แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 10944|ตอบ: 22
go

วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว บ.แควมะกอก ม.๑ ต.ฮอด อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ (รอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_6445.jpg



วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว

บ.แควมะกอก  ม.๑  ต.ฮอด  อ.ฮอด  จ.เชียงใหม่

[รอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย]



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6064.jpg



IMG_6065.JPG



IMG_6066.jpg



IMG_6067.jpg



IMG_6068.jpg



การเดินทางไปวัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (เชียงใหม่-ฮอด) ระยะทางห่างจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ถึงเขตติดต่ออำเภอจอมทองประมาณ ๘๘ กิโลเมตร ขับรถผ่านแยกหอนาฬิกาอำเภอฮอด ผ่านสถานีตำรวจภูธรฮอด และขับรถตรงไปทางถนนสายอารยธรรมทางหลวงหมายเลข ๑๐๑๒ (ฮอด-บ.วังลุง) ผ่านสามแยกไปอำเภอดอยเต่า ผ่านโรงพยาบาลฮอด และขับรถตรงไปเรื่อยๆ จากเขตติดต่ออำเภอจอมทองถึงวัดพระพุทธบาทแก้วข้าวประมาณ  ๑๐ กิโลเมตร หรือ จากสามแยกไปอำเภอดอยเต่าถึงวัดพระพุทธบาทแก้วข้าวประมาณ ๗ กิโลเมตร ค่ะ


IMG_6403.jpg



IMG_6401.jpg



พอใกล้ถึงวัดพระพุทธบาทแก้วข้าว เราจะเห็น มหาธาตุเจดีย์มังกรทอง เดิมชื่อ พระธาตุดอยจ๊อม องค์สีขาวประดิษฐานบนดอยสูงที่สุดในอำเภอฮอดค่ะ



IMG_6404.jpg



IMG_6405.jpg



IMG_6406.jpg



ทางเข้า/ออก วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว จะอยู่ติด
ถนนสายอารยธรรมทางหลวงหมายเลข ๑๐๑๒ (ฮอด-บ.วังลุง) เราก็ขับรถเลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6409.jpg



IMG_6410.jpg



IMG_6593.jpg



ป้ายชื่อ วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ

วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ตั้งอยู่เลขที่ ๑๘๐ หมู่ที่ ๑ บ้านแควมะกอก ตำบลฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ยกจากวัดร้างขึ้นเป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษาเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๔๔


IMG_6412.jpg



IMG_6413.jpg



รูปปั้นสิงห์คู่ ประดับทางเข้า/ออก วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ


IMG_6414.jpg



เสาไฟหงส์ ประดับทางเข้า/ออก วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6419.jpg



IMG_6579.JPG



IMG_6582.jpg



ขับรถตรงเข้ามาไม่ถึง ๕ นาที ก็ถึงวัดพระพุทธบาทแก้วข้าวแล้วค่ะ


IMG_6417.jpg



IMG_6415.jpg



IMG_6587.jpg



IMG_6586.jpg



บรรยากาศรอบๆ วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ


IMG_6578.jpg



IMG_6535.jpg



บรรยากาศภายใน วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6423.jpg



IMG_6427.jpg



รูปปั้นสิงห์คู่ ประดับประตูทางเข้า/ออก วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ


IMG_6571.jpg



IMG_6568.jpg



วิหารรอยพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ


IMG_6538.jpg



จิตรกรรมฝาผนังรูปพระแม่เจ้าจามเทวี อยู่ข้างประตูทางเข้า/ออกด้านหน้า วิหารรอยพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6513.jpg



IMG_6511.jpg



IMG_6495.jpg



พระพุทธรูป รูปพระสีวลีมหาเถระ และรูปครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ประดิษฐานด้านหน้า รอยพระพุทธบาท ภายใน วิหารรอยพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ


IMG_6516.jpg



รูปครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ประดิษฐานด้านหน้า รอยพระพุทธบาท ภายใน วิหารรอยพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6506.jpg



IMG_6434.jpg



IMG_6439.jpg



รอยพระพุทธบาทแก้วข้าว ประดิษฐานภายใน วิหารรอยพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6445.jpg



IMG_6450.jpg



รอยพระพุทธบาทแก้วข้าว วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว เป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้ายของพระศรีศกายมุนีโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ในมหาภัทรกัป ขนาดกว้าง ๒๔ นิ้ว ยาว ๖๔ นิ้ว ปรากฏในตำนานพระเจ้าเลียบโลกกัณฑ์ที่ ๙ ตรงที่กล่าวถึงพญานาคควักดวงตาถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์พยากรณ์ว่า สถานที่นี้จักได้เป็นเมืองๆ หนึ่ง ชื่อ “มหานคร” สันนิษฐานว่า คือ “เมืองพิสดารนคร” อยู่เขตอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ในปัจจุบัน กว้าง ๑๕๐ วา ยาว ๑๗๕ วา เป็นกำแพงสองชั้นคูเมืองมีน้ำล้อมรอบค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6451.jpg



ตำนานและประวัติพระพุทธบาทแก้วข้าว วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว

(แหล่งที่มา : เอกสารหนังสือตำนานพระพุทธบาทแก้วข้าว วัดพระพุทธบาทแก้วข้าว)


ในอติเตกาเลในกาละ วันเดือนปีผ่านไปแล้วก่อนจะได้นับพ.ศ. คือพุทธกาลเมื่อพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระอรหันต์ตาทั้งหลายก็ได้ไปโปรดพระยาสีสู่ พระยาขุนแสนทอง ยังดอยเกิ้ง แล้วก็ได้เสด็จไปตามลำน้ำปิง พวกชาวบ้านชาวเมืองได้เห็นพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ตาเป็นบริวาร พวกชาวลัวะชาวว้าไม่เคยพบเห็นพระพุทธเจ้ามาก่อนเพราะใส่ผ้าสีดำย้อมฝาด ก็พากันเกิดศรัทธาเลื่อมใส ได้พากันเอาข้าวห่อไปใส่บาตรเป็นทานแก่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ตาเจ้าทั้งหลาย แล้วพระพุทธเจ้าก็ได้ไขผอูปแก้ว คือปากของพระพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ว่าให้พากันรักษาศีลทั้ง ๕ ข้อ สถานที่แห่งนั้นก็เรียกว่า ดอยอูปแก้ว จนถึงปัจจุบัน


แล้วพวกชาวลัวะทั้งหลายก็ได้ทูลบอกแก่พระพุทธเจ้าว่า การทำไร่นาไม่มีน้ำ ต่อไปบ้านเมืองแห่งนี้จึงมีชื่อว่า เมืองฮอดแห้ง จึงได้ให้พระอรหันต์ไปทำกังหันไม้ไผ่วักน้ำใส่นา ชาวบ้านเรียกว่า วงศ์หลุก จะมีมากในวันข้างหน้า จนเรียกสถานที่นั้นว่า วังหลุกหรือวังลุงปัจจุบัน แล้วบอกกับชาวลัวะทั้งหลายให้รักษาศีล ๕ ข้อไว้ ต่อไปจะไม่ได้ทุกข์ลำบาก จะมั่งมีด้วยทรัพย์สมบัติไหลมาเทมา เป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ที่ได้ถวายทานข้าวห่อ

IMG_6453.jpg



ตำนานและประวัติพระพุทธบาทแก้วข้าว (ต่อ)

แล้วจะได้เสด็จไปยังดอยกลอมเป็นดอยจอมปัจจุบัน พระพุทธเจ้าหิวน้ำ ก็ได้ให้พระอานนท์เอาบาตรไปตักน้ำยังวังแก้ว แม่ปิง มีพยานาคได้รักษาเฝ้าดูแลยังวังแก้วที่นั้น พยานาคก็ได้กวนน้ำให้ขุ่นไปหมดทั้งวัง พระอานนท์ก็ได้เอาฝาบาตรมาตักน้ำนั้น พยานาคก็ได้เอาหางไปปัดฝาบาตรให้หลุดจากมือพระอานนท์จมลงวัง ให้พระอานนท์ตกใจ พอมีสติพระอานนท์ก็เอามีดไปตัดเอาเครือเขาเถาวัลย์ เอามาสานเป็นตาข่ายเพื่อเวียนหาเอาฝาบาตรนั้น มีดของพระอานนท์ก็หลุดหล่อนออกจากด้าม พระอานนท์ก็เก็บมีดมาสอดใส่ด้าม เอาด้ามมีดตอกกับก้อนหินเป็นรอยลึกเข้าไปในก้อนหินนั้น กว้าง ๖ นิ้วฟุต ลึก ๖ นิ้วฟุต ได้รักษาไว้อยู่ข้างวิหารด้านใต้แห่งวัดพระพุทธบาทแก้วข้าวถึงทุกวันนี้ อันตาข่ายเครือเขาเครือเถาวัลย์พระอานนท์ก็ได้เอาทิ้งไว้บนฝั่งน้ำปิง มนุษย์ทั้งหลายมาเห็นก็ได้นำไปเรียนแบบในทางหากินเป็นแห จี๊บ จ๋ำ จำมอง มาจนถึงทุกวันนี้

IMG_6458.jpg



ตำนานและประวัติพระพุทธบาทแก้วข้าว (ต่อ)

อหังพระพุทธเจ้าล่วงรู้ด้วยญาณทิพย์ว่าจะได้ไปโปรดพยานาคยังวังแก้วแม่ปิง ได้เสด็จตามหาพระอานนท์ พระอรหันต์ตาก็ได้ติดตามไปด้วย พระอรหันต์ตาได้พับตีนผ้าสบงให้พระอานนท์เห็นปริศนา  พระอานนท์คิดได้ว่าการทำตาข่ายจะต้องมีถุงจึงจะได้ของเข้าไปติดที่ถุงนั้น ฉะนั้นผ้าสบงจีวรของพระภิกษุสงฆ์สามเณรจึงมีรอยพับมาจนถึงทุกวันนี้ อันว่า พระพุทธเจ้าก็ทรงโปรดแก่พยานาค พยานาคก็อ่อนลงหมดแรงดิ้นรน พยานาคยอมแพ้ก็ได้นำน้ำสะอาดบริสุทธิ์มาถวายทานแก่พระพุทธเจ้าและอรหันต์ตาเจ้าทุกรูปทุกองค์ พยานาคได้เกิดศรัทธาเลื่อมใสได้ควักลูกตาทั้งสองถวายทานแก่พระพุทธเจ้าแล้วทูลลาไปยังเมืองบาดาล


ทันใดนั้นก็เกิดปาฏิหาริย์แก่นตาทิพย์เกิดแสงสว่างแจ้งเป็นแสนเท่าแก่พยานาค ได้ยกเอาก้อนหินแสงข้าว ผุดแผ่นดินขึ้นมาใหม่เท่าวาผัดมนขอให้พระพุทธเจ้าเอาเท้าหรือเรียกว่าปาตะตินข้างซ้ายเหยียบย่ำลงไปบนลูกแสงแก้วข้าวนั้น กว้าง ๒๖ นิ้วฟุต ยาว ๖๕ นิ้วฟุต ให้ไว้เป็นที่กราบไหว้แก่มนุษย์และเทวดาตลอดห้าพันวัสสาสืบไป



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6459.jpg



ตำนานและประวัติพระพุทธบาทแก้วข้าว (ต่อ)

อหังอันว่าพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระอรหันต์ตาทั้งหลายก็ได้เสด็จไปยั้งเมืองอังครัฐนคร หรืออำเภอจอมทองปัจจุบัน ล่วงกาลเวลาผ่านไปเมื่อนับพ.ศ.เกิดขึ้นที่วัดพระพุทธบาทแก้วข้าวแห่งนี้ได้พระเถระเจ้าองค์หนึ่งมีชื่อว่า พระมหาธรรมราช ตรงกับพ.ศ.๑๐๐๐ พระธรรมราช ได้มาอยู่จำศีลภาวนา เป็นผู้ที่มีบุญญาธิการมาก ท่านมหาเถระธรรมราชได้สร้างวัตถุบูชายังสารรูปของพระพุทธเจ้าองค์เล็กไว้ห้อยคอ พระมหาเถระธรรมราชก็ได้ตั้งจิตอธิฐานให้สำเร็จคำอธิฐาน ร้อนไปถึงพระพรหมชินนะปัจจะระบนสวรรค์ พระพรหมชินนะปัจจะระได้นำก้อนแก้วมณีโชคมาถวายทานให้ท่านมหาเถระธรรมราช มีหลายสี พระมหาเถระธรรมราชก็ได้ให้ช่างมาแกะสลัก ไม่มีช่างคนไหนแกะได้คำอธิษฐานของพระมหาธรรมราช ร้อนไปถึงพยาอินตาบนสวรรค์ พระยาอินตาก็ได้มอบหมายให้เทวดาประจำวันทั้งเจ็ดปลอมเป็นชีผ้าขาวไปขออนุญาตจากพระมหาธรรมราช

IMG_6460.jpg



ตำนานและประวัติพระพุทธบาทแก้วข้าว (ต่อ)

เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ชีผ้าขาวทั้งเจ็ดคนช่วยกันแกะสลักก้อนแก้วมณีโชคหลากหลายสีองค์ใหญ่เอาบูชาไว้กับบ้านเรือน องค์เล็กเอาห้อยคอ แกะสลักได้เจ็ดวันได้พระรูปแก้วมณีโชค ๘๔๐๐๐ องค์ พระมหาเถระก็ได้ทำพิธีสวดมนต์เทศนาธรรม พระมหาเถระและชีผ้าขาวบอกให้ชาวบ้านทำบอกไฟจุดขึ้นมาบนท้องฟ้าได้ ๑๐๘ ลูก ชีผ้าขาวพากันขึ้นนั่งบนหัวบอกไฟแล้วจุดขึ้นไปบนท้องฟ้าอันกว้าง ชีผ้าขาวก็หายไปในอากาศ ชาวบ้านชาวเมืองหากันแตกตื่นส่งเสียงร้องสาธุ สาธุ สาธุ เป็นโกลาหลทั่วทั้งเมือง

พระมหาเถระทำนายไว้ว่าในข้างหน้าจะได้เป็นมหานครมีนามว่า พิสดารนคร อยู่ต่อมาลุถึงพ.ศ.๑๒๐๐ ปี ก็มีเจ้าแม่จามเทวี มาสร้างเมืองใหม่นามว่า พิสดารนครตามที่พระมหาเถระได้ทำนายไว้แล้ว พระมหาเถระนำเอาพระแก้วมณีโชค ๘๔๐๐ องค์ บรรจุในไห ๕๖ ไห ขุดฝังดินลึก ๗ ศอก ให้พยานาค มีนามว่า พระยาสีเสน เป็นผู้ดูแลรักษา  มาจนถึงสมัยสมเด็จโต พรหมรังสี ได้ออกเดินธุดงค์มาถึงวัดพระพุทธบาทแก้วข้าว หลวงปู่สมเด็จโต พรหมรังสี เอาแก้วมณีโชคไปห้าไห และได้เก็บไว้บนเพดานอุโบสถวัดระฆัง

IMG_6464.jpg



ตำนานและประวัติพระพุทธบาทแก้วข้าว (ต่อ)

อยู่ต่อมาปลายปีพ.ศ.๑๒๐๐ มีข้าศีกพม่ายกทัพทหารมาล้อมรอบเมืองพิสดารนคร ช่วยกันขุดรอยพระพุทธบาทเพื่อยกไปเมืองตองอู พม่า เจ้าแม่จามเทวีรู้ข่าวก็นำอาอาหารจากนครหริภุญชัยมาสู้รบขับไล่ สนามรบคือ แพะดินแดง หรือหมู่บ้านแพะดินแดงปัจจุบัน จนได้ชัยชนะ เจ้าแม่จามเทวีได้นำทหารมาบูรณะซ่อมแซมยังรอยพระพุทธบาท และสิ่งปลูกสร้างทั้งหลายได้คืนดังเดิม แล้วก็ได้สร้างเจดีย์สูง พระเจ้าโท้ เป็นอนุสรณ์สถานประกาศชัยชนะในครั้งนั้น



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 03:35 , Processed in 0.072571 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.