แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
เจ้าของ: pimnuttapa
go

วัดเมืองแปง ม.๑ ต.เมืองแปง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_9015.JPG


IMG_8956.JPG



IMG_8918.JPG



IMG_8922.JPG



IMG_9017.JPG



รอยพระพุทธบาทเมืองแปง วัดเมืองแปง


เป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเหยียบประทับบนก้อนหิน ปรากฏรอยนิ้วชัดเจน มีขนาดกว้าง ๓๗ เซนติเมตร ยาว ๗๘ เซนติเมตร มีขนาดรอยพระบาทใกล้เคียงกับที่พระพุทธบาทบ้านป่ายาง ม.๓ ต.แม่นาเติง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้าย   

อ้างอิงจากหนังสือตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๔ หน้า ๑๓ โดยพระชัยวัฒน์ อชิโต กล่าวว่า “พระที่นำทางเล่าประวัติว่า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จมา ได้บรรทมที่บนเขา แล้วมาประทับรอยพระพุทธบาทรอยนี้ และเสด็จต่อไปที่เมืองปาย ตนเองเคยเห็นแสงพระธาตุเสด็จลอยในบริเวณนี้ด้วย”


------------------


(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : พระชัยวัฒน์ อชิโต สำนักงานธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี. (๒๕๕๐, ๙ ธันวาคม). ตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๔ (พิมพ์ครั้งที่ ๑). กรุงเทพฯ: เยลโล่การพิมพ์, หน้า ๑๓.)


L54 .3.png



***(หมายเหตุ : สนใจติดตามข้อมูล พระพุทธบาทบ้านป่ายาง เพิ่มเติมได้ที่เว็บแดนนิพพาน @ http://www.dannipparn.com/thread-157-1-2.html)



S__31670364.4.jpg



คำนมัสการพระพุทธบาท

(ว่านะโม ๓ จบ) ยัง ตัตถะ โยนะกะปุเร มุนิโน จะปาทัง ตัง ปาทะ วะลัญชะนะ มะหัง สิระสา นะมามิฯ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

S__31670363.1.jpg



ประวัติรอยพระพุทธบาทเมืองแปง วัดเมืองแปง


เรียบเรียงโดย นิตยา หล้าพรม (ครูแอน)



รอยพระพุทธบาทนี้ มีมาแต่สมัยที่พระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้จาริกมายังสุวรรณภูมิ ได้ผ่านมายังบ้านเมืองแปง ในสมัยนั้นมีชื่อว่า เมืองทาผาน้อย ได้เสด็จมาพักยังเหนือก้อนหินก้อนหนึ่ง ซึ่งมีรอยประทับอยู่ตราบทุกวันนี้ โดยชาวบ้านที่นี่เรียกว่า ห้วยพระนอน (คือลักษณะคล้ายรูปคนนอนตะแคงเหนือก้อนหิน)

พอรุ่งขึ้นก็เสด็จออกจากที่นี่ ได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้เหนือก้อนหินก้อนหนึ่ง ก่อนจะเสด็จไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือทางตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง ที่นี่พระพุทธองค์พักนอน ในภาษาเมืองเหนือจึงเรียกว่า บ้านยั้งเมิน และบ้านอมลอง


คือ พระพุทธองค์ได้ลองอมเมี่ยงที่ชาวบ้านได้นำมาถวาย แล้วพระองค์ได้ทรงคายคำเมี่ยงออกที่บ้านอังคาย ก่อนจะเสด็จผ่านเข้าเชียงใหม่ เช่น พระพุทธบาทสี่รอย พระพุทธบาทตากผ้า ที่จังหวัดลำพูน เป็นต้น

รอยพระพุทธบาทที่ทรงประทับที่นี่ มีขนาดความกว้าง ๖๗ เซนติเมตร ความยาว ๑๐๗ เซนติเมตร ค้นพบโดย นายพรานบุญ ที่อพยพมาจากถิ่นอื่น ได้เข้ามาล่าสัตว์ในแถบนั้น ได้เจอต้นมะม่วงต้นหนึ่ง มีลักษณะลำต้นขาดกลางลำ เหมือนโดนมีดตัดทั้งที่ลำต้นใหญ่มากจึงแปลกใจ โดยมีความเชื่อว่าเหมือนอย่างคนหมายอะไรบางอย่างไว้

พรานบุญจึงได้เดินดูโดยรอบจึงพบรอยพระพุทธบาทนี้ แล้วได้กลับไปบอกชาวบ้านมาดูแล้วชวนกันสร้างศาลาครอบไว้ โดยไม่มีหลักฐานพุทธศักราชอ้างอิงถึงวันสร้าง และมีการบูรณะมาตามลำดับ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๗-๒๕๑๘ ได้บูรณะอีกครั้งหนึ่ง

จนกระทั่งปีพุทธศักราช ๒๕๕๐ ช่วงเดือนเมษายน จึงเกิดไฟไหม้ทำให้ตัวอาคารศาลาทั้งหลังไหม้หมด เหมือนดั่งจะชี้ชัดซึ่งรอยพระพุทธบาทที่ซ่อนอยู่ในเนื้อปูน ที่ชาวบ้านได้ตกแต่งไว้อย่างดี จนแทบไม่ปรากฏเห็นรอยเดิม จึงเป็นเหตุให้บุคคลถิ่นอื่นที่มาเที่ยวสงสัย ได้เอาหินทุบขอบรอบๆ รอยพระบาทเสียหาย พอไฟไหม้ปูนที่ฉาบรอยพระพุทธบาทก็หลุดออกหมด คงเหลือแต่รอยเดิมให้เห็นอย่างเด่นชัด

ชาวบ้านจึงได้ประชุมลงมติ สร้างศาลาหลังใหม่ขึ้น เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๖ แล้วเสร็จพร้อมกับฉลอง เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ เพื่อเก็บไว้เป็นปูชนียสถานให้ระลึกถึงพุทธคุณของพุทธองค์สืบไป


----------------------


(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : นิตยา หล้าพรม (ครูแอน). ประวัติศาสตร์ศึกษา : รอยพระพุทธบาท บ้านเมืองแปง, ๒๗ กันยายน ๒๕๕๑. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : https://www.gotoknow.org/posts/212299 (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๓ มกราคม ๒๕๖๗)


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_9002.1.JPG



ก้อนหินนี้มีลักษณะคล้ายรอยเท้าเล็กๆ อยู่บนก้อนหิน หรืออาจจะเป็นรอยเท้าสัตว์ก็ได้ ไม่ทราบที่มาแน่ชัด แต่มีมานานแล้ว

เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๓ ก้อนหินนี้ตั้งอยู่ในศาลาครอบรอยพระพุทธบาท และปัจจุบัน พ.ศ.๒๕๖๖ ก้อนหินนี้ได้ถูกย้ายจากที่ตั้งเดิมมาอยู่ที่ข้างบันไดทางขึ้นศาลาครอบรอยพระพุทธบาท


IMG_9002.JPG


ก้อนหินไม่ทราบที่มาแน่ชัด อยู่ที่ข้างบันไดทางขึ้นศาลาครอบรอยพระพุทธบาทเมืองแปง วัดเมืองแปง



IMG_8960.JPG


IMG_8902.JPG



กุฏิสงฆ์ ณ พระพุทธบาทเมืองแปง วัดเมืองแปง


ปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๖๖) พระพุทธบาทเมืองแปง วัดเมืองแปง มีพระภิกษุประจำ ๑ รูป


IMG_8894.JPG


IMG_8896.JPG



IMG_8992.JPG



IMG_8891.JPG



IMG_8886.JPG



IMG_8875.JPG



IMG_9044.JPG



บรรยากาศบริเวณโดยรอบพระพุทธบาทเมืองแปง วัดเมืองแปง



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_8899.jpg



ขอจบการเดินทางด้วยภาพพระพุทธบาทเมืองแปง พ.ศ.๒๕๕๓ และภาพน้ำพุร้อนเมืองแปง สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติของตำบลเมืองแปง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดเมืองแปง สวัสดีค่ะ

L54 .3.png




ภาพ ณ พระพุทธบาทเมืองแปง พ.ศ.๒๕๕๓



502.jpg


501.jpg



500.jpg



498.jpg



499.jpg



ณ พระพุทธบาทเมืองแปง วัดเมืองแปง ถ่ายภาพเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๓


S__31670347.jpg



S__31670359.jpg



S__31670361.jpg



S__31670349.jpg



น้ำพุร้อนเมืองแปง

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้ำพุร้อนธรรมชาติของบ้านเมืองแปง ตำบลเมืองแปง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่กลางขุนเขา บรรยากาศเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ เป็นบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ มีอุณหภูมิร้อนสูงประมาณ ๑๐๐ องศาเซลเซียส

----------------------


ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
         • วัดเมืองแปง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน   
         • พระชัยวัฒน์ อชิโต สำนักงานธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี. (๒๕๕๐, ๙ ธันวาคม). ตามรอยพระพุทธบาท ฉบับรวมเล่ม ๔ (พิมพ์ครั้งที่ ๑). กรุงเทพฯ: เยลโล่การพิมพ์.
         • นิตยา หล้าพรม (ครูแอน). ประวัติศาสตร์ศึกษา : ประวัติวัดเมืองแปง (วัดศรีดอนชัย), ๒๗ กันยายน ๒๕๕๑. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : https://www.gotoknow.org/posts/212182 และประวัติศาสตร์ศึกษา : รอยพระพุทธบาท บ้านเมืองแปง, ๒๗ กันยายน ๒๕๕๑. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : https://www.gotoknow.org/posts/212299 (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๓ มกราคม ๒๕๖๗)
         • สยามทูเว็บดอทคอม. ประวัติวัดเมืองแปง (ศรีวิชัย). (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://khnasngkpai.siam2web.com//?cid=872594 (วันที่ค้นข้อมูล : ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖)         
         • รัศมี ชูทรงเดช ฐานข้อมูลจดหมายเหตุมานุษยวิทยา. วัดเมืองแปง. (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : https://db.sac.or.th/anthroarchives/subfile.php?s_page=0&c_id=99&s_id=143&ss_id=&f_id=382&sf_id=158 (วันที่ค้นข้อมูล : ๑๕ มกราคม ๒๕๖๗)

**หมายเหตุ :


ท่านใดประสงค์จะนำรูปภาพหรือเนื้อหาบทความไปใช้ประโยชน์ที่อื่น สามารถนำไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาตจากข้าพเจ้าก่อน


และได้โปรดกรุณาให้เครดิตอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่มา : เว็บแดนนิพพาน และกรุณาอย่าลบหรือครอบตัดเครดิตแหล่งที่มาบนรูปภาพ “Photo by Dannipparn.com”


(ป.ล. หากว่ากระทู้บทความนี้ มีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าต้องขออภัยในความผิดพลาดต่างๆ ในฐานะปุถุชนที่ย่อมทำผิดและถูกสลับกันไปไว้ ณ ที่นี้ด้วย และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป)


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-12-29 07:36 , Processed in 0.063729 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.