แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน"

 

   

ค้นหา
ดู: 8904|ตอบ: 2
go

[พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ) [คัดลอกลิงค์]

Rank: 8Rank: 8

[พิธีกรรม] เปรตยะพลี (อ.วิเชียร อยู่เกตุ)! K: K6 Z5 p; _4 Z" \' E/ C
เปรตเกิดจากการที่สมัยเป็นมนุษย์ ชอบก่อกรรมทำเข็ญ และผิดศีลธรรมเนืองๆ และเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ไปอุบัติเป็นสัตว์นรก ได้รับทุกข์เวทนาเป็นเวลานาน
& |6 u; T- ?" T) }! ~; y3 d( Z% ~# B5 _
ครั้นหมดอายุไขจากนรกแล้ว ด้วยเศษของกรรมที่กระทำไว้ยังหลงเหลืออยู่ จึงส่งผลให้ไปเกิดเป็น เปรต อยู่ในพื้นภูมิมนุษย์ โดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่เกิด มีลักษณะและอาการตามนั้นๆ3 v2 b1 v" I1 M. |

% `4 r, P  E; ^9 ]) Gเปรต ตามความเชื่อไทย มีรูปร่างสูงเท่าต้นตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ  ผิวดำ ท้องโต มือเท่าใบตาล แต่มีปากเท่ารูเข็ม และเปรตจะหิวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากกินอะไรไม่ได้มากนัก จึงชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ  ซึ่งเมื่อสะสมบุญได้แล้วมาเกิดในชาติหน้า จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่" _! W; x5 k  \5 M

; d4 _  e/ S; P) j2 B- xซึ่งจากลักษณะนี้ ทำให้คำว่าเปรต กลายมาเป็นคำด่าในภาษาไทย ที่หมายถึง คนที่อดยากผอมโซ เที่ยวรบกวนขอเขากิน หรือเมื่อมีใคร ได้โชคลาภก็รีบมาขอแบ่งปัน$ H2 `* Y0 d( _9 o' c
1 ~3 d, V9 V5 _* ]" ~) ~5 ]
เปรตในภพภูมิปัจจุบัน เมื่ออดีตที่ผ่านมาอาจจะเคยมีความเกี่ยวข้องกับเรา โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ อาจจะเคยเป็นบรรพบุรุษของเราในอดีต หรือมีความเกี่ยวพันกันด้านใดด้านหนึ่ง, g: y# i" A" t, R
/ T  S* [$ x5 e. T: f
ความสำคัญของพิธีกรรมพลีเปรตยะ:-
8 e9 P# w* z. G) v1 U* |
(***ผู้ที่ดำเนินการเป็นพิธีกรนำกล่าว ควรอ่านบทความนี้ทุกครั้งก่อนเริ่มพิธีกรรม***)' N2 R9 c, {. [9 T- e
ในพระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒- หน้าที่ ๒๐๑ กล่าวว่า....# S0 l6 x. S& z9 @9 u6 V/ |9 O
ข้อที่ ๑ "...หมั่นขยัน ทำมาหากินที่ได้มาซึ่งโภคทรัพย์ต่างๆ โดยธรรมนี้กรรมที่สมควร" ข้อที่ ๒ ของอริยะสาวกนั้นเป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้โภคทรัพย์ โดยทางที่ควรใช้แล้วอีกข้อหนึ่ง อริยะสาวกย่อมเป็นผู้ ทำพลี ๕ คือ
3 E7 w% }4 w. }5 ~1 M

# E* Z% ]+ E" F7 ?. ]5 m: m6 e- I% n8 Z๑. ญาติพลี(ให้การสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย)
2 M- `. }/ E5 @! w  Y๒. อติถีพลี (ให้การต้อนรับแขกผู้มาเยือน)4 G! n+ O! B  r5 U6 P5 m: x  J" Y
๓. ปุพพะเปรตยะพลี (ทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ตายหรือผู้ล่วงลับ)4 u; U" _( V4 M0 J  J. c# ~) ]& A
๔. ราชพลี (ช่วยเหลือราชการ เช่น การจ่ายภาษี การให้ความเคารพต่อกฏหมายบ้านเมือง เป็นต้น)
' U! _6 t* q: ~" h0 Q: m๕. เทวตาพลี (หมั่นทำบุญกุศลอุทิศให้เทวดา)
& e5 W+ \& g& P( z

" v9 W  Q3 k1 |( f9 k$ B  qโดยโภคทรัพย์ที่หามาได้ด้วยความหมั่นขยัน ฯลฯ ที่ได้มาโดยธรรม นี้เป็นกรรมที่สมควรข้อที่ ๓ ของอริยะสาวกนั้นเป็นการชอบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้ว เป็นการใช้(โภคทรัพย์) โดยทางที่ควรใช้แล้วอีกข้อหนึ่ง อริยะสาวกย่อมตั้งใจบริจาค ทักษิณาทานอย่างสูง ที่จะอำนวยผลดีเลิศ มีสุขเป็นวิบาก เป็นทางสวรรค์ ในสมณะพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้เว้นไกลจากความ มัวเมา ประมาท มั่นคงอยู่ในขันติโสรัจจะ ฝึกฝนตนอยู่ผู้เดียว ระงับตนเองอยู่ผู้เดียว ดับกิเลสจนอยู่ผู้เดียว ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ฯลฯ ที่ได้มาโดยธรรม นี้เป็นกรรมที่สมควรข้อที่ ๔ ของอริยะสาวกนั้น เป็นการชวบแก่เหตุแล้ว เป็นการสมควรแล้วเป็นการใช้โภคทรัพย์ โดยทางที่ควรใช้แล้ว ดูก่อนคฤหบดีอริยะสาวกนั้น ย่อมเป็นผู้ทำกรรมที่สมควร ๔ นี้ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยความหมั่นขยัน ที่สะสมขึ้นด้วยกำลังแขนที่ต้องทำงานจนเหงื่อไหล ที่ชอบธรรมที่ได้มาโดยธรรม ดูก่อนคฤหบดี โภคทรัพย์ทั้งหลายของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถึงความหมดเปลืองไป เว้นเสียจากกรรมที่สมควร ๔ ประการนี้ โภคทรัพย์เหล่านี้เรียกว่าหมดไปโดยไม่ชอบแก่เหตุ
* w  U# O) o1 Oหมดไปโดยไม่สมควร ใช้ไปโดยทางที่ไม่ควร.... "
$ _6 n% g# E9 A) u  V

2 B* j# c3 V5 V) R, D3 g  Hจากบทความพระไตรปิฎก ของพระพุทธศาสนา จะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ท่านทรงมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า และยังทรงสอนให้มีการแผ่เมตตาให้กับเพื่อร่วมโลก ซึ่งอาจจะได้รับวิบากกรรมเก่าไปเกิดในแดนต่างๆ เช่นเดียวกันกับเปรตยะก็เป็นอีกภพหนึ่ง ที่ได้รับกรรมที่ตนได้กระทำไว้ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์! y/ `/ h' ^* e; {  ^) A
0 `* R" y3 e5 r* k& W
การทำพิธีเปรตยะพลี โดยให้เครื่องสังเวยกับเปรตผู้ล่วงลับ นับว่าเป็นกุศลอย่างยิ่ง เราชาวพุทธทุกคนควรหาโอกาส ทำบุญอุทิศทานให้เปรตยะเป็นครั้งคราว นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ ในการเสริมบุญบารมี
3 b6 E/ X# S$ F9 t  y6 l
# J9 ^& L2 K. C, f. n9 c+ M* }$ ?9 c6 n4 H" j& X
เครื่องสังเวยที่คนไทยนิยมใช้ในการทำพลีให้เปรตยะ:-
  P" P7 d8 J6 v$ Y2 S
๑. อาหารคาว-หวาน
5 i: W$ V5 X: P3 h๒. ขนม นมเนย
8 E. b0 f1 }: w$ d๓. เหล้าขาว$ s) \3 r( [+ e  T% w2 s
๔. หมากพลู
+ m6 m& C* W$ E" ~# l; P๕. น้ำเปล่า ๑ แก้ว) }4 _5 ]0 C" l" ?
๖. ธูป ๑ ดอก! x1 v6 A- O+ g2 O: ^$ A0 O5 Q) ?
๗. มาลัย ๑ พวง
( `$ p- ]; T# l% ]+ j/ Z

  y3 e7 y4 D9 b+ E# B5 ^0 sคำบอกล่าวเปรตยะพลี:-
( A$ M0 e2 w9 c- A4 U, b+ [" E
(***ขณะทำพิธีนี้ ตอนถือธูป ๑ ดอก ห้ามยกมือพนมไหว้ เพราะเปรตมีภูมิต่ำกว่ามนุษย์ ให้ยืนเฉยๆ ถือธูปไว้ที่ระดับเหนือสะดือขึ้นมาเล็กน้อย ห้ามยกมือไหว้ตั้งแต่ต้น-จนจบพิธีกรรม เมื่อวางถาดอาหารของพลีเสร็จแล้ว ให้ปักธูปลงกับพื้นดิน (ต้องให้ปลายด้านธูปสัมผัสกับพื้นดิน) และหันหลังให้กับของสังเวยเหล่านั้น พร้อมกับเดินหนีทันที อย่าหันกลับมามองอาหารพลีอีกเด็กขาด พิธีกรรมนี้จะทำที่ไหนก็ได้ เช่น แยกทางสามแพร่ง สี่แพร่ง ตามทางเดินต่างๆ หรือข้างถนน)

+ ~8 u; {" R- h. {( N7 m/ J* l( h+ b% B3 Z6 i( t3 P
ข้าพเจ้าชื่อ.................................นามสกุล......................อายุ........ปี สถานที่เกิด..................ข้าพเจ้าได้แต่งบุญบัตรพลีเปรตยะ ให้กับผู้ล่วงลับ มตกะผู้ล่วงลับไปแล้วจากโลกนี้ ทุกหมู่เหล่ารวมถึงอสูรกาย สัมภเวสี อสัมภเวสี สัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย รวมถึงเจ้ากรรม และนายเวร ของข้าพเจ้า ที่ได้ทุกขเวทนาอยู่ในขุมนรกหนึ่งขุมนรกใด ขอจงรับเครื่องสังเวย ที่ข้าพเจ้าได้ทำพลี อาหารคาวหวานไปให้ท่านทั้งหลาย เมื่อท่านทั้งหลายได้รับเครื่องสังเวยจนอิ่มหนำสำราญดีแล้ว โปรดนำสารนี้ไปบอกแก่ผู้ที่ไม่ได้มา ให้รับทราบโดยทั่วกันว่า/ a+ m5 N2 y& N6 F! C+ b
ถ้ามีท่านใดที่เคยมีเวร มีกรรมกับข้าพเจ้า อยู่ในนรกขุมหนึ่งขุมใดก็ดี ขอท่านพญามาร นายขุม นายเวรก็ดี ช่วยแจ้งข่าวไปยังเจ้ากรรม และนายเวรของข้าพเจ้าด้วยว่า ข้าพเจ้าได้แต่งบุญบัตรพลีเปรตยะ พลีไปให้เขาเหล่านั้นแล้ว เพื่อเป็นการขอขมากรรมต่อเขาเหล่านั้น ณ วันนี้ คืนนี้ ขอท่านทั้งหลายอย่ามีเวรมีกรรมกันต่อไปอีกเลย

  i& b8 p' y) M+ D6 E, Y% z: k; O4 b7 i6 ]; A
ในวันนี้ข้าพเจ้าชื่อ..................นามสกุล................ได้ตั้งกองบุญ ( ๒๔ กองบุญ , ไหว้พระ, สวดมนต์, นั่งสมาธิ, ฟังธรรม, ถวายผ้าป่า,ทำสังฆทาน ฯลฯ) และได้เปลี่ยนจิตใจเป็นคนดีแล้ว  j/ k5 d/ _" b, \; o; D! y
ท่านใดที่ปรารถนากองบุญ-กุศล กองทาน กองศีล ของข้าพเจ้าที่ได้มีอยู่แล้ว และได้กระทำไปแล้วในวันนี้ ขอกุศลทั้งหลายนี้ จงสำเร็จแด่ท่านทั้งหลายด้วยเถิด ต่อด้วย....
0 `! n$ Y0 Z" n4 p5 u) a7 \
6 ?. |( S) Y) d1 N% j/ a' [- }
คำขอขมาลาโทษต่อเจ้ากรรม และนายเวร:-* r6 B  I2 |" M8 ~
กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ ในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ด้วยกายกรรม ๓ ฆ่าสัตว์, ลักทรัพย์, ประพฤติผิดในกาม วจีกรรม ๔ ,พูดเท็จ, พูดส่อเสียด, พูดคำหยาบ, พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล, มโนกรรม ๓ , ความโลภะ, ความพยาบาท,  การคิดปองร้าย, ขอผลกรรมนั้น จงอย่ามีเวรและกรรมกับข้าพเจ้าอีกเลย บุญกุศลอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้ในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ขอจงสำเร็จกับเจ้ากรรม และนายเวร ทั้งหลายด้วยเถิด ขออย่าได้มีเวรและกรรม ซึ่งกันและกันเลย พุทโธอโหสิ ธัมโมอโหสิ สังโฆอโหสิ
( C3 b! T& q- m

5 O5 A/ ^! Y- }) V


% o) p7 W! c+ H) ~' eคำอุทิศบุญกุศลให้กับเปรตผู้ล่วงลับจากโลกนี้ไปแล้ว:-
( s4 p2 E* b' W! D
อิทังเม ญาตีนัง โหตุ สุขิตาโหนตุ ญาตะโย          สุขิตาโหนตุ ญาตะโย5 |4 B! l# \. y" T1 p2 C& Q
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลาย ของข้าพเจ้า          ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า มีความสุข

" z5 O* ?% ^! |$ y( P, t, y& ]
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพพะเปตา( Z  |/ F+ Z' h" {* }$ P) {) g; R
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลาย          ขอให้เปรตทั้งหลาย มีความสุข

, g! h8 h  n5 I5 H4 t
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี0 g$ O, P8 f/ S0 ]
ขอบุญส่วนนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย          ขอให้เจ้ากรรมและนายเวรทั้งหลายมีความสุข

8 O4 R  v% G) T+ C. {
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ          สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา  S/ R, \; B2 u' U% v
ขอบุญส่วนนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลาย          ขอสัตว์ทั้งหลายมีความสุข ทั่วหน้ากันเทอญ

0 }7 G0 k; J; Z
พุทธังขมามิ ธัมมังขมามิ สังฆังขมามิ ยมมาขมามิ เอหิปิมัง พาเรหิ นัตตัสสะ
! r$ A; p! u7 Z" F" \+ U" w) I3 E4 F) y

2 m4 T! y2 B4 L; W2 F. N

Rank: 1

อยากทราบเรื่องนี้อยู่พอดี เคยได้ยินคำว่าญาติพลี ได้รู้แล้วค่ะ  สาธุกับข้อมูลนี้นะคะคุณนุ้ก

Rank: 1

โมทนาสาธุค่ะ
‹ ก่อนหน้า|ถัดไป

สมาชิกที่เพิ่งอ่านหัวข้อนี้

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับ เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก

แดนนิพพาน ดอท คอม

GMT+7, 2025-7-10 08:10 , Processed in 0.045996 second(s), 15 queries .

Powered by Discuz! X1.5

© 2001-2010 Comsenz Inc. Thai Language by DiscuzThai! Team.