แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 7613|ตอบ: 19
go

รอยพระพุทธบาทรังรุ้ง บ.แม่ป่าไผ่ ม.๕ ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_8211.jpg



IMG_8178.jpg



รอยพระพุทธบาทรังรุ้ง

บ.แม่ป่าไผ่  ม.๕  ต.นาคอเรือ  อ.ฮอด  จ.เชียงใหม่

(รอยพระพุทธบาทคู่เบื้องขวาและเบื้องซ้าย)



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_6064.JPG



IMG_6065.JPG



IMG_6066.jpg



IMG_6067.jpg



IMG_6068.jpg



การเดินทางไปนมัสการรอยพระพุทธบาทรังรุ้ง ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๘ (เชียงใหม่ – ฮอด) ระยะทางห่างจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ถึงเขตติดต่ออำเภอจอมทองประมาณ ๘๘ กิโลเมตร ขับรถผ่านแยกหอนาฬิกาอำเภอฮอด และขับรถตรงไปทางถนนสายอารยธรรมหลวงหมายเลข ๑๐๑๒ (ฮอด - บ.วังลุง) ผ่านสามแยกไปอำเภอดอยเต่า ผ่านวัดพระเจ้าโท้ ขับรถมุ่งหน้าสู่ทางทิศใต้ของอำเภอฮอด ใช้เส้นทางหลวงชนบทสายบ้านวังลุง  ตำบลฮอด – บ้านแม่ป่าไผ่  ตำบลนาคอเรือ ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8114.jpg



IMG_8118.jpg



IMG_8125.jpg



IMG_8127.jpg



ขับรถผ่าน ปากทางเข้า/ออก บ้านเด่น หมู่ ๗ ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ด้านซ้ายของถนนทางหลวงชนบทสายบ้านวังลุง  ตำบลฮอด – บ้านแม่ป่าไผ่  ตำบลนาคอเรือ และขับรถตรงไปทางที่ว่าการองค์การบริหารส่วนตำบลนาคอเรือค่ะ


IMG_8131.jpg



IMG_8128.jpg



หลังจากนั้น เราจะเจอ ปากทางเข้า/ออก รอยพระพุทธบาทรังรุ้ง อยู่ด้านซ้ายของทางหลวงชนบทสายบ้านวังลุง  ตำบลฮอด – บ้านแม่ป่าไผ่  ตำบลนาคอเรือ ซึ่งมีป้ายชี้ทางไปพระบาท ๕ รอย ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับไปรอยพระพุทธบาทรังรุ้ง แต่รอยพระพุทธบาทรังรุ้งจะถึงก่อนพระบาท ๕ รอย ระยะทางจากตัวเมืองอำเภอฮอดถึงปากทางเข้า/ออก รอยพระพุทธบาทรังรุ้ง ประมาณ ๒๐ กว่ากิโลเมตร ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8133.jpg



IMG_8134.jpg



เราก็ขับรถเลี้ยวซ้ายตามป้ายชี้ทางไปพระบาท ๕ รอย และขับรถตรงไปเรื่อยๆ สภาพถนนจะเป็นถนนลูกรังค่ะ


IMG_8135.jpg



IMG_8140.jpg



IMG_8142.jpg



ต่อจากนั้น เราจะเจอถนนทางแยก ให้เราขับรถเลี้ยวซ้ายตาม ป้ายชี้ทางไปพระพุทธบาทไชยะมังคละจอมโลกหล้าโมฬี หรือ รอยพระพุทธบาทรังรุ้ง และพระพุทธบาทเกือกแก้ว ค่ะ


IMG_8143.jpg



IMG_8144.jpg



IMG_8145.jpg



IMG_8148.jpg



IMG_8149.jpg



หลังจากนั้นเราก็ขับรถตรงเข้าไปในป่าเรื่อยๆ จนเจอ ป้ายชี้ทางไปรอยพระพุทธบาทฮังฮุ้ง (รังรุ้ง) เราก็ขับรถเลี้ยวซ้ายอีกทีค่ะ




บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8150.jpg



IMG_8153.jpg



IMG_8161.jpg



IMG_8162.jpg



IMG_8203.jpg



ขับรถตรงเข้ามาในป่าประมาณ ๕ นาที เราก็จอดรถไว้บริเวณนี้ แล้วเดินเท้าเลี้ยวขวาเข้าไปในป่า จะเจอวิหารครอบรอยพระพุทธบาทรังรุ้งค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

f.jpg



wihan.jpg



IMG_8367.jpg



วิหารครอบรอยพระพุทธบาทรังรุ้ง ค่ะ


IMG_8166.jpg



เดี๋ยวเราเข้าไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทรังรุ้งภายในวิหารกันเลยนะคะ




บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8244.jpg



ภายใน วิหารครอบรอยพระพุทธบาทรังรุ้ง ค่ะ


IMG_8223.jpg



พระพุทธรูป ประดิษฐานภายใน วิหารครอบรอยพระพุทธบาทรังรุ้ง ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8226.jpg



IMG_8204.jpg



รอยพระพุทธบาทรังรุ้ง ประดิษฐานภายใน วิหารครอบรอยพระพุทธบาทรังรุ้ง เดิมเป็นรอยพระุพุทธบาทเกือกแก้วเบื้องขวา ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ถูกตกแต่งและก่อปูนเสริมเรียบร้อยแล้ว รอยลึกประมาณสี่นิ้วมือขวาง กว้าง ๒.๕ คืบ ยาว ๓ ศอก ครูบาบุญศรี อภิปุณฺโณ ได้สร้างวิหารครอบรอยพระุุพุทธบาท เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๔๒ ค่ะ


IMG_8215.jpg



ข้าพเจ้าได้สอบถามผู้พระคุณในโลกวิญญาณ ท่านได้เมตตาบอกว่า “รอยพระพุทธบาทรังรุ้ง เป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เป็นรอยพระพุทธบาทที่พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงได้ประทานให้กับพญานาค” ค่ะ



IMG_8250.jpg



ตำนานรอยพระพุทธบาทรังรุ้ง

(แหล่งที่มา : นาคฤทธิ์ รวบรวมชำระสะสาง (๒๕๔๐-๒๕๔๕). (๒๕๔๕, ๑ ตุลาคม). พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง (พิมพ์ครั้งที่ ๑). เชียงใหม่ : ลานนาการพิมพ์, หน้า ๑๔๗-๑๔๘.)



กล่าวว่า พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่ดอยเกิ้งนั้นนานได้ ๗ วัน ก็เสด็จลงจากยอดภูเขาลูกนั้น ดำเนินไปตามราวป่าแห่งหนึ่งเสด็จลงสู่แม่น้ำระมิงค์ แล้วเสด็จเลียบไปตามฝั่งแม่น้ำขึ้นไปทางทิศเหนือเป็นระยะทางประมาณ ๑๐,๐๐๐ วา ทรงพบลัวะคนหนึ่งกำลังสร้างระหัดพัดน้ำขึ้นใส่นาปลังอยู่ (ศัพท์นาปลังคือ นาดอ, นาเจียง) ลัวะผู้นั้น พอเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จมาก็รีบแก้ผ้าโพกศีรษะออกมาเช็ดพระบาทของพระพุทธองค์ แล้วกลับเอาโพกหัวตามเดิมเมื่อเอาผ้าเช็ดพระบาทแล้ว ผ้าผืนนั้นก็กลายเป็นทองคำไปทั้งผืนก็บังเกิดความยินดียิ่ง แล้วเอาโพกหัวตามเดิม จึงกราบทูลอาราธนาว่า “ข้าแด่พระองค์ผู้เจริญขออาราธนานิมนต์ประทับอยู่โปรดเมตตาข้าพระองค์ในที่นี้ก่อนเถิด” พระพุทธเจ้าก็เสด็จประทับเหนือภูเขาลูกหนึ่งมีอยู่ทิศตะวันตกบ้านลัวะที่นั้น (ดอยอูปธาตุ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่)


ส่วนลัวะผู้นั้นก็รีบวิ่งไปหุงข้าวทำอาหารอย่างละ ๒ หม้อ คือข้าว ๒ หม้อ แกง ๒ หม้อในบัดดลนั้นข้าวและแกงอย่างละ ๒ หม้อนั้น ก็กลับกลายเป็นข้าวทิพย์และแกงทิพย์นำมาถวายแก่พระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธองค์เสวยแล้วข้าวและแกงก็เหลือแม้ถวายแก่พระอรหันต์ทั้งหลายก็เหลือเมื่อพระพุทธองค์เสวยและพระอรหันต์ทั้งหลายฉันแล้วพระเจ้าอโศกราชจึงตรัสแก่ลัวะผู้นั้นว่า “ดูรา ขุนหลวงท่านมาสร้างระหัดพัดน้ำขึ้นใส่นาปลังนั้น ไม่ต้องทำให้ลำบากใจเลยท่านจงสมาทานเอาศีลจากพระพุทธเจ้าเถิด ข้าวของสมบัติที่ท่านจะกินจะบริโภคจะต้องเกิดมีอย่างมากมายเป็นแน่แท้” ลัวะผู้นั้นก็เข้ามากราบสมาทานเบญจศีลจากพระพุทธเจ้า


พระพุทธองค์ก็ทรงประทานเบญจศีลให้เมื่อลัวะผู้นั้นรับเบญจศีลแล้ว ก็กราบอำลาคืนสู่เรือนตนเมื่อถึงเรือนแล้ว ก็เห็นสิ่งของทุกสิ่งในเรือนกลับกลายเป็นทองคำไปสิ้นจึงรำพึงว่า “แต่ก่อนเราทำนาเกือบตายยังไม่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง วันนี้เรารับศีลจากพระพุทธเจ้าแล้วกลับจากเรือน สิ่งของอันใดก็กลายเป็นทองคำไปสิ้น ศีลของพระพุทธเจ้านี้ประเสริฐแม้เราจะรักษาตลอดชีวิตของเราแล”


สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหลังจากทรงให้ศีลแก่ลัวะผู้นั้นแล จึงตรัสแก่พระอรหันต์ทั้งหลายว่า “ดูราภิกษุทั้งหลายในเมื่อตถาคตมาถึงที่นี้ พบลัวะกำลังทำระหัดพัดน้ำขึ้นใส่น้ำ เมื่อถามแล้วลัวะก็ตอบว่า “สถานที่นี้แห้งหอดด้วยน้ำใช้ทำนาจึงต้องทำระหัดพัดน้ำใส่นา” ต่อไปภายหน้าเมืองนี้จะได้ชื่อว่า“เมืองหอดน้ำ” (หอด แปลว่า แห้งแล้ง,โหยหิว ปัจจุบันนี้เป็นอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่)


เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์จบแล้วพระอรหันต์ทั้งหลายและพระเจ้าอโศกราชจึงกราบทูลว่า “ข้าแด่พระองค์ผู้เจริญ ฐานะที่นี้ดียิ่งสมควรตั้งพระศาสนาไว้แห่งหนึ่ง ขอพระองค์ทรงมีพระเมตตาไว้พระเกศาธาตุเถิดพระพุทธองค์ตรัสว่า “ดูราภิกษุทั้งหลายฐานะที่นี้ไม่มีถ้ำช่องเขา ไม่สมควรจะไว้ธาตุ” แล้วพระพุทธองค์ก็เสด็จลุกจากที่นั้นเสด็จไปตามฝั่งแม่น้ำระมิงค์ขึ้นไปทางทิศเหนือไกลประมาณ ๑,๐๐๐ วา ก็ทรงพบหินก้อนหนึ่งรูปร่างเหมือนเต่าพระพุทธองค์ก็ทรงประทับนั่งเหนือก้อนหินก้อนนั้น ในกาลนั้น มีพญานาคตนหนึ่งออกจากที่อยู่แห่งตนเข้ามาอภิวาทพระพุทธเจ้า


เมื่อนั้นพระอรหันต์ พระเจ้าอโศกราช และพญานาค ก็ช่วยกันกราบทูลว่า “ข้าแด่พระพุทธองค์ผู้เจริญ ฐานะที่นี่ควรตั้งศาสนาไว้พระธาตุแท้แล” พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า “ฐานะที่นี้ไม่มีถ้ำไม่ควรไว้ธาตุ” จึงกราบทูลต่อไปว่า “แม้นว่าพระองค์ไม่ทรงไว้พระธาตุในสถานที่นี้ขอทรงพระกรุณาไว้รอยพระบาทเถิด” เมื่อกราบทูลแล้วพระพุทธเจ้าก็เสด็จไปทรงเหยียบรอยพระบาทไว้เหนือก้อนก้อนนั้นมีรอยลึกประมาณสี่นิ้วมือขวาง (ฝ่ามือตะแคง)ไว้เป็นที่สักการบูชาแก่คนและเทวดาทั้งหลายแล



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8


IMG_8237.jpg



IMG_8234.jpg



รูปปั้นพญานาค ล้อมรอบ รอยพระพุทธบาทรังรุ้ง ภายใน วิหารครอบรอยพระพุทธบาทรังรุ้ง ค่ะ


IMG_8343.jpg



IMG_8333.jpg



จุดธูป เทียน ถวายดอกบัว ดอกมะลิ  ลูกแก้วจักรพรรดิ พรมน้ำอบ ปิดทอง เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และขอโมทนาบุญกับผู้สร้าง ผู้บูรณะ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในบุญกุศล ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาสืบต่อไปจน ๕๐๐๐ ปี ค่ะ สาธุ สาธุ




บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8249.jpg



เดี๋ยวเรามากราบนมัสการรอยพระพุทธบาทรังรุ้ง พร้อมกันเลยนะคะ

(กล่าวนะโม ๓ จบ)  พระพุทธบาทะ  ยัง  ตัตถะ  โยนะกะปุเร  มุนิโร  จะปาทัง  ตัง  ปาทะวะลัญชะ  นะมะหัง  สิระสา  นะมามิ


IMG_8325.jpg


ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆ ที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แต่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากทุกข์และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 06:40 , Processed in 0.055741 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.