พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระนอนม่อนช้าง
ประดิษฐานพระเกศาธาตุ ๒ เส้น และพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๒๑๐
สถานที่แห่งนี้ ณ วัดพระนอนม่อนช้างปัจจุบัน เป็นที่ซึ่งพระบรมศาสดาได้เสด็จมาประทับนอนสีหไสยาสน์และทรงประทานพระเกศาธาตุประดิษฐานไว้ ๒ เส้น เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จมาเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ในเขตสุวรรณภูมิ เพื่อให้เป็นที่กราบไหว้สักการบูชาของชาวพุทธศาสนิกชนในอนาคตต่อไป
ภาพถ่ายวัดพระนอนม่อนช้างในอดีต ครั้งเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๕ โดยพระไชยณรงค์ คนฺธวํโส (ญาณพันธุ์) มอบให้ไว้เป็นอนุสรณ์ ณ วัดพระนอนม่อนช้าง
คำนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์
(ว่านะโม ๓ จบ) วันทามิ เจติยัง สัพพัง สัพพัฏฐาเนสุ ปะติฏฐิตา สะรีระธาตุโย เกศาธาตุโย อะระหันตา ธาตุโย เจติยัง คันทะกุฏิง จะตุละสี ติสสะหัสเส ธัมมักขันเธ สัพเพสัง ปาทะเจติยัง อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ ทุระโส อะหังวันทามิ สัพพะทา อะหังวันทามิ สิระสาฯ
ตำนานวัดพระนอนม่อนช้าง
ตำนานกล่าวว่า หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงประดิษฐานรอยพระบาทตากผ้าแล้ว ก็เสด็จพุทธดำเนินไปทางบูรพาทิศลุถึง หัวดอยม่อนช้าง ก็ทรงหยุดประทับนอนสีหไสยาสน์ ณ ที่นั้น และทรงประทานพระเกศาธาตุแก่ตายายสองผัวเมีย ผู้เข้ามาอุปัฏฐากถวายภัตตาหารและน้ำ
ต่อมาจึงได้สร้างเจดีย์ บรรจุพระเกศาธาตุไว้ และมีผู้ศรัทธาสร้างพระพุทธรูปนอนสีหไสยาสน์ขึ้นไว้ ณ ที่นั้น จึงเรียกกันว่า "พระนอนม่อนช้าง" มาจนถึงบัดนี้
--------------------
(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : นาคฤทธิ์ รวบรวมชำระสะสาง (๒๕๔๐-๒๕๔๕). (๒๕๔๕, ตุลาคม). พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง (พิมพ์ครั้งที่ ๑). เชียงใหม่: ลานนาการพิมพ์, หน้า ๒๑๙.)
ประวัติวัดพระนอนม่อนช้าง
ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธองค์ได้เคยเสด็จมาในดินแดนแถบนี้ หลังจากเสด็จมาที่วัดพระพุทธบาทตากผ้า ในเวลานั้นมีลัวะ ๒ ผัวเมียได้มาถวายภัตตาหารแด่พระพุทธองค์ แล้วได้ทูลขอพระเกศาจากพระพุทธองค์ ได้ทรงประทานแก่ลัวะ ๒ ผัวเมีย จึงได้นำมาบรรจุในพระเจดีย์บนดอยม่อนช้างในปัจจุบัน เพื่อให้เป็นที่กราบไหว้บูชาและสักการะของชาวพุทธศาสนิกชนในอนาคตต่อไป
การสร้างองค์พระนอน ไม่ทราบว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด เพราะว่าหาหลักฐานไม่ปรากฏ แต่มีปรากฏหลักฐานการบูรณะจารึกไว้ว่า เมื่อ จ.ศ.๑๑๕๖ (ตรงกับปี พ.ศ.๒๓๓๗) มีพระมหาสาธุเจ้าพระวิสุทธวังโส วัดสะปุ๋ง และสาธุเจ้าปัญญา วัดเชียงราย (เป็นวัดร้างแล้ว) กับสาธุเจ้าเทพิน วัดบ้านกอง (เป็นวัดร้างแล้ว) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
และประธานฝ่ายฆราวาส องค์สมเด็จพระเชษฐาเจ้า และพระยารัตนหัวเมืองแก้ว เป็นประธาน ได้มาเป็นประธานซ่อมแซมองค์พระนอนพุทธไสยาสน์ให้ดีขึ้น พร้อมกันนั้นได้สร้างพระอุโบสถไว้กับวัดอีกหลังหนึ่ง
พ.ศ.๒๔๗๐ พระครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม ได้มาเป็นประธานบูรณะพระวิหารและธรณีพระธาตุโดยรอบ แต่ไม่แล้วเสร็จ ต่อมา พระครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย แห่งวัดบ้านปาง ได้มาบูรณะและสร้างต่อจนแล้วเสร็จ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๓
พ.ศ.๒๔๙๐ พระสุพรหมยานเถร (พระครูบาเจ้าพรหมฺา พฺรหฺมจกฺโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า ได้มาเป็นประธานสร้างกำแพงโดยรอบบริเวณ และได้สร้างเสริมธรณีรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์
พ.ศ.๒๕๐๖ ทางคณะสงฆ์อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน มีพระครูพิศาลพุทธิธร เจ้าคณะอำเภอป่าซาง วัดป่าซางงาม ได้มาเป็นประธานซ่อมแซมพระอุโบสถ
พ.ศ.๒๕๑๕ พระครูพิศาลพุทธิธร เจ้าคณะอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน และพระสุพรหมยานเถร (พระครูบาเจ้าพรหมฺา พฺรหฺมจกฺโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า ได้ร่วมกับคณะศรัทธาประชาชน บูรณปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างภายในวัดอีกวาระหนึ่ง เว้นกำแพงสิ่งเดียว และทางวัดได้ทำการฉลอง เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๖
พ.ศ.๒๕๒๖ มหาธาตุวัดพระนอนม่อนช้าง สภาพผุพังชำรุดทรุดโทรม พระสุพรหมยานเถร (พระครูบาเจ้าพรหมฺา พฺรหฺมจกฺโก) วัดพระพุทธบาทตากผ้า มีความดำริจะบูรณปฏิสังขรณ์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖
ต่อมา ครอบครัวของคุณประภาส อมาตยกุล ได้เป็นเจ้าภาพในการบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ และได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ถึง ๓ ครั้ง คือ
- บูรณะครั้งที่ ๑ เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖
- บูรณะครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๗ โดยการนำของแม่ชีรัชดา อมาตยกุล และคณะ ได้บูรณปฏิสังขรณ์พระเกศาธาตุเจดีย์ใหม่ สร้างแล้วเสร็จสิ้นงบประมาณ ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท
- บูรณะครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๗ โดยการนำของแม่ชีรัชดา อมาตยกุล คุณพ่อประภาส คุณแม่อุไร อมาตยกุล คุณเดช-คุณเพ็ญศรี-คุณยาใจ บุนนาค คุณทิพย์-คุณโสรัส คุณสีวลี คุณพิพัฒน์ จารุโกศล และคณะญาติธรรมฯ
การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสวัดพระนอนม่อนช้าง เท่าที่ทราบนาม คือ
• รูปที่ ๑ พระทิพย์
• รูปที่ ๒ พระคอม
• รูปที่ ๓ พระศรี
• รูปที่ ๔ พระมล
• รูปที่ ๕ พระกม
• รูปที่ ๖ พระเขื่อน
• รูปที่ ๗ พระแก้ว
• รูปที่ ๘ พระจันทร์
• รูปที่ ๙ พระฉลอง พ.ศ.๒๕๒๓-๒๕๒๔
• รูปที่ ๑๐ พระบุญทรวง พ.ศ.๒๕๒๔-๒๕๒๙
• รูปที่ ๑๑ พระสมพงษ์ พ.ศ.๒๕๒๙-๒๕๓๐
• รูปที่ ๑๒ พระทิพย์ พ.ศ.๒๕๓๐-๒๕๓๑
• รูปที่ ๑๓ พระสุวิทย์ สุจินโณ พ.ศ.๒๕๓๑-๒๕๓๒
• รูปที่ ๑๔ พระวิชัย ปริปุญโญ พ.ศ.๒๕๓๒-๒๕๓๓
• รูปที่ ๑๕ หลวงพ่อน้อย (พระครูมงคลพิพัฒน์) พ.ศ.๒๕๓๓-๒๕๔๗
• รูปที่ ๑๖ พระมหาอมร อมโร พ.ศ.๒๕๔๗-ปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๕๐)
----------------------
(แหล่งอ้างอิงข้อมูล : ป้ายประวัติวัดพระนอนม่อนช้าง, ป้ายการบูรณปฏิสังขรณ์พระเกศาธาตุเจดีย์ และนาคฤทธิ์ รวบรวมชำระสะสาง (๒๕๔๐-๒๕๔๕). (๒๕๔๕, ตุลาคม). พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก ฉบับชำระสะสาง (พิมพ์ครั้งที่ ๑). เชียงใหม่: ลานนาการพิมพ์, หน้า ๒๑๙.)