- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 2009-1-20
- เข้าสู่ระบบล่าสุด
- 2017-1-4
- สิทธิ์ในการอ่าน
- 150
- เครดิต
- 0
- โพสต์
- 131
- สำคัญ
- 0
- UID
- 5
|
เรื่องขำๆ ที่นั่งคุยเล่นกันในห้องเรียน
" w5 d' s! W+ _5 @" V6 B
, N O1 I ~( }) E0 ]$ {มีครั้งหนึ่งอาจารย์วิเชียรนั่งคุยเล่นกับพวกลูกศิษย์พลังจิตในห้องเรียน บอก.. นี่ลูกศิษย์รู้ไหม เมื่อหลายปีก่อน ตอนอาจารย์มีเว็บไซต์ครั้งแรกนะ เว็บอาจารย์ถูกคนด่าเละเลยว่ะ มันเป็นกรรม อาจารย์รู้ อาจารย์สั่งพวกลูกศิษย์ทุกคนเลยนะ ถ้ามีใครมาด่าอาจารย์ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ อย่าไปแก้ต่างให้ เขาไม่รู้ เขาไม่เชื่อ ก็ช่างเขา อย่าโกรธแทนอาจารย์ ทำใจให้ว่าง ปล่อยให้เขาด่าไป ให้เขาด่าให้พอใจ เขาเหนื่อยเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็เงียบไปเอง...
. x# v4 l0 Q4 h% D( |5 F: h% ]9 }" ]1 x& Z$ c9 q
"พวกของปลอมเขาดังเร็ว ดับเร็ว แต่ถ้าเป็นของจริงจะดังช้า แต่ดังถาวร.... "
7 }& O9 `% D# w9 Z) ^ M, l8 y m E6 R; {+ c
ถ้าพอมีเวลาว่างบางครั้งอาจารย์จะเข้าดูเว็บต่างๆ และนั่งอ่านคอมเม้นต์พวกที่ชอบตามด่าอาจารย์ แล้วก็เอามาเป็นมุขตลกนั่งคุยเล่นกันกับพวกลูกศิษย์ในห้องเรียน
" T/ R1 Q/ M5 |; i$ l2 q4 a" {3 x6 ]# B- }3 u
ระหว่างที่นั่งเรียน จิตลูกศิษย์ใครคิดอะไรอยู่ ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี หรือเรื่องฟุ้งซ่านไร้สาระ อาจารย์จะพูดประจานออกไมค์ทันที เพื่อให้เกิดความอาย และจะได้ไม่คิดอะไรที่ไม่ดีในสมองอีก: A4 K( `* k5 l: e1 s
! ^! T6 E' `6 W. Pพวกลูกศิษย์ที่อยู่กับอาจารย์มานานทุกคน จะรู้กันว่า ไม่ว่าจะในเวลาเรียนหรือนอกเวลาเรียน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ห้ามคิดอะไรที่มันไม่ดีเด็ดขาด ไม่งั้นจะถูกอาจารย์เอามาพูดประจานในห้องเรียน
! L% _* O( }( s* o2 L t
/ B. O% G+ w% @เรื่องหูทิพย์นี่อาจารย์ไวมาก คิดอะไรในใจ อาจารย์รู้หมด มีครั้งหนึ่งมีป้ามารอรักษาอาการป่วยกับอาจารย์ ระหว่างที่เข้าคิว ป้าแกก็นั่งด่าอาจารย์ในใจไม่หยุด ด่าไปเรื่อยๆ
# V- v* B6 Q, w! [" t* M0 n1 \4 d: T% s7 h
นานเข้า อาจารย์ชักทนไม่ไหว บอกกับพวกลูกศิษย์ "ป้าแกด่าในใจ แต่สำหรับอาจารย์ เสียงมันดังเหมือนเสียงตะโกนจ่อด่าข้างหู"
P% P+ _# R4 }# {3 [# F# T# `6 r
4 P$ W! j- U d9 O: s6 P5 [+ _+ F* dอาจารย์เลยหันไปมองหน้าป้า พูดตรงๆ "แกด่าฉันแบบนี้ๆๆๆใช่ไหม จะด่าฉันทำไมเนี่ย หยุดด่าหน่อย มันกวนสมาธิฉัน" อาจารย์พูดตรงๆ ป้าแกก็ทำหน้างง และยอมรับว่าด่าอาจารย์ในใจตามนั้นทุกอย่าง8 c% p7 Z& Z3 h$ d$ }5 H8 A/ Z
- e+ K+ I) K E' f) G0 N1 v, M$ v- k1 d, N
-------------------------------------------------------------9 D/ `3 X5 e' r! c4 W% H2 P
1 s% ?+ \4 |5 T. y
0 c9 q' E5 N5 e+ M4 U2 วิชาที่อาจารย์ถนัดสอนมากที่สุด คือ "เจโตปริยญาณ"(การหยั่งรู้จิตใจผู้อื่น) กับ "บุพเพนิวาสานุสสติญาณ"(ดูอดีตชาติของผู้อื่นได้) เพราะสามารถใช้หากินได้ คือ เป็นหมอดูหาเงินเลี้ยงตัวตอนแก่ได้ 5 h/ ?7 ~2 m+ I. }/ v( S
$ `: T3 P) R( D. w: C2 z/ q5 G2 k. L' J, d
แต่ถ้าลูกศิษย์อยากจะช่วยคนด้วยการรักษาก็ควรฝึกให้ได้ถึงอภิญญา 5
* L% Z( Q* d2 x3 O9 S7 O, i- }: W
$ R9 @1 ?3 g) ?อภิญญา 5 จะยากแค่ตอนแรก ต้องไต่ระดับไปให้ถึงสมาบัติ 8 แต่ทำได้แล้วก็สบาย อยากจะเปลี่ยนดวงตัวเอง หรือดวงคนอื่นให้เป็นแบบไหนก็ทำได้ ใครที่อยากจะทำให้ได้แบบอาจารย์ก็ต้องตั้งใจฝึกให้ถึง จำไว้อภิญญา 5 น่ะโครตง่ายเลย ถ้ารู้เทคนิค กลับไปบ้านตั้งใจฝึกตามที่อาจารย์บอก (อาจารย์พูดเหมือนง่าย แต่มีหลายคนในห้องเรียนนั่งมองหน้ากัน ถอนหายใจ เฮ้อ....... แล้วสักพักก็นั่งหัวเราะกันคิกคัก ส่วนอาจารย์กลายเป็นฝ่ายนั่งเอามือกุมขมับ)
' k1 B* n( j! H7 ]* |. f% r8 o4 m/ D# J& i! a( m
" y- y7 }5 B; A& {1 S0 ^
-------------------------------------------------------------
4 z1 c% w6 D* x( k2 y, W
1 i& [3 b# R6 R! h7 H6 |( h* E$ ?
ครั้งหนึ่งในห้องเรียนพลังจิต จู่ๆอาจารย์ก็หยุดสอนต่อ บอก.... ขี้เกียจสอนล่ะ เสนอขายของเลยดีกว่า พวกลูกศิษย์ก็นั่งมองหน้ากัน งง ไม่รู้ว่าวันนี้อาจารย์จะมามุขไหน! u ^2 u7 C9 l7 K" U
1 M0 q* T2 _* ~ z- Q+ `* m
อาจารย์บอก วันนี้จะมาเสนอขายเครื่องแปลภาษา ติดตั้งใส่หัวสมองแล้ว จะทำให้ฟังภาษาเทวดา ภาษาพรหมได้ ใครรู้บ้างภาษาพรหมเป็นแบบไหน? อาจารย์ถาม ลูกศิษย์ก็มองหน้ากัน แล้วส่ายหน้าหงึกๆ อาจารย์บอกภาษาพรหม จะเสียงคล้ายๆ ลมเป่าหู เป็นเสียงฟา ซาเบาๆ พวกพรหม มักมจะชอบติดต่อกับมนุษย์ที่นั่งสมาธิ แต่มนุษย์มักแปลภาษาพวกเขาไม่ออก และเข้าใจว่ามีลมเข้าหู ดังฟี่ ฟา คันหูยิบๆๆ อาจารย์จะเสนอขายเครื่องแปลภาษาให้ ใช้งานได้เลยนะ ติดตั้งให้พร้อม สนใจไหมลูกศิษย์!
2 B- ^' D0 j% l+ P6 p5 C% L: E' M5 q5 ?
เรากับเพื่อน และลูกศิษย์หลายคนพยักหน้าหงึกๆ อยากได้เครื่องแปลภาษาบ้าง % F$ y3 |) V+ v, d7 R9 M
; q4 g; k/ m9 O) S6 k% ?4 Aแล้วอาจารย์ก็เล่าสรรพคุณของเครื่องแปลภาษาต่อ.. เครื่องนี้มันแปลภาษาได้ทุกภาษาเลยนะ แม้แต่เสียงของนก หรือเสียงของปลาดุก -*-
# M |1 A- }+ q0 u. ~9 `- a& k0 u$ Z% r" M" Q2 M
อาจารย์เล่าต่อ.... เนื่ยมีปลาดุก 2 ตัวในร่องน้ำใกล้ห้องเรียน(เป็นปลาดุกที่อาจารย์เลี้ยงไว้ในร่องน้ำ เวลาอาจารย์ให้อาหารมันจะว่ายมาให้ลูบตัวเล่นได้ง่ายๆ) ....ปลาดุกมันกำลังคุยกัน มันนัดกันว่าจะว่ายไปคุยกันต่อที่ข้างห้องอาจารย์เผด็จ ใกล้หน้าทางเข้าอโรคยา แล้วอาจารย์ก็สั่งให้ลูกศิษย์ออกไปจับปลาดุก 2 ตัวนั้นมา (อาจารย์ยืนคุม) เอาสีสเปรย์พ่นใส่หลัง แล้วสักพักก็ปล่อยลงน้ำ - o. V# R6 U0 w. b* y
* p+ @5 i h# V+ Y# ]! M; \แล้วลูกศิษย์ก็วิ่งรีบไปดักรอดูผลงานที่ร่องน้ำข้างห้องอาจารย์เผด็จ ปรากฏว่าปลาดุก 2 ตัวเดินที่พ่นสีไว้ที่หลังมันว่ายมาอ้าปากพะงาบๆ คุยกันที่ร่องน้ำข้างห้องอาจารย์เผด็จจริงๆ..
* J8 R+ Y- e2 o w+ `2 g) X2 }
U1 O& e1 s# _, R* f lอาจารย์เล่าจบแล้วก็ถาม.. เอาล่ะ ใครอยากได้เครื่องแปลภาษาของอาจารย์บ้าง...
8 T! k' f0 I8 r$ L3 y8 \+ i, y6 H% ?3 p/ H
(ลูกศิษย์ทั้งห้องยกมือ)
9 I1 |8 J0 s0 B( ~% n4 @. @* K9 C* e4 S2 o [
อาจารย์พูดต่อ เครื่องแปลภาษาอาจารย์ขายไม่แพง... แค่เครื่องละ 1 แสนบาท ใครอยากได้ยกมือขึ้น เดี๋ยวติดตั้งให้ตอนนี้เลย , F/ H3 q- T8 \, X& @
1 o0 o# @! L# n# V6 q! j(ลูกศิษย์เงียบกริบ!!! มองหน้ากัน ไม่มีใครยกมือ )
4 s ^& a: r0 h8 q5 @9 j$ E4 U* g0 N }! m+ T$ Z
อาจารย์เลยถอนหายใจ แกล้งทำคอตก ทำหน้าผิดหวัง แล้วก็เริ่มสอนเรื่องประโยชน์ของ "เจโตปริยญาณ" ให้ลูกศิษย์ในห้องเรียนฟัง.....
/ L# n8 h! p+ U6 [- Z" J% L! T) ~; a" m* R
|
|