



IMG_3045.JPG



พระพุทธรูป ประดิษฐานภายใน ซุ้มจระนำ บนฐานเขียง องค์พระธาตุดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_3093.JPG



IMG_3035.JPG



IMG_3089.JPG



พระพุทธรูป ประดิษฐานภายในศาลา ด้านหน้า พระธาตุดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่ะ



IMG_3040.JPG



IMG_3036.JPG



รอยพระบาทจำลอง ประดิษฐานภายในศาลา ด้านหน้า พระธาตุดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_3042.JPG



IMG_3096.JPG



จุดธูป ถวายดอกบัว ลูกแก้วจักรพรรดิ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และขอโมทนาบุญกับผู้สร้าง ผู้บูรณะ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในบุญกุศล ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปจน ๕๐๐๐ ปี ค่ะ สาธุ สาธุ



IMG_3073.JPG



เดี๋ยวเรามากราบนมัสการพระธาตุดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ พร้อมกันเลยนะคะ
  
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า ๓ จบ)   
        วันทามิ เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเนสุ ปะติฏฐิตา สะรีระธาตุโย เกศาธาตุโย อะระหันตา ธาตุโย เจติยัง คันทะกุฏิง จะตุละสี ติสสะหัสเส ธัมมักขันเธ สัพเพสัง ปาทะเจติยัง อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ ทุระโส อะหังวันทามิ สัพพะทา อะหังวันทามิ สิระสาฯ

ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐ มีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆ ไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆ ที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แด่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้น จงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์ และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ

ั่

บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_3071.JPG



IMG_3079.JPG



IMG_3080.JPG



IMG_3094.JPG



สถูปอัฐิหลวงปู่แก้ว สุทฺโธ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ซึ่งหลวงปู่แก้ว สุทโธ ผู้นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ทั้งทางโลกวัตถุก่อสร้างและทางธรรมการเจริญศีล สมาธิ แนวทางของพระอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านมีอายุขัยยืนยาวนานมาจนถึงปี พ.ศ.๒๕๒๒ จึงมรณภาพเมื่อหมดเหตุปัจจัยปรุงแต่งค่ะ  


IMG_3082.JPG



ประวัติหลวงปู่แก้ว สุทฺโธ


หลวงปู่แก้ว สุทโธ เกิดวันอังคาร เดือน ๑๑ ปีมะโรง พ.ศ.๒๔๓๔ ที่บ้านหนองน่อ ต.หนองน่อ อ.นาแก จ.นครพนม ได้บรรพชาเมื่ออายุได้ ๑๒ ปี ที่วัดบ้านเกิด และได้อุปสมบทเมื่ออายุครบ ๒๑ ปี ที่วัดบ้านเกิด ได้ฉายาว่า สุทฺโธ มีพระอาจารย์มั่น ภูริทัต เป็นพระอาจารย์สอนพระกรรมฐาน หลวงปู่แก้ว สุทโธ มรณภาพเมื่อปี ๒๕๒๒  มีอายุขัย ๘๘ ปี พรรษา ๖๘ พรรษา สิริรวมหลวงปู่แก้ว สุทโธ มีอายุขัย ๘๘ ปี พรรษา ๖๘ พรรษา

ปัจจุบันได้มีศิษย์เก่าของหลวงปู่ได้มาขออนุญาตบูรณะที่เก็บอัฐิหลวงปู่ด้วย การปรับปรุงกระจก ทำฉัตร และทาสีใหม่ทั้งหลังช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๑ ในสมัยพระรัฐพล สุริยเปโม เป็นรักษาการตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๓ จนถึงปัจจุบัน


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_3021.JPG



IMG_3057.JPG



รูปปั้นกุมภัณฑ์ บนดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่ะ


IMG_3028.JPG



รูปปั้นพระนางมัทรี บนดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่ะ


คุณริวโก๊ะ สมาชิกเว็บแดนนิพพาน ได้แจ้งมาว่า "รูปปั้นเทพธิดาก็คือ พระนางมัทรีจะกลับอาศรม เทวดาแปลงกายเป็นสัตว์ร้ายขวางทางใว้กันพระนางจะไปห้ามมิให้พระเวสสันดรทานลูกทั้งสองให้กับชูชก คนปั้นคือ ตุ๊ลุงอินตา วัดสบเตี๊ยะ"


IMG_3029.JPG


รูปปั้นเสือ บนดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่ะ


IMG_3064.JPG



IMG_3056.JPG



IMG_3022.JPG



อาคารเสนาสนะต่างๆ บนดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่ะ



IMG_3020.JPG



IMG_3059.JPG



หอระฆัง บนดอยโมคคัลลานะ วัดพระธาตุดอยโมคคัลลานะ ค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-5 15:40 , Processed in 0.065587 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.