แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 24962|ตอบ: 22
go

สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ (พระเกศาธาตุประดิษฐานอยู่ในถ้ำตอง) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_7791.jpg



สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง

ต.บ้านแปะ  อ.จอมทอง  จ.เชียงใหม่  

[พระเกศาธาตุประดิษฐานอยู่ในถ้ำตอง]



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7635.jpg



IMG_7638.jpg



การเดินทางไปสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (เชียงใหม่ – จอมทอง - ฮอด) ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ๗๖ กิโลเมตร เลยอำเภอจอมทองไปประมาณ ๒๓ กิโล ถ้ามาจากตัวเมืองเชียงใหม่ ทางเข้าวัดจะอยู่ด้านขวามือ กิโลเมตรที่ ๘๒-๘๓ ถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ถ้ามาจากอำเภอฮอด ทางเข้าวัดจะอยู่ด้านซ้ายมือ มีป้ายชื่อ “วัดถ้ำตอง” บอกไว้ชัดเจน ตรงปากทางเข้า/ออก ใกล้สถานีบริการปั้มน้ำมันเอส เอ็น ไอ (SNI) เราก็ขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าไป ระยะทางจากปากทางเข้า/ออกถึงสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง ๓.๕ กิโลเมตร ค่ะ  


การเดินทางไปสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง ดูข้อมูลแผนที่จากเว็บ googleได้ตามลิงค์นี้ค่ะ

https://www.google.com/maps/place/%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%87/@18.2555,98.580015,17z/data=!3m1!4b1!4m2!3m1!1s0x30dba2190181a0e3:0x72b998dc1288f2d?hl=th



IMG_7639.jpg



IMG_7640.jpg



IMG_7641.jpg



IMG_7650.JPG



เราก็ขับรถตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ ๕๐๐ เมตร จะมีป้ายชื่อ “สำนักฯ ถ้ำตอง” ชี้บอกทางเข้าวัดด้านซ้ายมือ เราก็ขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ ๓ กิโลเมตร ก็ถึงสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตองค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7655.jpg



IMG_7657.jpg



IMG_7658.jpg



IMG_7659.jpg



IMG_7808.jpg


พอเราถึงสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง เราก็ขับรถขึ้นไปจอดรถที่ลานจอดรถสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตองค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

h.jpg



a.jpg



IMG_7805.jpg



บรรยากาศภายใน สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7665.jpg



IMG_7668.jpg



IMG_7671.jpg



IMG_7673.jpg



IMG_7675.jpg


เดี๋ยวเราเดินไปถ้ำตอง หรือ สุวรรณคูหา สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง กันเลยนะคะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

k.jpg



IMG_7801.jpg


รูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม และ รูปพญานาค สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง ค่ะ


IMG_7681.jpg


พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยา สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7684.JPG



IMG_7687.JPG



เราก็เดินไปถ้ำตอง หรือ สุวรรณคูหา สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง กันต่อนะคะ การขึ้นถ้ำตองห้ามนุ่งสั้นขึ้นถ้ำ แล้วกรุณาถอดรองเท้าก่อนขึ้นถ้ำ ค่ะ


IMG_7690.JPG



IMG_7693.JPG



IMG_7702.JPG



บันไดทางขึ้น/ลง ถ้ำตอง สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง บันไดล่างนั้น ได้สร้างถวายทานวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๘ ตรงกับเดือนเกี๋ยงเหนือ ขึ้น ๑๓ ค่ำ ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7791.jpg



ถ้ำตอง หรือ สุวรรณคูหา สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง ค่ะ


IMG_7797.jpg




ตำนานความเป็นมาของถ้ำตอง หรือ สุวรรณคูหา



(แหล่งที่มา : นาคฤทธิ์ รวบรวมชำระสะสาง (๒๕๔๐-๒๕๔๕). (๒๕๔๕, ๑ ตุลาคม). พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง (พิมพ์ครั้งที่ ๑). เชียงใหม่: ลานนาการพิมพ์, หน้า ๑๓๓-๑๓๕.)



กล่าวว่า...พระพุทธเจ้าเสด็จไปที่แห่งหนึ่งสูง ๓๐ ศอก (มี ๒ ฉบับว่า ๖๐ ศอก) เป็นภูเขาเล็ก ที่ภูเขานั้นมีหินก้อนหนึ่งหนา ๑ ศอก มีไม้รวก ๓ กอ พระพุทธองค์ทรงประทับนั่งเหนือก้อนหินนั้น ในเวลานั้นมีพ่อค้าลัวะ ๗ คน คนเป็นหัวหน้าชื่อ “อุปลเสน” เขานำเกวียนบรรทุกเกลือทรายไปขาย ได้พักเกวียนเพื่อที่จะกินข้าวในที่นั้น เขาได้เห็นพระพุทธเจ้า ก็บังเกิดความยินดี มีประสงค์ใคร่จะทำบุญด้วยห่อข้าว เมื่อมองดูพระอาทิตย์ก็รู้ว่า “กาลนี้สมควรถวายข้าว” แล้วก็ต่างเอาห่อข้าวของตนทูลถวายแก่พระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงรับเอาแล้วทรงมอบให้แก่พระอรหันต์ทั้งหลายฉัน แล้วแก่พระเจ้าอโศกราชเสวย ทิ้งใบตองห่อข้าวลงไปก็กลับกลายเป็นทองคำทั้งแผ่น

พ่อค้าทั้งหลายมองเห็นเช่นนั้น ก็ยิ่งเพิ่มความเลื่อมใสในพุทธานุภาพ แล้วก็พูดกันว่า “เกลือทรายเราทั้ง ๗ ลำเกวียนนั้น ถวายทานแก่พระพุทธเจ้า ทันทีนั้นเกลือทรายทั้ง ๗ ลำเกวียน ก็กลับกลายเป็นทองคำไปทั้งสิ้น ด้วยพุทธานุภาพ พ่อค้าทั้ง ๗ คน ก็ยิ่งทวีความยินดีมากกว่าเดิม" แล้วพระผู้มีพระภาคทรงตรัสถามว่า “ทรัพย์สมบัติในเรือนท่านไม่มีอะไรเลยเช่นนั้นหรือ” พวกเขากราบทูลว่า “ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรในเรือนของข้าพระองค์เลย พวกข้าพระองค์เป็นคนจนเข็ญใจจึงชวนกันมาค้าเกลือทรายนี้แหละพระเจ้าข้า”  


พระพุทธเจ้าตรัสว่า  “ผิว์มีเช่นนั้น ท่านจงมาที่นี่ ตถาคตจะให้สิ่งของแก่ท่าน” พวกเขาก็เข้ามาอภิวาทพระพุทธองค์ก็ทรงให้ศีล ๕ แก่พวกเขา พวกเขารับเอาแล้วจึงกลับออกมาดูเกวียนก็เห็นทองคำเต็มเกวียนทั้ง ๗ เล่ม พวกเขาก็เกิดปราโมทย์ยินดียิ่งกว่าเดิม กล่าวว่านี้ก็เป็นเพราะพุทธานุภาพทั้งสิ้น

เราทั้งหลายอย่าอยู่เรือนแห่งเราทั้งหลายเลย พระพุทธเจ้าทรงประทานความสุขแก่พวกเราแท้แล “แล้วก็ชักเกวียนไปสู่เรือนของตน เขาก็ได้พบหม้อข้าวหม้อแกง จวัก มีด ถ้วย ชาม ช้อน ขันทั้งสิ้นกลายเป็นทองคำไปทั้งมวล” เขาก็ยิ่งบังเกิดปสาทะศรัทธาในพุทธานุภาพยิ่งขึ้นจึงพูดกันว่า “นี้เป็นเพราะพุทธนุภาพทั้งสิ้น เราทั้งหลายอย่าอยู่เรือนแห่งเราทั้งหลายเลย เราจงออกบวชเถิด” แล้วก็สั่งสอนลูกเมียของเขามอบเวนทรัพย์สมบัติทั้งมวลให้แล้ว ก็กลับมาขอบวชต่อพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ก็ทรงบวชให้เป็นเอหิภิกขุทั้ง ๗ รูปเลยได้ปรากฏชื่อว่า “อุปลเสนเถร”

พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่พวกลัวะทั้งหลาย พวกเขาได้นำเอาอาหารบิณฑบาตมาถวายแก่พระพุทธองค์ เมื่อพระพุทธองค์ทรงเสวยแล้วก็ตรัสว่า สถานที่นี้ดีนักสมควรตั้งศาสนา เมื่อตถาคตมาที่นี้ลัวะทั้งหลายเอาเกลือทรายมาถวาย ประเทศนี้ต่อไปภายภาคหน้าจะได้ชื่อว่า ท่าทราย พระอรหันต์ พระเจ้าอโศกราชและภิกษุทั้ง ๗ รูป ก็กราบทูลขอพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ก็ทรงรับเอาพระหัตถ์ลูบพระเศียรทรงได้พระเกศาธาตุมาหนึ่งองค์ จึงประทานแก่พระอรหันต์และพระเจ้าอโศกราช แล้วตรัสถามว่า ในแถวถิ่นนี้มีถ้ำอยู่ที่ไหนบ้าง พวกเขากราบบังคมทูลว่าในแถวถิ่นนี้ไม่มีถ้ำ พระพุทธองค์ก็ทรงมีพระเมตตาตรัสว่า ตั้งแต่นี้ขึ้นไปทางทิศตะวันตกไกล ๑,๕๐๐ วา ฟากแม่น้ำปิงฝั่งโน้นยังมีถ้ำอยู่แห่งหนึ่งเหมาะมาก ท่านทั้งหลายจงเอาเกศาธาตุของเราไปไว้ในถ้ำนั้นเถิด

พระอรหันต์ พระเจ้าอโศกราช และภิกษุลัวะทั้ง ๗ รูป ก็บรรจุพระเกศาธาตุลงในผอบทองคำ และใส่สิ่งของตลอดถึงทรายคำไว้ในผอบทองคำไว้ในผอบนั้น  แล้วนำไปสู่ถ้ำ ถึงแม่น้ำระมิงค์ (น้ำปิง) ก็พากันข้ามไปจนบรรลุถึงภูเขาสูง ๑,๕๐๐ วา จึงพากันขึ้นไปพบแล้วอัญเชิญพระเกศาธาตุประดิษฐานไว้ในถ้ำทรายคำที่นั้น พระอินทร์ทรงเนรมิตยนต์จักรผันป้องกันไว้ในถ้ำนั้นลึกได้ ๕๐๐ วา กว้างได้ ๕๐๐ วา (สุวรรณคูหา ถ้ำตอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่) ถ้ำนี้จึงมีชื่อว่า ถ้ำทรายคำ หรือ ถ้ำทอง นั่นเอง



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7737.JPG



c.jpg



ภายใน ถ้ำตอง สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง พบกับอักษรธรรมโบราณ ๑๖ ผูก พร้อมกับตู้บรรจุคัมภีร์ในลานจำนวนมาก แต่ได้สูญหายไปเกือบหมดแล้ว ซึ่งตรงกับพุทธตำนานที่กล่าวไว้ว่า ภายในสุวรรณคูหาหรือถ้ำตองแห่งนี้เป็นที่เก็บพระไตรปิฎก และเนื่องจากมีคนขโมยขุดของในถ้ำมานานแล้ว ได้ผอบพระธาตุ ๒ ผอบ ภายหลังได้ถวายให้ครูบาสุรินทร์ วัดศรีเตี้ย บรรจุพระเจดีย์ไว้แล้ว

ส่วนพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ประดิษฐานภายในถ้ำตองตามตำนาน ข้าพเจ้าได้สอบถามจากผู้มีพระคุณในโลกวิญญาณ ท่านได้เมตตาบอกว่า “ถ้ำตองแห่งนี้ยังคงมีพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ในถ้ำแห่งนี้” ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7716.JPG



จุดธูป ถวายลูกแก้วจักรพรรดิ เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา  และขอโมทนาบุญกับผู้สร้าง ผู้บูรณะ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในบุญกุศล ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปจน ๕๐๐๐ ปี ค่ะ สาธุ สาธุ


b.jpg



เดี๋ยวเรามากราบนมัสการพระเกศาธาตุที่ประดิษฐานภายใน ถ้ำตอง สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง พร้อมกันเลยนะคะ

(กล่าวนะโม ๓ จบ)  วันทามิ  เจติยัง  สัพพัง  สัพพัฏฐาเนสุ  ปะติฏฐิตา  สะรีระธาตุโย  เกศาธาตุโย  อะระหันตา  ธาตุโย  เจติยัง  คันทะกุฏิง  จะตุละสี  ติสสะหิสเส  ธัมมักขันเธ  สัพเพสัง  ปาทะเจติยัง  อะหังวันทามิ  ธาตุโย  วันทามิทุระโส  อะหังวันทามิ สัพพะทา  อะหัง  วันทามิ  สิระสา ฯ

ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆ ที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แต่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 02:32 , Processed in 0.048119 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.