วัดป่าหก-วัดกู่เต้า (เวฬุนาราม) ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (พระเกศาธาตุ)

	2009-4-18 14:53 อัปโหลด ดาวน์โหลด (79.01 KB) พระบรมธาตุเจดีย์ วัดกู่เต้า (เวฬุนาราม) ค่ะ

	2009-4-18 14:55 อัปโหลด ดาวน์โหลด (60.63 KB) พระบรมธาตุเจดีย์ วัดกู่เต้า (เวฬุนาราม) เป็นที่บรรจุอัฐิของเจ้าฟ้าสารวดี ราชโอรสของพระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งมาครองเมืองเชียงใหม่ระหว่างปี พ.ศ. ๒๑๒๒–๒๑๕๐ และเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระสมณโคดมค่ะ

	2009-4-19 00:27 อัปโหลด ดาวน์โหลด (61.24 KB) ประวัติพระบรมธาตุเจดีย์ วัดกู่เต้า (เวฬุนาราม) พระบรมธาตุเจดีย์ วัดกู่เต้า (เวฬุนาราม) สร้างในสมัยที่พม่าครองเมืองเชียงใหม่ ซึ่งรวมไปถึงอาณาจักรล้านนาทั้งหมด และเจดีย์ที่เห็นเป็นรูปทรงกลมนี้ ก็เป็นที่บรรจุอัฐิของราชวงศ์พม่า ชื่อพระเจ้าเม็งชานรธามังดุย ซึ่งเคยยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาตามบัญชาของพระมหาอุปราชานันทบุเรง พระเชษฐาต่างมารดาและเป็นกษัตริย์พม่าในสมัยนั้น แต่ถูกพระนเรศวรตีแตกพ่าย และยอมสวามิภักดิ์ในเวลาต่อมา ทำให้ตัดขาดจากพระเจ้านันทบุเรง และไม่อาจกลับคืนปิตุภูมิได้ จนสิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงใหม่ในปีพ.ศ. ๒๑๕๖ พระมหามังชวยเทา ซึ่งเป็นพระอนุชาได้จัดถวายเพลิงพระศพ และโปรดให้สร้างสถูปเจดีย์กู่เต้าเพื่อบรรจุอัฐิและพระอังคารธาตุ และโปรดให้สร้างวัดขึ้นมาในบริเวณดงก่อไผ่ เพราะในพงศาวดารโยนกตอนหนึ่งกล่าวว่า ‘'ลุศักราช ๘๕๔ ปีชวด จัตวาศก มีราชบุตรพระญาเมืองใต้ตนหนึ่งชื่อสุริยวงษ์ บวชเป็นภิกษุขึ้นมาอยู่ ณ วัดเวฬุวันกู่เต้า หัวเวียงเชียงใหม่ ” นอกจากนี้ในหนังสือตำนานครูบาศรีวิชัยและตำนานวัดสวนดอก ยังปรากฏชื่อของวัดกู่เต้าอยู่ตอนหนึ่ง ดังนี้ ''ยังมีวันหนึ่ง ออกวัสสาแล้ว พระพุทธเจ้าชวนเอาภิกขุทั้งหลาย ๔ ตน ออกสั่งสอนคนและเทวดาตามเมืองน้อยใหญ่ จนกระทั่งมาถึงเมืองพิงค์ (เชียงใหม่) ซึ่งขณะนั้นเป็นเมืองแห่งทมิฬหรือลวะทั้งหลาย หลังจากที่พระองค์ประทานพระเกศาธาตุแก่ลวะผู้หนึ่งแล้ว พระองค์ได้เสด็จไปสู่ เวฬุวนะอาราม คือ วัดกู่เต้า พระพุทธเจ้าทรงประทานเกศาธาตุเส้นหนึ่งแก่ลวะผู้หนึ่งแล้วเสด็จไปหนใต้” ค่ะ

	2009-4-19 00:29 อัปโหลด ดาวน์โหลด (56.81 KB) พระบรมธาตุเจดีย์ วัดกู่เต้า (เวฬุนาราม) องค์นี้มีลักษณะคล้ายผลแตงโมวางซ้อนๆ กันอยู่หลายลูก รูปทรงของเจดีย์จึงแปลกตากว่าเจดีย์องค์อื่นในเขตล้านนา กล่าวคือ เจดีย์องค์นี้ ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ถัดขึ้นไปเป็นลักษณะคล้ายบาตรคว่ำซ้อนกัน ๕ ชั้นจากใหญ่ไปหาเล็ก แต่ละชั้นจะมีซุ้มจระนำทั้ง ๔ ด้าน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ องค์เจดีย์แต่ละชั้นประดับด้วยปูนปั้นประดับกระจกสีเป็นลายดอกไม้เล็กๆ ส่วนยอดเป็นฉัตรอันเป็นสัญลักษณ์ของเจดีย์แบบพม่า และจากลักษณะของเจดีย์ที่เป็นรูปบาตรคว่ำ ๕ ใบนั้น อาจหมายถึงพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ อันได้แก่ พระกกุสันโธ พระโกนาคมะ พระกัสสปะ พระโคตมะ และพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งจะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไปในอนาคต ตามลักษณะของเจดีย์ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน สันนิษฐานว่าเป็นลักษณะที่เพิ่งเปลี่ยนแปลงในพุทธศตวรรษที่ ๒๕ นี้เองและไม่อยู่ในแบบแผนของเจดีย์ล้านนา มีสิ่งที่สร้างตกแต่งขึ้นมาภายหลัง ก็คือการประดับกระเบื้องเป็นรูปดอกไม้ โดยตัดเป็นชิ้นๆ แปะติดกับพื้นปูน ไม่ต่างกับวัดอรุณที่กรุงเทพ เพราะเมื่อครั้งมีการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ ๕ ซึ่งการนำกระเบื้องสีของถ้วยชามมาประดับเป็นลวดลายตามวัด เป็นความนิยมในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ที่มักใช้กระเบื้องเป็นชิ้นๆ แต่งแต้ม หน้าบันของโบสถ์วิหาร เป็นสมัยที่ไทยมีการติดต่อค้าขายกับประเทศจีน และถ้วยกระเบื้องก็เป็นสินค้าหลักที่พ่อค้าชาวจีนนำมาขายในประเทศสยามโดยเรือสำเภา จะเรียกว่า สมัยนั้นเป็นยุคกระเบื้องเฟื่องฟูเลยก็ว่าได้ค่ะ

	2009-4-19 00:32 อัปโหลด ดาวน์โหลด (65.58 KB) พระพุทธรูป และพระพุทธรูประแข่งองค์เล็ก ประดิษฐานบนฐาน พระบรมธาตุเจดีย์ วัดกู่เต้า (เวฬุนาราม) ค่ะ

	2009-4-19 00:34 อัปโหลด ดาวน์โหลด (76.51 KB) 2009-4-19 00:38 อัปโหลด ดาวน์โหลด (42.74 KB) ซุ้มจระนำ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ทั้งสี่ทิศ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดกู่เต้า (เวฬุนาราม) ค่ะ

	2009-4-19 00:36 อัปโหลด ดาวน์โหลด (63.01 KB) รูปปั้นสุนัข อยู่บนมุมฐานเขียงตอนล่าง พระบรมธาตุเจดีย์ วัดกู่เต้า (เวฬุนาราม) ค่ะ

	2009-4-19 00:40 อัปโหลด ดาวน์โหลด (74.81 KB) เดี๋ยวเรามากราบนมัสการพระบรมธาตุ วัดกู่เต้า (เวฬุนาราม) พร้อมกันเลยนะคะ   (กล่าวนะโม ๓ จบ) วันทามิ  เจติยัง  สัพพัง  สัพพัฏฐาเนสุ  ปะติฏฐิตา  สะรีระธาตุโย  เกศาธาตุโย  อะระหันตา  ธาตุโย  เจติยัง  คันทะกุฏิง  จะตุละสี  ติสสะหิสเส  ธัมมักขันเธ  สัพเพสัง  ปาทะเจติยัง  อะหังวันทามิ  ธาตุโย  วันทามิทุระโส  อะหังวันทามิ สัพพะทา  อะหัง  วันทามิ  สิระสา ฯ ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพานแม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แต่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงมีแต่ความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ

	2009-4-19 00:42 อัปโหลด ดาวน์โหลด (83.19 KB) อุโบสถ วัดกู่เต้า ค่ะ ทางภาคเหนือไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าไปในเขตอุโบสถได้นะคะ

	2009-4-19 00:44 อัปโหลด ดาวน์โหลด (61.06 KB) หน้าบันด้านหน้า อุโบสถ วัดกู่เต้า ค่ะ