8..........เรื่องเล่าจากผู้ที่ปฏิบัติเองที่บ้านและส่งอารมณ์กับท่านทางโทรศัพท์
แม่ชีเกณฑ์ท่านสอนให้เราคลายทุกข์ด้วยวิธีง่ายๆคือชี้ให้เห็นการเกิดดับ เราเดินจงกรมตามปกติไม่มีคำบริกรรมท่านสอนเดินให้ช้าลง ขายกขึ้นแล้วหยุด ไปต่อแล้วหยุด ท่านเน้นให้การรับรู้การหยุดและการไปของขาเกิดขึ้นในขณะเดียวกัน เราเห็นความคิดเกิดขึ้นแล้วดับไป ใจที่สั่งให้ไปเกิดขึ้นแล้วดับ เรารอให้คำสั่งดับไปก่อนแล้วเราจึงก้าวขาเพื่อให้การรับรู้กับขาที่ก้าวเกิดขึ้นพร้อมๆกัน เราเห็นการรับรู้เกิดขึ้นขณะก้าวเท้าแล้วดับลงขณะที่หยุดเท้าในแต่ละจังหวะ เกิดดับๆอยู่อย่างนั้น ใจรู้สึกเย็นขณะที่เท้าหยุดพอความคิดเกิดขึ้นเราหยุดค้างไว้เราเห็นความคิดดับ เราลืมเรื่องทุกข์ใจหมดเสียสิ้นขณะเดินจงกรม ค่อยๆถอนวันละนิดจนเหลือน้อยมาก
ท่านมีคำถามให้เราฉุกคิดด้วย ท่านถามว่าเสียงมาหาหูหรือหูไปหาเสียง ตั้งแต่นั้นเราสังเกตการได้ยินเสียงของหูเพื่อหาคำตอบนี้ให้แน่ใจโดยที่เราไม่รู้ตัวเองเลยว่าลืมเรื่องที่ทุกข์ใจอยู่ เราตอบท่านว่าพอได้ยินเสียงใจก็วิ่งไปที่เสียงนั้นท่านบอกให้กลับไปดูให้ดี เรากลับไปดูใหม่แล้วพบว่าหูเป็นแค่ทางผ่านของเสียงไม่อาจเลือกฟังแต่เสียงที่ถูกใจได้ เราพบว่าใจนี่แหละเป็นผู้ที่เข้าไปรับรู้ การได้ยินเกิดขึ้นที่หูรับรู้แล้วก็ดับ ไปรับรู้เสียงใหม่อีกไม่มีเสียงไหนค้างอยู่ได้นานเสียงทุกเสียงเกิดแล้วดับอยู่อย่างนั้น เรารู้แล้วว่าการได้ยินเกิดขึ้นที่หูไม่ต้องส่งใจไปไว้ที่ต้นกำเนิดเสียงให้เหนื่อย เอาแค่ที่หูนี้ก็พอแล้ว ภาพที่เห็น จมูกที่ได้กลิ่น ผิวที่เย็นล้วนแต่เกิดในบ้านไม่ต้องวิ่งออกไปก็ได้ แต่ต้องฝืนไม่ส่งใจออกไปรับรู้นอกบ้าน เราพบว่าเสียงเขามาแล้วเขาก็ไปไม่มีเสียงไหนตกค้างอยู่ได้เลยมันเกิดขึ้นแล้วก็ดับในขณะนั้น ท่านก็ถามอีกว่าเสียงที่เขาว่าเขาตำหนิมันเกิดแล้วมันก็ดับไปแล้วแล้วอะไรมันจะเหลืออยู่ เราจะเอามานั่งคิดอยู่อีกทำไมมันดับลงไปตั้งนานแล้ว เราคิดตามอืมใช่เสียงเขาดับไปตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วอะไรล่ะที่มันดังอยู่ในใจเราไม่ใช่เสียงเขานี่เสียงของความคิดของเราต่างหาก คนที่ทำให้เราทุกข์ตอนนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นตัวของเราเองที่ทำให้ทุกข์ เราเริ่มหาเหตุที่ตัวเองทุกข์ใจได้แล้ว
ติดตามอ่านรวมเรื่องเล่าจากผู้ปฎิบัติธรรมท่านอื่นๆที่เคยนำมาลงแล้วได้ที่
http://pantip.com/topic/30892856 ขอบคุณค่ะ