| (บางส่วนจากหนังสือ) ประสบการณ์วิญญาณและการอุทิศบุญของคนธรรมดา
ธรรมทาน
บทความเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของการศึกษาความรู้ทางพุทธศาสนา เนื่องจากผู้เขียนฉุกคิดถึงคำสอนของพระพุทธศาสนา เรื่องความไม่เที่ยงทุกคนเกิดมาต้องตาย คำถามในใจมันเกิดขึ้นมาว่าเมื่อเราตายไปแล้วเราจะเป็นอะไรต่อ พุทธศาสนาสอนถึงภพภูมิต่างๆ มีทั้ง พรหม เทวดา มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน นรก ถ้ามีอยู่จริงเราจะไปอยู่ที่ไหนขึ้นอยู่กับกรรมดี กรรมชั่วที่เราทำไว้ในปัจจุบัน
พุทธศาสนาสอนให้เราสร้างบุญความดี ในช่วงที่มีชีวิตอยู่พยายามหลีกเลี่ยงการทำชั่ว ซึ่งพุทธศาสนาสอนถึงเรื่องวิญญาณ, นรก, สวรรค์, นิพพานมีจริง บุญบาปมีผลต่อเราจริง
1. พิสูจน์วิญญาณ
วิญญาณหรือที่คนเราเรียกว่า ผี มีจริงหรือ เมื่ออายุ 17 ปี มีอาคนหนึ่งที่ผมนับถือให้กุมารทองผมมาเลี้ยงไว้ ผมก็ไม่รู้ว่าในขวดนี้มีวิญญาณกุมารทองอยู่จริงไหม พอดีรู้จากเพื่อนว่ามีลุงคนหนึ่งชื่อทองคำ ท่านตรวจสอบด้วยสมาธิได้ ผมจึงเอากุมารไปให้ท่านดู ท่านจับอยู่ครู่หนึ่ง แล้วบอกว่ามีกุมารอยู่จริง ผมก็รับฟังแต่ก็ไม่สามารถรู้ชัดแจ้งได้ พอดีลูกชายของลุงทองคำ เขามีสมาธิดีสามารถให้กุมารทองเข้าทรงได้ จึงลองให้เข้าทรงกุมารทองของผมดู ปรากฏว่าพอกุมารเข้าทรงร่าง ร่างกายเขาสั่นตลอดเวลา แต่สามารถพูดคุยกับผมเป็นเสียงเด็ก คุยกันเรื่องส่วนตัวของผม ที่ผู้ทรงอยู่เขาไม่รู้เรื่องด้วยได้จริง ความเชื่อเรื่องวิญญาณก็มีมากขึ้น ภายหลังผมได้ทั้งรักยม และกุมารมาอยู่ด้วยจำนวนมาก เวลากินข้าวต้องเรียกกินด้วยทุกครั้ง บางครั้งนอนพอใกล้จะหลับจิตตกภวังค์ จะมีมือเล็กๆ มาจับขาหรือสะกิดเป็นประจำจนชิน ตอนนี้มั่นใจมากว่าวิญญาณมีจริง
ผมนำกุมารและรักยมจำนวนหนึ่งไปไว้ที่บ้านพ่อแม่ ที่สิงห์บุรีบอกท่านว่าเอามาช่วยเฝ้าบ้าน ท่านเองก็ฟังแต่ไม่เชื่อไม่สนใจ ตกกลางคืน กุมาร รักยมวิ่งเล่นกันในบ้านได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นตัวพอแม่ผมนอนหลับจะมีเด็กๆ เข้ามานั่งทับอกกวนไม่ให้นอน ผลปรากฏว่าทั้งพ่อ แม่ เชื่อสนิทเลย และช่วยผมเลี้ยงเด็กๆ เหล่านี้ เพราะผมไม่ได้อยู่บ้านกับท่าน เวลามีคนมาเรียกหาพ่อแม่ผม ยามที่ไม่มีคนอยู่บ้าน จะมีเสียงคนในบ้านรับปากแทน ยามค่ำๆ คนแถวนั้นจะเห็นเด็กๆ วิ่งเล่นอยู่ในบ้านหลายคน ที่รู้เพราะเขามาบอกให้ฟัง เพราะสงสัยว่าเด็กๆ มาจากไหนกัน
วิญญาณเหล่านี้มาอยู่กับผม โดยผมเองรู้วิธีเลี้ยงเขาด้วยการเรียกกินด้วยกัน แต่พอมามีความรู้เรื่องวิธีการให้บุญปัจจุบัน เด็กๆ เหล่านี้ได้รับบุญตลอด และเขาเหล่านั้นปฏิบัติธรรมจนสภาพวิญญาณเขาเปลี่ยนเป็นเทพกุมารหมดแล้ว อาคมที่สร้างปลุกเสกเขามาหมดสภาพควบคุมเด็กเหล่านั้น แต่เด็กเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ไปไหน คอยอยู่ช่วยงานกับผม
2. พิสูจน์นรกสวรรค์
นรกสวรรค์มีจริงหรือ เราพิสูจน์ด้วยตาเนื้อไม่ได้หรอก ต้องพิสูจน์ด้วยตาใน คือดวงตาจากสมาธิ ผมพยายามพิสูจน์ด้วยวิธีการต่างๆ มามาก แต่ไม่สำเร็จ คือไม่เห็น ได้แต่คุยกับวิญญาณด้วยวิธีเข้าทรง, ผีถ้วยแก้ว จนกระทั่งผมได้อ่านหนังสือของหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ท่านสอนเรื่องการฝึกสมาธิเพื่อพิสูจน์โลกวิญญาณ ผมได้ทดลองฝึกกับครูฝึกที่วัดปรากฏว่าครั้งแรกไม่รู้เรื่องเลย นั่งเพ่งจนปวดลูกตาก็ไม่เห็นอะไรเลย กลับบ้านด้วยความผิดหวัง แต่ไม่ยอมท้อถอย ลองศึกษาวิธีการของหลวงพ่อวัดท่าซุง คำอธิบายต่าง ๆ พยายามทำความเข้าใจ และลองไปฝึกที่วัดต่ออีก 6 ครั้ง ปรากฏว่าครั้งสุดท้ายผมเริ่มเข้าใจการวางจิตพุ่งจิต ปรากฏว่าผมเห็นว่าตัวผมได้ขึ้นไปที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้ไปกราบพระอินทร์และแม่ศรี แต่การเห็นยังไม่ค่อยชัดเจนนัก ทันใดนั้นก็มีนางฟ้าท่านหนึ่งวิ่งเข้ามาหาผมด้วยอาการดีใจ พอมาถึงผมก็เปลี่ยนสภาพร่างกายที่นุ่งผ้าถุงมีสไบเฉียง อายุประมาณ 16 – 17 ปี กลายร่างเป็นยายของผมที่ชื่อยายจำปา ซึ่งท่านเสียชีวิตไปประมาณ 5 ปีแล้ว ตอนท่านจะสิ้นใจ ท่านพุทโธจนหมดลมหายใจ ด้วยความดีใจที่ได้พบยาย ทำให้จิตผมหลุดจากสมาธิ ร่วงลงมาที่ร่างที่นั่งอยู่ที่วิหาร 100 เมตร วัดท่าซุง พยายามรวมสมาธิเพื่อขึ้นไปใหม่ แต่ก็ไม่สำเร็จ พอหมดเวลาสอนสมาธิ ผมขออนุญาตครูฝึก ขอถามปัญหาและการวางจิต ตัวต่อตัว ครูฝึกท่านเลยสอนการวางจิตและให้พุ่งมองลงไปที่นรก พอผมทำจิตตามอย่างเต็มที่ปรากฏว่าผมเห็นภาพของกะทะทองแดงด้วยความทรมานและเห็นนายนิรยบาลกำลังกรอกน้ำทองแดงให้สัตว์นรกอยู่ การเห็นเกิดขึ้นชั่วขณะจิตผมก็ตกจากสมาธิด้วยความตื่นเต้นและสังเวช หลังจากกลับจากวัดผมพยายามฝึกเองหลายครั้ง แต่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ จนจับเคล็ดว่าตอนเราตื่นนอนกลางดึกจิตเรายังอยู่ในภวังค์ แต่มีสติลองใช้เวลานี้ทำสมาธิ เพื่อพิสูจน์โลกวิญญาณดู เห็นท่าจะดี พอทดลองปรากฏว่าได้ผลดี จิตรวมได้ดี สามารถเห็นโลกวิญญาณที่เราต้องการไปดูได้ และไม่ต้องกลัวอะไร เพราะเราอาศัยบารมีพระพุทธเจ้าไปกับเรา
สรุปแล้วผลการพิสูจน์โลกวิญญาณ ส่วนหนึ่งที่ผมประสพมานี้ ทำให้ผมเชื่อโดยสนิทใจว่าวิญญาณ, นรก, สวรรค์, นิพพานมีจริง แต่จะพิสูจน์ด้วยตาเนื้อไม่ได้ ต้องใช้สมาธิปรับคลื่นจิตของเราให้ละเอียด จนสามารถสื่อสารตรงกับโลกวิญญาณได้ ก็จะสามารถพิสูจน์โลกวิญญาณได้เอง ผมเองการเห็นการรู้ยังไม่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากกิเลสยังมีมาก แต่ผู้หนึ่งที่ไปฝึกด้วยกัน เขาเห็นชัดเท่าลืมตาและพูดคุยสื่อสารกันได้เลย ทั้งๆ ที่ไปฝึกเพียงครั้งแรก และเมื่อกลับมาอยู่บ้าน บุคคลผู้นี้ทดลองดูก็สามารถติดต่อโลกวิญญาณได้ภายใน 10 วินาที ซึ่งเป็นผลบุญปฏิบัติในอดีตชาติของเขาเองที่ส่งผลต่อเนื่องมาในปัจจุบัน เรื่องอย่างนี้แข่งกันไม่ได้ เพราะผลบุญแต่อดีตทำมาไม่เท่ากัน ท่านใดอยากพิสูจน์โลกวิญญาณต้องลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง จะพิสูจน์ได้เอง เมื่อพบเห็นแล้วจะไม่กล้าทำบาปเลย จะมุ่งแต่ทำบุญสร้างบารมี เพื่อหนีนรกไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นจนถึงพระนิพพาน และเมื่อทำจนพร้อมแล้วจะไม่กลัวความตาย ไม่กลัวผี เพราะรู้เรื่องดีแล้ว
| |