แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 13165|ตอบ: 7
go

วัดพระนอนม่อนช้าง ม.๘ ต.มะกอก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

DSC05452.jpg



วัดพระนอนม่อนช้าง  

ม.๘ ต.มะกอก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน  

[พระเกศาธาตุ ๒ เส้น , พระนอนโบราณ อายุหลายร้อยปี]

----------------------


(แก้ไขข้อมูลล่าสุด : 3 ธันวาคม 2568)


Rank: 8Rank: 8

DSC05203.JPG



วัดพระนอนม่อนช้าง ตั้งอยู่ เลขที่ ๖๕ บ้านกิ่วมื่น หมู่ที่ ๘ ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ทั้งหมด ๓๒ ไร่ น.ส. ๓ เลขที่ ๑๐๖ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๒๒๒๐ อยู่ก่อนถึงวัดพระพุทธบาทตากผ้าประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร


อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ วิหาร ศาลาอเนกประสงค์ กุฏิสงฆ์ ปูชนียสถานปูชนียวัตถุประกอบด้วย พระบรมธาตุเจดีย์ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๒๑๐ และพระพุทธไสยาสน์ (พระนอนโบราณอายุหลายร้อยปี)



DSC05202.JPG



ป้ายวัดพระนอนม่อนช้าง



DSC05205.JPG



ทางเข้า วัดพระนอนม่อนช้าง



DSC05206.JPG



ประตูทางเข้า วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05469.JPG



ทางเข้าเขตพุทธาวาส วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05437.JPG



กรุณาถอดรองเท้า ก่อนเข้าเขตพุทธาวาส วัดพระนอนม่อนช้าง


Rank: 8Rank: 8

DSC05451.JPG



DSC05475.JPG



DSC05512.JPG



DSC05520.JPG



DSC05440.JPG



DSC05435.JPG



DSC05447.JPG



DSC05519.JPG



พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระนอนม่อนช้าง


ประดิษฐานพระเกศาธาตุ ๒ เส้น และพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๒๑๐


สถานที่แห่งนี้ ณ วัดพระนอนม่อนช้างปัจจุบัน เป็นที่ซึ่งพระบรมศาสดาได้เสด็จมาประทับนอนสีหไสยาสน์และทรงประทานพระเกศาธาตุประดิษฐานไว้ ๒ เส้น เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จมาเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ในเขตสุวรรณภูมิ เพื่อให้เป็นที่กราบไหว้สักการบูชาของชาวพุทธศาสนิกชนในอนาคตต่อไป



DSC05510.1.jpg



ภาพถ่ายวัดพระนอนม่อนช้างในอดีต ครั้งเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๕ โดยพระไชยณรงค์ คนฺธวํโส (ญาณพันธุ์) มอบให้ไว้เป็นอนุสรณ์ ณ วัดพระนอนม่อนช้าง



DSC05442.JPG



คำนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์

(ว่านะโม ๓ จบ) วันทามิ เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเนสุ ปะติฏฐิตา สะรีระธาตุโย เกศาธาตุโย อะระหันตา ธาตุโย เจติยัง คันทะกุฏิง จะตุละสี ติสสะหัสเส ธัมมักขันเธ สัพเพสัง ปาทะเจติยัง อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ ทุระโส อะหังวันทามิ สัพพะทา อะหังวันทามิ สิระสาฯ


DSC05453.JPG



ตำนานวัดพระนอนม่อนช้าง



ตำนานกล่าวว่า หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงประดิษฐานรอยพระบาทตากผ้าแล้ว ก็เสด็จพุทธดำเนินไปทางบูรพาทิศลุถึง หัวดอยม่อนช้าง ก็ทรงหยุดประทับนอนสีหไสยาสน์ ณ ที่นั้น และทรงประทานพระเกศาธาตุแก่ตายายสองผัวเมีย ผู้เข้ามาอุปัฏฐากถวายภัตตาหารและน้ำ

ต่อมาจึงได้สร้างเจดีย์ บรรจุพระเกศาธาตุไว้ และมีผู้ศรัทธาสร้างพระพุทธรูปนอนสีหไสยาสน์ขึ้นไว้ ณ ที่นั้น จึงเรียกกันว่า "พระนอนม่อนช้าง" มาจนถึงบัดนี้

--------------------


(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : นาคฤทธิ์ รวบรวมชำระสะสาง (๒๕๔๐-๒๕๔๕). (๒๕๔๕, ตุลาคม). พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง (พิมพ์ครั้งที่ ๑). เชียงใหม่: ลานนาการพิมพ์, หน้า ๒๑๙.)


DSC05443.JPG



ประวัติวัดพระนอนม่อนช้าง



ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธองค์ได้เคยเสด็จมาในดินแดนแถบนี้ หลังจากเสด็จมาที่วัดพระพุทธบาทตากผ้า ในเวลานั้นมีลัวะ ๒ ผัวเมียได้มาถวายภัตตาหารแด่พระพุทธองค์ แล้วได้ทูลขอพระเกศาจากพระพุทธองค์ ได้ทรงประทานแก่ลัวะ ๒ ผัวเมีย จึงได้นำมาบรรจุในพระเจดีย์บนดอยม่อนช้างในปัจจุบัน เพื่อให้เป็นที่กราบไหว้บูชาและสักการะของชาวพุทธศาสนิกชนในอนาคตต่อไป

การสร้างองค์พระนอน ไม่ทราบว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด เพราะว่าหาหลักฐานไม่ปรากฏ แต่มีปรากฏหลักฐานการบูรณะจารึกไว้ว่า เมื่อ จ.ศ.๑๑๕๖ (ตรงกับปี พ.ศ.๒๓๓๗) มีพระมหาสาธุเจ้าพระวิสุทธวังโส วัดสะปุ๋ง และสาธุเจ้าปัญญา วัดเชียงราย (เป็นวัดร้างแล้ว) กับสาธุเจ้าเทพิน วัดบ้านกอง (เป็นวัดร้างแล้ว) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

และประธานฝ่ายฆราวาส องค์สมเด็จพระเชษฐาเจ้า และพระยารัตนหัวเมืองแก้ว เป็นประธาน ได้มาเป็นประธานซ่อมแซมองค์พระนอนพุทธไสยาสน์ให้ดีขึ้น พร้อมกันนั้นได้สร้างพระอุโบสถไว้กับวัดอีกหลังหนึ่ง

พ.ศ.๒๔๗๐ พระครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม ได้มาเป็นประธานบูรณะพระวิหารและธรณีพระธาตุโดยรอบ แต่ไม่แล้วเสร็จ ต่อมา พระครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย แห่งวัดบ้านปาง ได้มาบูรณะและสร้างต่อจนแล้วเสร็จ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๓

พ.ศ.๒๔๙๐ พระสุพรหมยานเถร (พระครูบาเจ้าพรหมฺา พฺรหฺมจกฺโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า ได้มาเป็นประธานสร้างกำแพงโดยรอบบริเวณ และได้สร้างเสริมธรณีรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์

พ.ศ.๒๕๐๖ ทางคณะสงฆ์อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน มีพระครูพิศาลพุทธิธร เจ้าคณะอำเภอป่าซาง วัดป่าซางงาม ได้มาเป็นประธานซ่อมแซมพระอุโบสถ


พ.ศ.๒๕๑๕ พระครูพิศาลพุทธิธร เจ้าคณะอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน และพระสุพรหมยานเถร (พระครูบาเจ้าพรหมฺา พฺรหฺมจกฺโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า ได้ร่วมกับคณะศรัทธาประชาชน บูรณปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างภายในวัดอีกวาระหนึ่ง เว้นกำแพงสิ่งเดียว และทางวัดได้ทำการฉลอง เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๖

พ.ศ.๒๕๒๖ มหาธาตุวัดพระนอนม่อนช้าง สภาพผุพังชำรุดทรุดโทรม พระสุพรหมยานเถร (พระครูบาเจ้าพรหมฺา พฺรหฺมจกฺโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า มีความดำริจะบูรณปฏิสังขรณ์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖

ต่อมา ครอบครัวของคุณประภาส อมาตยกุล ได้เป็นเจ้าภาพในการบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ และได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ถึง ๓ ครั้ง คือ

- บูรณะครั้งที่ ๑ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖

- บูรณะครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๗ โดยการนำของแม่ชีรัชดา อมาตยกุล และคณะ ได้บูรณปฏิสังขรณ์พระเกศาธาตุเจดีย์ใหม่ สร้างแล้วเสร็จสิ้นงบประมาณ ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท

- บูรณะครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๗ โดยการนำของแม่ชีรัชดา อมาตยกุล คุณพ่อประภาส คุณแม่อุไร อมาตยกุล คุณเดช-คุณเพ็ญศรี-คุณยาใจ บุนนาค คุณทิพย์-คุณโสรัส คุณสีวลี คุณพิพัฒน์ จารุโกศล และคณะญาติธรรมฯ


การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสวัดพระนอนม่อนช้าง เท่าที่ทราบนาม คือ

รูปที่ ๑ พระทิพย์
รูปที่ ๒ พระคอม
รูปที่ ๓ พระศรี
รูปที่ ๔ พระมล
รูปที่ ๕ พระกม
รูปที่ ๖ พระเขื่อน
รูปที่ ๗ พระแก้ว
รูปที่ ๘ พระจันทร์
รูปที่ ๙ พระฉลอง  พ.ศ.๒๕๒๓-๒๕๒๔
รูปที่ ๑๐ พระบุญทรวง  พ.ศ.๒๕๒๔-๒๕๒๙
รูปที่ ๑๑ พระสมพงษ์  พ.ศ.๒๕๒๙-๒๕๓๐
รูปที่ ๑๒ พระทิพย์  พ.ศ.๒๕๓๐-๒๕๓๑
รูปที่ ๑๓ พระสุวิทย์ สุจินโณ  พ.ศ.๒๕๓๑-๒๕๓๒
รูปที่ ๑๔ พระวิชัย ปริปุญโญ  พ.ศ.๒๕๓๒-๒๕๓๓
รูปที่ ๑๕ หลวงพ่อน้อย (พระครูมงคลพิพัฒน์)  พ.ศ.๒๕๓๓-๒๕๔๗
รูปที่ ๑๖ พระมหาอมร อมโร  พ.ศ.๒๕๔๗-ปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๕๐)

----------------------


(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : ป้ายประวัติวัดพระนอนม่อนช้าง, ป้ายการบูรณปฏิสังขรณ์พระเกศาธาตุเจดีย์ และนาคฤทธิ์ รวบรวมชำระสะสาง (๒๕๔๐-๒๕๔๕). (๒๕๔๕, ตุลาคม). พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง (พิมพ์ครั้งที่ ๑). เชียงใหม่: ลานนาการพิมพ์, หน้า ๒๑๙.)

Rank: 8Rank: 8

DSC05505.JPG



DSC05511.JPG



ศาลา อยู่ใกล้พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระนอนม่อนช้าง



DSC05472.JPG



พระเจ้าทันใจ ประดิษฐานภายในศาลา วัดพระนอนม่อนช้าง



DSC05471.JPG



คำบูชาพระเจ้าทันใจ

(นะโม ๓ จบ) ตะมะหัง ขิปปะจิตตะพุทธัง อภิปูชะยามิ ตะมะหัง ขิปปะจิตตะพุทธังเม สิระสา นะมามิ ขิปปะจิตตะ พุทธานุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุเม ขิปปะจิตตะ พุทธานุภาเวนะ สะทามะหาลาโภ ภะวันตุเม ขิปปะจิตตะ พุทธานุภาเวนะ สะทามะหายะโส ภะวันตุเม



DSC05473.JPG



พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ประดิษฐานภายในศาลา วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05470.JPG



รูปหล่อเหมือนพระสุพรหมยานเถร (พระครูบาเจ้าพรหมฺา พฺรหฺมจกฺโก) (วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน) ประดิษฐานภายในศาลา วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05476.JPG



DSC05464.JPG



บันไดนาคทางขึ้นพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05455.JPG



DSC05450.JPG



DSC05444.JPG



รูปปั้นช้าง ตั้งอยู่มุมกำแพงแก้วรอบพระบรมธาตุเจดีย์ทั้งสี่ทิศ วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05457.JPG



DSC05456.JPG



รูปปั้นเทพพนม ตั้งเรียงรายบนกำแพงโดยรอบบริเวณพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระนอนม่อนช้าง


Rank: 8Rank: 8

DSC05448.JPG



DSC05477.JPG



วิหารพระนอน วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05209.JPG



เชิญนมัสการบูชาองค์พระนอนโบราณศักดิ์สิทธิ์ อายุหลายร้อยปี ในวิหารพระนอน วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05211.JPG



DSC05485.JPG



พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) องค์ใหญ่ หรือพระนอนม่อนช้าง ประดิษฐานภายในวิหารพระนอน วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05495.JPG



DSC05490.JPG



DSC05497.JPG



DSC05501.JPG



DSC05507.JPG



DSC05506.JPG



พระนอนม่อนช้าง วัดพระนอนม่อนช้าง

เป็นพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ สร้างด้วยการก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง จากตำนานกล่าวว่า พระพุทธองค์เสด็จมาบรรทมที่ ดอยม่อนช้าง (คือบริเวณวัดพระนอนม่อนช้างปัจจุบัน) ได้ทรงประทานพระเกศาธาตุให้แก่ตายายสองผัวเมีย ที่ได้ถวายภัตตาหารและน้ำแก่พระพุทธองค์ ต่อมามีผู้สร้างพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่ ให้ชื่อว่า พระนอนม่อนช้าง

การสร้างองค์พระนอน ไม่ทราบว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด เพราะหาหลักฐานไม่ปรากฏ แต่มีปรากฏหลักฐานการบูรณะจารึกไว้ว่า เมื่อปีจุลศักราช ๑๑๕๖ ในปีกาบยี (ตรงกับปี พ.ศ.๒๓๓๗) เดือนปุสสะ แรม ๘ ค่ำ มีพระมหาสาธุเจ้าพระวิสุทธวังโส วัดสะปุ๋ง และสาธุเจ้าปัญญา วัดเชียงราย (เป็นวัดร้างแล้ว) กับสาธุเจ้าเทพิน วัดบ้านกอง (เป็นวัดร้างแล้ว) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

และประธานฝ่ายฆราวาส องค์สมเด็จพระเชษฐาเจ้า และพระยารัตนหัวเมืองแก้ว เป็นประธาน ได้มาเป็นประธานซ่อมแซมองค์พระนอนพุทธไสยาสน์ให้ดีและสร้างให้ใหญ่ขึ้น และบูรณะวิหารพระนอน สร้างแล้วเสร็จ เมื่อปีจุลศักราช ๑๑๕๗ พร้อมกันนั้นได้สร้างพระอุโบสถไว้กับวัดอีกหลังหนึ่งด้วย


DSC05492.JPG



DSC05493.JPG



DSC05500.JPG



พระพุทธรูปต่างๆ ประดิษฐานภายในวิหารพระนอน วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05488.JPG



ป้ายคำจารึกการบูรณะสร้างพระนอนม่อนช้าง วิหารพระนอน และอุโบสถ ภายในวิหารพระนอน วัดพระนอนม่อนช้าง


Rank: 8Rank: 8

DSC05513.JPG



DSC05478.JPG



DSC05515.JPG



อุโบสถ วัดพระนอนม่อนช้าง

สร้างพร้อมกับวิหารพระนอน เมื่อประมาณปีจุลศักราช ๑๑๕๖-๑๑๕๗ (ตรงกับปี พ.ศ.๒๓๓๗-๒๓๓๘) ต่อมาทางคณะสงฆ์อำเภอป่าซาง มีพระครูพิศาลพุทธิธร เจ้าคณะอำเภอป่าซาง เจ้าอาวาสวัดป่าซางงาม จังหวัดลำพูน ได้มาเป็นประธานซ่อมแซมอุโบสถ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๖


DSC05517.JPG



พระพุทธรูปศิลปะคันธารราฐ (คันธาระ) ประดิษฐานภายในอุโบสถ วัดพระนอนม่อนช้าง

คณะศรัทธาวัดพระนอนม่อนช้างสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ถวายวัด เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๔


Rank: 8Rank: 8

DSC05433.JPG



หอระฆัง วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05436.JPG



กุฏิสงฆ์ วัดพระนอนม่อนช้าง


DSC05439.JPG



ศาลาพักร้อน วัดพระนอนม่อนช้าง


Rank: 8Rank: 8

DSC05521.JPG



DSC05446.JPG



DSC05461.JPG



ขอจบการเดินทางด้วยภาพบรรยากาศโดยรอบวัดพระนอนม่อนช้าง ถ่ายภาพเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐ สวัสดีค่ะ

----------------------


ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
        • วัดพระนอนม่อนช้าง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน   
              
        • นาคฤทธิ์ รวบรวมชำระสะสาง (๒๕๔๐-๒๕๔๕). (๒๕๔๕, ตุลาคม). พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง (พิมพ์ครั้งที่ ๑). เชียงใหม่: ลานนาการพิมพ์.

**หมายเหตุ :


ท่านใดประสงค์จะนำรูปภาพหรือเนื้อหาบทความไปใช้ประโยชน์ที่อื่น สามารถนำไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาตจากข้าพเจ้าก่อน


และได้โปรดกรุณาให้เครดิตอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่มา : เว็บแดนนิพพาน และกรุณาอย่าลบหรือครอบตัดเครดิตแหล่งที่มาบนรูปภาพ “Photo by Dannipparn.com”


(ป.ล. หากว่ากระทู้บทความนี้ มีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าต้องขออภัยในความผิดพลาดต่างๆ ในฐานะปุถุชนที่ย่อมทำผิดและถูกสลับกันไปไว้ ณ ที่นี้ด้วย และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป)


บันทึกของมิรา : http://www.dannipparn.com/forum-36-1.html
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-12-13 17:13 , Processed in 0.068866 second(s), 16 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.