แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
เจ้าของ: pimnuttapa
go

วัดพระเจ้าโท้ บ.หลวงฮอด ม.๒ ต.ฮอด อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ (พระบรมธาตุเจดีย์ , พระเจ้าโท้) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

IMG_7247.JPG



IMG_7253.JPG



รูปตัวมอม บันไดทางขึ้น/ลง วิหารแดง วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ


IMG_7155.JPG



ระฆัง อยู่ตรงมุมด้านหน้า-ด้านหลังทั้งสี่ด้านของ วิหารแดง วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ


IMG_7250.JPG



IMG_7172.JPG



ประตูทางเข้า/ออก วิหารแดง วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ


IMG_7245.JPG



จิตรกรรมบานประตูภาพกุมภัณฑ์ วิหารแดง วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7209.JPG



IMG_7236.JPG



IMG_7223.JPG



หลวงพ่อพระเจ้าโท้ ประดิษฐานภายใน วิหารแดง วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7235.JPG



IMG_7237.JPG




ประวัติวัดพระเจ้าโท้



วัดพระเจ้าโท้เมืองฮอด แต่เดิมชื่อว่า วัดพระธาตุเจดีย์สูง  สร้างราว พ.ศ.๑๒๐๓ โดยพระแม่เจ้าจามเทวีได้ยาตราทัพจากละโว้ขึ้นมาทางชลมารคแม่น้ำปิง เมื่อบรรลุถึงที่แห่งนี้ได้รับสั่งให้หยุดสร้างวัดเจดีย์และพระพุทธรูปองค์ใหญ่ถวายเป็นพุทธบูชาอุทิศส่วนกุศลแก่ไพร่พลที่เสียชีวิต ชาวบ้านเรียกพระพุทธรูปนี้ว่า “พระเจ้าโท้”

พระเจ้าโท้ ซึ่งเป็นศัพท์ที่ชาวล้านนาเรียกขานกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคำว่า โท้ สันนิษฐานว่าเป็นพระอุทานแห่งพระนางเจ้าจามเทวีว่า  พุทธโธ้  โท้หรือโต้  แปลว่า  ใหญ่โต และขนาดองค์พระพร้อมฐาน  มีความสูง ๑๕ เมตร  กว้าง ๗ เมตร  ลักษณะปางมารวิชัย ศิลปะร่วมสมัยประยุกต์ด้วยอิทธิพลของลพบุรีและเชียงแสน  จึงเป็นที่เรียกขนานนามกันมาว่า  พระเจ้าโท้     

หลวงพ่อพระเจ้าโท้  เป็นปูชนียสถานอันสำคัญคู่บ้านคู่เมืองพิศดาน (เมืองฮอด) มาตั้งแต่สมัยโบราณ ตามตำนานจามเทวีวงค์  กล่าวไว้ว่า พระนางเจ้าจามเทวีทรงสร้างในปี พ.ศ.๑๒๐๐ ซึ่งในขณะนั้น  พระนางเจ้าจามเทวีได้เสด็จมาทางชลมาศ (เรือ) พร้อมด้วยพระมหาเถระที่ทรงปิฎกจำนวน ๕๐๐ รูป, ชีปะขาวผู้ถือเบญจศีล ๕๐๐ คน, ช่างเงิน ๕๐๐ คน, ช่างทอง ๕๐๐ คน ซึ่งช่วงเวลานั้นการปกครอง  โดยทั้งนั้น ช่างเหล็ก ๕๐๐ คน และช่างหลวง, ช่างราชอย่างละ ๕๐๐ คน, พ่อเวียก ๕๐๐ คน พร้อมด้วยข้าราชบริพารตามเสด็จดังกล่าว เพื่อจักไปกินเมือง (ครองเมือง) หริภุญชัย (เมืองลำพูนในปัจจุบัน)  เมืองหลวงแห่งอาณาจักรในระหว่างการเสด็จนั้น เหล่าข้าราชบริพารทั้งหลายได้ล้มตายเป็นอันมาก เป็นเหตุให้พระนางเจ้าจามเทวีทรงโทรมนัสเป็นอย่างยิ่ง           

พระนางเจ้าจามเทวีทรงมีพระดำริให้บำเพ็ญพระราชกุศลแด่ข้าราชบริพารเหล่านั้น จึงได้มีพระราชเสาวนีย์ตรัสปรึกษากับพญาแขนเหล็ก พญาบ่เพ็ก, พญาแสนโท พร้อมกับเสนาอำมาตย์และราชครูทั้งหลาย ว่าเราควรจักหยั้งขบวนเสด็จนะที่นี้   เพื่อจักทำการกุศลเพื่อจักได้สร้างเมืองบริเวณนี้ (วัดพระเจ้าโท้เมืองฮอดในปัจจุบัน)  เป็นเมืองหน้าด่านขึ้นทางทิศใต้แห่งอาณาจักรหริภุญชัย  รวมทั้งได้ก่อสร้างพระธาตุเจ้าเจดีย์องค์สารูปต่างๆ  รวมถึงองค์สารูปพระพุทธเจ้าโท้ประดิษฐ์สถาน ณ.เมืองหน้าด่าน ซึ่งพระนางเจ้าจามเทวีได้พระราชทานนามเมืองไว้ว่า  “พิสดารนคร” (เมืองฮอดในปัจจุบัน)   

พร้อมกันนั้นพระนางเจ้าจามเทวีได้ทรงเนกขัมปารมี  เพื่ออุทิศผลบุญให้แก่เหล่าข้าราชบริพาร  โดยเสด็จมานะคราวนั้นถ้วนไตรมาส หลังจากนั้นพระนางเจ้าจามเทวีได้มีพระเสาวนีย์โปรดแต่งตั้งให้พญาแสนโทเสวกามาตย์, พญาแขนเหล็ก, พญาบ่เพ็ก ซึ่งเป็นนามแห่งพระเจ้าองค์หลวงสะหรีคู่เมืองพิศดารนครปกครองเมืองหน้าด่านพิศดารนครนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งอาณาจักรหริภุญชัยล้มสลายได้ตกเป็นเมืองขึ้นแห่งอาณาจักรล้านนา ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนั้นพิศดารนครนับได้ว่าเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองในด้านการค้าขายทางน้ำในขณะนั้นและเป็นหัวเมือง ๑ ใน ๕  หัวเมืองใหญ่หน้าด่านแห่งอาณาจักรล้านนา  

ราวปี พ.ศ.๒๑๑๐ พม่าได้ยกทัพผ่านมาและได้เจาะหลังพระเจ้าโท้และเอาหัวใจพระซึ่งคาดว่าเป็นทองคำไปด้วย ภายหลังพิศดารนครถึงการล้มสลายด้วยการโจมตีของพม่าเช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้ราษฎรที่อาศัยอยู่ต้องประสบความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก  สาเหตุอันเนื่องมาจากอิทธิพลในการโจมตีของพม่าในขณะนั้น  พิศดารนครที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาแต่ก่อน จึงได้ถูกเปลี่ยนขนานนามว่า ‘เมืองหอด’  ซึ่งแปลว่า แห้งแล้ง, โหย, อ่อนล้า, อับจน  เพราะในขณะนั้นหลังเสร็จสิ้นจากการโจมตีของพม่า ทำให้ประชาชนอดอยากและประสบภาวะโรคภัยต่างๆ จึงเกิดล้มตายกันเป็นจำนวนมาก   

ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่พื้นที่ภูมิลำเนาของชาวบ้านในเมืองหอด ให้มีความเป็นอยู่อย่างสมบูรณ์และมีความโดนเด่นทางด้านการเกษตร เพราะสภาพภูมิลำเนาติดกับลำน้ำแม่ปิงจึงมีความสะดวกทางด้านกสิกรรม  เมื่อมีความเป็นอยู่อย่างสมบูรณ์แล้ว "เมืองหอด" แต่เดิมที่ชาวบ้านเรียกขาน ได้ถูกเปลี่ยนแปลงและขนานนามเรียกว่า “เมืองฮอด” ซึ่งแปลว่าความสำเร็จ, ลุล่วง ถึงจุดหมายปลายทาง เป็นที่ขนานนามเรียกว่า “เมืองฮอด”  ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

ต่อมาปี พ.ศ.๒๔๖๐ – ๒๕๐๕ ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ (ระหว่าง พ.ศ.๒๔๖๐-๒๕๐๕ ที่ว่าการอำเภอฮอดตั้งอยู่บริเวณนี้)

ครั้นลุล่วงมา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๗  ทางราชการได้มีคำสั่งให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณเมืองฮอด (เมืองพิศดารนครในอดีต) อพยพออกไปอยู่ที่ทางราชการจัดไว้ให้ ณ อำเภอจอมทอง  ซึ่งสภาพภูมิลำเนาในเขตพื้นที่เมืองฮอดในขณะนั้นจัดเป็นเขตพื้นที่น้ำท่วม ตามที่ทางราชการมีหนังสือแจ้งมาให้ทราบโดยทั่วกัน สาเหตุอันเนื่องมาจากโครงการก่อสร้างเขื่อนยันฮี (เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก)  ขึ้นในสมัยนั้นจึงทำให้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมครั้งยิ่งใหญ่ ประมาณ ๕ เดือน จึงทำให้วัดทุกวัดรวมถึงวัดพระเจ้าโท้เมืองฮอดที่ตั้งอยู่ในบริเวณเมืองพิศดารนครกลายเป็นวัดร้าง   

จนมาถึงในปี พ.ศ.๒๕๑๔ ได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยการนำของท่านดร.อำนวย  ยศสุข  ร่วมกับกำนันสงบ กันทะแก้ว  พร้อมด้วยคณะศรัทธาชาวบ้านในอำเภอฮอด ร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาบูรณะปฎิสังขรณ์วัดพระเจ้าโท้เมืองฮอดที่ถูกปล่อยทิ้งรกร้างมานาน พร้อมกันนั้นได้ร่วมใจกันสร้างวิหารครอบองค์หลวงพ่อพระเจ้าโท้  และสร้างอนุสาวรีย์องค์พระนางเจ้าจามเทวี  ไว้เป็นที่สักการบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๐  พณฯ ท่านพลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  ได้บริจาคทุนทรัพย์ในการก่อสร้างกุฏิสงฆ์ขึ้น  ๑  หลัง เพื่อเป็นที่จำพรรษาของพระภิกษุสงฆ์และได้อาราธนานิมนต์พระครูจันทสารวิมล  เจ้าคณะตำบลหางดงมารักษาการแทนเจ้าอาวาสเป็นรูปที่  ๑

จนมาถึงปี พ.ศ.๒๕๓๕  พระบุญรัตน์ ธมฺมทินโน  ได้รับอาราธนานิมนต์มารักษาการแทนเจ้าอาวาสต่อเป็นรูปที่ ๒  

มาจนถึงปี พ.ศ.๒๕๔๓  ได้อาราธนานิมนต์พระอาจารย์ศุภกิตติ์ สุทฺธิญาโน (ครูบาเจ้าบุญต้อม ชัยลังกา) มารักษาการแทนเจ้าอาวาสเป็นรูปที่ ๓

จนมาถึงปี พ.ศ.๒๕๔๗  ได้รับอาราธนานิมนต์ พระคงศักดิ์  สุภทฺโท (ชัยลังกา) มารักษาการแทนเจ้าอาวาสเป็นรูปที่  ๔ จนมาถึงปัจจุบัน



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7218.JPG



ประวัติหลวงพ่อพระเจ้าโท้



“พระเจ้าโท้” เมืองฮอด เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐ ถือปูนปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ริมถนนสายบ้านหลวงฮอด-นาคอเรือ หันหน้าไปทางทิศตะวันออกลงสู่แม่น้ำปิง เป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านให้ความหมายของพระพุทธรูปองค์นี้ว่า เป็นพระพุทธรูปที่คอยป้องกันภัยอันตรายทั้งหลายที่จะเข้ามายังเมืองฮอด เพราะคำว่า “โท้” ในภาษาเหนือออกเสียงว่า “โต๊” หมายความว่าบังอยู่หรือขวางอยู่นั่นเอง เชื่อกันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่พระนางจามเทวีเสด็จขึ้นมาสร้างเมืองฮอดเมื่อกว่า ๑,๓๐๐ ปี ที่แล้ว และได้ทำการบูรณะซ่อมแซมเรื่อยมา


IMG_7217.JPG



ตำนานหลวงพ่อพระเจ้าโท้



ตำนานพระเจ้าโท้กล่าวว่า ในสมัยที่พระนางจามเทวีเสด็จจากเมืองลพบุรีหรือ “เมืองละโว้” ขึ้นมาตามลำน้ำปิง พระนางได้แวะสร้างและบูรณะวัดขึ้นมาเรื่อยๆ จวบจนถึงเมืองฮอดได้หยุดพักเป็นเวลา ๗ เดือนในช่วงที่หยุดพักนี้ได้ปฏิสังขรณ์วัดหลายวัดจนเสร็จเรียบร้อย วันหนึ่งข้าทาสบริวารที่ตามเสด็จเกิดล้มป่วยเป็นโรคอหิวาตกโรคทำให้คนสนิทของพระนางพลอยตามไปด้วย พระนางเจ้าได้เปล่งวาจาว่า “โท้ ๆ ๆ” เสนาผู้ฉลาดได้คิดที่จะทำบุญอุทิศส่าวนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตไปจึงได้ร่วมกันก่อสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาองค์หนึ่ง มีหน้าตักกว้าง ๙ ศอก สูง ๑๕ ศอกเหตุที่พระนางเจ้าเปล่งวาจา “โท้ ๆ ๆ” แล้วมีการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นจึงถวายนามของพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “พระเจ้าโท้” ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

หลังจากผ่านกาลเวลาวัดพระเจ้าโท้ก็โรยร้าง บูรณะแล้วก็กลายเป็นวัดร้างไปอีกหลายครั้ง เนื่องจากสงครามหรือเหตุการณ์ไม่ปกติของบ้านเมืองและอื่นๆ ในช่วงที่บ้านหลวงฮอดยังไม่ถูกน้ำขึ้นท่วมนั้น วัดพระเจ้าโท้ก็เป็นวัดร้างที่ตั้งอยู่ในป่ารกทึบ ไม่มีพระจำพรรษา ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาได้แต่ยกมือไหว้ไม่กล้าเข้าไปภายใน เพราะร่ำลือกันว่าบริเวณวัดนี้มีผีดุร้ายคอยดูแลอยู่ โดยเฉพาะช่วงหลังปี พ.ศ.๒๕๐๗ ที่ชาวบ้านหลวงฮอดย้ายหมู่บ้านออกไปอยู่ในที่ใหม่ พระเจ้าโท้ไม่มีคนดูแลถูกต้นไม้หักโค่นลงมาทับทำให้พระศอหักแต่ไม่ขาดลงมา รอบองค์พระมีกอไผ่ขึ้นอยู่


ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๑๔ ชาวบ้านได้ช่วยกันบูรณะพระเจ้าโท้ขึ้นมาใหม่ สร้างวิหารครอบองค์พระ และสร้างศาลเจ้าพ่อผาแดงขึ้น (เล่ามาว่าเจ้าพ่อผาแดงเป็นผู้ที่เคยปกครองเมืองฮอดในสมัยก่อน แต่ถูกลวงไปฆ่าที่วังลวงเป็นที่มาของชื่อ บ้านวังลวง หรือบ้านวังลุงในปัจจุบัน) วัดพระเจ้าโท้จึงพัฒนาขึ้นมาเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาต่อมาอีกหลายรูป จนกระทั่งปัจจุบันมีการบูรณะพระเจ้าโท้ด้วยการทาสีใหม่ทั้งองค์ จากเดิมที่องค์พระเป็นสีขาวมีริมพระโอษฐ์สีแดงเปลี่ยนเป็นพระพุทธรูปสีทองทั้งองค์ และมีการบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดให้ดีขึ้นตามลำดับ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7265.JPG



IMG_7238.JPG



เดี๋ยวเรามากราบนมัสการหลวงพ่อพระเจ้าโท้ วัดพระเจ้าโท้ พร้อมกันเลยนะคะ

ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนอบน้อมบูชาอย่างยิ่งซึ่ง หลวงพ่อพระเจ้าโท้ และขอบูชาพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเสียสละสั่งสมบารมีนับชาติมิถ้วน ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศธรรมนำเวไนยสัตว์ออกจากสังสารวัฏ พร้อมกราบพระธรรม  และพระอริยสงฆ์ ขอตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยอานิสงส์ผลแห่งบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ต้องเกิดในทิพย์จุติใดๆ ขอเกิดภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐมีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร ห่างไกลจากพาล มีโอกาสฟังธรรมประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณ ตามส่งชาตินี้และชาติต่อๆ ไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ กรรมใดๆ ที่ล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายในอดีตชาติก็ตามปัจจุบันชาติก็ตาม กราบขออโหสิกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น ขออุทิศกุศลผลบุญให้แก่ท่านผู้มีพระคุณ ญาติพี่น้อง เจ้ากรรมนายเวร ตลอดจนท่านที่ขวนขวายในกิจที่ชอบในการดำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศชาติ  พระพุทธศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์ทั้งที่เป็นมนุษย์และอมนุษย์ ขอให้ท่านทั้งหลายดังกล่าวนามมานั้นจงประสบแต่ความดี ปราศจากความทุกข์และมีความสุขฯ ทั่วกันทุกท่านเทอญ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7232.jpg


พระพุทธรูป ประดิษฐานภายใน วิหารแดง วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ


IMG_7228.jpg


ทำบุญพระประจำวันเกิด ภายใน วิหารแดง วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ


IMG_7207.jpg



พุทธศาสนิกชนสามารถร่วมทำบุญถวายทานโรงศพเพื่อสะเดาะเคราะห์ให้กับตนเองและครอบครัวได้ ภายใน วิหารแดง วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7296.JPG



IMG_7289.JPG



IMG_7200.JPG



วิหารขาว
วัดพระเจ้าโท้ อยู่ด้านข้าง วิหารแดง ค่ะ


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7256.JPG



IMG_7282.JPG



IMG_7197.JPG



รูปหงส์ อยู่ตรงมุมด้านหน้า-ด้านหลังทั้งสี่ด้านของ วิหารขาว วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ


IMG_7297.JPG



IMG_7285.JPG



บันไดนาค ทางขึ้น/ลง วิหารขาว วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

IMG_7380.jpg



IMG_7308.jpg



IMG_7310.jpg


พระพุทธรูป ประดิษฐานด้านหน้า วิหารขาว วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ


IMG_7375.jpg


พระพุทธรูปปางรำพึง ประดิษฐานภายใน ซุ้มด้านหลัง วิหารขาว วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ


IMG_7301.jpg



จิตรกรรมบานประตูด้านหน้า วิหารขาว วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html

Rank: 8Rank: 8

2.jpg



IMG_7317.jpg



IMG_7330.jpg



ภายใน วิหารขาว วัดพระเจ้าโท้ ค่ะ



บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2024-11-28 01:30 , Processed in 0.058266 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.