แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 8593|ตอบ: 2
go

[พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

[พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ)
3 x( P: [9 k5 O0 W1 U. [
เปรตเกิดจากการที่สมัยเป็นมนุษย์ ชอบก่อกรรมทำเข็ญ และผิดศีลธรรมเนืองๆ และเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ไปอุบัติเป็นสัตว์นรก ได้รับทุกข์เวทนาเป็นเวลานาน
* b0 }- y! m9 ^
7 v% _) s$ T; x# D1 Hครั้นหมดอายุไขจากนรกแล้ว ด้วยเศษของกรรมที่กระทำไว้ยังหลงเหลืออยู่ จึงส่งผลให้ไปเกิดเป็น เปรต อยู่ในพื้นภูมิมนุษย์ โดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่เกิด มีลักษณะและอาการตามนั้นๆ, `0 r# o% _# `" N" {. q

' |( J! @+ f% }+ \เปรต ตามความเชื่อไทย มีรูปร่างสูงเท่าต้นตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ  ผิวดำ ท้องโต มือเท่าใบตาล แต่มีปากเท่ารูเข็ม และเปรตจะหิวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากกินอะไรไม่ได้มากนัก จึงชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ  ซึ่งเมื่อสะสมบุญได้แล้วมาเกิดในชาติหน้า จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่5 A/ N6 m* V# ~& n, Z0 [
# E5 p% e0 e" }3 W  F
ซึ่งจากลักษณะนี้ ทำให้คำว่าเปรต กลายมาเป็นคำด่าในภาษาไทย ที่หมายถึง คนที่อดยากผอมโซ เที่ยวรบกวนขอเขากิน หรือเมื่อมีใคร ได้โชคลาภก็รีบมาขอแบ่งปัน7 p* _- Y7 E9 {

2 h& q) f# ^1 m; S* O6 {เปรตในภพภูมิปัจจุบัน เมื่ออดีตที่ผ่านมาอาจจะเคยมีความเกี่ยวข้องกับเรา โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ อาจจะเคยเป็นบรรพบุรุษของเราในอดีต หรือมีความเกี่ยวพันกันด้านใดด้านหนึ่ง
  q- G& g9 a3 O
+ d& G4 x) I4 S- y; Vความสำคัญของพิธีกรรมพลีเปรตยะ:-4 q( N5 u6 X8 o7 O. c
(***ผู้ที่ดำเนินการเป็นพิธีกรนำกล่าว ควรอ่านบทความนี้ทุกครั้งก่อนเริ่มพิธีกรรม***)+ a: Z! N9 R8 C# M! P
ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒- หน้าที่ ๒๐๑ กล่าวว่า....- W/ H! W4 L) f' ]
ข้อที่ ๑ "...หมั่นขยัน ทำมาหากินที่ได้มาซึ่งโภคทรัพย์ต่างๆ โดยธรรมนี้กรรมที่สมควร" ข้อที่ ๒ ของอริยะสาวกนั้นเป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้โภคทรัพย์ โดยทางที่ควรใช้แล้วอีกข้อหนึ่ง อริยะสาวกย่อมเป็นผู้ ทำพลี ๕ คือ
) f6 z4 {% w% F9 j
( U# h4 P; G# |( F2 m, p1 ]
๑. ญาติพลี(ให้การสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย): d  R3 P  \' @( W" h
๒. อติถีพลี (ให้การต้อนรับแขกผู้มาเยือน)( b6 L& S: B) G+ l, l- _, f
๓. ปุพพะเปรตยะพลี (ทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ตายหรือผู้ล่วงลับ)1 m9 ?( Y# V3 k+ p. p" e7 E5 j+ a3 F: I
๔. ราชพลี (ช่วยเหลือราชการ เช่น การจ่ายภาษี การให้ความเคารพต่อกฏหมายบ้านเมือง เป็นต้น)6 q/ Q# \: G" Y
๕. เทวตาพลี (หมั่นทำบุญกุศลอุทิศให้เทวดา)

- j) {6 _- ~+ m
3 G8 W- t* {  S& J
โดยโภคทรัพย์ที่หามาได้ด้วยความหมั่นขยัน ฯลฯ ที่ได้มาโดยธรรม นี้เป็นกรรมที่สมควรข้อที่ ๓ ของอริยะสาวกนั้นเป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้(โภคทรัพย์) โดยทางที่ควรใช้แล้วอีกข้อหนึ่ง อริยะสาวกย่อมตั้งใจบริจาค ทักษิณาทานอย่างสูง ที่จะอำนวยผลดีเลิศ มีสุขเป็นวิบาก เป็นทางสวรรค์ ในสมณะพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้เว้นไกลจากความ มัวเมา ประมาท มั่นคงอยู่ในขันติโสรัจจะ ฝึกฝนตนอยู่ผู้เดียว ระงับตนเองอยู่ผู้เดียว ดับกิเลสจนอยู่ผู้เดียว ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ฯลฯ ที่ได้มาโดยธรรม นี้เป็นกรรมที่สมควรข้อที่ ๔ ของอริยะสาวกนั้น เป็นการชวบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้วเป็นการใช้โภคทรัพย์ โดยทางที่ควรใช้แล้ว ดูก่อนคฤหบดีอริยะสาวกนั้น ย่อมเป็นผู้ทำกรรมที่สมควร ๔ นี้ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ที่สะสมขึ้นด้วยกำลังแขนที่ต้องทำงานจนเหงื่อไหล ที่ชอบธรรมที่ได้มาโดยธรรม ดูก่อนคฤหบดี โภคทรัพย์ทั้งหลายของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถึงความหมดเปลืองไป เว้นเสียจากกรรมที่สมควร ๔ ประการนี้ โภคทรัพย์เหล่านี้เรียกว่าหมดไปโดยไม่ชอบแก่เหตุ
" T7 a0 u0 [' T0 N4 [$ h, dหมดไปโดยไม่สมควร ใช้ไปโดยทางที่ไม่ควร.... "
1 o$ {! |% A5 O* L+ I& a# ]/ f
+ G4 u. a- K) D# N5 C
จากบทความพระไตรปิฎก ของพระพุทธศาสนา จะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ท่านทรงมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า และยังทรงสอนให้มีการแผ่เมตตาให้กับเพื่อร่วมโลก ซึ่งอาจจะได้รับวิบากกรรมเก่าไปเกิดในแดนต่างๆ เช่นเดียวกันกับเปรตยะก็เป็นอีกภพหนึ่ง ที่ได้รับกรรมที่ตนได้กระทำไว้ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์
3 |4 A5 M" y6 p5 o% Y+ B
" {- P! V3 B( l. lการทำพิธีเปรตยะพลี โดยให้เครื่องสังเวยกับเปรตผู้ล่วงลับ นับว่าเป็นกุศลอย่างยิ่ง เราชาวพุทธทุกคนควรหาโอกาส ทำบุญอุทิศทานให้เปรตยะเป็นครั้งคราว นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ ในการเสริมบุญบารมี# s  s/ L8 F3 v4 x( F
2 {' D# d6 B3 a0 u- N, A' ?  s3 K7 h
5 a; J* C; f+ o1 h% ]. k  I; x
เครื่องสังเวยที่คนไทยนิยมใช้ในการทำพลีให้เปรตยะ:-" B0 W. p% S) X" ^
๑. อาหารคาว-หวาน8 L$ k0 f5 K6 {5 U' A/ Z5 `" a
๒. ขนม นมเนย
; q% `2 O* P9 p$ C4 V๓. เหล้าขาว. p3 [% R6 d, j* U% a8 {
๔. หมากพลู0 F8 w- @1 F6 h, y% J- |; M
๕. น้ำเปล่า ๑ แก้ว) z0 X. a* K6 A/ U0 O3 P- \
๖. ธูป ๑ ดอก% p) N! D/ B/ p/ U
๗. มาลัย ๑ พวง

' ~: \- W0 k2 l9 P$ g$ |2 r2 v+ _" r4 S9 w' Q+ g9 s% B
คำบอกล่าวเปรตยะพลี:-+ ^. P0 K+ d+ q/ [- D! M
(***ขณะทำพิธีนี้ ตอนถือธูป ๑ ดอก ห้ามยกมือพนมไหว้ เพราะเปรตมีภูมิต่ำกว่ามนุษย์ ให้ยืนเฉยๆ ถือธูปไว้ที่ระดับเหนือสะดือขึ้นมาเล็กน้อย ห้ามยกมือไหว้ตั้งแต่ต้น-จนจบพิธีกรรม เมื่อวางถาดอาหารของพลีเสร็จแล้ว ให้ปักธูปลงกับพื้นดิน (ต้องให้ปลายด้านธูปสัมผัสกับพื้นดิน) และหันหลังให้กับของสังเวยเหล่านั้น พร้อมกับเดินหนีทันที อย่าหันกลับมามองอาหารพลีอีกเด็กขาด พิธีกรรมนี้จะทำที่ไหนก็ได้ เช่น แยกทางสามแพร่ง สี่แพร่ง ตามทางเดินต่างๆ หรือข้างถนน)
4 t0 U# q& A: D" A  N
3 Z- x" T- N* z) b$ i2 b- S
ข้าพเจ้าชื่อ.................................นามสกุล......................อายุ........ปี สถานที่เกิด..................ข้าพเจ้าได้แต่งบุญบัตรพลีเปรตยะ ให้กับผู้ล่วงลับ มตกะผู้ล่วงลับไปแล้วจากโลกนี้ ทุกหมู่เหล่ารวมถึงอสูรกาย สัมภเวสี อสัมภเวสี สัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย รวมถึงเจ้ากรรม และนายเวร ของข้าพเจ้า ที่ได้ทุกขเวทนาอยู่ในขุมนรกหนึ่งขุมนรกใด ขอจงรับเครื่องสังเวย ที่ข้าพเจ้าได้ทำพลี อาหารคาวหวานไปให้ท่านทั้งหลาย เมื่อท่านทั้งหลายได้รับเครื่องสังเวยจนอิ่มหนำสำราญดีแล้ว โปรดนำสารนี้ไปบอกแก่ผู้ที่ไม่ได้มา ให้รับทราบโดยทั่วกันว่า7 J' `1 v" b' z2 Y) X
ถ้ามีท่านใดที่เคยมีเวร มีกรรมกับข้าพเจ้า อยู่ในนรกขุมหนึ่งขุมใดก็ดี ขอท่านพญามาร นายขุม นายเวรก็ดี ช่วยแจ้งข่าวไปยังเจ้ากรรม และนายเวรของข้าพเจ้าด้วยว่า ข้าพเจ้าได้แต่งบุญบัตรพลีเปรตยะ พลีไปให้เขาเหล่านั้นแล้ว เพื่อเป็นการขอขมากรรมต่อเขาเหล่านั้น ณ วันนี้ คืนนี้ ขอท่านทั้งหลายอย่ามีเวรมีกรรมกันต่อไปอีกเลย

) z, t0 m, |1 H2 r% Q6 q0 A. V, L6 u" r" x& ~+ M
ในวันนี้ข้าพเจ้าชื่อ..................นามสกุล................ได้ตั้งกองบุญ ( ๒๔ กองบุญ , ไหว้พระ, สวดมนต์, นั่งสมาธิ, ฟังธรรม, ถวายผ้าป่า,ทำสังฆทาน ฯลฯ) และได้เปลี่ยนจิตใจเป็นคนดีแล้ว
5 v& b6 c% i! Z7 E2 x9 Bท่านใดที่ปรารถนากองบุญ-กุศล กองทาน กองศีล ของข้าพเจ้าที่ได้มีอยู่แล้ว และได้กระทำไปแล้วในวันนี้ ขอกุศลทั้งหลายนี้ จงสำเร็จแด่ท่านทั้งหลายด้วยเถิด ต่อด้วย....
5 d! K3 v% h" h/ U& W( Y
6 D  u2 ?% b5 p7 L+ _* s5 b) i4 D
คำขอขมาลาโทษต่อเจ้ากรรม และนายเวร:-6 x' h/ |$ j* |$ p4 J: u
กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ ในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ด้วยกายกรรม ๓ ฆ่าสัตว์, ลักทรัพย์, ประพฤติผิดในกาม วจีกรรม ๔ ,พูดเท็จ, พูดส่อเสียด, พูดคำหยาบ, พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล, มโนกรรม ๓ , ความโลภะ, ความพยาบาท,  การคิดปองร้าย, ขอผลกรรมนั้น จงอย่ามีเวรและกรรมกับข้าพเจ้าอีกเลย บุญกุศลอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ขอจงสำเร็จกับเจ้ากรรม และนายเวร ทั้งหลายด้วยเถิด ขออย่าได้มีเวรและกรรม ซึ่งกันและกันเลย พุทโธอโหสิ ธัมโมอโหสิ สังโฆอโหสิ

$ v  v5 ?6 ~% z! C+ i0 {, O) I" R! I) ]" g% F$ _

+ ]* \& Z7 q, J) L
คำอุทิศบุญกุศลให้กับเปรตผู้ล่วงลับจากโลกนี้ไปแล้ว:-& h( i9 K7 D" U3 M) ^$ p
อิทังเม ญาตีนัง โหตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย          สุขิตาโหนตุ ญาตะโย; \( z3 D/ e) x- p1 U: W* g
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลาย ของข้าพเจ้า          ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า มีความสุข


: l0 j$ U2 |  V- L& h  bอิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพพะเปตา" a+ S( r& }. e& j" ?3 X
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลาย          ขอให้เปรตทั้งหลาย มีความสุข


( b/ G, |2 m- `) [. D4 w! j3 oอิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี; r! Z* t6 h4 ^1 ?! f$ X% B
ขอบุญส่วนนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย          ขอให้เจ้ากรรมและนายเวรทั้งหลายมีความสุข

& X% B" v; t8 s& S7 G% n1 I
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
; A$ Q, l4 l3 X8 p
ขอบุญส่วนนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลาย          ขอสัตว์ทั้งหลายมีความสุข ทั่วหน้ากันเทอญ


, \0 i# ]& u4 r+ O: Yพุทธังขมามิ ธัมมังขมามิ สังฆังขมามิ ยมมาขมามิ เอหิปิมัง พาเรหิ นัตตัสสะ+ H' p) J3 S6 e3 r/ u

. H: V1 E6 o$ Y  Q6 e% r

Rank: 1

อยากทราบเรื่องนี้อยู่พอดี เคยได้ยินคำว่าญาติพลี ได้รู้แล้วค่ะ  สาธุกับข้อมูลนี้นะคะคุณนุ้ก

Rank: 1

โมทนาสาธุค่ะ
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-4-12 18:56 , Processed in 0.027754 second(s), 14 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.