แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 8921|ตอบ: 2
go

[พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

[พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ)  M5 f$ f2 V  F: G
เปรตเกิดจากการที่สมัยเป็นมนุษย์ ชอบก่อกรรมทำเข็ญ และผิดศีลธรรมเนืองๆ และเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ไปอุบัติเป็นสัตว์นรก ได้รับทุกข์เวทนาเป็นเวลานาน
5 d; e' W5 s" K, M+ \
5 d2 O/ z. k8 q) z; nครั้นหมดอายุไขจากนรกแล้ว ด้วยเศษของกรรมที่กระทำไว้ยังหลงเหลืออยู่ จึงส่งผลให้ไปเกิดเป็น เปรต อยู่ในพื้นภูมิมนุษย์ โดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่เกิด มีลักษณะและอาการตามนั้นๆ
2 }4 F4 L/ r8 L- p
7 N% |! t, l( i  Y! u
เปรต ตามความเชื่อไทย มีรูปร่างสูงเท่าต้นตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ  ผิวดำ ท้องโต มือเท่าใบตาล แต่มีปากเท่ารูเข็ม และเปรตจะหิวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากกินอะไรไม่ได้มากนัก จึงชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ  ซึ่งเมื่อสะสมบุญได้แล้วมาเกิดในชาติหน้า จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่* {2 y. q8 J1 R
/ B1 @6 T) I' h" o0 b" `
ซึ่งจากลักษณะนี้ ทำให้คำว่าเปรต กลายมาเป็นคำด่าในภาษาไทย ที่หมายถึง คนที่อดยากผอมโซ เที่ยวรบกวนขอเขากิน หรือเมื่อมีใคร ได้โชคลาภก็รีบมาขอแบ่งปัน
* J) o1 J% }) N- Q, t" P1 Q2 {
& O1 \9 S* B4 X
เปรตในภพภูมิปัจจุบัน เมื่ออดีตที่ผ่านมาอาจจะเคยมีความเกี่ยวข้องกับเรา โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ อาจจะเคยเป็นบรรพบุรุษของเราในอดีต หรือมีความเกี่ยวพันกันด้านใดด้านหนึ่ง2 H( R' g, I2 ~, c
& {% R; L0 N) t) j7 Z
ความสำคัญของพิธีกรรมพลีเปรตยะ:-
. D2 R9 O3 y' \& D
(***ผู้ที่ดำเนินการเป็นพิธีกรนำกล่าว ควรอ่านบทความนี้ทุกครั้งก่อนเริ่มพิธีกรรม***)
! A. e( A3 f8 i$ O# Pในพระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒- หน้าที่ ๒๐๑ กล่าวว่า....
$ e/ T- `9 o. J0 P1 z8 h$ h6 _/ `ข้อที่ ๑ "...หมั่นขยัน ทำมาหากินที่ได้มาซึ่งโภคทรัพย์ต่างๆ โดยธรรมนี้กรรมที่สมควร" ข้อที่ ๒ ของอริยะสาวกนั้นเป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้โภคทรัพย์ โดยทางที่ควรใช้แล้วอีกข้อหนึ่ง อริยะสาวกย่อมเป็นผู้ ทำพลี ๕ คือ

& @6 D0 u- v! l+ T7 a: `  p- z' e# p9 W% j8 E. h! K: a5 ~
๑. ญาติพลี(ให้การสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย)0 B; ]$ T) {' a% \9 S4 k* z
๒. อติถีพลี (ให้การต้อนรับแขกผู้มาเยือน)
# \0 I4 [/ t5 `1 {& c๓. ปุพพะเปรตยะพลี (ทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ตายหรือผู้ล่วงลับ). H+ `7 \; ~; h+ z  q; ~1 Y
๔. ราชพลี (ช่วยเหลือราชการ เช่น การจ่ายภาษี การให้ความเคารพต่อกฏหมายบ้านเมือง เป็นต้น): `2 ~, d; F$ i* p
๕. เทวตาพลี (หมั่นทำบุญกุศลอุทิศให้เทวดา)
  e" `3 Z4 f+ O* P( [7 j& k8 r
- g7 a+ P. g" f/ y7 y  B& a+ x
โดยโภคทรัพย์ที่หามาได้ด้วยความหมั่นขยัน ฯลฯ ที่ได้มาโดยธรรม นี้เป็นกรรมที่สมควรข้อที่ ๓ ของอริยะสาวกนั้นเป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้(โภคทรัพย์) โดยทางที่ควรใช้แล้วอีกข้อหนึ่ง อริยะสาวกย่อมตั้งใจบริจาค ทักษิณาทานอย่างสูง ที่จะอำนวยผลดีเลิศ มีสุขเป็นวิบาก เป็นทางสวรรค์ ในสมณะพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้เว้นไกลจากความ มัวเมา ประมาท มั่นคงอยู่ในขันติโสรัจจะ ฝึกฝนตนอยู่ผู้เดียว ระงับตนเองอยู่ผู้เดียว ดับกิเลสจนอยู่ผู้เดียว ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ฯลฯ ที่ได้มาโดยธรรม นี้เป็นกรรมที่สมควรข้อที่ ๔ ของอริยะสาวกนั้น เป็นการชวบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้วเป็นการใช้โภคทรัพย์ โดยทางที่ควรใช้แล้ว ดูก่อนคฤหบดีอริยะสาวกนั้น ย่อมเป็นผู้ทำกรรมที่สมควร ๔ นี้ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ที่สะสมขึ้นด้วยกำลังแขนที่ต้องทำงานจนเหงื่อไหล ที่ชอบธรรมที่ได้มาโดยธรรม ดูก่อนคฤหบดี โภคทรัพย์ทั้งหลายของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถึงความหมดเปลืองไป เว้นเสียจากกรรมที่สมควร ๔ ประการนี้ โภคทรัพย์เหล่านี้เรียกว่าหมดไปโดยไม่ชอบแก่เหตุ- ]- |7 y9 W" o+ X  f& N0 i+ k1 F" m
หมดไปโดยไม่สมควร ใช้ไปโดยทางที่ไม่ควร.... "
/ b" f1 K# V0 B& E; B% Z; s
) f/ [" J$ `' G# J( H
จากบทความพระไตรปิฎก ของพระพุทธศาสนา จะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ท่านทรงมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า และยังทรงสอนให้มีการแผ่เมตตาให้กับเพื่อร่วมโลก ซึ่งอาจจะได้รับวิบากกรรมเก่าไปเกิดในแดนต่างๆ เช่นเดียวกันกับเปรตยะก็เป็นอีกภพหนึ่ง ที่ได้รับกรรมที่ตนได้กระทำไว้ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์
( A) `9 i) @) d% G9 i) A$ K6 n. W
( v) C1 K4 v8 F' n* }( Eการทำพิธีเปรตยะพลี โดยให้เครื่องสังเวยกับเปรตผู้ล่วงลับ นับว่าเป็นกุศลอย่างยิ่ง เราชาวพุทธทุกคนควรหาโอกาส ทำบุญอุทิศทานให้เปรตยะเป็นครั้งคราว นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ ในการเสริมบุญบารมี/ A" L' j: J" X! t8 `. U8 a  k( @
. T, g6 B. t5 l) P# w/ L
6 B8 `8 {0 \( P) a2 c# S; Y8 o
เครื่องสังเวยที่คนไทยนิยมใช้ในการทำพลีให้เปรตยะ:-7 W0 M2 E6 s$ U- n* R& V" |
๑. อาหารคาว-หวาน, r0 _. N) E4 W6 ~. i
๒. ขนม นมเนย
$ e! R7 [, t0 [๓. เหล้าขาว, N0 ~( F) ?5 _; j) K& D
๔. หมากพลู" c4 `$ ?/ P! C: v+ H% F
๕. น้ำเปล่า ๑ แก้ว
, z' }7 ?0 h/ |๖. ธูป ๑ ดอก
( d8 |+ w9 Z8 z% ~+ P๗. มาลัย ๑ พวง

+ F, D: A! m3 L6 h4 k& w4 Q
3 T* ^7 V1 f% v& F4 F. o! A1 Pคำบอกล่าวเปรตยะพลี:-! x, D0 m* S, q8 E$ |# K) h& D
(***ขณะทำพิธีนี้ ตอนถือธูป ๑ ดอก ห้ามยกมือพนมไหว้ เพราะเปรตมีภูมิต่ำกว่ามนุษย์ ให้ยืนเฉยๆ ถือธูปไว้ที่ระดับเหนือสะดือขึ้นมาเล็กน้อย ห้ามยกมือไหว้ตั้งแต่ต้น-จนจบพิธีกรรม เมื่อวางถาดอาหารของพลีเสร็จแล้ว ให้ปักธูปลงกับพื้นดิน (ต้องให้ปลายด้านธูปสัมผัสกับพื้นดิน) และหันหลังให้กับของสังเวยเหล่านั้น พร้อมกับเดินหนีทันที อย่าหันกลับมามองอาหารพลีอีกเด็กขาด พิธีกรรมนี้จะทำที่ไหนก็ได้ เช่น แยกทางสามแพร่ง สี่แพร่ง ตามทางเดินต่างๆ หรือข้างถนน)

3 O* o, m& }( L$ e1 T( _% n6 F& M& I0 P, K4 B
ข้าพเจ้าชื่อ.................................นามสกุล......................อายุ........ปี สถานที่เกิด..................ข้าพเจ้าได้แต่งบุญบัตรพลีเปรตยะ ให้กับผู้ล่วงลับ มตกะผู้ล่วงลับไปแล้วจากโลกนี้ ทุกหมู่เหล่ารวมถึงอสูรกาย สัมภเวสี อสัมภเวสี สัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย รวมถึงเจ้ากรรม และนายเวร ของข้าพเจ้า ที่ได้ทุกขเวทนาอยู่ในขุมนรกหนึ่งขุมนรกใด ขอจงรับเครื่องสังเวย ที่ข้าพเจ้าได้ทำพลี อาหารคาวหวานไปให้ท่านทั้งหลาย เมื่อท่านทั้งหลายได้รับเครื่องสังเวยจนอิ่มหนำสำราญดีแล้ว โปรดนำสารนี้ไปบอกแก่ผู้ที่ไม่ได้มา ให้รับทราบโดยทั่วกันว่า; }1 U8 O% S3 g8 h9 ^/ I
ถ้ามีท่านใดที่เคยมีเวร มีกรรมกับข้าพเจ้า อยู่ในนรกขุมหนึ่งขุมใดก็ดี ขอท่านพญามาร นายขุม นายเวรก็ดี ช่วยแจ้งข่าวไปยังเจ้ากรรม และนายเวรของข้าพเจ้าด้วยว่า ข้าพเจ้าได้แต่งบุญบัตรพลีเปรตยะ พลีไปให้เขาเหล่านั้นแล้ว เพื่อเป็นการขอขมากรรมต่อเขาเหล่านั้น ณ วันนี้ คืนนี้ ขอท่านทั้งหลายอย่ามีเวรมีกรรมกันต่อไปอีกเลย
) N/ p8 Q% Q/ {3 c! y" y# q% m
: i$ d1 u8 ^8 Y5 u, V3 g* @
ในวันนี้ข้าพเจ้าชื่อ..................นามสกุล................ได้ตั้งกองบุญ ( ๒๔ กองบุญ , ไหว้พระ, สวดมนต์, นั่งสมาธิ, ฟังธรรม, ถวายผ้าป่า,ทำสังฆทาน ฯลฯ) และได้เปลี่ยนจิตใจเป็นคนดีแล้ว% |% U: b% w  n0 Z5 ]# v6 v
ท่านใดที่ปรารถนากองบุญ-กุศล กองทาน กองศีล ของข้าพเจ้าที่ได้มีอยู่แล้ว และได้กระทำไปแล้วในวันนี้ ขอกุศลทั้งหลายนี้ จงสำเร็จแด่ท่านทั้งหลายด้วยเถิด ต่อด้วย....

% u5 W% t0 Z6 ]8 s
0 N: ~( Y4 F$ F1 ^9 ]3 H4 r' h& i- bคำขอขมาลาโทษต่อเจ้ากรรม และนายเวร:-4 B$ q4 P# E" Q9 F7 e# @/ s
กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ ในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ด้วยกายกรรม ๓ ฆ่าสัตว์, ลักทรัพย์, ประพฤติผิดในกาม วจีกรรม ๔ ,พูดเท็จ, พูดส่อเสียด, พูดคำหยาบ, พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล, มโนกรรม ๓ , ความโลภะ, ความพยาบาท,  การคิดปองร้าย, ขอผลกรรมนั้น จงอย่ามีเวรและกรรมกับข้าพเจ้าอีกเลย บุญกุศลอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ขอจงสำเร็จกับเจ้ากรรม และนายเวร ทั้งหลายด้วยเถิด ขออย่าได้มีเวรและกรรม ซึ่งกันและกันเลย พุทโธอโหสิ ธัมโมอโหสิ สังโฆอโหสิ
# b6 M0 L! O  N8 s; G
5 m/ f( I5 \; ^


! ]( R$ W4 v8 P8 yคำอุทิศบุญกุศลให้กับเปรตผู้ล่วงลับจากโลกนี้ไปแล้ว:-
, ]9 U) c$ ^0 J4 d8 Q8 Y
อิทังเม ญาตีนัง โหตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย          สุขิตาโหนตุ ญาตะโย
* B" K7 ^/ t2 k" b
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลาย ของข้าพเจ้า          ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า มีความสุข

; W4 |, X  l! i- R0 h
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพพะเปตา7 B) s  H* ]9 I8 F. j
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลาย          ขอให้เปรตทั้งหลาย มีความสุข

/ F1 r2 `6 h% t1 F" f* G
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี/ Q" |5 j4 M! T5 q
ขอบุญส่วนนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย          ขอให้เจ้ากรรมและนายเวรทั้งหลายมีความสุข


# G. Y2 H; ^6 x5 Q; ?( rอิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา  N! k  U9 ~+ T/ s
ขอบุญส่วนนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลาย          ขอสัตว์ทั้งหลายมีความสุข ทั่วหน้ากันเทอญ

5 W/ ?: Q4 U* C/ ~" M
พุทธังขมามิ ธัมมังขมามิ สังฆังขมามิ ยมมาขมามิ เอหิปิมัง พาเรหิ นัตตัสสะ
( r4 V. b' k/ x' S( {3 p5 G


2 e& E7 D8 B  M" S: R

Rank: 1

อยากทราบเรื่องนี้อยู่พอดี เคยได้ยินคำว่าญาติพลี ได้รู้แล้วค่ะ  สาธุกับข้อมูลนี้นะคะคุณนุ้ก

Rank: 1

โมทนาสาธุค่ะ
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-7-13 21:38 , Processed in 0.065003 second(s), 14 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.