สังขารานุสรณ์หลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย สร้างเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๔๕ ค่ะ
ประวัติหลวงปู่แว่น ธนปาโล (พระครูภาวนา ทัศนวิสุทธิ์)
และวัดถ้ำพระสบาย
พระครูภาวนาทัศนวิสุทธิ หลวงปู่แว่น ธนปาโล เกิดในสกุล ทุมกิจจะ เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ.๒๔๕๓ ที่บ้านบัว ตำบลสว่าง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร มีบิดาชื่อ นายวันดี ทุมกิจจะ และมารดาชื่อ นางคำไพร ทุมกิจจะ มีพี่น้องชายหญิงรวม ๙ คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ ๕
ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรนิกาย ๑ พรรษา ได้ติดตามออกธุดงค์ไปกับภิกษุสิม พุทธาจาโร และได้บรรพชาเป็นสามเณรธรรมยุติ โดยมีพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม เป็นพระอุปัชฌายะ เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๓ ณ วัดศรีจันทรวาส ตำบลพลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เมื่อมีอายุ ๒๑ ปี บริบูรณ์ ท่านได้เข้าสู่พิธีอุปสมบท ณ พัทสีมา วัดศรีเทพ ประดิษฐาราม ตำบลหนองบึง อำเภอหนองบึง จังหวัดนครพนม โดยมีพระสารภาณมุนี เป็นพระอุปัชฌายะ เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๔
นับแต่พรรษาแรกท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยเบื้องต้นที่สำนักโพธิชัย ตำบลสามผง กิ่งอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม และได้รับคำแนะนำหลักการปฏิบัติกรรมฐานจากพระอาจารย์เสาร์ กันตสิโล และพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ (ท่านพ่อลี) หลวงปู่ได้ออกปฏิบัติธรรมกรรมฐานเร่งความเพียรโดยไม่ย่อท้อ
ปีพ.ศ.๒๔๘๗ (พรรษาที่ ๑๓) ท่านได้พบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าวารินทร์ จังหวัดอุบลราชธานี ต่อมาในปีพ.ศ.๒๔๙๐ หลวงปู่แว่นได้ไปร่วมปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร ที่วัดสันติธรรม ในพรรษาถัดมาท่านได้รับนิมนต์มาที่เกาะคา นครลำปาง ณ ที่นี้ ท่านได้สร้างวัดป่าสำราญนิวาส และจำพรรษาอยู่ ๕ พรรษา ญาติโยมศรัทธาเลื่อมใสมารับการอบรมวิปัสสนากรรมฐานกันมาก และหลวงปู่แว่นได้เป็นผู้ที่ทำให้มีวัดธรรมยุติในภาคเหนือตอนล่างนับแต่นั้นมา หลวงปู่ได้นิมิตเห็นดอยทรงเจดีย์ลูกหนึ่ง อยู่ไม่ไกลจากวัดป่าสำราญนิวาส ท่านจึงได้ออกสำรวจและเลือกบูรณะถ้ำที่เหมาะจะเป็นที่วิเวกเจริญกรรมฐาน ต่อมาหลวงปู่สิมมาเยี่ยม และเรียกว่า “ถ้ำพระสบาย”
ปีพ.ศ.๒๕๐๔ (พรรษาที่ ๓๐) หลวงปู่แว่นจำพรรษาวัดสันติธรรมบ้านเกิดเพื่อโปรดโยมมารดา ต่อมาปีพ.ศ.๒๕๑๐ หลวงปู่แว่นได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ ๒ อำเภอ ฝ่ายธรรมยุติ ท่านจำพรรษา ณ วัดป่าสุทธาวาส นานถึง ๑๓ พรรษา และได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์อัฏฐบริขาร “หลวงปู่มั่น ภูริทัตตะเถระ”
ต่อมาหลวงปู่แว่น ได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาส และตำแหน่งอื่นๆ กลับไปจำพรรษาที่วัดสันติธรรม จนถึงปีพ.ศ.๒๕๒๔ (พรรษาที่ ๕๐) หลวงปู่จึงได้กลับมาจำพรรษาที่ถ้ำพระสบาย ท่านได้ประกาศว่า “คราวนี้มาอยู่บำเพ็ญสมณธรรม ตั้งใจฝากชีวิตไว้ที่นี่ ขอเทวารักษ์ทุกทิศ ทั้งทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเบื้องบน และเบื้องล่าง โปรดรับทราบด้วยเถิด” หลวงปู่ได้พัฒนาสำนักสงฆ์นี้ แก้ปัญหาน้ำโดยเจาะบ่อบาดาล ๒ แห่ง ปรับพื้นถ้ำสร้างพระอุโบสถ และทำถนน ๓ สาย เข้าสู่สำนักสงฆ์นี้ ซึ่งได้รับการยกฐานะเป็นวัดถ้ำพระสบาย ตั้งแต่พ.ศ.๒๕๒๗ เป็นต้นมา
หลวงปู่แว่น กล่าวไว้ว่า เราจะรู้จักคุณความดีของใครสักคน ต้องอยู่ใกล้ชิดกันหลายวัน วัดถ้ำพระสบายเป็นสถานที่ ที่เอื้อต่อการบำเพ็ญเพียรปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่ได้อบรมธรรมที่วัดและในที่วัดต่างๆ ทั่วประเทศ ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และการปฏิบัติสมาธิวิปัสสนา ท่านมีเมตตาสูง และบำเพ็ญสมณธรรมสม่ำเสมอจนเข้าวัยชราภาพ ท่านได้อบรมพระ เณร อุบาสก อุบาสิกา และนำนั่งสมาธิตลอดรุ่งในระหว่างเข้าพรรษา ท่านมั่นคงในการปฏิบัติธรรม จวบจนวาระที่ท่านละสังขาร เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๑ สิริอายุได้ ๘๘ พรรษา ๘ เดือน ๒๑ วัน ๖๘ พรรษา
อุโบสถ วัดถ้ำพระสบาย ค่ะ